ปู่หลินตัวแข็งทื่อ อู๋ซื่อเองก็ก้มหน้าลง ขณะที่คนอื่นมีสีหน้าแตกต่างกัน
นี่มันมากกว่าการตบหน้าเสียอีก
หลินฟางและหลินเฟินที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินฟู่อินต่างก็หัวเราะเยาะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินเฟิน ก่อนหน้านี้นางเห็นคนสกุลหลินจัดการกับหลินฟู่อิน ในตอนนั้นนางคิดว่าพวกเขาทำมากเกินไปสำหรับเื่เงินทองที่ไปบังคับหลินฟู่อินเช่นนั้น
แต่นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนบ้านเดิมจะขายตนให้กับตาเฒ่าอายุหกสิบปีเพื่อเป็นางบำเรอ แลกกับการเอาเงินไปให้หลินต้าหลางเรียนต่อ!
หากครอบครัวกำลังจะอดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ นางก็คงจะยอมถูกขายทิ้ง แต่ตอนนี้เล่า?
ครอบครัวนี้ได้รับอาหารและเสื้อผ้าอย่างเพียงพอเพราะหลินฟู่อิน สกุลหลินเองก็ไปได้ดีในหมู่บ้านหูลู่ เหตุใดพวกเขาจึงทำเื่เลวร้ายโดยไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ได้?
“เ้ารอง เ้าพูดเองนี่ ใครในพวกเรา้าเงินจากการแต่งงานของลูกสาวเ้ากันล่ะ?” หลังจากผ่านไปครู่นึง ปู่หลินก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ ถูกบังคับให้มองไปยังหลินต้าเหอ
หลินต้าเหอตื่นตระหนกเมื่อเห็นชายชรามองจ้องมายังเขาด้วยสายตากดขี่ข่มเหง ดังนั้นแล้วเขาจึงส่ายหัวไปมา “ไม่ ไม่!”
ปู่หลินจึงเงยหน้าขึ้นและมองหลินฟู่อินด้วยสายตาเ็า เอ่ยถามว่า “ดูสิ ลุงรองของเ้าบอกด้วยตัวเองแล้วว่าเป็เขาเองที่จัดการงานแต่งงานของลูกสาว และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราสักคน?”
ลูกพลับนิ่มมักจะถูกคัดออกไป ปู่หลินรู้ดีว่าวันนี้หลินฟู่อินมีท่าทีแข็งกร้าว ถ้าหากไม่ทำอะไรตอนนี้ไม่มีทางชนะได้แน่ ดังนั้นจึงต้องหาหัวข้อโยนไปให้หลินต้าเหอแก้แทน
โชคดีที่หลินต้าเหอไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง เมื่อหลินต้าเหอตอบว่าไม่ เช่นนี้แล้วเขาจึงมีโอกาสเอาชนะจิตใจของนางได้
“ถูกต้อง พวกท่านสามารถโยนความผิดเื่การขายพี่อาเฟินไปให้ท่านลุงรองได้ ท่านสามารถพูดได้ว่าเงินเ่าั้จะตกเป็ของท่านลุงรอง แต่ท่านจะไม่ไปหาท่านลุงรองภายหลังเพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาหรือ?” หลินฟู่อินกวาดสายตาไปตามคนเหล่านี้อย่างเ็า “อย่ามองว่าคนอื่นโง่เขลานัก ข้าเข้าใจความคิดของท่านดี”
“หลินฟู่อิน เ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?” หลินต้าซานที่นิ่งเงียบย่อตัวอยู่ด้านหลังจ้าวซื่อ ในที่สุดก็อดพูดออกมาไม่ได้ เขามองไปยังปู่หลินและถามหลินฟู่อิน “เ้าพูดออกมาเช่นนี้โดยไม่สนใจคนรอบๆ ไม่กลัวว่าจะทำให้ท่านปู่โกรธเช่นนั้นหรือ?”
“เ้า… เ้า เ้า…” ปู่หลินกลอกตาด้วยความโกรธและมีท่าทางจะล้มลง เมื่อหลินฟู่อินตำหนิเขา “นี่ ท่านปู่อย่าเพิ่งเป็ลมไปเ้าค่ะ นี่ข้ายังเห็นแก่หน้าท่านนะ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าคงไม่แสดงท่าทีเช่นนี้ออกมา”
หลินฟู่อินมีท่าทีคุกคาม
คราวนี้นางโมโหมากจริงๆ คนพวกนี้เป็ญาติอย่างไรกัน? คิดจะเล่นตลกกับความสุขทั้งชีวิตของเด็กสาวที่เพิ่งเติบโตราวดอกไม้? พวกเขาไม่ใช่ครอบครัว และไม่มีความเป็มนุษย์!
ความจริงแล้วนางวางแผนเอาไว้ ตราบใดที่ปู่หลินยังเป็เหมือนก่อนหน้านี้ เพื่อเห็นแก่หน้าเขา เพื่อเห็นแก่หน้าของคนสกุลหลินดังเดิม บรรดาคนแปลกหน้าทั้งหลาย นางไม่คิดจะให้เงินเพิ่มขึ้นสำหรับเขาหรืออู๋ซื่อ
อย่างไรก็เถอะ พวกเขายังเป็ผู้าุโในครอบครัวของพวกเขาเอง ให้เงินพวกเขามากขึ้นอีกหน่อยก็ไม่มีอะไรกระทบกระเทือนมากนัก แต่ตอนนี้?
น่าผิดหวังเสียจริง
ตอนนี้หลินฟู่อินรู้แล้วว่าคนบางคนนั้นก็เกิดมาเป็เช่นนี้ ท่านทุ่มเทหัวใจให้ทั้งหมด แต่พวกเขาไม่สนใจไยดีหัวใจของท่านในมือเขาเลย
เมื่อเป็เช่นนี้ เหตุใดนางจะต้องทุ่มเทหัวใจและจิติญญาให้กับพวกเขากัน? แค่ตีตัวออกห่างเหมือนเป็คนแปลกหน้าในครอบครัว
ปู่หลินกำลังวิงเวียนศีรษะจริงๆ และใกล้จะหมดสติลงเนื่องจากการข่มขู่ของหลินฟู่อิน เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหน้าของเปลี่ยนจากซีดขาวเป็แดงขึ้นมาเล็กน้อย
“ฟู่อิน ปู่และเ้ากล่าวว่าเื่ของหลินเฟินเกิดขึ้นในบ้านรองสกุลหลิน ท่านปู่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เ้าก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเื่นี้ด้วยเช่นกัน ปล่อยให้ท่านลุงรองตัดสินใจเถอะ ดีหรือไม่?” ปู่หลินรู้ดีว่าคำขู่จากหลินฟู่อินไม่ใช่แค่คำขู่อีกต่อไป ที่นางกล่าวว่าจะทำลายหลินต้าหลางก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น
เขารู้ว่าตัวเองทำให้หลินฟู่อินโมโหจริงๆ แล้ว และนางจะทำเช่นที่นางกล่าวไว้แน่ เขาจึงเกิดความกลัวขึ้นมาจริงๆ
เพื่อให้เป็ไปตามเจตนาของทั้งสองฝ่าย และหลินฟู่อินถอยกลับไป
แต่หลินฟู่อินไม่รู้ว่าเขากำลังวางแผนจะทำอะไรต่อไป?
ให้หลินต้าเหอเป็คนจัดการน่ะหรือ?
ให้เขาเป็จัดการ ผลลัพธ์ก็เหมือนการปล่อยให้คนในสกุลหลินครอบงำไม่ใช่หรือ?
“เป็ไปได้ที่จะให้ท่านลุงรองเป็คนตัดสินใจ” หลินฟู่อินกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย เมื่อผู้คนในสกุลหลินเดิมได้ยินนางพูดเช่นนี้ต่างก็ดูมีความสุข
ตรงกันข้าม หลินเฟินและหลินฟางรวมถึงเฟิงซื่อที่เงียบงัน ใบหน้าเปลี่ยนเป็ซีดขาว
“ฟู่อิน…” หลินฟางเรียกชื่อนางด้วยความประหม่า หลินฟู่อินหันกลับมามองนางด้วยใบหน้าอ่อนโยน จากนั้นเอื้อมมือไปจับหลินฟางเพื่อปลอบโยน
หลินเฟินรู้สึกโล่งใจขึ้น หลินฟู่อินหันกลับมามองหลินต้าเหอก่อนจะเผยยิ้ม “ในเมื่อท่านปู่้าให้ท่านลุงรองเป็คนตัดสินใจเื่นี้ เช่นนั้นก็ดีเ้าค่ะ แต่ข้า้าฟังว่าท่านลุงรองจะตัดสินใจเช่นไร ท่านลุงรองโปรดพูดด้วยเ้าค่ะ”
ทันทีที่หลินฟู่อินกล่าวจบ ใบหน้าของคนสกุลหลินเดิมก็ไม่สามารถยิ้มได้อีกต่อไป สีหน้ากลับมาดูแย่อีกครั้ง
โดยเฉพาะหลินต้าซาน เขาจ้องไปยังหลินต้าเหอด้วยสายตาดุดันและกล่าวด้วยน้ำเสียงชั่วช้า “น้องรอง เ้าควรคิดถึงสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับซานหลางนะ”
เมื่อหลินต้าเหอได้ยินเขากล่าวถึงหลินซานหลาง ั์ตาปรากฏแววบ้าคลั่ง เขาเงยหน้าสบตาหลินฟู่อิน จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “ฟู่อิน เ้าปล่อยเื่นี้เถอะ นี่เป็เื่ภายในครอบครัวข้า ข้าเป็หัวหน้าครอบครัว ข้าสามารถตัดสินใจเองได้! ปล่อยให้อาเฟินแต่งงานซะ แค่บุรุษมีอายุมาก คนแก่จะแต่งงานกับสตรีอ่อนวัยกว่าแล้วมีปัญหาตรงไหนกันถ้าคนรักกันน่ะ?”
“หลินต้าเหอ เ้า…” เฟิงซื่อได้ยินคำพูดของหลินต้าเหอก็ลุกขึ้นยืน นางมองเขาอย่างเหลือเชื่อราวกับนางไม่เคยรู้จักเขามาก่อน และร่ำไห้ “เ้า้าให้อาเฟินแต่งงานกับเศรษฐีเฒ่าอายุเกือบหกสิบนั่นหรือ? เ้าได้ยินตนเองหรือไม่? ตาเฒ่าร่ำรวยผู้นั้นน่ะทุบตีผู้คน และเขาจะฆ่าอาเฟินเอา…”
ความจริงแล้วนามเจิ้งไจ่จ้าวนี้ ผู้คนในหมู่บ้านหูลู่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เมื่อหลายปีก่อนหมู่บ้านหูลู่มีหญิงสาวที่ดูงดงาม เนื่องจากบิดามารดาจากไปก่อน นางจึงถูกขายไปเป็น้องสะใภ้ซึ่งถูกทำร้ายโดยเจิ้งไจ่จ้าว หญิงสาวนางนั้นกลายเป็คนพิการและถึงแก่ความตาย
เื่นี้ถูกห้ามเล่าต่อในหมู่บ้านหูลู่ และคนอายุน้อยเช่นหลินฟู่อินอาจไม่เคยรู้เื่นี้มาก่อน แต่บรรดาคนมีอายุเช่นเฟิงซื่อทุกคนต่างรู้ดี
หลินต้าเหอได้ยินคำพูดเฟิงซื่อก็เกิดความลังเล
ถึงแม้หลินเฟินจะเป็แค่บุตรสาว แต่นั่นก็เป็ถึงบุตรสาวของเขา การจะขายนางให้ไปเป็นางบำเรอ เขาเองก็เ็ปในใจ ราวกับถูกทำร้าย เช่นนั้น…
“นางโง่!” อู๋ซื่อพุ่งตัวราวสายลมไปหาเฟิงซื่อและฟาดสายตาไปที่นาง “เ้ารู้อะไรหรือไม่? เศรษฐีเจิ้งไม่ได้ทุบตีผู้คนเสียหน่อย เป็เพราะนางคนเ่าั้เห็นว่าเขาแก่ชราแล้วเลยไม่สามารถทนอยู่กับเขาต่อไปได้อีก และคนในครอบครัวน่ะพบเห็นการตีครั้งแรกและครั้งเดียวของเศรษฐีเจิ้งเท่านั้นเอง!”
อู๋ซื่อพูดความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง นั่นทำให้หลินต้าเหอสับสนอีกครั้ง
“จริงหรือท่านย่า ท่านคิดจริงๆ หรือว่าเจิ้งไจ่จ่าวเป็คนดีน่ะ? เช่นนั้นเหตุใดท่านไม่ให้ท่านป้าเล็กแต่งงานไปเป็นางบำเรอกับเขาั้แ่แรกล่ะ?” มองเห็นท่านแม่ผู้แก่ชราของตนโดนทุบตีโดยอู๋ซื่ออีกครั้ง หลินฟางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป กล่าวออกมาอย่างเหยียดหยัน
“ตายจริง นางสารเลวคนนี้!” เมื่ออู๋ซื่อเห็นว่าหลินฟางกล้าโต้เถียงกับนาง และใช้วาจากล่าวหาบุตรสาวของนางซึ่งมีความสำคัญในใจของนางมาก อู๋ซื่อหันกลับไปหาและตบหน้าหลินฟางทันที
แต่การตบของอู๋ซื่อรอบนี้ถูกหลินฟู่อินขวางเอาไว้เสียแน่น นางจ้องตาอู๋ซื่อเย็นเยียบ และเลิกคิ้วเ็า “ท่านย่า นิสัยการตบตีคนเช่นนี้ไม่ดีเลยนะเ้าคะ ท่านเคยได้ยินเื่คนชราไร้ความปรานีกับเด็กที่อกตัญญูหรือไม่เ้าคะ?”
“ฮึ แกมันก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน!” อู๋ซื่อสะบัดมือของนางรุนแรง แต่พบว่าไม่สามารถสลัดมันออกไปได้ จากนั้นนางก็ตระหนักว่าความแข็งแรงของหลินฟู่อินนั้นน่าประหลาดใจมาก “เร็วเข้า เ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
“ได้ ข้าจะปล่อยท่านหากท่านสัญญาว่าจะไม่ตีใครอีกต่อไป” หลินฟู่อินจ้องไปยังนาง
อู๋ซื่อโกรธและหน้าแดงก่ำจ้องไปที่หลินฟู่อิน “เ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาห้ามข้า?”
หลินฟู่อินส่ายหน้าเบาๆ และกล่าว “การตบตีคนมันผิด หากท่านสัญญาว่าจะไม่ตีใครอีก ข้าจะปล่อยท่าน”
เมื่อเห็นว่าอู๋ซื่อไม่สามารถสลัดหลุดจากการเกาะกุมได้แม้ผ่านไปครึ่งค่อนวัน ปู่หลินจึงจ้องไปยังนางเขม็งและตำหนิ “ข้าเคยบอกเ้าแล้วว่าอย่าทุบตีคนโดยไม่ตั้งใจ แต่เ้าก็มักไม่ฟังข้า!”
เมื่ออู๋ซื่อเห็นชายชราร้อนใจ นางจึงเอ่ยปาก “ข้าจะไม่ตีใครอีกแล้ว ตกลงหรือไม่?”
จากนั้นหลินฟู่อินจึงปล่อยมือนางออก
คราวนี้คนสกุลหลินแอบตื่นตระหนก ความแข็งแกร่งของอู๋ซื่อนั้นเป็ที่ทราบกันในหมู่พวกเขา แต่หลินฟู่อินเป็เด็กสาวที่อ่อนแอ มีข้อมือเรียวเล็ก อู๋ซื่อยังไม่สามารถหลุดจากการเกาะกุมได้?
โดยเฉพาะจ้าวซื่อ นางเคย้าพุ่งเข้าไปตีหลินฟู่อินก่อนหน้านี้หลายครั้ง เมื่อนางเห็นว่าอู๋ซื่อถูกจัดการอย่างง่ายดายจากหลินฟู่อิน นางจึงอดสั่นสะท้านไม่ได้
ในใจนางคิดว่าภายภาคหน้า นางจะไม่พุ่งตัวเข้าไปอย่างรีบร้อนและเสี่ยงโดนทำร้ายแน่
เนื่องจากก่อนหน้านี้ บุตรชายอู๋ซื่อและหยวนซื่อหยุดการต่อสู้ของพวกนางที่ทะเลาะกันรุนแรง จึงทำให้พลังของนางถดถอย ไม่เช่นนั้นแล้วถึงแม้ว่าหลินฟู่อินจะมีท่าทีพิสดารเพียงใดก็ไม่สามารถควบคุมอู๋ซื่อได้
แต่ตอนนี้นางสามารถทำให้อู๋ซื่อสงบลงได้ ถือว่าเป็การทำให้คนในสกุลหลินใยิ่งนัก
ผู้คนทั้งหลายมองหลินฟู่อินไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ยามนี้พวกเขาเองตระหนักว่าหลินสามจะต้องถ่ายทอดทักษะให้กับหลินฟู่อินเป็แน่ ไม่เช่นนั้นเหตุใดหลินฟู่อินถึงกล้าสู้ด้วยกำลังของตนเองได้?
หลินฟู่อินไม่สนใจสายตาของคนสกุลหลิน นางสนใจเพียงเื่ของหลินเฟินเท่านั้น
นางไม่้ากล่าววาจาไร้สาระกับคนเหล่านี้ นางพุ่งตรงไปยังหลินต้าเหอและกล่าวว่า “ท่านลุงรอง ข้าไม่พอใจกับคำตัดสินของท่าน ถ้าใคร้าจะแต่งงานไปเป็นางบำเรอก็ให้คนผู้นั้นไปแต่งงานเองเถอะ ถ้าท่านเต็มใจที่จะไป ท่านก็จงไปหาชายชราคนนั้นในฐานะนางบำเรอ ไม่มีใครสามารถห้ามท่านได้ แต่ไม่ใช่พี่อาเฟิน”
“อะไรนะ? ข้าไปแต่งงานกับเขา? คำพูดสับสนนี่มันอะไรกัน…” หลินต้าเหอไม่สามารถฟังคำประชดประชันของหลินฟู่อินได้ และคิดว่าหลินฟู่อินจงใจเล่าเื่ตลก เขาจึงหัวเราะออกมา
นี่ทำให้หลินฟู่อินหมดคำจะพูด
มีบิดาเช่นนี้ หลินฟู่อินรู้สึกเหนื่อยแทนหลินเฟิน หลินฟางและเฟิงซื่อจริงๆ
“ท่านลุงรอง ท่านป้ารอง ข้าขอบอกพวกท่าน ถ้าหากท่าน้าให้พี่อาฟาง พี่อาเฟิน และพี่ซานหลางมีชีวิตที่ดีก็โปรดฟังข้า” หลินฟู่อินกล่าวกับทั้งคู่ “ท่านต้องรู้เอาไว้ว่าไม่ว่าจะเป็ท่านปู่ท่านย่า หรือครอบครัวท่านลุงใหญ่ พวกเขาคิดเพียงเื่ของพี่ต้าหลางและหวังให้เขามีชีวิตที่ดี ท่านสามารถมอบจิตใจและิญญาให้กับพวกเขาได้ แต่พวกเขาไม่สนใจพวกท่านหรอก”
ไม่ว่าหลินต้าเหอจะรับรู้ได้หรือไม่ หลินฟู่อินก็รู้สึกโล่งอกที่ได้พูดออกไป!
หลินเฟินและหลินฟางที่หลบอยู่ด้านหลังนาง โดยเฉพาะหลินเฟินพูดด้วยสีหน้าเ็า “ใช่แล้ว วันนี้ข้าได้เห็นแล้วว่าท่านสามารถขายข้าเพื่อเงินได้ แถมจะนำเงินส่วนนี้ไปให้หลินต้าหลางใช้ในการเล่าเรียน ช่างเพ้อฝันจริงๆ!”
สีหน้าหลินต้าหลางดำมืด เขามองไปยังหลินฟู่อินด้วยสีหน้าเกลียดชัง
แต่หลินฟู่อินยัง้ายั่วยุเขาต่อไป “พี่ต้าหลาง หากท่าน้าเรียนต่อ โปรดหาหนทางของท่านเองเถอะ หากข้ายังอยู่ที่นี่ ข้าไม่ยอมให้ท่านมีความคิดน่ารังเกียจเ่าั้ ไม่เช่นนั้นข้าจะจ้างใครสักคนไปป่าวประกาศเกี่ยวกับเื่เลวทรามที่ท่านกระทำ แล้วท่านจะไม่สามารถร้องไห้ได้อีกต่อไป”
เมื่อคำขู่คุกคามมาอีก หลินต้าหลางก็พ่นเืออกจากคอ มีเืติดที่ปลายจมูก เขา…
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาต้องกระอักเืเพราะสตรี!
ถ้าเขาโมโหเพราะสตรีตรงหน้าอีกไม่กี่ครั้ง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะสิ้นชีวิตไปเลยก็ได้!
“เอาละ เอาละ ต้าหลางทำอะไรน่ารังเกียจตรงไหนกัน? ฟู่อิน เ้าหยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว” มองเห็นสีหน้าหลินต้าหลางไม่ค่อยดีนัก ปู่หลินจึงรีบขัดจังหวะ และมองไปที่หลินฟู่อินก่อนเอ่ย “ปู่ยังคงยืนยันว่าเื่ของบ้านลุงรองเ้า เ้าเป็ลูกสาวบ้านสามไม่ควรยุ่งเกี่ยว บิดามารดาหาคู่ให้ลูกเป็เื่สำคัญ ไม่ใช่เื่ล้อเล่น”
“บัณฑิตขายลูกพี่ลูกน้องของตนไปเป็นางบำเรอให้กับตาเฒ่าอายุหกสิบปีที่ร่ำรวย เื่เลวร้ายเช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพูดถึงเช่นกัน” หลินฟู่อินตอกกลับอย่างหมดจด
จากนั้นนางก็หันไปหาหลินต้าเหอ กล่าวเสียงเ็า “ท่านลุงรอง ข้าไม่กลัวที่จะบอกกับท่าน ถ้าท่านขายพี่อาเฟินไปเป็นางบำเรอคนอื่นจริง เช่นนั้นข้านี่แหละจะเป็คนแรกที่ออกไปบอกทุกคนถึงเื่น่ารังเกียจเช่นนี้ สิ่งที่พี่ต้าหลางทำ แต่สิ่งที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าคือการที่ท่านขายบุตรสาวออกไปเพื่อเกียรติ ข้าจะรอดูว่าท่านจะยังมีหน้าอยู่ในหมู่บ้านหูลู่หรือไม่?”
“อา… ไม่นะ เ้าทำไม่ได้ ฟู่อิน!” หลินต้าเหอได้ยินคำพูดหลินฟู่อิน ทันใดนั้นก็ตัวแข็งทื่อ นิ่งไปครึ่งค่อนวันก่อนสีหน้าจะซีดขาวลงไปทุกที เขาเป็บุคคลที่หล่อเหลา หากไม่มีบุตรแล้ว เขาคงไม่สามารถเงยหน้ามองใครไปได้อีกครึ่งชีวิต หากหลินฟู่อินเปิดเผยออกไปว่าเขาขายบุตรสาวให้กับเศรษฐีเพื่อเป็นางบำเรอ เขาจะยังสามารถเชิดหน้าว่าเป็บุรุษได้อีกหรือ?
เขาวุ่นกับการอ้อนวอนหลินฟู่อิน แต่หลินฟู่อินส่ายหัวและถามเขาว่า “ท่านลุงรอง ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าผู้คนในหมู่บ้านหูลู่จะคิดอย่างไรกับการที่ท่านเชื่อฟังหลินต้าหลางและขายพี่อาเฟินให้ตาเฒ่าแก่ๆ ไปเป็นางบำเรอในวันนี้ ?”
“ไม่ ต้าหลางบอกว่าตราบใดที่อาเฟินแต่งงานไปที่นั่นแล้ว เราจะบอกกับทุกคนว่าอาเฟินถูกตาต้องใจเศรษฐีพ่อค้าในเมืองและถูกซื้อตัวไปเป็สาวใช้เพื่อช่วยเหลืองานในบ้าน…” หลินต้าเหอมองไปยังหลินฟู่อินด้วยความกังวลใจ
หลินฟู่อินจึงรู้ตอนนั้นเองว่า เพื่อให้การขายอาเฟินไปเป็นางบำเรอสำเร็จไปด้วยดี หลินต้าหลางถึงกับพูดกับหลินต้าเหอเช่นนี้
นางส่ายหัวนับครั้งที่เท่าไรไม่ทราบ นางพูดไม่ออกและมองหลินต้าเหอ “ท่านลุงรอง ท่านไม่เคยคิดบ้างหรือ การให้พี่อาเฟินแต่งงานกับตาเฒ่าเศรษฐีผู้นั้น เหตุใดหลินต้าหลางถึงไม่กล้าให้ทุกคนรับรู้กัน? และจงใจสอนท่านให้โกหกคนอื่นว่าพี่อาเฟินถูกซื้อตัวไปเป็สาวใช้ให้กับตาเฒ่าเศรษฐีที่เมือง?”
หลินฟู่อินไม่รู้จริงๆ ว่าในสมองของหลินต้าเหอบรรจุอะไรไว้ในนั้นบ้าง
หลินเฟิน หลินฟางมองไปยังหลินต้าเหอด้วยสีหน้าผิดหวัง ทั้งคู่หลั่งน้ำตาออกมาอย่างเงียบงัน
หลินฟู่อินรู้ดีว่าไม่สามารถปล่อยให้หลินเฟินและหลินฟางอยู่ที่หมู่บ้านหูลู่ได้อีก ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะต้องถูกพ่อโง่เขลาผู้นี้ขายออกไปไม่ช้าก็เร็ว
สำหรับสังคมที่ชายเป็ใหญ่เช่นนี้จะต้องทำตามคำสั่งของบิดามารดาและคำพูดของแม่สื่อเท่านั้น
“ท่านลุงรอง ท่านได้คิดบ้างหรือไม่?” หลินฟู่อินเหยียดหยัน หลินต้าเหอรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขารู้สึกเ็ปในหัว
ยิ่งคิดเท่าไรก็ยิ่งเจ็บเท่านั้น
สีหน้าของคนสกุลหลินเดิมล้วนน่าเกลียด โดยเฉพาะหลินต้าหลาง
หลินฟู่อินนึกและหันศีรษะไปทางเขา ดวงตาเ็าจ้องบังคับให้เขามองนาง “พี่ต้าหลาง ดูสิ ท่านได้กระทำสิ่งเลวร้ายลงไปอีกแล้ว ท่านไม่กลัวถูกฟ้าผ่าจาก์หรือ?”
หลินต้าหลางกำหมัดแน่นและคำราม “เ้าน่ะสิที่จะโดนฟ้าผ่า”
เขากลัวมาก ใครกันล่ะที่จะไม่กลัวฟ้าผ่า?
หลินฟู่อินหัวเราะ ก่อนมองเขาด้วยความสลดใจ “ข้าไม่ได้ทำสิ่งไม่ดี ข้าไม่กลัวหรอก ว่าแต่ท่านเถอะ ท่านกระทำสิ่งไม่ดีมากมาย นอนหลับไม่สนิทใช่หรือไม่ล่ะ”
หลินต้าหลางสีหน้าเหยเกยิ่งกว่าเดิม
“ท่านพ่อ… ต้าหลาง… ข้า... ข้าไม่สามารถให้อาเฟินแต่งงานกับเศรษฐีผู้นั้นได้” หลินต้าเหอรีบพุ่งตัวไปยังฝูงชน
คำพูดของเขาทำให้เฟิงซื่อสีหน้าสดใสขึ้นมาในที่สุด
แต่หลินเฟินและหลินฟางไม่ได้มีปฏิกิริยามากนัก เดาว่าหัวใจของพวกนางคงแตกสลายเสียแล้ว
“เ้ารอง เหตุใดถึงพูดเช่นนี้กัน? นี่หลานชายเ้าก็สัญญากับเศรษฐีเจิ้งไปแล้ว เ้าคงไม่ให้ต้าหลางต้องผิดสัญญากับคนอื่นหรอกใช่หรือไม่? เหตุใดบ้านรองของเ้าจึงทำเช่นนี้?” ทันทีที่จ้าวซื่อได้ยินว่าหลินต้าเหอถูกโน้มน้าวไปแล้ว นางก็กระโจนเข้าหาด้วยท้องใหญ่โตของนาง มองไปยังหลินฟู่อินพลางกังวลถึงเด็กในท้องของตน
“พี่สะใภ้ ท่านก็ได้ยินที่ฟู่อินกล่าวแล้ว ถ้าข้ากล้าให้อาเฟินแต่งงานไปแบบนี้ คนในหมู่บ้านก็จะประณามข้าไปจนตาย ข้ากลัว ข้า… ข้าไม่สามารถเป็คนเช่นนั้นได้!” หลินต้าเหอพูดอย่างมุ่งมั่นด้วยใบหน้าน่าสงสาร
หลินฟู่อินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ หันกลับมามองใบหน้าหลินเฟิน ใบหน้าเล็กๆ ของนางปรากฏแววตาเย้ยหยัน หัวใจแตกสลาย นางไม่ได้คาดหวังอะไรจากหลินต้าเหอผู้เป็บิดาอีกต่อไป
“เ้ารอง เ้าลองคิดดูอีกที” ชายชรายังจ้องเขม็งไปที่หลินต้าเหอด้วยใบหน้าทะมึน หลินต้าเหอกังวลขึ้นเพราะชายชรา แต่คราวนี้คำพูดของหลินฟู่อินขู่เขาจนมีเงามืดในใจ ดังนั้นเขาจึงก้มศีรษะตนลงและไม่มองหน้าชายชราอีก
เมื่อเป็เช่นนี้ หลินฟู่อินที่ยืนข้างๆ จึงเยาะเย้ยเท่านั้น
“เ้ารอง เ้าต้องนึกถึงซานหลาง! พวกเ้าไม่ได้กล่าวว่าเขาเป็นักเรียนที่ดีหรือ? เ้าไม่้าให้เขาเป็ซิ่วไฉเช่นต้าหลางหรอกหรือ?” หลินต้าซานกำหมัดของเขาแน่นและจ้องไปที่หลินต้าเหอด้วยสีหน้ากดดัน
ได้ยินหลินต้าซานพูดถึงหลินซานหลางอีกครั้ง และนำหัวข้อซิ่วไฉขึ้นมาพูดอีก สีหน้าหลินต้าเหอก็เปลี่ยนไปอีกรอบ
หลินฟู่อินยกริมฝีปากโค้งขึ้น ยามนี้ใบหน้าของนางปรากฏการเยาะเย้ยจางๆ นางมองไปยังหลินต้าซานและถามว่า “ท่านลุงใหญ่ ท่านใช้พี่ซานหลางมากดดันให้ท่านลุงสองต้องขายพี่อาเฟิน ท่านคิดหรือไม่ว่าถ้าพี่ซานหลางรู้เื่นี้จะต้องเกลียดท่านแน่?”
“ไร้สาระ จะเป็ไปได้อย่างไรกัน? ซานหลางเป็ลูกชายข้า ข้าช่วยเหลือเขา แล้วเขาจะมาเกลียดข้าได้เช่นไร?” หลินต้าซานจ้องเขม็งกลับไปยังหลินฟู่อินด้วยความโกรธ
แต่เขาไม่รู้ตัวว่าคำพูดของเขาที่ว่า ‘ซานหลางเป็บุตรชายตน’ ทำให้สีหน้าหลินต้าเหอซีดขาวทันที
ใช่แล้ว ถึงแม้ซานหลางจะถูกเลี้ยงโดยเขา หลินต้าซานก็ยังถือว่าซานหลางเป็บุตรชายตนเอง!
ดังนั้นสุดท้ายแล้วซานหลางจะขอบคุณเขาที่ขายบุตรสาวของตนออกไปหรือไม่ล่ะ?
เป็อีกครั้งที่หลินต้าเหอรู้สึกสับสน
เฟิงซื่อกรีดร้องใส่หลินต้าเหอในที่สุด “เราจะไม่ให้อาเฟินแต่งงานออกไป ต้าเหอเ้าอย่าสับสนสิ อย่าสับสนไปกับคำพูดของหลานชายคนโต ถ้าเ้าขายอาเฟินไป นั่นก็เพื่อบุตรชายสองคนของเขา เหตุใดเราต้องผลักอาเฟินเข้าไปในกองไฟด้วย?”
หลินต้าเหอจึงเกิดรู้แจ้งขึ้นทันที ดวงตาเป็ประกาย มองไปที่ชายชรากล่าวว่า “ท่านพ่อ ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าจะไม่ให้อาเฟินต้องเข้าไปอยู่ในกองไฟ เศรษฐีชราผู้นั้นแก่กว่าท่านเพียงสองปีเท่านั้น พูดง่ายๆ ว่าเขาคงจะมีอายุอยู่ได้อีกไม่นานนัก” หลินต้าเหอคุกเข่าลงต่อหน้าปู่หลินและก้มหัวลง
ชายชราโมโหในประโยคถัดมาของเขาจนกระอักเืออกมา ชี้นิ้วไปยังหลินต้าเหอ จ้องราวกับระฆังเก่าคู่หนึ่ง “เ้า เ้า เ้า…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้