ไม่กี่วันมานี้ หลินลั่วหรานได้รับกล่องหยกมาจากเสี่ยซุยแล้ว
เพียงแค่ ห่อสิ่วโอวร้อยปีที่ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะทำการแลกเปลี่ยนนั้นในระหว่างที่เธอนอนจมอยู่ใต้สระเืมันก็มีอายุเพิ่มขึ้นไปจากเดิมอีกกว่าพันสองร้อยกว่าปี
ห่อสิ่วโอวอายุร้อยกว่าปีนั้น มีฤทธิ์อยู่กึ่งกลางระหว่างยาบำรุงและยาวิเศษแม้ว่าหลินลั่วหรานจะขายออกไปแบบธรรมดาๆก็จะดูเหมือห่อสิ่วโอวป่าอายุร้อยปีที่มีคุณภาพดีขึ้นมาเล็กน้อยและไม่ได้ดูเหนือธรรมชาติเท่าไรอีกทั้งตอนนั้นเธอเองก็เพิ่งจะกลับมาจากสถานที่ลึกลับการที่จะมีสมุนไพรอะไรก็เป็เื่ปกติ
แต่ว่าห่อสิ่วโอวพันปีนั้น...หลินลั่วหรานนั้นไม่กล้าคิดเสียด้วยซ้ำในยุคนี้ ใครจะไปสามารถมีสมุนไพรวิเศษพันปีได้บ้าง เธอไม่จำเป็ต้องเอาออกมาแต่ขอเพียงแค่มีข่าวหลุดออกไป พวกเหล่านักฝึกศาสตร์ที่ถอยไปก่อนแล้วก็อาจจะถูกความโลภเข้าครอบงำอีกครั้ง จากนั้นก็ไม่สนใจอะไรแล้วจัดการทำลายบ้านหลินเล็กๆ นี่ซะ!
เธอนั้นก็เป็เพียงผู้ฝึกศาสตร์ระดับพื้นฐานตอนต้นไปถึงตอนกลางและมีพลังสายตาที่เฉียบคมเท่านั้น...เมื่อเผชิญหน้ากับฮุยจู๋เธอยังคงไม่สามารถที่จะตรวจสอบระดับการฝึกของเขาได้ ดังนั้นจึงเป็ไปได้ว่าอย่างน้อยฮุยจู๋ก็คงจะมีระดับพื้นฐานตอนปลายแล้วส่วนเื่ที่ว่ามีคนอยู่ในระดับพื้นฐานสมบูรณ์หรือไม่นั้นหลินลั่วหรานก็ไม่ได้รู้แล้ว
ไม่ควรที่จะดูถูกศัตรูคนไหนเลยแม้แต่น้อยเธอถูกการนอนแช่อยู่ในสระเืขัดเกลาให้โตขึ้นมากเธอจึงจัดการมองฮุยจู๋เป็ราวกับยอดเขา “นักปราชญ์ระดับตอนปลายสมบูรณ์” แล้วยอดเขานั้นทำให้ดูอันตรายขึ้นมาเล็กน้อยดังนั้นการที่จะเตรียมพร้อมให้ดีก่อนจะปีนเขา จึงเป็เื่ที่สมควรจะทำ
ส่วนเื่ของหญิงสาวสวมชุดดำ หลินลั่วหรานเม้มปากแน่น
แม้ว่าศาสตร์ดำของเธอนั้นจะเก่งกาจมาก เธอจะต้องมีระดับที่สูงว่าพื้นฐานตอนกลางแน่ๆในคืนนั้นดูเหมือนจะ้าเพียงจับเธอไว้ แต่ไม่ได้้าชีวิตของเธอจึงทำให้ดูเสมอเท่าเทียมกัน
ฮุยจู๋กับหญิงสาวสวมชุดดำดูมีอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจและก็ไม่ได้ดึงดันอะไรใส่กัน
ริมฝีปากของหลินลั่วหรานยกยิ้มขึ้นความจริงในใจของเธอนั้นไร้ซึ่งความรู้สึก การที่จะค่อยๆจัดการเรียบเรียงความสัมพันธ์ของคนที่เธอรู้จักทั้งหมด ความสามารถของพวกเขาและความสัมพันธ์มิตรและศัตรูที่มีร่วมกันกับเธอ
ถ้าหากว่าไม่ใช่การต่อสู้ในสระเื หญิงสาวสวมชุดดำได้สูญเสียประโยชน์จากสถานที่ของตนเองไปหลินลั่วหรานก็คิดว่าเธอน่าจะสามารถจัดการได้ เพียงแต่เื่นี้้าการวางแผนที่ดี
ข้าวนั้น จะต้องค่อยๆ กินที่ละคำ...หลินลั่วหรานไตร่ตรองอยู่สักพักก่อนที่จะมีความคิดขึ้นมา ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จไหม แต่ว่าโดยทั่วไปแล้ว ก็ต้องลองถึงจะรู้ใช่ไหมล่ะ?
หลินลั่วหรานสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะละจิตใจออกมาจากแผนการที่วางเอาไว้ แม้ว่าการแก้แค้นนั้นจะควรทำให้เร็วการปกป้องคนในครอบครัวเองก็สำคัญแต่เธอไม่อาจจะสามารถปล่อยให้สภาพจิตใจเป็แบบนี้ตลอดทั้งวันได้ เพราะมันไม่ได้มีผลดีต่อการฝึกศาสตร์เลยแม้แต่น้อย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปของห่อสิ่วโอวหลินลั่วหรานจึงมีความคิดเพิ่มประสิทธิภาพในการขายขึ้นมา
คนรวยเวลาเก็บทองนั้น ก็ต้องทำให้กลายเป็เศษ ก้อนทองก้อนหนึ่งนั้นต่างทำให้คนอิจฉาตาร้อน แต่หากว่าแลกให้กลายเป็เศษเงินมาแล้วเมื่อใช้ออกไปก็ไม่ได้ดูสะดุดตาอะไร
ห่อสิ่วโอวพันปีนั้นอาจจะดึงดูดสายตามาก แต่ว่าหากนำพวกมันมาทำเป็ยาวิเศษนอกจากจะให้คนในบ้านใช้ ส่วนที่เหลือก็ยังสามารถนำไปแลกเปลี่ยนได้และก็ไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงวัตถุดิบที่ใช้ทำยาได้อยู่แล้ว ว่าเธอใช้สมุนไพรที่มีอายุเท่าไรในการทำ
ห่อสิ่วโอวพันปีต้นหนึ่งนั้น มีฤทธิ์ยาเทียบเท่ากับห่อสิ่วโอวร้อยปีสิบต้นนี่คือความรู้ทั่วไปในการทำยา หากจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นหน่อยก็คือหากการใช้ต้นห่อสิ่วโอวร้อยปีเป็ตัวยาหลักนั้น สามารถทำ “ยาบำรุงพลัง”ออกมาได้สิบเม็ด ดังนั้นการใช้ห่อสิ่วโอวพันปีที่มีขนาดเดียวกันทำขึ้นก็จะสามารถทำยาออกมาได้ร้อยเม็ด แน่นอนว่านอกเสียจากหลินลั่วหรานที่ไม่สามารถประกาศถึงสิ่งที่ตนมีจริงๆ ได้แบบนี้ก็คงไม่มีใครเอาสมุนไพรอายุพันปีมาทำ “ยาบำรุงพลัง” ระดับต่ำๆ แบบนี้หรอก เหตุผลนั้นก็แสนง่ายดายเพราะว่าการที่จะใช้ห่อสิ่วโอวพันปีในการแทนห่อสิ่วโอวร้อยปีนั้นเป็ไปได้ง่าย แต่ถ้าหากคิดว่าตอนที่จะทำยาระดับสูงแล้วจะใช้สมุนไพรร้อยปีในการทดแทนสมุนไพรพันปีนั้น ย่อมเป็ไปไม่ได้
หลินลั่วหรานคิดไตร่ตรองอยู่สักพัก ก่อนที่รอยยิ้มจากการคิดแผนเอาไว้แล้วเรียบร้อยของเธอจะปรากฏขึ้น
เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของพวกเขาไปแล้วแล้วเธอจะทำตัวเป็พวกคนฟุ่มเฟือยได้อย่างไร การขายยาวิเศษในครั้งนี้แน่นอนว่าจะต้องให้พวกเขาทำของอะไรมาแลก!
แล้วจะเอาอะไรมาแลกดีล่ะ?
หยก! หยกยังไงล่ะ! แล้วก็ต้องเป็แค่หยกเท่านั้นด้วย!
ของที่กักเก็บพลังเอาไว้มากมาย ขอเพียงแค่ไม่ใช่พวกหยกพิเศษ บนโลกแห่งนี้ก็มีเพียงพวกมันเท่านั้นที่มีพลังที่ไม่ว่าจะธาตุอะไรก็สามารถดูดซึมเข้าไปได้ นี่จะต้องเป็ความเห็นใจที่์เมตตามาให้แน่! เพียงแต่น่าเสียดายที่พลัง์ในตอนนี้นั้นกระจัดกระจายไปหมดความเห็นใจนี้จึงเต็มไปด้วยความไม่มั่นคงพวกเหล่านักปราชญ์ทั้งหลายจึงเลือกวิธีการที่ไร้ซึ่งยาและหินวิเศษ
พลังที่กระจัดกระจายเหรอ หลินลั่วหรานลอบมองไปยังไข่มุก สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด ขอเพียงแค่มีหยกมากพอหินวิเศษที่หลินลั่วหรานทำขึ้นมาภายในเวลาหนึ่งคืนก็น่าจะพอสำหรับการใช้ในการฝึกของพ่อและเป่าเจียได้นานทีเดียว
ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะไปหาด้วยตัวเอง แต่ในตอนนี้เมื่อคิดได้แล้วทำไมเธอถึงได้ทำตัวเหมือนชาวสวนแบบเมื่อก่อน? เพียงแค่้า“ผลลัพธ์” เล็กๆ น้อยๆก็จะมีผู้ฝึกศาสตร์มากมายไปหาแร่หยกมาให้เธอ...แม้ว่าการกระทำครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อพม่ากับจีนไปบ้าง แต่ว่าโลกของแร่หยกก็ไม่น่าจะถึงขนาดถูกจัดรูปแบบขึ้นใหม่ แล้วจะเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ? ดังนั้นก็ไม่จำเป็จะต้องไปคิดแทนคนอื่น การเห็นใจคนอื่นก็ทำให้พวกเขาคิดว่าเรารังแกเราได้ง่ายเท่านั้นดังนั้นเธอจึงขอทำตัวเป็แม่ค้าใจดำเสียยังจะดีกว่า!
อีกทั้งยังมีเื่ที่ทำให้หลินลั่วหรานดีใจอยู่อีกเช่นกันด้วยที่เธอเป็ระดับพื้นฐานได้สำเร็จแล้ว พื้นที่ลึกลับจึงขนาดใหญ่มากขึ้นพื้นที่ในการใช้ปลูกพืชพรรณก็มีมากขึ้น! เมื่อในตอนนี้หลินลั่วหรานตั้งใจจะทำธุรกิจด้านยาภายในกฎเดิมของเธอ พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็สามารถใช้ในการเตรียมปลูกสมุนไพรวิเศษได้มากขึ้นแล้ว
เธอไม่สามารถจะทำตัวฟุ่มเฟือยได้ตลอดชีวิตเพียงแค่รอให้สมุนไพรที่ปลูกใหม่มีฤทธิ์ยาแล้ว เธอก็สามารถเปลี่ยนมาใช้มันแทนได้หากทำแบบนี้รอบต่อรอบแล้ว ระยะเวลาที่ห่างกันไปนี้ก็น่าจะไม่สิ้นเปลืองสมุนไพรเท่าไรอีกทั้งยังได้ใช้พื้นที่ลึกลับให้ได้ประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
เมื่อพูดไปถึงสมุนไพรวิเศษหลินลั่วหรานก็นึกถึงกระทู้ที่เคยโพสต์เอาไว้ขึ้นมาได้ตอนนี้เธอมีห่อสิ่วโอวที่เพิ่งปลูกและห่อสิ่วโอวพันปีอยู่ในมือดังนั้นจึงไม่้าจะแลกเปลี่ยนห่อสิ่วโอวร้อยปีอีกต่อไปแล้ว!
เธอรีบเข้าไปที่ฟอรั่ม ชื่อผู้เข้าใช้และรหัสยังคงถูกต้องดีอยู่แต่ว่ากระทู้ทั้งสองของเธอนั้น จมลงไปที่ด้านล่างเสียแล้ว จะว่าไปก็ใช่อยู่หรอกทุกคนต่างก็คิดว่าเธอตายไปแล้วทั้งนั้น ดังนั้นกระทู้ที่เธอโพสต์เอาไว้ก็ไม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนได้แล้ว
หลินลั่วหรานใช้ความคิดที่ว่าไม่อยากให้มีอะไรหลุดลอยไปเธอจึงเข้าไปยังกระทู้ที่้าแลกห่อสิ่วโอวเพื่อดูสักหน่อย ที่แท้ส่วนมากก็เป็เพียงการตอบกลับไร้สาระคนที่้าจริงๆ นั้นกลับมีเพียงไม่กี่คน เขาได้ตอบกลับมาว่าเธอ้าอะไรเป็สิ่งแลกเปลี่ยนก่อนจะเห็นว่าไม่มีใครมาตอบนานแล้ว จึงได้แต่ปล่อยไป
แน่นอนว่าก็มีเหล่าวัยรุ่นที่เข้าไปในสถานที่ลึกลับด้วยกัน เข้ามาทิ้งข้อความแสดงความเป็ห่วงเอาไว้
เมื่อนับเวลาดูแล้ว มันก็เป็ตอนที่เกิดเื่กับเธอใน่ปีที่สองล่ะมั้งพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมาย ดังนั้นเพียงแค่การถามไถ่เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เธอพึงพอใจแล้ว
บางทีนักฝึกศาสตร์รุ่นใหม่ในสมัยนี้ อาจจะยังไม่มีความเ้าเล่ห์อย่างพวกคนพวกนั้นก็ได้?
ใบหน้าของหลินลั่วหรานประดับไปด้วยรอยยิ้มจางๆก่อนที่เธอจะเข้าไปอ่านกระทู้ “้าดอกมี่เิ” แทนการตอบกลับที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรข้อความหนึ่ง เรียกความสนใจของเธอไป
“รุ่นพี่หลิน ผมรู้ว่ามีที่หนึ่งที่มีดอกมี่เิแต่ว่าไม่รู้ว่าคุณ้า่อายุเท่าไร?” การตอบกลับนั้นเต็มไปด้วยความระมัดระวังและความกลัวแฝงอยู่ ดูเหมือนว่าดอกมี่เิที่เขารู้จักนั้นจะไม่ได้มีอายุมากมายนัก
จะอายุเท่าไร หลินลั่วหรานก็ไม่ได้สนใจอะไรแม้ว่าจะไม่รู้ว่าที่ที่คนคนนี้พูดถึงจะยังมีดอกมี่เิอยู่หรือไม่แต่หลินลั่วหรานก็ยังคงส่งข้อความส่วนตัวไปหาไอดีที่มีชื่อว่า “เต้าหู้” นี้อยู่ดี
ตอนนี้เธอเป็ระดับพื้นฐานแล้วแต่ว่าคนที่ฝึกศาสตร์ในบ้านหลินไม่ได้มีเพียงแค่เธอคนเดียววัตถุดิบที่ใช้ในการทำยาระดับพื้นฐาน จึงเป็สิ่งที่จำเป็อยู่แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร
หลินลั่วหรานสร้างกระทู้ขึ้นใหม่อีกครั้งและหัวข้อของกระทู้ในครั้งนี้ก็ดูน่าสนใจมากทีเดียว “กำลังเตรียมการขายยาระดับต้นคนที่้าสั่งซื้อโปรดสั่งซื้อด้วยความรวดเร็ว!” ในตัวกระทู้ได้ระบุเอาไว้แล้วว่าต้องใช้แร่หยกในการแลกเปลี่ยนแต่ว่าเื่การแลกเปลี่ยนนั้น ก็ต้องดูไปตามคุณภาพของหยกด้วย
หยกเหรอ ไม่ต้องไปหาด้วยตัวเอง แค่มีเงินก็สามารถซื้อได้แล้วแต่ว่ายาวิเศษ? เมื่อเห็นกระทู้นี้เหล่าผู้ฝึกศาสตร์ระดับต่ำ ต่างก็ต้องพากันสูดลมหายใจลึก
โลกในทุกวันนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ข่าวการกลับมาของหลินลั่วหรานนั้นไม่ได้มีเพียงเหล่าผู้าุโของสำนักเท่านี้ที่รู้ด้วยรูปที่กำลังโด่งดังในอินเทอร์นั้นทำให้ทุกคนต่างก็พากับรับรู้ข่าวนี้กันหมดแล้ว
เพียงแต่ รุ่นพี่หลิน...โอ้ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าอาจารย์พี่หลินแล้วสินะแค่เพียงกลับมา ก็โพสต์กระทู้ที่ทำให้จิตใจของใครหลายๆ คนสั่นไหวแบบนี้ช่างท้าทายใจคนมากเกินไปแล้ว
คนที่โง่หน่อยก็จะถามกลับในกระทู้ ส่วนคนที่ฉลาดขึ้นมานั้นก็จะกดปิดคอมพิวเตอร์ และวิ่งออกจากรังที่เวลาปกติไม่เคยคิดอยากจะออกมาพร้อมกับจองตั๋วเครื่องบินบินตรงไปที่พม่าทันที อาจารย์พี่หลินนั้น้าหยกในการแลกเปลี่ยนแย่แล้ว แย่แล้ว ราคาหยกจะขึ้นแล้ว ต้องรีบชิงมาไว้ก่อน!
แต่หลินลั่วหรานนั้นก็ไม่ได้รับรู้ความคิดของเหล่านักฝึกศาสตร์ระดับต่ำพวกนี้หรอกและเธอก็ไม่ได้มีเวลาไปดูรูปที่กำลังโด่งดังอยู่ในอินเทอร์เน็ตด้วยหลังจากโพสต์กระทู้เสร็จเรียบร้อย เธอก็เริ่มแผนการเล็กๆ ของเธอขึ้นมาเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนที่จะโทรไปหามู่เหล่าที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง
“มู่เหล่า นี่เสี่ยวหลินจึนะคะ”
มู่เหล่าเกือบจะต้องพ่นน้ำออกมา เสี่ยวหลินจึ ฟังแล้วดูเหมือนกับชื่อของพวกขันทีในวังอย่างไรชอบกล!