หลังจากฟื้นคืนชีพจากความตาย
จูชิงมีปฏิสัมพันธ์กับคนเพียงไม่กี่คน ซั่งกวานจือหนิง จินขวาง
และเย่หยางคนที่อยู่ตรงหน้าเขา
จูชิงมองาแที่ลึกเห็นกระดูก
เห็นได้ชัดว่าแผลนี้เกิดจากการถูกกระบี่ฟัน ทว่าบนเกาะหลัวโหวนอกจากเขาแล้ว
ที่เหลือล้วนแล้วเป็ศิษย์ของขุนเขากระบี่เทียนหยวน หรือว่านี่จักเป็ฝีมือของใครสักคนหนึ่งของขุนเขากระบี่เทียนหยวน?
จูชิงคิดไม่ออกว่าเย่หยางไปเจออะไรมาถึงได้าเ็สาหัสเฉกเช่นนี้
ถ้ามิใช่เพราะความมุ่งมั่นอันน่าตกตะลึงที่้าเอาชีวิตรอดของเขา
เกรงว่าลมหายใจคงดับสิ้นเหลือแค่กายหยาบไปแล้ว
“อย่างน้อยก็เป็คนรู้จักกัน
ข้าปล่อยให้เ้าตายไปทั้งแบบนี้ไม่ได้!” จูชิงถอนหายใจพลางหยิบหญ้าต้นหนึ่งออกมาจากถุงเอกภพ
เขาเคี้ยวมันจนแหลก แล้วเอาน้ำสมุนไพรป้ายลงบนแผลที่หลังของเย่หยาง
“อื้อ!” หญ้าเหลวแทรกซึมเข้าไปในาแ
เย่หยางที่นอนหมดสติส่งเสียงออกมาเล็กน้อยเพราะความเ็ป
จูชิงเพิ่งเข้ามาสู่โลกของการบำเพ็ญเพียร
ไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของสมุนไพรล้ำค่า สำหรับจูชิงแล้ว สมุนไพรมีไว้เพื่อการรักษาเพียงเท่านั้น
ถ้าศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนมีสมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์ใน
พวกเขาคงเป็ปีติสุดแสน สมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์เปรียบดั่งเพชรอันล้ำค่า
หากมอบมันให้กับสำนักย่อมทำให้เส้นทางบำเพ็ญเพียรก้าวหน้าไปสู่จุดสูงสุดที่ทั้งชีวิตก็ยากจะไปถึง
ถ้าไม่ใช่เพราะจูชิง
จอมยุทธ์สามัญอย่างเย่หยางย่อมไม่มีทางได้แตะต้องสมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์
เกาะหลัวโหวมีสมบัติมหาศาลเกินพรรณนาที่ถ้าเป็โลกภายนอก
ผู้คนต่างต้องแก่งแย่ง่ชิงกันอย่างสุดความสามารถ
แม้เป็ต้นหญ้าธรรมดาเพียงต้นเดียว
สรรพคุณของสมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์เหนือฟ้าเหลือล้ำ
แผลฉกรรจ์กลางหลังของเย่หยางสมานตัวอย่างรวดเร็วชนิดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ใบหน้าขาวซีดกลับมามีสีอีกครั้งหนึ่ง
สมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์เป็สมุนไพรแห่งการชุบชีวิต
อย่าว่าแต่าแภายนอกเลย ถึงเอ็นจะฉีก เส้นเืจะขาด
อวัยวะภายในแหลกเป็เสี่ยงก็สามารถรักษาให้กลับคืนมาดังเดิมได้
สมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์พบเจอได้ยากยวดยิ่งในทวีปเฉียนหยวน
กระทั่งสัตว์อสูรไร้เทียมทานหรือตาเฒ่าพิสดารล้วน้าสมบัติฟ้าดิน
มีสมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์ไว้หนึ่งต้นเท่ากับมีชีวิตเพิ่มหนึ่งชีวิต
เย่หยางค่อยๆ ลืมตา พอเห็นจูชิงยืนอยู่ก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
เขาพบว่าตัวเองยังไม่ตาย ทั้งสภาพร่างกายก็ยังดีกว่าตอนที่าเ็หลายเท่า
ลมปราณในร่างกายแกร่งกล้าเกินจินตนาการ
“หลอมกายาหกชั้นฟ้า!”
เย่หยางมองดูร่างกายของตัวเองด้วยความดีใจ เขาทะลวงขั้นพลังแล้ว!
ครั้งนี้เขามิใช่แค่ไม่ตาย
หากยังสำเร็จขั้นพลังเป็ขั้นหลอมกายาหกชั้นฟ้า
“จะ…เ้าทำอะไรกับข้า!”
เย่หยางดึงคอเสื้อของจูชิงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองเป็สีแดงก่ำ
จูชิงมือสั่นเล็กน้อย
เขาผลักเย่หยางออกแล้วพูดว่า “แค่หญ้าต้นหนึ่ง หาได้ทั่วไปบนเกาะหลัวโหว”
“หญ้างั้นรึ!”
ครั้นเย่หยางเห็นรากของหญ้าที่จูชิงว่า ดวงตาถึงกับแข็งค้าง หอบหายใจหนักหน่วง
ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างมิอาจหักห้าม
“บัดซบ
เ้าเอาสมุนไพริญญาดึกดำบรรพ์ล้ำค่าเยี่ยงนั้นมารักษาข้าทำไม!” เย่หยางกำรากสมุนไพรแน่น
ปากพูดพึมพำไม่หยุด เหมือนถูกปีศาจครอบงำ ครั้นเขาพินิจดูจึงได้รู้ว่าหญ้าที่จูชิงพูดนั้นถึงกับเป็หญ้าโลหิตั
สำหรับเย่หยางแล้ว
ชีวิตเขาเทียบมิได้กับสมุนไพรต้นนี้ ถึงสมุนไพรนี่จักช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่นั่นก็มิได้เปลี่ยนความคิดของเขา
“หญ้าโลหิตั
สมบัติล้ำค่าในตำนาน ทำไมถึงเอามาใช้กับคนไร้ค่าอย่างข้า” เย่หยางกุมหัวร้องไห้ฟูมฟาย
จูชิงขมวดคิ้ว
เย่หยางเป็บ้าไปแล้วหรือไร?
“เพี้ยะ เพี้ยะ
เพี้ยะ!” จูชิงตบหน้าเย่หยางสามฉาด
“ได้สติหรือยัง?” จูชิงแค่นเสียง
“เ้า...!”
เย่หยางตะลึงลาน มองจูชิงเหมือนกับมองตัวประหลาด
“หญ้าโลหิตัหนึ่งต้นแลกเปลี่ยนเป็เมืองได้ทั้งเมือง
เ้าไม่รู้รึว่าหญ้าโลหิตัล้ำค่าขนาดไหน” เย่หยางคำราม
“แล้วมันยังไง?” จูชิงตอบกลับคล้ายไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เ้าไม่รู้หรือว่าหญ้าโลหิตัสามารถเปลี่ยนไขกระดูก
สร้างรากฐานเหลือล้ำยิ่งหยั่งถึง?” เย่หยางถามต่อ
“เข้าใจแล้ว
ถ้าอย่างนั้นเ้ากินที่เหลือนั่นให้หมดสิ” จูชิงยิ้ม
เย่หยางใยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจูชิงถึงได้มอบของล้ำค่าปานนั้นให้กับขยะเช่นเขา
“เป็อะไรไป?” จูชิงมองเย่หยางที่ยังตะลึงอยู่
ทันใดนั้นเย่หยางหน้าเปลี่ยนสี
กายาสั่นสะท้านคล้ายกับนึกเื่น่ากลัวบางอย่างออก
“บ้าไปแล้ว
ศิษย์พี่บ้าไปแล้ว!” เย่หยางพูดเสียงสั่น
“เกิดอะไรขึ้น?” จูชิงขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิม
“ศิษย์พี่ชวีบ้าไปแล้ว
เขาฆ่าศิษย์สำนักเดียวกันเพียงเพราะศพปักษาอัสนีเก้า์!” เย่หยางเปล่งเสียงสั่นเครือ
ชวีหลิงเฟิงเป็จอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในหมู่อนุชนของขุนเขากระบี่เทียนหยวน
ในวันธรรมดา เขาเป็ศิษย์พี่ที่คอยดูแลศิษย์ในสำนัก ใครๆ ต่างก็เคารพนับถือ หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนเกาะหลัวโหว
ชวีหลิงเฟิงใช้พลังอันแข็งแกร่งของตัวเองรวบรวมศิษย์ที่กระจัดกระจายอยู่คนละทิศละทางกลับมาอยู่ด้วยกัน
ให้ที่พักพิงและปกป้องพวกเขา
เย่หยางชื่นชมชวีหลิงเฟิงเป็อย่างมาก
หลังจากที่แยกกับจูชิง เขาร่วมกลุ่มกับพวกชวีหลิงเฟิงบุกบั่นฝ่าฟันผจญภัยอยู่ในป่า
เกาะหลัวโหวอันตรายสุดแสน
ระหว่างทางพวกเขาพบกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากมาย มีศิษย์จำนวนไม่น้อยถูกสังหาร
แม้ซั่งกวานจือหนิงจะมีสมบัติล้ำค่าก็ตามแต่ ทว่าสุดท้ายกว่าจะไปถึงศพปักษาอัสนีเก้า์
พวกเขาเหลือกันเพียงไม่กี่สิบคน จากร้อยกว่าคน
ทว่าเมื่อได้พบศพของปักษาอัสนีเก้า์
การเสียสละทั้งหมดช่างคุ้มค่า ขณะที่เหล่าศิษย์กำลังโห่ร้องแสดงความยินดี
ชวีหลิงเฟิงก็จู่โจมในทันที กระบี่ยาวสีแดงเพลิงคร่าชีวิตศิษย์สำนักเดียวกันอย่างบ้าคลั่ง
คนหลายสิบคนนอนจมกองเืใต้คมกระบี่ในพริบตา
“เ้าทำอะไร!”
จินขวางผสานเคล็ดกระบี่ต่อต้านคมกระบี่เพลิง สีหน้าเต็มไปด้วยโทสะ
“ทำอะไรนะหรือ
พวกเขาสมควรตาย!” มุมปากของชวีหลิงเฟิงยกยิ้ม ความกระหายเืปรากฏขึ้นมาบนหน้า
“ชวีหลิงเฟิง
เ้าจักต้องไม่ตายดี!” ซั่งกวานจือหนิงทั้งโกรธทั้งใ
นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนที่ทั้งใจดีทั้งอ่อนโยนอย่างชวีหลิงเฟิงจักลงมือสังหารศิษย์สำนักเดียวกันอย่างเหี้ยมอำมหิตเฉกเช่นนี้
“ไม่ตายดี? เ้าคิดว่าใครจักตายก่อนเล่า ระหว่างพวกเ้ากับข้า?” ชวีหลิงเฟิงแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ
มูลค่าของศพปักษาอัสนีเก้า์สูงล้ำเกินพรรณนา
แม้ว่าขุนเขากระบี่เทียนหยวนจักเป็สำนักอันดับต้นๆ ของทวีปเฉียนหยวน
ทว่าน้อยครั้งนักที่จะล่าสัตว์อสูรระดับปักษาอัสนีเก้า์ได้สำเร็จ
ทั้งตัวปักษาอัสนีเก้า์นั้นเป็สมบัติ
สำหรับจอมยุทธ์แล้ว มันไม่ต่างอะไรกับคลังสมบัติเคลื่อนที่
ถ้าเขาได้ศพปักษาอัสนีเก้า์
เขาไม่จำเป็ต้องดิ้นรนอยู่ในขุนเขากระบี่เทียนหยวนอีกต่อไป สามารถบำเพ็ญเพียรสำเร็จได้ด้วยตัวเอง
กลายเป็ผู้เยี่ยมยุทธ์เหนือฟ้าเหนือปฐี
มิต้องฉงนสงสัยในความแข็งแกร่งของชวีหลิงเฟิง
เขาเป็หนึ่งในอนุชนมากความสามารถของขุนเขากระบี่เทียนหยวน ชวีหลิงเฟิงบำเพ็ญเพียร《เคล็ดกระบี่เกรียงไกร》จนชำนาญ กอปรกับกระบี่ยาวที่สามารถปราบปรามหมู่ชนได้ในเสี้ยวพริบตา
กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งอย่างซั่งกวานจือหนิงกับจินขวางยังทำอะไรไม่ได้
“ซั่งกวานจือหนิง
ข้ารู้ว่าเ้าเป็ยอดยุทธ์หญิงของสำนัก สถานะสูงศักดิ์ล้ำเหลือ มีของล้ำค่ามากมาย
การต่อสู้ก่อนหน้านี้เ้าใช้ของล้ำค่าไปไม่ถึงเจ็ดในสิบเลยกระมัง
ข้าเดาว่าเ้าน่าจักยังมีของล้ำค่าเอาไว้ช่วยชีวิตตัวเองอยู่!” ชวีหลิงเฟิงแสยะยิ้ม
“บัดซบ!” ซั่งกวานจือหนิงหน้าเขียวคล้ำ
ชวีหลิงเฟิงจับตาดูนางมาโดยตลอดอย่างนั้นรึ!
“บัดซบ? เ้าเกิดมาก็ได้ใช้แต่ของดีๆ
เ้าเคยคิดหรือไม่ว่าศิษย์สามัญอย่างพวกข้าต้องลำบากยากเย็นขนาดไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้”
ชวีหลิงเฟิงคำราม
“ฟึ่บ!” กระบี่ยาวสีแดงเพลิงพุ่งทะลวงผ่านอากาศตรงเข้าใส่ซั่งกวานจือหนิง!
“ห่างกายสิบจั้ง
เป็ไปได้อย่างไร เ้าถูกยับยั้งขั้นบำเพ็ญเพียรอยู่ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณมิใช่รึ เ้าสำแดงกระบวนท่ากระบี่นั่นได้อย่างไรกัน!”
จินขวางตกตะลึง
“ไม่เจียมตัว!”
ครั้นเห็นจินขวางทำท่าจักต่อต้านกระบี่เพื่อปกป้องซั่งกวานจือหนิง
ชวีหลิงเฟิงก็แค่นเสียงเย็นเยือก
“หนีไป
ข้าจะต้านเขาเอาไว้เอง!” จินขวางเอานิ้วจิ้มหน้าอกตัวเอง
ลมปราณพลันทะลักทลายประหนึ่งมหาสมุทร!
“ดัชนีเอกภพ
เ้าคิดจะสละชีวิตตัวเองอย่างนั้นรึ” หนังตาชวีหลิงเฟิงกระตุก มองจินขวางด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย
เขารู้จักจินขวางดี อีกฝ่ายเป็พวกหยิ่งยโส
ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ทั้งยังไม่ได้เห็นศิษย์สามัญอยู่ในสายตา
แต่ไม่คิดเลยว่าจินขวางจักใช้ดัชนีเอกภพเพื่อช่วยชีวิตศิษย์สามัญ!
“ศิษย์พี่จินขวาง!”
ศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนที่เหลือะโ พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจินขวางจักใช้วิชาต้องห้ามของสำนัก!
วิชาต้องห้าม เมื่อใช้แล้วจะทำให้ร่างกายาเ็แสนสาหัส
อาจถึงขั้นต้องสังเวยชีวิต ส่วนใหญ่มักจะใช้เป็ทางเลือกสุดท้าย
ดัชนีเอกภพเป็หนึ่งในวิชาต้องห้ามของขุนเขากระบี่เทียนหยวน
เมื่อใดที่สำแดงฤทธิ์ ลมปราณของผู้ใช้จักเพิ่มสูงขึ้นเท่าหนึ่งเป็เวลาหนึ่งก้านธูป
และหลังจากหมดหนึ่งก้านธูป ฐานพลังทั้งหมดจักถูกทำลายกลายเป็คนธรรมดาสามัญ!
“เร็วเข้าสิ!”
จินขวางพยายามยับยั้งลมปราณ กระบี่ยาวในมือประกายแสงสีทองจรัสแจ้ง!
“ทั้งเ้าและข้าต่างถูกยับยั้งขั้นบำเพ็ญเพียรอยู่ในขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ
ถึงเ้าจักใช้วิชาต้องห้าม หากก็ได้แค่ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณสูงสุด
เ้าคิดว่ากระบี่ทลายทองของเ้าจักเอาชนะกระบี่แก่นอัคคีของข้าได้งั้นรึ?” ชวีหลิงเฟิงเหยียดยิ้ม
ถ้าเป็ข้างนอก
เขาอาจสู้จินขวางที่สำแดงดัชนีเอกภพไม่ได้ แต่บนเกาะหลัวโหว ใครจักเป็ฝ่ายแพ้
ใครจักเป็ฝ่ายชนะนั้นยากที่จะตัดสิน!
พลานุภาพของดัชนีเอกภพมิอาจอยู่เหนือข้อจำกัดของเกาะหลัวโหว
อย่างไรเสียขั้นบำเพ็ญเพียรก็ถูกยับยั้งอยู่ในขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ
เมื่ออยู่ในขั้นบำเพ็ญเพียรระดับเดียวกัน
ชวีหลิงเฟิงไม่คิดว่าตนจักแพ้ให้กับจินขวาง
“อย่ามัวแต่ลังเล
ถ้าออกจากเกาะหลัวโหวไปได้เมื่อไหร่ เ้าจักต้องฆ่าชวีหลิงเฟิงซะ!” จินขวางคำรามพร้อมกวัดแกว่งกระบี่ทลายทอง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้