คำพูดอวดดีเ่าั้ของ ‘ศรอัคคีทมิฬ’เพิ่งจะจบ และไม่มีใครสักคนที่เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาเห็นแค่เพียงเส้นโค้งของแสงอันตระการตา 2 เส้นกวาดผ่านผู้เล่น 10 คนในฉับพลัน ก่อนที่ผู้เล่นทั้ง 10คน จะล้มลงไป
ผู้เล่น 10 คน ในชั่วพริบตาเดียว! มันเป็ฉากที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้
รูม่านตาหลายสิบคู่หดลงอย่างรุนแรงในเวลาเดียวกัน
“เร็วมาก!” เซียวฉิเฟิงอุทานในใจอาชีพของเขาเป็นักรบฝึกหัดเช่นกัน และการโจมตีเมื่อครู่นี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็สกิลพื้นฐานของนักรบฝึกหัด‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ แต่ ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ทั้งสองอันเมื่อครู่ที่ผ่านมานั้นน่าทึ่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นไม่มีใครสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวมือของเขาได้อย่างชัดเจนเหมือนกับฟ้าแลบ ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ทั้งสองอันก็ถูกปลดปล่อยออกไปแล้วความเร็วในการเคลื่อนไหวมือเช่นนี้ทำให้แม้กระทั่งเขารู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้นเขาไม่รู้ว่าใครจะสามารถหลบการโจมตีระยะใกล้ของคนผู้นี้ได้ด้วยความเร็วของมือขนาดนี้อย่างน้อยที่สุดเขาก็รู้ว่าตัวเขาเองทำไม่ได้!
คนผู้นี้แท้ที่จริงแล้วเขาเป็ใคร!
‘ศรอัคคีทมิฬ’ เพิ่งะโคำขู่ของเขาเสร็จ และในชั่วพริบตาผู้เล่นของ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ ทั้ง 10 คนก็ล้มลงไปผู้เล่นทั้งหมดของ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ล้วนตกตะลึงอย่างฉับพลันสำหรับผู้เล่นทั่วไป ่เวลาสั้นๆ ของความว่างเปล่านี้ไม่ถือว่ามากมายนักแต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญสุดยอด ชั่วขณะหนึ่งนั้นเพียงพอที่จะตัดสินชีวิตและความตายทันทีที่พวกเขากลับมาได้สติ หลิงเฉินก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งมือทั้งสองข้างของเขาโจมตีออกไปเหมือนกับฟ้าแลบอีกหน ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ รอบที่สองฟันและกวาดออกไปทั้งสองด้าน ณ หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้นไม่มีการตัดสินเื่ค่าอาชญากรรมสำหรับการฆ่าผู้เล่นดังนั้นหลิงเฉินจึงฆ่าพวกเขาโดยไร้ซึ่งความกังวลใดๆและถึงแม้จะมีเื่นี้เขาก็จะยังคงไม่รามืออย่างเด็ดขาด
ปัง ปัง ปังปัง...
นักฆ่าฝึกหัด3 คนสุดท้ายถูกฆ่าตายด้วยการโจมตี1 ครั้ง ส่วนทหารโล่ 3 คนซึ่งถูกกวาดโดย‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’อีกอันก็เข้าสู่ภาวะวิกฤติ ในตอนนี้เองที่ผู้เล่นของ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ เหมือนตื่นจากความฝัน และพลันมองไปที่ซากศพซึ่งกลบพื้นดินอยู่พวกเขารู้สึกถึงลมกระโชกอันเย็นเยียบมากมายทะลุผ่านร่างไปจนทำให้พวกเขารู้สึกถึงความหนาวเหน็บั้แ่ผิวกายไปยังอวัยวะภายในอย่างต่อเนื่อง
การถูกโจมตีที่ปลายนิ้วเท้าโดยซากศพที่ล้มลงมาทำให้ทั่วทั้งร่างของ‘ศรอัคคีทมิฬ’ สั่นเทิ้มราวกับจู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย“ทหารโล่ทหารโล่ทั้งหมดไปสกัดกั้นเขา นักธนูกับนักเวทย์รวบรวมเพลิงของพวกเ้า!เดี๋ยวนี้เลย!”เขาะโเสียงแหบแห้งขณะถอยหนีอย่างเร่งรีบก่อนที่เขาจะสามารถโต้ตอบได้ก็มีร่างหลายสิบร่างบนพื้นดินแล้วคนผู้นี้เขาเป็ผู้เล่นหรือปีศาจกันแน่!
ภายใต้คำสั่งของเขาทหารโล่ 6คนในกลุ่มต่างพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง และปรี่เข้าหาหลิงเฉินจากทิศทางต่างๆเพื่อพยายามใช้ร่างของพวกเขาในการปิดกั้นตำแหน่งในการเคลื่อนที่ทั้งหมดของหลิงเฉินโดยตราบใดที่พวกเขาสามารถจำกัดการเคลื่อนที่ของเขาได้ชั่วคราวในเสี้ยววินาทีการโจมตีร่วมกันของเหล่านักธนูและนักเวทย์ก็จะสามารถเอาชีวิตของเขาได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามหากหลิงเฉินจัดการได้ง่ายดายขนาดนั้นเขาก็คงไม่ใช่หลิงเฉินที่ตอนเลเวล 5 สามารถฆ่าบอสระดับนางฟ้าเลเวล 10 และเขาในเวลานี้จะคิดอะไรก็ตามกับขยะอันไร้พิษภัยพวกนี้ได้อย่างไรไม่ว่าจะมีขยะเท่าไหร่ก็ตามพวกมันก็ยังคงเป็ขยะ!
ตอนที่ทหารโล่พุ่งเข้าหาร่างของหลิงเฉินเขาก็ได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วออกไปแล้ว ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ อีกสองอันกวาดไปยังทิศทางทั้งสองในเวลาเดียวกัน ในพื้นที่โจมตี 4 เมตร ก่อนที่ทหารโล่เหล่านี้จะสามารถเข้าใกล้เขาพวกมันทั้งหมดก็โดนโจมตีแล้ว ทหารโล่ทั้ง 3คนที่ก่อนหน้านี้อยู่ในภาวะวิกฤติล้มลงไป ส่วนทหารโล่อีก 3คน พลังชีวิตของพวกเขาก็แทบจะว่างเปล่าในทันทีด้วยพลังโจมตีของหลิงเฉินในกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้นอกจากทหารโล่ที่มีพลังชีวิตและพลังป้องกันสูงเท่านั้นถึงจะสามารถรับการโจมตีของเขาได้หนึ่งครั้งอย่างฉิวเฉียดและไม่ตาย
“ระวัง!” ในเวลาเดียวกับที่หลิงเฉินสังหารทหารโล่ทั้งสามเซียวฉิวเฟิงก็ขมวดคิ้วของเขา และแทบจะะโออกไปด้วยน้ำเสียงต่ำตอนที่หลิงเฉินปลดปล่อยการโจมตี ร่างของเขาก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและ่เวลานี้เองที่การโจมตีระลอกแรกของนักธนูและนักเวทย์ทั้ง 10 คนก็มาถึงอย่างฉับพลันคนทั้งสิบปลดปล่อยการโจมตีร่วมกันและเล็งไปที่หลิงเฉินทั้งหมด การโจมตีผสานกันเช่นนี้ไม่สามารถหลบหลีกได้โดยง่าย
หวือหวือ...
เสียงยิงของลูกศรลอยผ่านข้างหูของทุกคนไปตอนที่ทุกคนคิดว่าหลิงเฉินคงจะโดนโจมตีจากลูกศรและะุธาตุไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจู่ๆ พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกเหมือนกับว่าทิวทัศน์ด้านหน้าพร่ามัวร่างที่ถูกโอบล้อมด้วยลูกศรและะุเวทย์เกิดการบิดเบือนที่ผิดปกติและภาพลวงตาต่อมาร่างนั้นก็เคลื่อนที่อย่างแปลกประหลาดเกือบสามตำแหน่งไปทางด้านขวาขณะที่พวกเขาทั้งหมดตกอยู่ในภวังค์
ลูกศรและะุธาตุทั้งหมดทะลุผ่านตำแหน่งของเป้าหมายของพวกเขาและหายไปอย่างหมดพลังหลังจากถึงขีดจำกัดของระยะการโจมตีของพวกมันสำหรับเป้าหมายของลูกศรและะุธาตุเหล่านี้หลิงเฉินกำลังยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อยบนร่างของเขาไม่มีค่าความเสียหายสักค่าเดียวปรากฏ
ไม่มีลูกศรและะุเวทย์สักลูกเดียวที่โจมตีโดนเขาจริงๆ! สถานการณ์ในเวลานั้นแท้ที่จริงแล้วเขาหลบหลีกมันได้ยังไงผู้เล่นฝั่ง ‘พันธมิตรา’ ที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อในใจ
อันที่จริงเราไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนที่ของเขาอย่างชัดเจนไม่ชัดเลย! เซียวฉิวเฟิงกำมือแน่นเล็กน้อยหน้าผากของเขาก็ย่น ฉากเมื่อครู่นี้ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมากการที่เขาถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 7 บนอันดับ์นั้นการรับรู้การต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจ้องเขม็งไปยังทุกการเคลื่อนไหวของหลิงเฉินทว่าแม้จะอยู่ภายใต้การเพ่งเล็งเช่นนี้เขาก็เห็นได้ไม่ชัดเจนว่าจริงๆแล้วหลิงเฉินหลบลูกศรและะุเวทย์จำนวนมากมายในชั่วพริบตาได้อย่างไร
การหลบลูกศรและะุเวทย์ได้นั้นไม่ใช่หมายความว่าหลิงเฉินปลอดภัยในจังหวะที่เขาทรงตัวได้ นักรบฝึกหัดสองคนสุดท้ายของ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ ก็โจมตีเขาจากทางด้านหลังอย่างพร้อมเพรียงกัน ภายหลังการเปลี่ยนตำแหน่งร่างกายของคนปกติในเวลานี้ควรจะไม่มั่นคงและไม่ควรจะสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วการโจมตีทั้งสองครั้งนี้ที่มาจากทางด้านหลังอย่างฉับพลันไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้โดยง่าย
แกล๊ง!
เสียงของโลหะปะทะกันทำให้หัวใจของเซียวชิวเฟิงถึงกับโลดเต้น
การโจมตีของนักรบฝึกหัดทั้งสองคนไม่โดนร่างของหลิงเฉินแต่กลับเป็ ‘ทะยานเมฆา’ ที่โดนเป้าหมายซึ่งหลิงเฉินกวัดแกว่งมันไปทางด้านหลังของเขาอย่างฉับพลันตัวหอกสีเงินยึดไว้อย่างแ่าบนดาบเหล็กทั้งสองจนทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียวขณะที่นักรบทั้งสองตกอยู่ในความมึนงงอย่างสมบูรณ์ ‘ดาบทราย’ของหลิงเฉินก็มาถึง ต่อจากการหมุนตัวของเขา ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ ก็กวาดเข้าใส่ร่างของพวกเขา
โดยไม่มีข้อสงสัยพวกเขาตายในชั่วพริบตา!
“หละ...หลบเลี่ยง! ทั้งยังเป็เวลาที่เขากำลังเผชิญหน้ากับพวกมันการหลบเลี่ยงอาวุธสองชิ้นพร้อมกัน!”ในเวลานี้ท้ายที่สุดเซียวฉิวเฟิงก็ไม่อาจรักษาความสงบเยือกเย็นได้ใบหน้าที่แสนเ็าตลอดเวลาของเขาในตอนนี้เผยความตกตะลึงสุดขีด
ในฐานะที่เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญสุดยอดด้านดาบเซียวฉิวเฟิงเข้าใจดีกว่าใครอื่นว่ามันยากขนาดไหนกับการเปิดใช้งาน ‘การหลบหลีก’ สำหรับอาวุธแม้แต่คนที่บรรลุการควบคุมสูงสุดต่ออาวุธก็จะพบว่ามันยากที่จะหันเหความสนใจของพวกเขาในการต่อสู้ที่รุนแรงเพื่อคว้า‘จุดหลบหลีกการลงทัณฑ์’ ในทันทีทันใดการเปิดใช้งาน ‘หลบหลีกการลงทัณฑ์’ อย่างตั้งใจโดยที่หลังของเขาหันไปทางการโจมตีนั้นเป็สิ่งที่ยากยิ่งการหลบหลีกอาวุธสองชิ้นขณะที่หลังของเขาหันไปทางพวกเขานั้นต้องอาศัยการฝึกฝนจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อที่จะสามารถเหยียบลงไปบนโชคที่เหลวไหลเช่นนี้ได้
มันเป็ความโชคดีหรือความบังเอิญ?
เนื่องจากคั่นด้วยหน้ากากเหล็กเซียวฉิวเฟิงจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของใบหน้านั้นภายใต้หน้ากากทว่าหวนคิดถึงการเคลื่อนไหวของเขาที่ราบรื่น เรียบง่าย และธรรมดาๆ ราวกับสายน้ำอีกทั้งหวนนึกถึงการที่เขาสามารถใช้อาวุธสองชิ้นเพื่อเปิดใช้งานสกิลที่แตกต่างกันหรือเหมือนกันโดยพร้อมกันการเคลื่อนไหวมือของเขานั้นมีแต่พระเ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันเร็วมากกว่าคนปกติทั่วไปกี่เท่าเสียงในหัวใจบอกกับเขาว่าการหลบเลี่ยงเมื่อครู่นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เป็เพียงแค่ความบังเอิญ!
หากมันไม่ใช่ความบังเอิญจริงๆแล้วคนผู้นี้...
เขาคือสัตว์ประหลาด!
แท้ที่จริงแล้วเขาเป็ใคร! ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคนผู้นี้มาก่อน!
ถัดมาก็เป็่เวลาโต้ตอบของหลิงเฉินเขาหันกลับไปปลดปล่อยการโจมตีทหารโล่ทั้งสองคนซึ่งอยู่ในภาวะวิกฤติถูกฆ่าตายในทันทีจากนั้นหลิงเฉินก็มุ่งตรงไปที่นักธนู พื้นที่โจมตีของ ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ นั้นค่อนข้างกว้าง การใช้ ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ พร้อมกันสองอันทำให้พื้นที่การโจมตีทั้งหมดเพิ่มเป็สองเท่าและสามารถล็อคจำนวนของเป้าหมายได้สองเท่านักธนูทั้งหมดยืนอยู่ด้วยกันเหมือนกับการรอไปเกิดใหม่พร้อมเดียวกัน
หลิงเฉินพุ่งไปข้างหน้า‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ กวาดออกไปทั้งทางด้านซ้ายและขวาอย่างพร้อมเพรียงกันและทำให้เกิดเสียงกรีดร้องของความสิ้นหวังห้าเสียงมันจะเป็ไปได้อย่างไรที่นักธนูอ่อนแอพวกนี้จะสามารถทนการโจมตีของหลิงเฉนพวกเขาล้วนถูกฆ่าตายในทันที หลังจากนักธนูก็เป็นักเวทย์ธาตุที่สั่นเทิ้มเมื่อพวกเขาเห็นหลิงเฉินใกล้เข้ามาพวกเขาต่างหันกลับไปโดยไม่รู้ตัวและวิ่งหนีด้วยความหวาดผวาในเวลาเพียงแค่สองถึงสามวินาที กลุ่มคนจำนวน 30 คนนี้เหลือเพียงนักเวทย์ที่อ่อนแอสองสามคนเท่านั้นที่สามารถทนต่อผลกระทบทางด้านจิตใจในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตามถึงแม้ในเวลานี้พวกเขาจะรู้สึกเสียใจ มันก็สายเกินไปเสียแล้วหลิงเฉินเคลื่อนที่ราวกับลมพายุส่วนโค้งของแสงที่แตกต่างกันสองอันปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาและโอบล้อมนักเวทย์ธาตุทั้งห้าคนไว้ภายใน
-328, -329, -325, -652,-318!
เนื่องด้วยพลังชีวิตของนักเวทย์ฝึกหัดที่เปราะบางค่าพลังชีวิตของพวกเขาที่สามารถมีได้ที่เลเวลนี้จะไม่เกิน 200 หน่วยการโจมตีหนึ่งครั้งของหลิงเฉินมากพอที่จะทำให้พวกเขาตายถึงสองครั้ง ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ครั้งสุดท้ายนั้นยังทำให้แน่ใจว่านักเวทย์ธาตุทั้งหมดถูกฆ่าตายในขณะโจมตี
การเคลื่อนไหวของหลิงเฉินในที่สุดก็หยุดลงเขายืนอยู่ที่นั่น พร้อมกับดาบและหอกในมือ บนพื้นดินรอบๆตัวของเขามีซากศพนอนเหยียดอยู่ในทิศทางต่างๆ ร่างแล้วร่างเล่ารวมทั้งอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดของพวกเขาที่ดรอปออกมา ในโลกจันทร์ลี้ลับถึงแม้จะเป็หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น หลังจากตายยังคงมีกฎการดรอปเลเวลและการดรอปอุปกรณ์สวมใส่
ซากศพที่นอนอยู่บนพื้นมีทั้งสิ้น 29 ศพผู้เล่นทั้ง 30 คน ของ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ในตอนนี้เหลือเพียง ‘ศรอัคคีทมิฬ’ผู้เดียวซึ่งยืนอยู่ห่างออกมาพร้อมกับทั่วทั้งร่างที่สั่นเทิ้มด้วยความกลัว
คนผู้นี้เขาเป็สัตว์ประหลาด! เส้นเืบนมือทั้งสองข้างของ‘ศรอัคคีทมิฬ’ที่จับคันธนูขนาดใหญ่อย่างตึงแน่นสั่นกระตุกเขารู้สึกว่าหัวใจทั้งดวงของเขาขดตัวอย่างรุนแรงและกำลังจะะเิออกมาได้ทุกเมื่อผู้เล่นทั้ง 29 คนเหมือนกับว่าโดนกวาดออกไปอย่างหมดจดในชั่วพริบตา ตอนนี้เขายังคงไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์เขาถึงกับสงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็เื่จริงหรือไม่
เขาไม่สามารถเห็นชื่อของคนผู้นี้และไม่สามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาและยังไม่เคยได้ยินเขาเปล่งเสียงออกมาแม้แต่น้อยเฉกเช่นมัจจุราชไร้เสียงและไร้ใบหน้า!
“แก...แก...” ขาทั้งสองข้างของ ‘ศรอัคคีทมิฬ’ สั่นเทา นี่เป็ครั้งแรกที่เขาหวาดกลัวคนในโลกเกมอย่างมากเพราะว่าคนผู้นี้น่ากลัวกว่าผู้เล่นอื่นใด รวมทั้งบอสตัวใดๆ ที่เขาเคยพบเคยเห็นเท้าของเขาถอนกลับในเวลาเดียวกันนี้ก็หลบหนีไปด้วยความกลัวขณะส่งเสียงะโที่สั่นเครือ “การมายุ่งกับ ‘พันธมิตรอัคคีทมิฬ’ แกแกจะต้องเสียใจ!”
เฝ้ามอง ‘ศรอัคคีทมิฬ’ หลบหนีด้วยความใกลัวร่องรอยของการดูถูกเหยียดหยามแวบผ่านั์ตาของหลิงเฉิน หลิงเฉินไม่ไล่ตามไปแต่เขากลับคว้า ‘ทะยานเมฆา’และขว้างมันไปข้างหน้าด้วยสกิล ‘พุ่งทะยานเมฆา’
หวือ!!
1,700!
หอกสีเงินแวบผ่านไปราวกับดาวตกพร้อมกับแทงทะลุร่างของ ‘ศรอัคคีทมิฬ’ ที่กำลังวิ่งหนีและทำให้เกิดค่าความเสียหายสีเหลือง
การโจมตีติดคริติคอลอีกครั้ง! การมี ‘ลูกแก้วแห่งความอำมหิต’ ทำให้การโจมตีติดคริติคอลปรากฏขึ้นมามากเกินปกติ
‘ศรอัคคีทมิฬ’ ซึ่งกำลังวิ่งหนีถูกยิงล้มลงและเริ่มกลิ้ง หลังจากกลิ้งบนพื้นสองสามรอบเขาก็นอนอยู่ตรงนั่นโดยไม่เคลื่อนไหวอีก ต่อจากนั้นชั่วครู่หนึ่งเขาก็กลายเป็แสงสีขาวและหายไปจากที่นั่น
หลังจาก ‘ทะยานเมฆา’ลอยออกไปก็แทงลงพื้นในมุมหนึ่ง ตำแหน่งของมันจากผู้เล่นของ ‘พันธมิตรา’ นั้นเป็ระยะทางสั้นๆ แค่เพียง 5 เมตรเท่านั้นหลิงเฉินเคลื่อนเท้าของเขาและเดินไปหา ‘ทะยานเมฆา’ อย่างไม่รีบร้อน โดยระยะทางระหว่างตัวเขากับ ‘ทะยานเมฆา’ คือ 15 เมตร ในขณะที่เขากำลังเดินไปที่ ‘ทะยานเมฆา’ไปหาไอเทมระดับนางฟ้าที่แสนเย้ายวนใจจนเกินต้านทานและตอนนี้ก็อยู่ตรงหน้าของพวกเขา ทว่ากลับไม่มีผู้เล่นของ ‘พันธมิตรา’ แม้แต่คนเดียวที่กล้าพยายามเข้าใกล้ ‘ทะยานเมฆา’ พวกเขาทั้งหมดต่างจ้องมองหลิงเฉินด้วยความกลัวและมองดูเขาใกล้เข้ามาทีละนิดๆไม่มีใครสักคนสงสัยว่าใครก็ตามที่กล้าสาวเท้าครึ่งก้าวไปหา ‘ทะยานเมฆา’ จะเป็คนต่อไปที่ตายด้วยน้ำมือของเขา และจะไม่มีทางหนีรอด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้