แม่ทัพใหญ่ฉีก็เพิ่งจะได้ยินถึงลิ่วตันซางลู่ในวันนี้ เขาแน่ใจเป็อย่างยิ่งว่าเื่นี้ต้องมีผู้ที่อยู่เื้ั จักต้องมีคนสั่งการบุตรสาวของเขาอย่างแน่นอน
การเผชิญหน้ากับแม่ทัพใหญ่ฉีที่โกรธเป็ฟืนเป็ไฟ องค์หญิงหวายหนิงจึงไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา และยิ่งไม่กล้าพูดความจริงเข้าไปอีก
อันที่จริงแล้วท่านพี่ฟู่ฟางเพียงแค่เตือนสตินางว่ากูเฟยเยี่ยนอยู่ในจิ้งหวางฝู่พวกเราสามารถโยนความผิดให้นางได้ สำหรับจะโยนความผิดอย่างไรนั้นล้วนเป็นางที่คิดออกมา ท่านพี่ฟู่ฟางเพียงแค่ออกหน้าช่วยนางในการติดสินบนแพทย์ชายเท่านั้น
“เป็ เป็อาจารย์แพทย์เจี่ยนของห้องยาสำนักหมอหลวง นางบอกตำรับยาย่าวซ่านให้แก่ท่านพี่ฟู่ฟาง แล้วยังแนะนำลิ่วตันซางลู่ให้แก่ท่านพี่ฟู่ฟางอีกด้วย ลิ่วตันซางลู่สมุนไพรเช่นนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับโสมเล็กทุกประการ สรรพคุณก็แทบจะเหมือนกันคือ เมื่อทานเข้าไปแล้วฝ่ามือจะเกิดความคัน เพียงครึ่งวันอาการก็จะดีขึ้น ไม่มีอะไรร้ายแรง”
เมื่อได้ยินถึงคำพูดนี้แม่ทัพฉีและฉีอวี้จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพียงแค่ห่อสมุนไพรที่ถูกสับเปลี่ยนไม่สามารถทำอันตรายแก่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้ เช่นนั้นเื่นี้อย่างน้อยก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นไม่สามารถจัดการได้ และไม่ถึงกับจะพัวพันมาถึงตระกูลฉี
องค์หญิงหวายหนิงลอบชำเลืองตามองแม่ทัพใหญ่ฉีและฉีอวี้ เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้สงสัยมาที่ตนเอง นางจึงกล่าวว่า “ท่านพี่ฟู่ฟางติดสินบนแพทย์ชายไว้สองคน คนแรกคือเฉินซานหยวนในห้องนำส่ง อีกคนหนึ่งคือหลี่เก๋อฉุนในห้องจัดเตรียมยา ท่านพี่ฟู่ฟางคุยกับพวกเขาเรียบร้อยแล้วว่าให้เฉินซานหยวนรับสารภาพไปที่กูเฟยเยี่ยน หลี่เก๋อฉุนไปเป็พยาน เฉินซานหยวนนั้นเลวร้ายเกินไปแล้ว เขารับเงินจากท่านพี่ฟู่ฟางไปมากมาย แต่กลับทรยศท่านพี่ฟู่ฟางอีก! ”
แม่ทัพใหญ่ฉีเอ่ยถามอย่างจริงจัง “หลี่เก๋อฉุนนั้นก็ถูกจับกุมแล้วหรือ? อาจารย์แพทย์เจี่ยนล่ะ? ”
องค์หญิงหวายหนิงตอบกลับไปตามความเป็จริง “หลี่เก๋อฉุนก็ถูกจับกุมไปแล้ว ทางด้านของอาจารย์แพทย์เจี่ยนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดส่งย่าวซ่านในครั้งนี้ จึงไม่มีใครสงสัยไปที่ตัวนาง! ” มือทั้งสองข้างของแม่ทัพใหญ่ฉีไพล่ไว้ที่ด้านหลัง แล้วเดินวนไปวนมาครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับเื่นี้ดี
ฉีอวี้ที่เงียบกริบมานานในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะขึ้นมา “ท่านพี่นี่มัน…ความสามารถที่จะทำให้งานนั้นสำเร็จมีไม่มาก แต่ความสามารถที่จะทำลายงานนั้นมีอยู่เหลือเฟือ! ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้องค์หญิงหวายหนิงจึงหวาดผวาไม่กล้ามองไปที่เขา นางอดไม่ได้ที่จะเป็กังวลว่าหากฉีอวี้รับรู้ว่าความคิดนี้เป็นางที่คิดขึ้นมา เขาจะรังเกียจว่านางโง่เขลาหรือไม่? จะโกรธนางหรือไม่?
นางยิ่งคิดยิ่งเกิดความหวาดกลัว เมื่อเกิดความหวาดกลัวก็ยิ่งมีความคิดที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ยอมรับผิดและจะไม่ให้ท่านพี่ฟู่ฟางยอมรับผิดด้วย ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดนางก็จะต้องช่วยฉีฟู่ฟางออกมาให้ได้เร็วที่สุด!
ในขณะนี้แม่ทัพใหญ่ฉีได้หันมามองแล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “องค์หญิง ท่านโปรดกลับไปที่พระราชวังพูดคุยกับอาจารย์แพทย์เจี่ยนก่อนเพื่อให้นางควบคุมปากเอาไว้ให้ดี! ส่วนที่เหลือมอบหมายให้โหม่วเจียงก็พอ โหม่วเจียงและฉีอวี้ไปที่ศาลต้าหลี่ในเวลานี้เลย รีบไปพบฟู่ฟางก่อนที่ใต้เท้าเจียงจะเริ่มการสอบสวน มิฉะนั้นแล้วหากฟู่ฟางสารภาพออกมา เื่ราวก็คง…”
“ไม่ๆๆ ! ”
องค์หญิงหวายหนิงเกิดความตื่นเต้นขึ้น “ท่านแม่ทัพใหญ่ฉี ใต้เท้าเจียงแห่งศาลต้าหลี่ได้รับการมอบอำนาจทั้งหมดจากจิ้งหวางแล้ว ยังมีคำอนุญาตสั่งการจับกุมจากฟู่หวงของข้าด้วย กำเริบเสิบสานเป็อย่างยิ่ง เขาอาจจะไม่ไว้หน้าท่าน ข้าจะไปด้วยตนเอง ข้า ข้า…ข้าพาท่านพี่ฉีอวี้ไปด้วย! ข้าจะไปเป็พยานให้ท่านพี่ฟู่ฟาง ข้าจะบอกว่าไม่กี่วันมานี้ท่านพี่ฟู่ฟางล้วนอยู่กับข้ามาโดยตลอด ไม่ได้ไปที่ไหนเลยและยิ่งไม่ได้ไปห้องยาสำนักหมอหลวงอีกด้วย! ”
องค์หญิงหวายหนิงลังเลชั่วครู่ก่อนจะเสริมว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ฉี ท่านวางใจได้ หากว่าไม่มีวิธีการอื่นจริงๆ ข้า ข้า…ข้าจะบอกว่าแพทย์ชายคนนั้นถูกกูเฟยเยี่ยนติดสินบนให้โยนความผิดให้ท่านพี่ฟู่ฟาง! อย่างไรก็ตามห่อย่าวซ่านนั้นก็ได้ผ่านมือของกูเฟยเยี่ยนด้วยเช่นกัน! ”
แม่ทัพใหญ่ฉียังไม่ทราบชัดเจนถึงหลักฐานที่ศาลต้าหลี่ไว้ในตอนนี้ อันที่จริงแล้วเขาไม่อยากจะผลีผลามออกหน้า เขาแทบอยากจะให้องค์หญิงหวายหนิงไปสำรวจเส้นทางก่อน เขาหันไปส่งสายตาเป็นัยให้กับฉีอวี้ ก่อนจะตอบตกลงในทันที “กลางดึกกลางดื่นเช่นนี้เป็การรบกวนองค์หญิงแล้วจริงๆ ”
องค์หญิงหวายหนิงรีบแสดงท่าที “เื่ของท่านพี่ฉีอวี้…ไม่ไม่ไม่ เื่ของท่านพี่ฟู่ฟางก็คือเื่ของข้า ท่านแม่ทัพใหญ่ฉีไม่จำเป็ต้องเกรงใจ
แม่ทัพใหญ่ฉีรอคอยข่าวอยู่ในจวน ฉีอวี้และองค์หญิงหวายหนิงออกไปแล้วรีบเดินทางไปยังศาลต้าหลี่ และในขณะเดียวกันเซี่ยเสี่ยวหม่านก็ได้นำข่าวนี้มาบอกกับกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนเกิดความประหลาดใจอย่างแท้จริง!
นางมั่นใจมาโดยตลอดว่าเื่นี้ เกิดขึ้นโดยจิ้งจอกเฒ่าที่เคยวางแผนประทุษร้ายเฉิงอี้เฟย คิดไม่ถึงเลยว่ากลางทางจะมีฉีฟู่ฟางพุ่งแทรกเข้ามา! แม้แต่ใต้เท้าหนานกงก็อาจไม่สามารถมีลิ่วตันซางลู่ได้มากขนาดนี้ ฉีฟู่ฟางจะไปหามาได้อย่างไร?
กูเฟยเยี่ยนนอกจากจะเกิดความประหลาดใจแล้ว สิ่งที่มีมากกว่าคือความไม่สบายใจ นางเกิดความกังวลเล็กน้อยว่าจิ้งจองเฒ่านั่นอาจจะไม่ได้้าวางแผนประทุษร้ายจิ้งหวาง แต่้าโยนความผิดให้ตระกูลฉี!
เป้าหมายมาโดยตลอดของจิ้งจอกเฒ่าล้วนคือตระกูลเฉิงและตระกูลฉีสองตระกูลนี้นี่นา! เขาพลาดพลั้งไปจากตระกูลเฉิงแล้วก็เลยย้ายเป้าหมายไปที่ตระกูลฉี! จิ้งจอกเฒ่าตนนี้ตกลงแล้วเป็ใครกันแน่? ช่างชั่วร้ายอำมหิตเหลือเกิน!
ภายใต้สถานการณ์ที่หลักฐานมีไม่มากพอ กูเฟยเยี่ยนไม่กล้าคาดการณ์มากนัก นางเพียงคิดว่า้าทราบรายละเอียดสถานการณ์ให้เร็วที่สุด
นางไม่ลังเลที่จะบังคับลากดึงเซี่ยเสี่ยวหม่านไปที่ศาลต้าหลี่
การที่มีเซี่ยเสี่ยวหม่านเป็ผู้นำทาง ทำให้กูเฟยเยี่ยนมาพบใต้เท้าเจียงได้อย่างรวดเร็ว นางอดใจไม่ไหวที่จะเอ่ยถาม “ใต้เท้าเจียง แพทย์ชายคนไหนเป็ผู้สารภาพฉีฟู่ฟางออกมากัน? แน่ใจว่าสมุนไพรที่ถูกสับเปลี่ยนคือลิ่วตันซางลู่? ”
ดูเหมือนว่าใต้เท้าเจียงจะเกิดความลังเลเล็กน้อย เขาเงียบไปชั่วครู่แล้วตอบว่า “เป็แพทย์ชายของห้องนำส่ง นามว่าเฉินซานหยวน? ”
“เฉินซานหยวน! ”
สายตาของกูเฟยเยี่ยนปรากฏถึงความซับซ้อน นางถามอย่างร้อนใจ “ใต้เท้าเจียง เฉินซานหยวนผู้นี้มีพยานวัตถุอะไรบนมือบ้าง? หรือว่าเขามีพยาน? ”
ทว่าใต้เท้าเจียงไม่้าที่จะเปิดเผยข้อมูลอีก ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็เพราะเขาไม่ได้เชื่อใจกูเฟยเยี่ยนทั้งหมด
เขาเคยได้ยินถึงข่าวลือของกูเฟยเยี่ยน สำหรับบุคลิก กิริยาท่าทางของกูเฟยเยี่ยนแล้วเขาค่อนข้างสงสัยมาโดยตลอด ในขณะที่อยู่ในจิ้งหวางฝู่เขาก็เกิดความสับสนแล้ว ศาสตราจารย์แพทย์ใต้เท้าหนานกงตรวจสอบยาไปสี่รอบก็ล้วนมองไม่ออกว่าเป็ลิ่วตันซางลู่ กูเฟยเยี่ยนที่เป็เพียงแพทย์หญิงตัวน้อยสามารถตรวจพบสมุนไพรหายากนั้นได้อย่างไรกัน?
เขาก็ไม่ทราบว่าท่าทีของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยที่มีต่อกูเฟยเยี่ยนเป็อย่างไร ในตอนนั้น เขา้าถามต่อหน้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยให้ละเอียด แต่ไม่มีทางเลี่ยงเมื่อถูกจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเร่งรัดให้ไปจับกุมคนที่ห้องยาสำนักหมอหลวง ดังนั้นจึงล่าช้าไป
ในค่ำคืนนี้หากว่าไม่ใช่เซี่ยเสี่ยวหม่านที่เป็ผู้พากูเฟยเยี่ยนมา เขาก็จะไม่มีทางเปิดเผยกับกูเฟยเยี่ยนแม้แต่ครึ่งประโยค
ใต้เท้าเจียงลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง “คดีนี้ยังมีข้อสงสัยอีกมากมาย เจียงโหม่วยังมีจุดสงสัยและ้าถามหม่านกงกง ไม่ทราบว่าหม่านกงกงสามารถมายังด้านนี้เพื่อพูดคุยกันได้หรือไม่? ”
ทันทีที่คำพูดนี้เอ่ยจบ องค์หญิงหวายหนิงและฉีอวี้ก็ได้ปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าประตูในทันที ทุกคนต่างก็ใ เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป
หยาเว่ยไม่สามารถขัดขวางได้ และไม่กล้าขวางด้วย องค์หญิงหวายหนิงและฉีอวี้จึงได้บุกเข้ามาด้านใน
ใต้เท้าเจียงรู้ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะเสด็จมา เพียงแต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าฉีอวี้ที่นานๆ ครั้งจะเดินเคียงคู่มากับองค์หญิงหวายหนิงก็มาพร้อมกัน เขาก้าวเรียบขึ้นมาโน้มกายแสดงความเคารพ “ข้าน้อยน้อมคารวะองค์หญิงหวายหนิง น้อมคารวะท่านชายท่านแม่ทัพ”
องค์หญิงหวายหนิงและฉีอวี้ล้วนไม่สนใจไยดีใต้เท้าเจียง ทันทีที่ทั้งสองคนเข้ามา จุดสนใจล้วนไปตกอยู่บนร่างของกูเฟยเยี่ยน พวกเขาคาดไม่ถึงว่าดึกดื่นป่านนี้เหตุใดกูเฟยเยี่ยนจึงอยู่ที่นี่ ชั่วพริบตาเดียวก็ลืมเลือนเื่ของฉีฟู่ฟางไปหมด
การได้พบกันอีกครั้ง ฉีอวี้ไม่เพียงแต่เหยียดหยามกูเฟยเยี่ยน แต่ยังรังเกียจอีกด้วย
ทางด้านขององค์หญิงหวายหนิงนั้นเรียกได้ว่าจงเกลียดจงชัง เป็สองครั้งแล้วที่กูเฟยเยี่ยนหลบหนีไปได้ นางไม่พอใจเป็อย่างยิ่ง ในครั้งนี้ก็เป็เพราะกูเฟยเยี่ยน ที่ได้ก่อเื่ใหญ่ขนาดนี้ นางแทบอยากจะใช้สายตาสังหารกูเฟยเยี่ยน…