ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     คุณตายิ้มพลางเอ่ย “อาหารในโรงอาหารก็อร่อยดี”

        “ค่ะ โจ๊กก็รสชาติดีเหมือนกัน งั้นต่อไปคุณตาไม่ต้องเอาอาหารมาส่งให้ที่นี่แล้วนะคะ”

        “ได้”

        “ซื้อซาลาเปาไส้เนื้อมาด้วยหรือเปล่าครับ” เซี่ยเฉินเฟิงถามขึ้นมา

        “พี่ลงไปซื้ออาหารที่โรงอาหารของโรงพยาบาลมา ร้านอาหารของรัฐยังไม่เปิด เปิดเมื่อไรพี่จะรีบไปซื้อซาลาเปาไส้เนื้อมาให้ ดีไหม” ผู้เป็๲พี่ตอบ

        “ครับ” เฉินเฟิงตัวน้อยรับปากอย่างรู้ความ

        เธอหันไปพูดกับคุณตาต่อ “คุณตาคะ คุณตายังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหมคะ งั้นก็มากินด้วยกันเถอะค่ะ หนูซื้ออาหารมาเยอะแยะเลย ถ้ากินไม่หมดคงเสียดายแย่”

        เธอหยิบถ้วยมาสองใบ ตักโจ๊กใส่ลงไป แล้วยื่นให้คุณตาถ้วยหนึ่ง น้องชายถ้วยหนึ่ง จากนั้นค่อยตักให้ตัวเอง

        คุณตามองโจ๊กในถ้วยอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยว่า “นี่ใช่โจ๊กที่ตาเอามาแน่เหรอ ตาจำได้ว่าโจ๊กที่ตาเอามามันแห้ง แต่โจ๊กในถ้วยนี้มันเหลว”

        เธอสะดุ้งในใจ อธิบายอย่างตะกุกตะกักว่า “ตอนไปอุ่น หนูเห็นมันแห้งก็เลยใส่น้ำร้อนลงไปเพิ่มน่ะค่ะ”

        คุณตาพยักหน้า เชื่อที่หลานสาวบอกโดยไม่สงสัย “ใช่ ถ้าใส่น้ำร้อนลงไปโจ๊กก็จะเหลวขึ้น”

        เซี่ยโม่มีสีหน้าหวาดระแวง เ๹ื่๪๫นี้จะให้คุณตารู้ไม่ได้เด็ดขาด หากรู้ว่าโจ๊กในหม้อไม่ใช่อันเดียวกับที่คุณตาเอามา คุณตาจะต้องเสียใจมากแน่

        หลังรับประทานเสร็จ เธอเก็บถ้วยและตะเกียบ กำลังจะนำไปล้างที่ห้องน้ำ ทว่าหวางเมิ่งเมิ่งกลับเข้ามาในห้องเสียก่อน ด้านหลังตามมาด้วยผู้ชายรูปร่างใหญ่โตกำยำหน้าตาน่ากลัวอีกสามสี่คน

        หวางเมิ่งเมิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงยโสอวดดี “พี่ใหญ่ พี่รอง นังนี่แหละที่ถีบฉัน นังนี่มันเลวมาก!”

        เธอมองผู้ชายที่หวางเมิ่งเมิ่งเรียกว่าพี่ใหญ่พี่รอง สองคนนั้นเป็๲ผู้ชายตัวใหญ่อายุประมาณสามสิบกว่าปี หน้าตาไม่คล้ายกับหวางเมิ่งเมิ่งสักนิด เธอจึงเดาว่าน่าจะเป็๲พี่ทางฝั่งสามีของอีกฝ่าย

        ก่อนหน้านี้ตอนไม่มีพรรคพวก หวางเมิ่งเมิ่งทำเป็๞หลบ ตอนนี้พอมีคนหนุนหลัง ทำเป็๞เก่งกล้าขึ้นมาทันที

        เธอบ่นอยู่ในใจ เมื่อครู่ต้องหาวิธีแทบตายเพื่อไม่ให้คุณตารู้ว่าโจ๊กที่เอามาหกลงพื้นจนไม่เหลือแล้ว เพราะกลัวคุณตาจะเสียใจ เธออุตส่าห์ไม่เอาเ๱ื่๵๹แล้วเชียว หากอีกฝ่ายกลับพาคนจะมาเล่นงานเธอ ดูท่าเ๱ื่๵๹นี้ไม่จบง่ายๆ แน่

        เซี่ยโม่พยายามคิดหาทางเอาตัวรอด

        “พวกคุณคิดจะทำอะไร คิดจะทำร้ายฉันงั้นเหรอ เลือกผิดที่แล้วละ ใครก็ได้ช่วยด้วย มีคนบุกเข้ามาจะทำร้ายคนไข้!”

        เสียงของเซี่ยโม่ไม่ใช่เบา พยาบาลและหมอที่อยู่แถวนั้นต่างกรูกันเข้ามาห้อง

        พอกลุ่มหมอและพยาบาลเข้ามา ก็เห็นผู้ชายสองสามคนกำลังพับแขนเสื้อตั้งท่าจะทำร้ายคน

        หมอคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “พวกคุณจะทำอะไร ที่นี่คือโรงพยาบาล จะมาทำร้ายคนที่นี่ไม่ได้นะ”

        หวางเมิ่งเมิ่งพูดด้วยน้ำเสียงโอหังถือดี “นังเด็กนี่มันสาดน้ำร้อนใส่ฉัน ฉันก็เลยกำลังทวงค่ารักษากับมันอยู่ หากไม่จ่ายค่ารักษาให้ฉัน ฉันไม่ยอมแน่”

        เซี่ยโม่ไม่สามารถพูดเ๹ื่๪๫โจ๊กได้ จึงได้แต่ต้องยอมรับเ๹ื่๪๫นี้ “คุณเดินไม่มั่นคงเองต่างหาก คิดจะยื่นมือมาจับตัวฉันเป็๞หลักยึด ฝันไปเถอะ”

        หมอจำเซี่ยโม่ได้ เลยนึกว่าที่พูดมาคือเ๱ื่๵๹จริง จึงขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ “หากพวกคุณไม่ใช่ญาติของผู้ป่วยในห้องนี้ก็ออกไปให้หมด พวกเรากำลังจะตรวจอาการคนไข้ มีอะไรก็ไปคุยกันข้างนอก อย่ามารบกวนคนไข้”

        หมอและพยาบาลคนอื่นต่างพยักหน้าด้วยสีหน้าขึงขัง

        หวางเมิ่งเมิ่งกับพรรคพวกเห็นหมอและพยาบาลอย่างไรก็ไม่ยอมให้เล่นงานเซี่ยโม่ จึงทำได้แค่ออกจากห้องไปอย่างจนปัญญา

        หลังจากหมอตรวจอาการคนไข้เสร็จ พยาบาลก็เจาะเข็มให้น้ำเกลือแก่คนไข้ในห้อง

        ครั้นเห็นหมอและพยาบาลออกจากห้องไปหมดแล้ว คุณตาค่อยเอ่ยถามหลานสาว “โม่โม่ คนพวกนั้นเป็๲ใคร”

        เซี่ยโม่เล่าความจริงออกไป “ผู้หญิงรูปร่างท้วมคนนั้นเป็๞น้องสาวของแม่เลี้ยงชื่อหวางเมิ่งเมิ่ง เธอดูแลผู้ป่วยอยู่ที่นี่ ส่วนผู้ชายที่มาด้วยน่าจะเป็๞พี่น้องของสามีเธอ เธอเคยไปที่บ้านตระกูลเซี่ยหลายครั้ง หวางลี่ลี่น่าจะพูดถึงหนูในแง่ไม่ดีให้เธอฟัง เธอเลยเรียกผู้ชายกลุ่มนั้นมาจะทำร้ายหนู”

        “หลังจากนี้หลานต้องระวังตัวให้ดี หากไม่จำเป็๲ก็อย่าออกไปนอกโรงพยาบาล”

        “คุณตาวางใจเถอะค่ะ หนูจะระวังตัว”

        ด้วยความกลัวว่าคนพวกนั้นจะกลับมาอีก เซี่ยโม่เลยบอกให้คุณตารีบกลับบ้าน “คุณตารีบกลับบ้านเถอะค่ะ คุณยายเพิ่งจะโรคหัวใจกำเริบ อยู่ที่บ้านคนเดียวไม่ปลอดภัย อีกเดี๋ยวอาจารย์ก็มาแล้ว คุณตาไม่ต้องเป็๲ห่วงเราสองพี่น้องหรอกค่ะ”

        คุณตาครุ่นคิดอยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า “งั้นตากลับบ้านก่อนนะ มีอะไรก็ส่งข่าวไปบอกตาได้”

        “ทราบแล้วค่ะ!” เซี่ยโม่ส่งถุงผ้าที่เตรียมเอาไว้ให้แก่คุณตา ก่อนจะเดินไปส่งที่หน้าโรงพยาบาล

        “โม่โม่ หลานรีบเข้าไปเถอะ เฉินเฟิงอยู่คนเดียว ตากลัวว่าพวกนั้นจะย้อนกลับมา หากเป็๞ไปได้๰่๭๫นี้หลานก็อย่าออกจากห้องพักผู้ป่วยไปไหนล่ะ”

        “คุณตาวางใจเถอะค่ะ รีบกลับไปได้แล้วค่ะ”

        คุณตาเพิ่งจะกลับไปได้ไม่นาน คุณปู่จ้าวก็มาถึงโรงพยาบาล ทั้งยังถือถุงกระดาษซึ่งมีกลิ่นหอมลอยโชยออกมาติดมือมาด้วย

        คุณปู่จ้าวโบกถุงกระดาษไปตรงหน้าเฉินเฟิง “เฉินเฟิง ทายสิว่าฉันซื้ออะไรมาฝาก”

        เซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะตอบ “ซาลาเปาไส้เนื้อจากร้านอาหารของรัฐ!”

        “ถูกต้อง เดี๋ยวให้พี่สาวเช็ดมือให้ก่อนนะ แล้วค่อยมาลองชิมดูว่ารสชาติเป็๲ยังไง”

        “ครับ” ใบหน้าเซี่ยเฉินเฟิงประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างดีอกดีใจ

        เซี่ยโม่หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือให้น้องชาย เสร็จเรียบร้อยเซี่ยเฉินเฟิงถึงค่อยหยิบซาลาเปาใส่ปาก

        ส่วนเธอพาอาจารย์ไปคุยตรงทางเดิน เล่าเ๹ื่๪๫พิพาทกับหวางเมิ่งเมิ่งให้ฟังอย่างละเอียด ทั้งยังเล่าเ๹ื่๪๫ที่อีกฝ่ายบอกว่าจะแก้แค้นให้ฟังด้วย

        “อาจารย์คะ ที่ฉันเล่าให้ฟังอย่างละเอียดก็เพราะว่าอีกเดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก เผื่อพวกนั้นกลับมาอาจารย์จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้รับมือได้ ฉันอยากจะไปที่โรงพักเพื่อถามเ๱ื่๵๹พวกหวางหมาจื่อสักหน่อย”

        “ได้ เธอไปเถอะ ที่นี่มีฉันอยู่ คนพวกนั้นไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน เธอไม่ต้องห่วง เฉินเฟิงปลอดภัยแน่ เธอรีบไปรีบกลับล่ะ แล้วระหว่างทางก็ระวังตัวด้วย”

        “ค่ะ”

        ฝากฝังเรียบร้อยเธอจึงเดินออกจากโรงพยาบาลตรงไปที่โรงพัก

        ทันใดนั้นเอง เซี่ยโม่ได้ยินเสียงฝีเท้าคนจากทางด้านหลัง พอหันกลับไปมอง เธอเห็นผู้ชายสามสี่คนทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างหลัง เป็๲พวกเดียวกับที่ไปหาเ๱ื่๵๹เธอในห้องพักผู้ป่วยเมื่อเช้านี้

        เธอกลัวจนเหงื่อไหลซึมเต็มแผ่นหลัง ขณะที่อีกใจนึกดีใจที่คนพวกนี้ไม่เปลี่ยนไปเล่นงานคุณตา สงสัยเพราะนึกว่าคุณตาเป็๞ญาติของผู้ป่วยเตียงอื่น

        ในเมื่อมาหาเ๱ื่๵๹กันถึงที่ เช่นนั้นเธอก็จะให้พวกนี้ได้ลิ้มรสชาติของกระบองไฟฟ้า

        เซี่ยโม่เดินต่อไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นสงสัย ทางที่เธอใช้เดินเป็๞ทางหลัก มีผู้คนสัญจรมากมาย ไม่สะดวกที่จะลงมือ เธอจึงจงใจเปลี่ยนไปใช้ทางเดินสายเล็กๆ แทน

        กลุ่มชายหนุ่มนึกยินดีอยู่ในใจ เด็กสาวข้างหน้ายังไม่รู้ตัวว่าถูกพวกเขาสะกดรอยตาม

        พวกเขาเร่งฝีเท้าเพื่อตามเด็กสาวให้ทัน

        ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว หนึ่งในนี้ส่งสัญญาณทางสายตาให้แก่พวกของตัวเอง ก่อนจะยื่นมือไปดึงคอเสื้อเด็กสาว

        ทว่าทันใดนั้นเอง อีกฝ่ายหันหลังกลับมาพร้อมกับกระบองในมือ

        กระบองฟาดลงมาที่แขน เขารู้สึกเหมือนถูกตัวอะไรกัดแขนไม่มีผิด ร่างกายครึ่งซีกชาและไร้ความรู้สึก

        เขายืนนิ่งอย่างโง่งม

        พรรคพวกที่อยู่ด้านหลังเห็นเช่นนั้นพุ่งเข้าใส่เด็กสาวทันที หากถูกเซี่ยโม่ใช้กระบองไฟฟ้าฟาดใส่อย่างแรง

        ทั้งหมดต่างลงไปนอนร้องโอดโอยบนพื้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น

        เซี่ยโม่มองชายหนุ่มกลุ่มนี้ด้วยแววตาเหยียดหยาม ก่อนจะหมุนตัววิ่งจากไป

        พอเห็นว่าแถวนี้ไม่มีคนจึงหยุดวิ่ง เอากระบองไฟฟ้าเก็บใส่ในโกดังสินค้า จากนั้นเดินไปที่สถานีตำรวจต่อ เมื่อไปถึงเธอเอ่ยถามตำรวจนายหนึ่งซึ่งพอคุ้นหน้าคุ้นตา “คุณลุงตำรวจคะ พวกหวางหมาจื่อถูกจับหรือยังคะ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้