เสียงที่พูดขึ้นนั้นเป็เสียงของเด็กผู้หญิงที่เคยหัวเราะฉิวเฉ่ากังเมื่อก่อนหน้านี้น้ำเสียงของเธอฟังดูสุภาพอ่อนโยนชวนน่าฟัง แต่โทนเสียงที่ออกมานั้นทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังมุงกันอยู่มากมายต่างส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคัก
ในระยะหนึ่งลี้นี้เป็พื้นที่อันตรายมากไม่มีใครกล้าเหยียบย่างเข้าไปแม้แต่คนเดียว แต่ในเวลานี้ดูเหมือนจะมีคนแหกกฎเพื่อลองเข้าไปดูเป็ผู้เล่นของกิลด์สมาคมโลก ถึงแม้ว่าตัวละครจะเป็แบบผู้เล่นทั่วไปแต่ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ติดอยู่ในร้อยอันดับแรกด้านพละกำลังมีชื่อว่า ''หอยทากั์แอฟริกา'' เป็ผู้เล่นสายโล่ป้องกันมีพลังชีวิตและพลังป้องกันสูง
เมื่อชุดขาวลอยล่องเห็นว่าฉินโจ้วไม่รู้จักบุคคลผู้นี้จึงได้เล่าเพียงสั้นๆฉินโจ้วเองก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะมองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า ที่เรียกว่าข้อห้ามนั้นจะน่ากลัวเพียงใดกัน
หอยทากแอฟริกาั์ก้าวเดินลึกเข้าไปในหุบเขาจอมพลทีละก้าวๆ โดยใช้ความระมัดระวังและรอบคอบเป็อย่างมากคล้ายกับคนที่กำลังเดินงมอยู่ในความมืดมิดที่ไม่มีแสงสว่างให้เห็นเลยราวกับมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกำลังล่องหนโดยซ่อนตัวอยู่ล้อมหน้าล้อมหลังเขาถ้าเขาประมาทเพียงนิดเดียว อาจทำให้ถึงตายได้ทันที ยิ่งเดินลึกเข้าไปมากเท่าไรท่าทีของหอยทากั์แอฟริกาก็ดูระวังมากขึ้น เขากวาดตามองไปทั่วบริเวณที่ว่างเปล่าเท่าที่ตาของเขาจะมองเห็นได้ผืนดินสีน้ำตาลแดงเต็มไปด้วยรอยแตกระแหงที่เกิดจากอุณหภูมิความร้อนที่สูงจนเกิดรอยแตกขนาดเล็กกระจายไปทั่ว คล้ายกับมีใยแมงมุมขึงไปทั่วทั้งทวีปซึ่งมองเห็นเพียงรากที่มีสีดำจากรอยไหม้ที่ยึดติดไว้เพียงเท่านั้นและดูเหมือนว่ามันจะไม่มีชีวิตเหลืออยู่แล้ว เมื่อใช้เท้าเหยียบลงไป ทันทีที่ััถูกก็สลายกลายเป็ฝุ่นผง แม้แต่ก้อนหินขนาดใหญ่ในพื้นที่รกร้างเช่นนี้ก็ไม่มีให้เห็น
"หอยทากแอฟริกาั์ ระดับผู้เชี่ยวชาญ หลังจากที่รอมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้เห็นคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าไปด้านในได้เสียทีคิดว่าครั้งนี้เขาจะทำสำเร็จไหมนะ" ผู้เล่นคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงจะไม่ได้มาจากกลุ่มผู้นำทั้งเก้า แต่ก็คงจะไม่ได้แตกต่างกันมากนักแม้ว่าผู้เล่นแต่ละคนจะสามารถรุกคืบเข้าไปได้บ้างแล้วแต่ระยะทางที่ทำได้ก็ยังจำกัด และต่อให้เขาจะรู้สึกเกลียดชังกันอยู่บ้างแต่พวกเขาก็ยังคงเกาะกลุ่มกันเพื่อความปลอดภัย
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวผู้ใช้เวทคนหนึ่งระดับเลเวล 58 ก็ส่งเสียงพึมพำขึ้นว่า"ถึงแม้ว่าหอยทากแอฟริกาั์จะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ความโหดร้ายของหุบเขาจอมพลทุกคนก็ได้ประสบกับตนเองมาแล้ว ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในลำดับรายชื่อ 50อันดับแรกคาดว่าคงจะทนไม่ไหวแน่" ผู้ใช้เวทคนดังกล่าวก็เป็ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในกลุ่มประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้การวิเคราะห์ของเขาดูค่อนข้างน่าเชื่อถือเป็อย่างมาก ทุกคนจึงหันกลับไปจับตามองที่หอยทากแอฟริกาั์เพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่
สิบแปดก้าว...
สิบเก้าก้าว...
ยี่สิบก้าว...
ผู้เล่นทั้งหลายต่างลุ้นจนต้องกลั้นหายใจตามไปด้วยนี่เป็ก้าวที่ค่อนข้างสำคัญ เป็การเดินทางสำรวจโดยต้องใช้ชีวิตของตนเองเป็เดิมพัน ซึ่งระยะทาง่ดังกล่าวนี้มีอัตราการตายสูงที่สุด และเป็่เวลาที่ฉุดรั้งผู้คนเอาไว้ตราบใดที่หอยทากแอฟริกาั์สามารถก้าวข้ามผ่านก้าวที่ยี่สิบเอ็ดไปได้ก็ถือว่าได้รับชัยชนะเหนือหุบเขาจอมพลแล้ว
เท้าข้างหนึ่งย่ำลงไปที่พื้นทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมาเล็กน้อย
ก้าวที่ยี่สิบเอ็ด... ทำสำเร็จแล้ว...!
ฝูงชนต่างส่งเสียงเชียร์
ในฐานะที่เป็คนที่ตื่นเต้นที่สุดในเวลานี้หอยทากแอฟริกาั์ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก มันเป็เื่ดีที่ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ด้วยระดับเลเวลของเขานั้นถ้าตายแล้วระดับลดไปหนึ่งขั้นต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าห้าวันจึงจะกลับมาสู่ระดับเดิมได้ ในฐานะที่เป็ผู้เชี่ยวชาญเวลาทุกวินาทีนั้นมีความสำคัญค่อนข้างมากถึงแม้ว่ากิลด์สมาคมโลกนั้นจะมีทรัพยากรให้ใช้อย่างเพียงพอเมื่อระดับลดลง แต่การที่เขาไม่ตายน่าจะทำให้เขามีความสุขมากกว่า
หลังจากที่ก้าวที่ยี่สิบสองผ่านไปหอยทากแอฟริกาั์ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับกระจกแตกดังขึ้นในหูของเขา หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นเขารู้ได้ทันทีว่าเกราะป้องกันของเขาถูกทำลายลง นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลยแม้แต่น้อย
หอยทากแอฟริกาั์ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังแต่ร่างกายของเขาห่อหุ้มด้วยเกราะเวทถึงเจ็ดชั้นโดยมีผู้ใช้เวทเจ็ดคนร่ายเวทให้เขาในเวลาเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์ปกติก็เพียงพอที่จะป้องกันอันตรายจากภายนอกได้ แต่สถานที่แห่งนี้มีอันตรายมาก และแล้วสีหน้าของหอยทากแอฟริกาั์ก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะก้าวต่อไป
ยิ่งช้ามากเท่าไรก็เป็ผลเสียกับเขาเท่านั้น
ก้าวที่ยี่สิบเก้า...เกราะเวทชั้นที่สองก็แตกออก
ก้าวที่สามสิบห้า...เกราะเวทชั้นที่สามถูกทำลายลง
สีหน้ายินดีของผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังก่อนหน้านี้เริ่มกลายเป็เคร่งขรึมจริงจังขึ้นมาความยินดีและความมั่นใจที่ก้าวล่วงผ่านก้าวที่ยี่สิบเอ็ดมาได้นั้นดูเหมือนจะเหือดหายไปจนหมดสิ้นถึงแม้ว่าจะเป็ความสัมพันธ์ที่อาจจะไม่ใช่แบบฉันมิตร แต่อย่างน้อยในเวลานี้พวกเขาก็ต้องร่วมมือกันแม้ว่าความขัดแย้งมักจะเกิดขึ้นมาจากผลประโยชน์แต่ในเวลานี้ผลประโยชน์ดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นจึงยังไม่จำเป็ต้องไปพูดถึงเื่ความขัดแย้ง และแม้จะไม่มีใครพูดขึ้นมา พฤติกรรมของทั้งหมดที่แสดงออกมาก็บ่งบอกให้รู้ว่าพวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อจะฝ่าฟันในข้อจำกัดเื่ระยะทางไปให้ได้หลังจากที่ได้เห็นตราคำสั่งสร้างเมืองแล้วก็ค่อยว่ากันอีกทีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว
ก้าวที่สี่สิบสี่...เกราะเวทน้ำแข็งชั้นสุดท้ายก็แตกออก ก่อนที่ตัวเลขค่าความเสียหายจะลอยขึ้น -1,800อยู่เหนือหัวของหอยทากแอฟริกาั์ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา
ห้าวินาที...เพียงแค่ห้าวินาทีเท่านั้น หอยทากแอฟริกาั์ก็ได้เสียชีวิตลง และกลายเป็แสงสีเทาพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
เวลานี้ตำแหน่งที่หยุดลงคือ ก้าวที่สี่สิบเก้า...
ถึงแม้ว่าจะล้มเหลว แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ก็ถือได้ว่าเป็ก้าวที่ยิ่งใหญ่มากหัวหน้ากิลด์สมาคมโลกนั้นไม่ได้มาเอง แต่ส่งรองหัวหน้ามาแทน นั่นก็คือ ''ลั่วทัวเสียงจึ'' (คนลากรถ) เมื่อเขาเห็นสายตาที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยความสงสัยจึงพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า "ตามข้อมูลที่ได้มาจากหอยทากแอฟริกาั์นั้นเวทป้องกันธาตุน้ำแข็ง ธาตุความมืด และธาตุแสงนั้นให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังจากที่ได้รับข้อมูลข่าวสารมาผู้คนจากหลายกองกำลังก็เริ่มปรับเปลี่ยนแผนการของพวกเขาในทันทีจำนวนของเกราะป้องกันนั้นไม่ใช่ว่าใช้ได้ไม่จำกัด มีได้มากที่สุดเพียงแค่เจ็ดชั้น และใช้ได้สูงสุดแค่สามชั้นในแต่ละชนิดของธาตุเพราะว่ามีจำนวนจำกัด ข้อความจากหอยทากแอฟริกาั์จึงมีค่าอย่างมาก
"เดี๋ยวผมจะเข้าไปเอง"มีนักรบคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มของสมาคมหยกเมื่อสายตาของผู้คนมองเห็นชายคนดังกล่าว ก็อุทานขึ้นท่ามกลางฝูงชนทันที
"นั่นใช่เขาจริงหรือนี่"
"ใคร... เขาเป็ใครกัน?"
"ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในรายชื่ออันดับที่ 89ชื่อ ''หยกดำ''
บางคนไม่เคยได้ยินชื่อของหยกดำมาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อรู้ว่าอยู่อันดับที่ 89 ก็เพียงพอแล้วถ้ามีความแข็งแกร่งจนสามารถเข้าสู่อันดับรายชื่อได้ ก็แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอนในร้อยอันดับรายชื่อนั้นมีแต่พวกที่มีความสามารถและเป็อัจฉริยะในผู้เล่นนับร้อยนับพัน ถูกเลือกมาเพียงหนึ่งร้อยคนเท่านั้นจะเป็คนอ่อนแอไปได้อย่างไรกัน
ต้องขอบคุณประสบการณ์ที่ได้รับมาจากหอยทากแอฟริกาั์ตอนนี้เกราะเวทจึงถูกร่ายขึ้นเพียงสามชนิด หยกดำในเวลานี้ได้มาถึงตรงที่หอยทากแอฟริกาั์ตายลงก่อนที่เขาจะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป
ห้าสิบก้าว... หกสิบก้าว... เจ็ดสิบก้าว...
หลังจากก้าวที่เจ็ดสิบหก...เกราะชั้นสุดท้ายก็ถูกทำลาย หลังจากนั้นเพียงแค่สามวินาที หยกดำก็ตายลงถึงแม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะสูงมากแต่พลังชีวิตนั้นเทียบไม่ได้กับหอยทากแอฟริกาั์เลย
แต่ละกลุ่มผู้นำจะมีการกระทำคล้ายๆ กัน ต่างก็ให้ผู้ใช้เวทร่ายเวทป้องกันให้กับทุกคนหลังจากนั้นทั้งกลุ่มก็เดินเข้าไปได้ราวห้าสิบก้าวดูเหมือนว่าจะได้ระยะทางมากกว่ากลุ่มของผู้เล่นเดี่ยวทั้งหลาย
ผู้เล่นเดี่ยวนั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีผู้ใช้เวทคอยสนับสนุนให้เมื่อปราศจากผู้ใช้เวทคอยสนับสนุน จึงเป็ไปไม่ได้เลยที่จะสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้เพียงลำพังพวกเขาเ่าั้ทำอะไรไม่ได้นอกจากเพียงแค่ก่นด่ากลุ่มผู้นำอยู่ในใจถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกเต็มใจเท่าไร แต่ก็มีผู้เล่นบางคนได้ถอนตัวออกไปและอีกอย่างหนึ่งการที่จะต้องใช้ยาแก้พิษระดับกลางเกือบทุกนาทีตลอดการเดินทางเป็การจ่ายที่ราคาแพงมาก
ฉินโจ้วรู้สึกดีใจและไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใดที่จะต้องเดินตามหลัง ถ้าเขาไม่เห็นกลุ่มคนที่เอาตัวเองไปทดลองให้ฟรีๆ แล้วเขาคงพุ่งออกไปคนเดียวนานแล้ว และถึงแม้ชุดขาวลอยล่องจะเป็นักบวชแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกไปสำรวจนำหน้า ฉินโจ้วที่เดินตามหลังอยู่จึงไร้ซึ่งความกดดันใดๆ
อี่เทียนหงและดาบวงพระจันทร์เดินมาด้วยกันเหมือนที่คาดเอาไว้แต่ทว่ายังมีชายวัยกลางคนลึกลับพร้อมกับพาดหอกด้ามยาวที่หลังมาด้วยอีกคนให้ความรู้สึกกดดันแผ่กระจายออกมา แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกและที่ค่อนข้างจะน่าแปลกอยู่บ้างก็คงเป็สาวน้อยตัวเล็กที่หัวเราะใส่ฉิวเฉ่ากังนั่นเองเธอมาเพียงลำพัง ะโแกว่งแขนสลับไปมา สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่ต่างจากการมาเดินเล่นในสวน นอกจากฉิวเฉ่ากังแล้วทุกคนที่ได้เห็นล้วนต่างพากันตกตะลึงหรือว่านี่จะเป็เด็กอัจฉริยะ ?
การเดินทางไปในทั่วหล้าไม่ว่าพระสงฆ์ นางชี ยาจก และหญิงงามล้วนเป็บุคคลทั้งสี่ประเภทที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลยทั้งสิ้น ตามที่คนโบราณได้เคยกล่าวเอาไว้ล้วนเป็เื่ที่มีเหตุผลทั้งสิ้น
หลังจากที่ได้ใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องโดยใช้ชีวิตของผู้เชี่ยวชาญไปสิบสองคน ในที่สุดฝูงชนก็เคลื่อนเข้าไปได้ราวครึ่งลี้ปลายทางนั้นเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน แม้ว่าจะแลกไปด้วยชีวิตคนจำนวนไม่น้อยแต่อารมณ์ของคนที่เหลือต่างก็ล้วนรู้สึกตื่นเต้นด้วยกันทั้งนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าตราคำสั่งสร้างเมือง ชีวิตจำนวนเล็กน้อยเ่าั้ก็กลายเป็เื่ที่ไม่สลักสำคัญแต่อย่างใด
ถัดมาก็เป็กลุ่มของผู้ใช้เวทผู้ใช้เวทเหล่านี้ที่สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้นั้นล้วนไม่มีใครอ่อนแอในฐานะที่กลุ่มของปราสาทแห่งความมืดเป็กลุ่มที่ลึกลับลำดับที่สองรองจากกลุ่มสายฟ้านี่จึงเป็ครั้งแรกที่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญออกมาช่วยสำรวจ
หลังจากที่ปรากฏลำแสงสว่างวาบขึ้น ร่างกายก็พลันเกิดเกราะเวทน้ำแข็งปกคลุมขึ้นมาสามชั้นในทันทีทำให้ในใจของทุกคนถึงกับเย็นเยือก ไม่คิดเลยเพียงแค่ชั่วพริบตาแต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็ถึงเวทระดับกลางไม่คิดว่ากลุ่มปราสาทแห่งความมืดจะลึกลับมากขนาดนี้ ถึงกับมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ในมือเป็จำนวนมาก
แสงสว่างส่องประกายขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับกลายเป็สีดำโดยมีวงแหวนสีดำปรากฏขึ้นอยู่เหนือหัวของผู้ใช้เวททำให้ผู้คนต่างก็รู้สึกประหลาดใจไม่คาดว่าจะเป็ผู้เชี่ยวชาญที่เป็ผู้ใช้เวทสองคน ดูเหมือนว่าในเกมยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อยู่อีกมากมายจึงไม่แปลกใจเลยที่กลุ่มปราสาทแห่งความมืดจึงได้ยิ่งใหญ่เพียงนี้ เพียงแค่ส่งคนมาสามคนก็สามารถไล่ความหวาดกลัวออกไปได้ในทันทีทำให้สายตาที่จ้องมองมาของฝูงชนนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
หลังจากที่เพิ่มวงเวทธาตุมืดเข้าไปผู้ใช้เวทต่างก็เดินเข้าหุบเขาจอมพลด้วยสีหน้าเรียบเฉยโดยปราศจากท่าทางอื่นแต่อย่างใดเมื่อเข้ามาถึงที่นี่ ความกดอากาศก็เพิ่มขึ้นเป็อย่างมากทำให้ความเร็วในการเดินลดลงแต่เหล่าผู้ใช้เวทก็ยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเดินไปได้อีกห้าก้าววงเวทธาตุมืดวงแรกก็หายไป ซึ่งผู้ใช้เวทเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใดก่อนจะสร้างวงเวทขึ้นมาใหม่ นี่เป็ข้อดีของผู้ใช้เวทที่สามารถสร้างเกราะป้องกันขึ้นได้ตลอดเวลา
สามนาทีต่อมาผู้ใช้เวทก็สามารถเคลื่อนเข้าไปใกล้ได้เกือบสองร้อยเมตร ในเวลานี้ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสร้างเกราะเวทได้ทันต่อการถูกทำลายแล้วผู้ใช้เวทได้สร้างความประหลาดใจอีกครั้งให้กับทุกคน ด้วยการชูมือขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะหยิบไม้เท้าเวทระดับทองคำขาวและผลึกเรืองแสงออกมาแสงสว่างจากอุปกรณ์ทั้งสองะเิขึ้นอีกคราเกราะเวทป้องกันทั้งเจ็ดก็พวยพุ่งออกมาปกคลุมผู้ใช้เวทอย่างแ่าทันที
อุปกรณ์เวทที่ดีจะสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้กึ่งหนึ่งดูท่าประโยคนี้สามารถสะท้อนออกมาให้เห็นได้เป็อย่างดี
299 เมตร... 300 เมตร...
ในขณะที่ผู้ใช้เวทก้าวเข้าสู่ระยะสามร้อยเมตร ก็ถูกคลื่นจู่โจมที่มองไม่เห็นโจมตีเข้าใส่ก่อนจะเกิดแสงสีเทาแห่งความตายขึ้น พร้อมกับค่าความเสียหาย -6,800 หน่วยลอยขึ้นเหนือหัวของผู้ใช้เวท ไม่มีแม้แต่เสียงร้องออกมาให้ได้ยินหลังจากนั้นผู้ใช้เวทก็ตายลงและดรอปเหรียญทองออกมาจำนวนหนึ่ง
"เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?"
"ตายแล้ว"
"ทำไมถึงเป็แบบนี้?"
ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วจนไม่มีใครมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นจึงทำให้ผู้ใช้เวทตายลง มันกะทันหันมากผู้ใช้เวทที่กำลังเดินอยู่เริ่มสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว และยังคงมีพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้ผู้คนต่างรับมือไม่ทันพวกเขาจึงมองไปยังผู้นำของปราสาทแห่งความมืด ''จิ่วเฟอเย่''(เก้าศาสดา)
สีหน้าของจิ่วเฟอเย่เองก็ดูแปลกไป หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้น ก็ได้เอ่ยขึ้นว่า "ลู่ซีฟ่าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นมันเกิดขึ้นไวมาก จนเขาเองก็ไม่รู้ตัว"ลู่ซีฟ่าเป็ชื่อของผู้ใช้เวทในเวลานั้น
หลังจากที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวสีหน้าของผู้คนที่แสดงออกมาก็เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจในทันที ถ้าเป็ผู้เล่นทั่วไปก็ไม่น่าแปลกใจถ้าจะถูกฆ่าโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งพอจะเข้าใจได้ แต่นั่นมันก็สำหรับคนธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับลู่ซีฟ่าเองเป็ถึงผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆการที่ถูกฆ่าตายนี่ก็น่าประหลาดใจมากพอแล้วพวกเขาเองก็ไม่ได้สงสัยว่าจิ่วเฟอเย่นั้นจะพูดโกหก แต่ที่หุบเขาจอมพลแห่งนี้คงจะมีอะไรที่ไม่ธรรมดาอยู่เป็แน่
หลังจากที่ตัดสินใจอยู่ชั่วครู่พวกเขาก็ส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปอีกครั้ง เป็ผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งซึ่งเป็ผู้เล่นของกิลด์์ เพื่อออกไปหาสาเหตุว่าเป็เพราะเหตุใดโดยจักรพรรดิหยกนั้นใจเด็ดมาก ถึงกับให้ไม้เท้าเวทระดับทองคำขาวไปด้วยตัวของผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งเองก็สวมชุดระดับทองทั้งหมดถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในกลุ่มเป็ผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่อุปกรณ์ระดับทองคำขาวก็มีเพียงไม่กี่ชิ้นและไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีได้เขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับอุปกรณ์ระดับทองคำขาวสำหรับทำภารกิจนี้ทำให้ผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย และมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่าจะตื่นเต้นแต่เขาเองก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งยังคงใช้วิธีเดียวกับลู่ซีฟ่าก่อนจะเริ่มก้าวเดินอย่างมั่นคงทีละก้าว
หนึ่งร้อยเมตร... สองร้อยเมตร... สองร้อยห้าสิบเมตร...
ทันใดนั้นเกราะเวทน้ำแข็งที่เคยมีจู่ๆ ก็หายไปผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งถึงกับเหงื่อไหลออกมาทันที ดูเหมือนว่าพลังจิตจะถูกใช้หมดไปอย่างไม่ทันรู้ตัวและเขาก็ไม่รู้ว่าเป็เพราะไม้เท้าเวททองคำขาว หรืออาจเป็เพราะว่าเขากำลังตื่นเต้นมากจึงรีบร้อนหยิบยาน้ำเงินเวอร์ชันอัปเกรดออกมากลืนลงไป แต่เนื่องจากกำลังลนลานจึงหยิบยาน้ำเงินระดับธรรมดาออกมาแทนในขณะที่กำลังลังเลที่จะเปลี่ยน เกราะป้องกันสุดท้ายก็แตกออก
บนหัวของผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งก็แสดงค่าความเสียหายขึ้น-3,000 -3,000 เพียงแค่สองวินาที ผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็งก็ตายลงและสลายกลายเป็แสงสีเทาโชคไม่ดีที่อุปกรณ์ระดับทองคำขาวนั้นดรอปออกมา
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาดูเหมือนจะมาจากสาวน้อยร่างเล็กคนนั้นที่กำลังขำหนักมากจนถึงกับตัวโยนไปมาไม่ต่างจากกิ่งไม้ที่กำลังสั่นไหว เื่นี้จะไปตำหนิพวกเขาก็ไม่ได้เพราะว่าเป็ถึงผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังทำผิดพลาดในเื่ง่ายๆ เช่นนี้ดูท่าว่าประสบการณ์ในการต่อสู้คงยังน้อยเกินไป
จักรพรรดิหยกถึงกับมีสีหน้าซีดเผือด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ภายในใจนั้นกำลังคิดว่าถ้ากลับไปคงจะต้องไล่เ้านี่ออกไปไม่เพียงแต่เสียไม้เท้าเวท แต่ยังทำให้เขาขายหน้าต่อคนมากมายอีกด้วย ทั้งหน้าตาทั้งศักดิ์ศรีไม่เหลืออะไรแล้ว
"ดูเหมือนว่าถ้าอยากจะผ่านไปคนของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนคงต้องออกโรงเองแล้วกระมัง"รองหัวหน้ากิลด์ต้นไม้ทงเทียน ''ฟางเซียวเสี้ยว'' เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอันดัง แต่ถ้ามาพูดขึ้นในเวลานี้อาจจะดูเหมือนว่าจะเร็วไปเสียหน่อย
สีหน้าของจักรพรรดิหยกดูจะตึงเครียดและยังคงนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้