เมื่อยามจื่อ [1] ผ่านไป ปรากฏเสียงฝีเท้าแ่เบาดังขึ้นภายในห้องขัง
“อาจิ้งแห่งสกุลหลิ่วอยู่ที่ใด?” ชายคนหนึ่งเอ่ยถามเสียงหนักพลางใช้มือจับตัวหญิงชราที่กำลังจะหลับอยู่ในห้องขัง
เดิมทีหลิ่วจิ้งก็ไม่กล้าหลับสนิท เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตน จึงรีบหยัดตัวขึ้นคลานแล้วเอียงหูคอยฟังจนกระทั่งแน่ใจว่าชายชุดดำผู้นั้นเป็คนที่องค์หญิงส่งมาช่วย นางจึงโยนถ้วนบิ่นที่เหลือน้ำอยู่ข้างในออกไป
ถ้วยบิ่นที่ทำจากกระเบื้องหมุนเป็วงเสียงดัง ‘แก๊ง’ และตกลงที่ข้างเท้าชายชุดดำ
เขาเงยหน้าขึ้นมองมาทางนางทันที
หลิ่วจิ้งยื่นมือออกไปแล้วกวักมือให้เขา “ข้าคือหลิ่วจิ้ง”
ชายผู้นั้นปิดหน้าเอาไว้จึงมองไม่เห็นว่ามีสีหน้าเช่นใดเห็นเพียงดวงตาที่ส่องประกาย เขาสะบัดมือขึ้นชายอีกหลายคนที่อยู่ข้างหลังก็ยกกระสอบผ้าป่านเดินมาทางหลิ่วจิ้งทันที
เขาถามเสียงเข้มว่า “เ้าคืออาจิ้งแหง่จวนหลิ่วรึ?”
หลิ่วจิ้งคุกเข่าอยู่กับพื้นสองตาจดจ้องไปยังชายผู้นั้นโดยไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “เป็ข้าเอง”
“พิสูจน์ได้อย่างไร?” เมื่อเห็นว่านางมีท่าทีมั่นอกมั่นใจว่าตนจะมาช่วยชายหนุ่มอดจะถามไปคำหนึ่งไม่ได้
หลิ่วจิ้งนิ่งคิดพักหนึ่ง “เ้าสามารถดูได้จากในห้องขังนี้มิได้มีสตรีแรกแย้มในวัยสองแปด[2] คนอื่นอีก พวกเ้าอย่าทำให้เสียฤกษ์ขององค์หญิงดีกว่า รีบๆช่วยข้าออกไปเสีย”
เมื่อได้ยินนางเร่งชายที่เป็หัวหน้าด้วยท่าทีหนักแน่นเช่นนี้ชายชุดดำที่อยู่ข้างๆ จึงหันมองนางคราวหนึ่ง ถามว่า “พี่ใหญ่ข้าเคยเห็นบุตรีของราชครูหลิ่วมาก่อน ไม่ผิดตัวแน่ขอรับ”
ได้ยินเหล่าชายฉกรรจ์เอ่ยถึงราชครูหลิ่วสองคำนี้ขึ้นมาหลิ่วจิ้งต้องทั้งขบกรามทั้งกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตนอย่างสุดกำลัง
แต่ก็ด้วยสาเหตุนี้เอง นางจึงต้องมองชายที่กำลังพูดอยู่ให้มากขึ้นสักหน่อยส่วนบนของใบหน้า ดวงตาที่เผยออกมาจากดวงหน้าที่ปิดเอาไว้นั้นมีรอยแผลเป็จากดาบเหมือนตัวตะขาบที่เป็รูปเสี้ยวพระจันทร์ดูแล้วน่ากลัวยิ่งนัก
ชายชุดดำลุกขึ้นยืน ใช้กุญแจในมือเปิดประตูเหล็กของห้องขังได้อย่างง่ายดายก่อนจะคว้าข้อมือของหลิ่วจิ้งและกระชากตัวนางออกมาอย่างแรง
หลิ่วจิ้งแค่นเสียงอย่างไม่พอใจคราวหนึ่งคล้ายว่าแผลที่ขาจะฉีกขาดเพราะการกระทำหยาบเถื่อนของชายผู้นี้แต่นางกลับมิได้เอ่ยสิ่งใด
หลังจากชายสองสามคนที่เหลือเอาหญิงคนหนึ่งภายในกระสอบผ้าป่านออกมาแล้วสับเปลี่ยนชุดนักโทษให้หญิงผู้นั้นจนเสร็จหลิ่วจิ้งก็ถูกเหล่าชายชุดดำเอาตัวใส่ในกระสอบผ้าป่านและหามออกมาอย่างเปิดเผย
ชีวิตของคนช่างบอบบางดังผักหญ้าหรือพวกนางจะต้องถูกคนสกุลหวงกุมชะตาของตนไว้ในอุ้งมือตามอำเภอใจเช่นนี้ไปทั้งชีวิต?
หลังจากออกมาจากห้องขังชายเ่าั้พาตัวนางไปยังเรือนพักแห่งหนึ่งนอกตำหนักของหวงฝู่จิ้งโดยไม่ได้ทะนุถนอมนางแต่อย่างใด
ท้องของหลิ่วจิ้งถูกกระแทกและเขย่าไปมาจนแทบจะอาเจียน แต่ก็เป็เพราะสองสามวันมานี้ไม่ได้มีอาหารตกมาถึงท้องจึงไม่ได้อาเจียนหรือเกิดปัญหาใหญ่อันใด หลังจากถูกวางตัวลงบนพื้น พักผ่อนสักพักสีหน้าของนางก็กลับมาเป็ปกติ
เมื่อกระสอบผ้าป่านถูกดึงออกภาพแรกที่เข้ามาในดวงตาก็ยังคือจันทร์เสี้ยวสว่างวาว
เวลานี้ดวงจันทร์โค้งดังปลายคิ้ว ทิวทัศน์ช่างงดงามเหมาะเจาะ
หากครอบครัวของนางไม่เกิดเื่พลิกผันอันน่าอนาถบางทีนางอาจกำลังนอนซบอยู่ในอกของมารดาชมจันทร์อ่านกลอนกันอยู่กระมัง? กินขนมพุดตานที่ป้าหวังบรรจงทำมาให้มารดาเป็พิเศษมารดาต้องเอ่ยเื่ที่ทำให้นางเขินอายสักเื่ก่อนนอน น่าเสียดายที่เวลานี้ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปจนหมดสิ้นและหลิ่วจิ้งก็ไม่เหลือสิ่งใดอีกแล้ว!
ไม่มีราชครูหลิ่ว ไม่มีจวนหลิ่ว ไม่เหลือแม้กระทั่งหลิ่วจิ้งคุณหนูแห่งจวนสกุลหลิ่วผู้นี้!
“เ้าตามหงฉางไปอาบน้ำแต่งตัวสักหน่อยเถิด ดูเ้าสิคงไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว ทั้งตัวเหม็นสาปเกินทน อีกประเดี๋ยวอย่าได้ทำให้เหล่าแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชางอี้รังเกียจจนเตลิดไปหมดเล่า”หวงฝู่จิ้งพูดพลางเอามือปิดจมูกด้วยสีหน้ารังเกียจ
“เพคะ” หลิ่วจิ้งขานตอบไปอย่างเชื่อฟัง
ตอนนี้อยู่ใต้ชายคาบ้านเขา ไม่อาจไม่ก้มหัวให้อย่างไรนางก็ต้องรู้จักหัดอดทนเข้าไว้เป็ดี
นางคิดได้ดังนี้ขณะตามสาวใช้ขององค์หญิงไปเสพสุขกับการปรนนิบัติประหนึ่งตัวนางเป็องค์หญิงแห่งราชสำนักครั้งหนึ่งแม้ว่าก่อนนี้ตอนอยู่ที่บ้านนางจะเคยถูกประคบประหงมดังไข่มุกในฝ่ามือแต่หากเทียบกับระดับองค์หญิงแล้ว ช่างมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากหลิ่วจิ้งอาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนมาสวมชุดเ้าสาวสีแดงเต็มยศที่สาวใช้ส่งมาให้
“หงฉาง เสร็จแล้วหรือยัง? เหตุใดแค่อาบน้ำถึงได้พิรี้พิไรนักเรารอจนจะหลับอยู่แล้ว” หวงฝู่จิ้งรอจนเกินจะทนแล้วนางจึงเปิดม่านมุกหยกระย้าออกและเดินเข้ามาเสียเลย
‘เพล้ง’ ถ้วยชาในมือนางตกลงแตกกระจายอยู่บนพื้น
นางชี้ไปยังหลิ่วจิ้งที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองสลักลายที่ยามนี้งดงามประหนึ่งเทพธิดาก็ไม่ปาน ทั้งเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนว่า“เ้า... คือหลิ่วจิ้งรึ?”
แม้จะเคยได้ยินเสียงร่ำลือตามถนนหนทางมานานแล้วว่าหลิ่วจิ้งคุณหนูใหญ่เพียงคนเดียวของจวนหลิ่วเป็คนฉลาดล้ำเลิศรูปโฉมงดงามเหนือผู้ใด ทว่าแต่ไรมาแคว้นต้าเว่ยของนางเคยขาดเหลือหญิงงามเมื่อใดกัน? ด้วยเหตุนี้นางย่อมไม่ได้เก็บคำร่ำลือเ่าั้มาใส่ใจแต่หลังจากได้พบกับหลิ่วจิ้งในคุกคืนวานนี้ และได้เห็นหลิ่วจิ้งที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพในเวลานี้ราวกับดวงตาของหวงฝู่จิ้งถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักหน่วง นางไม่อาจเชื่อจริงๆว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าก็คือหญิงสาวที่ทั้งตัวเหม็นทั้งดำปี๋ในห้องขังผู้นั้น
หลิ่วจิ้งมองดูตนเองในกระจก แต่กลับไม่ได้มีอาการตกตะลึงสักเท่าใดนางหันหน้ามา ผายมือทั้งสองข้างออก ถามว่า“องค์หญิงทรงพอพระทัยในตัวกระหม่อมหรือไม่เพคะ?”
นี่นางเรียกตัวเองว่ากระหม่อม? หรือจะเห็นตัวเองเป็ชายไปเสียแล้ว?
หวงฝู่จิ้งคร้านจะไปมากความกับเื่คำพูดที่บกพร่องของนางอย่างไรเสียการที่มีรูปโฉมงดงามสักหน่อยก็เป็ประโยชน์กับตนอย่างมากเมื่อคืนวานนางยังวิตกจริตจนต้องไปเชิญเหล่าบ่าวชราในวังที่แต่งหน้าทำผมเสริมความงามมาหลายปีจนมีฝีมือช่ำชองให้มารออยู่ในเรือนหลังด้วยเกรงว่าหลิ่วจิ้งจะมีหน้าตาไม่งดงามเวลานี้นางกลับไม่ต้องมากังวลในเื่นี้อีกแล้ว
คิดได้ดังนี้ นางจึงสบายใจขึ้นมากโขในบัดดล
“ไม่ผิด เ้ารออยู่ที่นี่ก่อนนะอีกครึ่งชั่วยามจะมีขบวนรับตัวเ้าสาวมารับเ้าที่นี่ ถึงยามนั้นเ้าเพียงจำไว้ว่าอย่าพูดจาให้มากความเป็พอ พยายามทำตัวให้เหมือนเราเข้าไว้” พูดถึงตรงนี้หวงฝู่จิ้งพลันจ้องเขม็งไปที่หน้าอกกลมงอนงามของหลิ่วจิ้ง นางขมวดคิ้วพลางว่า “หน้าอกของเรามิได้น่าตื่นใเช่นของเ้าหงฉาง ช่วยนางเอาผ้ามารัดให้แน่นเข้าสักหน่อยอย่าให้มีพิรุธโดยเด็ดขาด”
ได้ยินนางว่ามาเช่นนี้หลิ่วจิ้งจึงเหลือบตาไปมองหน้าอกของหวงฝู่จิ้งแวบหนึ่งพบว่ามิใช่แค่ไม่น่าตื่นใเท่านาง แต่เรียกว่าแบนราบเลยต่างหาก
ครั้นแล้วนางจึงปล่อยให้สาวใช้จัดการกับร่างกายของนาง
เวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป
หวงฝู่จิ้งเปลี่ยนมาสวมชุดเสื้อผ้าเรียบๆ สีเขียวก่อนจะออกไปโดยใช้เส้นทางลับในขณะที่เสียงเป่าปี่และแตรของขบวนรับเ้าสาวดังมาแต่ไกล
เสียงขบวนรับเ้าสาวดังอึกทึกครึกโครมจนหูแทบหนวก
หลิ่วจิ้งสวมผ้าคลุมหน้าเ้าสาว นางอยู่ในอาการสงบขณะที่มีคนประคองขึ้นเกี้ยวเ้าสาว
ก่อนออกเดินทาง สาวใช้นามว่าหงฉางยังมากำชับนางเป็พิเศษคำหนึ่งว่า“องค์หญิงทรงตรัสสั่งเอาไว้เพื่อมิให้อีกประเดี๋ยวเ้าพลั้งเผลอส่งเสียงจนกระทบต่อแผนการทั้งหมดจงกินยาเม็ดนี้เสีย เพื่อรับประกันว่าภายในสามชั่วยามนี้เ้าจะพูดไม่ได้คำพูดอื่นๆ ข้าจะช่วยตอบให้เ้าเอง”
หลิ่วจิ้งแย้มยิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วกลืนยาเม็ดนั้นลงไป
_______________________
เชิงอรรถ
[1] ยามจื่อ คือ่เวลา 23.00 น.- 01.00 น.
[2] สองแปด หมายถึง อายุแปดปีสองครั้ง คือ่อายุ 15-16 ปี