ในเมืองหลวงของราชวงศ์เพลิง์นั้นเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยแรงกดดันที่ทรงพลังกดทับจนผู้คนไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เลย พลังของอำนาจผู้ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าทำให้เหล่าประชาชนต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัวและความสับสน
เสียงเด็กหญิงคนหนึ่งดังสะอื้นออกมาด้วยความกลัว "ท่านแม่ ข้ากลัว…" น้ำเสียงของเธอสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว แม่ของเด็กสาวคนนั้นกอดลูกของนางเอาไว้อย่างแน่น พยายามปลอบโยนอย่างสุดความสามารถ
"ไม่ต้องกลัวนะลูก ท่านองค์จักรพรรดิจะจัดการทุกอย่างเอง พวกเราจะปลอดภัยในไม่ช้านี้" หญิงสาวพูดปลอบโยนลูกของนาง แม้ในใจของนางเองจะมีความกังวลอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ทันใดนั้นเอง แรงกดดันอันมหาศาลที่ครอบคลุมเมืองไว้ก็สลายหายไปในพริบตา ทำให้ผู้คนสามารถขยับตัวได้อย่างอิสระอีกครั้ง เสียงเชียร์ถูกเปล่งออกมาอย่างเต็มที่ดังลั่นเมืองขณะที่สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังบุรุษผู้ยืนอยู่กลางท้องฟ้าเหนือพวกเขา นั้นคือองค์จักรพรรดิของเขานั้นเอง
หลี่หวงยืนอยู่บนท้องฟ้าอย่างสง่างาม รอบข้างเขาคือ เฮยหลง ฉิงอิ๋ง และจือหยวน ทั้งสามคนต่างยืนหยัดพร้อมจะต่อสู้เพื่อองค์จักรพรรดิอย่างไม่หวั่นไหว หลี่หวงเพียงยิ้มเล็กน้อยตอบรับเสียงเชียร์จากเบื้องล่าง สายตาของเขากลับจับจ้องไปยังบุรุษสองคนที่ลอยอยู่เบื้องหน้า ชายทั้งสองนั้นสวมชุดสีแดงสด ออร่าทรงพลังของพวกเขาทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
ชื่อ: ไป๋กู่หวัง
ตัวตน: สมาชิกของสภาเทพ หมายเลข 12
ระดับการเพาะปลูก: กษัตริย์นักบุญ ระดับที่ 9
ร่างกาย: ร่างกายราชันกระดูก 9 ธาตุ (ระดับจักรพรรดิ)
ความชอบ: 10
…….
ชื่อ: หลิงเสอ
ตัวตน: สมาชิกของสภาเทพ หมายเลข 11
ระดับการเพาะปลูก: กษัตริย์นักบุญ ระดับที่ 9
ร่างกาย: ร่างกายงูศักดิ์สิทธิ์ 8 หัว (ระดับจักรพรรดิ)
ความชอบ: 30
หลี่หวงมองไปยังชายทั้งสองด้วยสายตาที่สงบนิ่ง ก่อนที่หลี่หวงจะโบกมือและแม่ทัพทั้งสามคนของเขาก็หายไปในทันที ก่อนจะพูดขึ้นในใจทันที
"ระบบ ยกระดับการบ่มเพาะของข้าไปที่ระดับกษัตริย์นักบุญระดับที่ 1 ซะ"
[แต้มของท่านไม่เพียงพอสำหรับการอัพเกรดโฮสต์] ระบบรายงานกลับมา
ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เมืองหลายเมืองที่ราชวงศ์เพลิง์ยึดครองจาก ราชวงศ์ดาบและ ราชวงศ์ขนนก ในทวีปดารา ก็ถูกลบหายไปอย่างไร้ร่องรอยในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ผู้คนในเมืองเ่าั้สลายหายไปในพริบตาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกเขาตายได้อย่างไร และเมืองบางส่วนในทวีประดับต่ำอื่นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน ขณะนั้นเองแต้มสังหารของหลี่หวงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
[แต้มสังหารทั้งหมด: 1,521,241,120 แต้ม] …
[แต้มสังหารทั้งหมด: 1,823,991,000 แต้ม] …
ระบบเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงที่แ่เบาราวกับการกระซิบ [ช่างเป็การกระทำที่โหดร้ายสมกับท่านจริงๆ … คนเ่าั้ก็คงเป็แค่แต้มสังหารในยามฉุกเฉินของท่านสินะ]
หลี่หวงไม่ได้ตอบอะไร ขณะที่มองไปยังแต้มสังหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระบบ
[แต้มสังหารทั้งหมด: 2,641,235,810 แต้ม]
ระบบรายงานเงื่อนไขการอัพเกรดการบ่มเพาะ [การบ่มเพาะระดับนักบุญมีราคาอยู่ที่ 100,000,000 แต้มสังหารต่อหนึ่งระดับย่อย และระดับกษัตริย์นักบุญมีราคาอยู่ที่ 1,000,000,000 แต้มสังหารต่อหนึ่งระดับย่อย รวมราคาทั้งหมด 1,800,000,000]
[แต้มสังหารทั้งหมด: 841,235,810 แต้ม]
เมื่อระบบอัพเกรดการบ่มเพาะของหลี่หวงเรียบร้อย พลังของหลี่หวงก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างลับๆ โดยที่ชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลี่หวงไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ หลี่หวงยิ้มอย่างเยือกเย็นและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“พวกเ้ามาทำอะไรในราชวงศ์ของข้ากัน?”
หลิงเสอหัวเราะและตอบกลับ “พวกเราได้รับการว่าจ้างให้มาช่วยเหลือลูกชายของผู้นำสูงสุดแห่งหอการค้าจันทราและตอนนี้เ้ากำลังจะทำให้พวกเราตกงานนะ”
หลี่หวงหรี่ตาลงเล็กน้อย และถามต่อ “แล้วพวกเ้า้าอะไรจากข้ากันล่ะ ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย?”
ไป๋กู่หวังที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะและตอบอย่างมั่นใจ “ชีวิตของเ้าอย่างไงล่ะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาและกระดูกสีเขียวพุ่งออกจากมือของไป๋กู่หวังด้วยความเร็วสูง พุ่งตรงเข้าไปหาหลี่หวงอย่างรวดเร็ว
หลี่หวงยิ้มเล็กน้อย ดวงตาสีแดงเข้มของเขาส่องประกายอย่างเยือกเย็นขณะที่เขารวมพลังิญญา สร้างหนังสือจักรพรรดิขึ้นมากลางอากาศ ลำแสงอันร้อนแรงและเจิดจ้าปกคลุมรอบตัวเขา ดึงดูดสายตาของหลิงเสอและไป๋กู่หวังทันที
หลิงเสอเบิกตากว้าง เอ่ยเสียงสั่นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ “กษัตริย์นักบุญ ระดับที่ 1 ในทวีประดับต่ำเช่นนี้งั้นรึ… ไม่เพียงเท่านั้น เ้าเด็กนี้ยังอายุกระดูกเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง…”
หลิงเสอยืนนิ่งและครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจหันไปบอกให้ไป๋กู่หวังหยุดการโจมตีทันที จากนั้นจึงหันมาทางหลี่หวงพร้อมพูดขึ้น “ข้ามีข้อเสนอ ถ้าเ้าส่งตัวหลี่จวิ้นมาให้ข้า เื่ราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะถูกลืมไป เ้าจะว่าอย่างไร?”
หลี่หวงเพียงยิ้มเล็กน้อย ก่อนพูดตอบไป “ข้อเสนอของเ้าช่างไม่น่าสนใจเหลือเกิน ข้าว่าเรามาแบ่งหอการค้าจันทรากันดีกว่า เ้าเอาสิ่งนั้นไป ส่วนข้าจะเอาทุกอย่างที่เหลือเอง เ้าคิดว่าอย่างไงล่ะ?”
ไป๋กู่หวังขมวดคิ้วและพูดขึ้น “เ้ารู้ด้วยหรือว่าพวกเรา้าอะไร?”
หลี่หวงส่ายศีรษะอย่างช้าๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงที่เ็าออกมา “ก็พอรู้มาบางนะ”
หลิงเสอก็จ้องมองไปที่หลี่หวงด้วยสายตาที่ลังเล ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “แล้วข้าจะเชื่อใจเ้า…”
ยังไม่ทันที่หลิงเสอจะพูดจบ หอกเพลิงอันร้อนแรงและมีพลังงานในการแผดเผาทุกอย่างได้พุ่งทะลุศีรษะของหลิงเสออย่างแม่นยำ ร่างของหลิงเสอตกลงสู่พื้นดินในทันที เืของหลิงเสอสาดกระจายพร้อมใบหน้าของหลิงเสอที่หายไปครึ่งหนึ่ง
ไป๋กู่หวังมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกโพลง ความใปะทุขึ้นในใจ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร เสียงของเปลวเพลิงก็ดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง ลูกบอลเพลิงขนาดั์ที่อัดแน่นด้วยพลังทำลายล้างก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในมือของหลี่หวง มันขยายตัวอย่างรวดเร็ว และโจมตีใส่ไป๋กู่หวังทันที
ขณะหลี่หวงดูรายการการแจ้งเตือนจากระบบ พบว่าไม่มีชื่อของหลิงเสอปรากฏขึ้นมาในการแจ้งเตือนของระบบ มันทำให้หลี่หวงรู้ว่าหลิงเสอยังไม่ตาย และนั่นทำให้หลี่หวงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาจะะเิเมืองหลวงไปพร้อมกับหลิงเสอที่ตอนนี้กำลังร่วงหล่นลงสู่เมืองหลวงอยู่ และลูกบอลเพลิงั์ได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง