ณ ลานประลอง
“คู่แรก จื่อต้าหลง ปะทะ ฟงเลี่ย!!” กรรมการประกาศ
หลังจากได้ยินเสียงกรรมการประกาศ ทั้งสองก็ทะยานร่างขึ้นเวที ฟงเลี่ยนั้นใช้กระบี่เป็หลัก ส่วนจื่อต้าหลงใช้ร่างกายเป็หลัก
“เริ่มได้!!”
สิ้นเสียงกรรมการกล่าว ทว่าก็ยังมิมีใครชิงบุกก่อน ทั้งสองต่างคุมเชิง เพื่อรอให้อีกฝ่ายเปิดช่องโหว่
จื่อต้าหลงเห็นดังนั้นจึงแกล้งเผยช่องโหว่ออกมา นั่นทำให้ฟงเลี่ยทะยานร่างมาพร้อมกับแทงกระบี่มาที่จื่อต้าหลง
เมื่อปลายกระบี่จ่อเข้ามาใกล้ตัว จื่อต้าหลงจึงพลิกตัวหลบ เขาถอยเพียงหนึ่งก้าวก็สามารถหลบกระบี่แรกได้แล้ว
ฟงเลี่ยเห็นอีกฝ่ายหลบได้อย่างง่ายดาย มันก็ใช้เพลงกระบี่ปลดปล่อยพลังปราณออกมาเต็มที่
วิชากระบี่แสงอรุณ!! ฟงเลี่ยจู่โจมอย่างต่อเนื่อง ทั้งแทง ฟัน ฟาด ปล่อยคลื่นพลังปราณกระบี่ไปที่จื่อต้าหลงอย่างเฉียบคม จื่อต้าหลงเห็นคลื่นพลังกระบี่จู่โจมมาทางเขา เด็กหนุ่มจึงใช้วิชาปราการัม่วงเพื่อต้านรับ กระบวนท่าปราการัม่วงแข็งแกร่งเป็อย่างมาก ไม่มีคลื่นกระบี่ไหนเลยที่จะฝ่าการป้องกันเข้าไปถึงตัวจื่อต้าหลงได้!
หลังจากฟงเลี่ยใช้วิชากระบี่แสงอรุณ ฟาดฟันอย่างไม่ยั้งไปที่จื่อต้าหลงเขาก็เริ่มหอบลมหายใจติดขัดเล็กน้อย
เป็จังหวะนี้แหละ ในขณะที่อีกฝ่ายเพิ่งจู่โจมจนหมดแรง เป็จังหวะบุกของจื่อต้าหลง พุ่งทะยานร่างเข้าประชิดตัวฟงเลี่ยอย่างรวดเร็วพร้อมปลดปล่อยฝ่ามือัม่วงทะยานฟ้าใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน! ฟงเลี่ยโดนการโจมตีนี้เข้าไปเต็มอก มันกระเด็นถอยกรูดไปเป็ทางยาวพร้อมกระอักเืออกมา ทว่าในมือยังถือกระบี่ไว้แน่น มันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“ดูนั่นสิ จื่อต้าหลงผู้นี้ แม้พลังบ่มเพาะจะอยู่เพียงชั้นปราณจิตขั้นที่สอง แต่เพียงการโจมตีเดียว… ทำเอาฟงเลี่ยที่อยู่ชั้นปราณจิตขั้นที่สี่ถึงกับกระอักเื!!” เหล่าผู้ชมกล่าวอย่างตื่นตระหนก
หลังจากที่ฟงเลี่ยลุกขึ้นมาได้ เขาก็โคจรลมปราณฟื้นตัว แต่ทว่าจื่อต้าหลงไม่ปราณี เขารีบบุกในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเสียเปรียบ จื่อต้าหลงใช้เพลงเตะ เตะเข้าไปที่หน้าอกของฟงเลี่ย อีกฝ่ายยกกระบี่ขึ้นมาป้องกัน ผัวะ!! ฟงเลี่ยโดนท่าเท้าของจื่อต้าหลงฟาดไปเต็มๆ ทั้งคนทั้งกระบี่กระเด็นตกเวทีพ่ายแพ้ไป!
“ผู้ชนะ!! จื่อต้าหลง!!” กรรมการประกาศเสียงดัง
“เฮ! เฮ! เฮ!!” เสียงะโดังก้อง เหล่าผู้ชมการประลองต่างชื่นชมจื่อต้าหลงที่เป็ม้ามืด เพียงลมปราณจิตขั้นสองกลับสามารถสู้กับขั้นที่สี่อย่างได้เปรียบ นี่นับว่าน่าตื่นตะลึงนัก!
ทางด้านฝั่งผู้ชม….
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ สมกับเป็ต้าหลง เ้าสัตว์ประหลาดน้อยนี่แข็งแกร่งมาก” เฉิงไฉเซียวกล่าวพลางหัวเราะ
“หากเป็พวกเรา… อาจต้องใช้เวลามากหน่อยในการล้มฟงเลี่ย แต่เขากลับสามารถทำได้ในเวลาเพียงไม่นาน” ลวี่เหรินกล่าวตอบ เขาเองยังอดชื่นชมจื่อต้าหลงในใจไม่ได้ เ้าเด็กนั่นช่างแข็งแกร่งจริงๆ
“คู่ต่อไป เกาซีิ ปะทะ หลิวสุ่ยเยว่!!” กรรมการกล่าวประกาศ
ผู้ที่ถูกเรียกขึ้นไปยังลานประลอง เกาซีิทะยานร่างขึ้นบนเวที ตามด้วยหลิวสุ่ยเยว่หญิงสาวทะยานร่างบางอย่างงดงามชดช้อยตามขึ้นไปติดๆ
กรรมการประกาศ “เริ่มได้!!”
“ได้ประลองกับแม่นางหลิว… นับว่าข้ามีวาสนายิ่งนัก” เกาซีิกล่าวด้วยท่าทีสุภาพสมกับเป็ศิษย์หลักแห่งสำนักลี่
“เป็เกียรติอย่างยิ่งที่ได้ประลองกับคุณชายเกา” หลิวสุ่ยเยว่ตอบ
หลังจากสิ้นเสียง… หลิวสุ่ยเยว่ก็ทะยานร่างบุกเข้าไปโจมตีเกาซีิ นางใช้ฝ่ามือหิมะ เข้าปะทะกับเพลงหมัดของเกาซีิอย่างดุดัน!
หลิวสุ่ยเยว่ไม่มีออมมือแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมีพลังถึงปราณจิตขั้นที่เก้า ซึ่งห่างกับนางถึงสี่ระดับ! ทุกการโจมตีของหลิวสุ่ยเยว่นั้นแฝงด้วยไอเย็นของฝ่ามือหิมะ นางมีพลังปราณมหาศาลมากกว่าคนทั่วไป นั่นจึงทำให้โจมตีได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าฝ่ายเกาซีิก็รับมือนางได้ทุกกระบวนท่า!
“แม่นางหลิวช่างร้ายกาจยิ่งนัก ข้าคงได้แต่เอาจริงแล้ว” เกาซีิกล่าวอย่างจริงจัง
ทันใดนั้น เกาซีิถอยกลับมา รวบรวมพลังปราณหมัด จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปจู่โจมหลิวสุ่ยเยว่อีกครั้งเขาปล่อยหมัดเข้าจุดตายทั้งหมดของร่างกาย แต่หลิวสุ่ยเยว่ก็ป้องกันไว้ได้ ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกรับ เหล่าผู้ชมในสนามต่างส่งเสียงเฮลั่น
ร้อยกระบวนผ่านไป ห้าร้อยกระบวนท่าผ่านไป ก็ยังมิอาจหาผู้ชนะได้! อีกทั้ง…. สองฝ่ายยังดูเหลือพลังอีกมากล้น!
หากเป็ผู้ฝึกยุทธทั่วไป ต่อให้อยู่ในชั้นปราณจิตขั้นที่แปดก็มิอาจรับมือเกาซีิได้เกินร้อยกระบวนท่าหากมันเอาจริง!
ทว่า… หลิวสุ่ยเยว่ผู้นี้ถือว่าร้ายกาจเป็อย่างยิ่ง! ร้ายกาจยิ่งกว่าใครในงานประลองครั้งนี้! เกาซีิคิดเช่นนั้น ถึงมันจะได้เปรียบเื่พลังบ่มเพาะแต่ก็มิอาจเอาชนะนางได้อย่างง่ายดาย!!
เกาซีิเริ่มได้รับผลกระทบจากพิษเย็นของฝ่ามือหิมะที่หลิวสุ่ยเยว่ใช้ออกนั่นทำให้ตัวมันสั่นเล็กน้อย เริ่มมีไอควันลอยออกมาจากปาก!
หากยื้อต่อไปแล้วไม่ขับปราณเย็นออกจากร่างกายมันคงต้องลำบากแน่ๆ! เกาซีิตัดสินใจบุกโจมตีหลิวสุ่ยเยว่อย่างบ้าระห่ำ ทำให้หญิงสาวต้องรับมืออย่างยากลำบาก จนในที่สุด… นางก็ปัดป้องไม่ทัน หลิวสุ่ยเยว่โดนหมัดของเกาซีิชกไปที่ท้องอย่างจัง นางกระเด็นถอยไปนับสิบก้าว… เืไหลออกจากริมฝีปากบาง…
จื่อต้าหลงที่ยืนชมอยู่ด้านล่างพลันขบฟันขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
หลังจากโดนหมัดของเกาซีิไป หลิวสุ่ยเยว่ก็ตกเป็ฝ่ายรับอยู่ฝ่ายเดียว ได้แต่ปัดป้องกระบวนท่าของเกาซีิจนร่างกายาเ็หลายแห่ง!
‘ยอมแพ้เถอะจิ้งจอกน้อยยังไงเ้าก็สู้เขาไม่ได้’ จื่อต้าหลงคิดในใจ เขารู้สึกทนดูไม่ได้!
หลิวสุ่ยเย่วกัดฟันเพื่อสะกดความเ็ป หญิงสาวยังคงต้านรับเพลงหมัดของเกาซีิอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด… นางก็โดนกระบวนท่าหมัดพิฆาตของเกาซีิเข้าเต็มๆ แม้นางจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาป้องกันไว้แล้วก็ตาม กระบวนท่านี้ส่งผลให้นางกระเด็นลงจากสนามประลองลงมาข้างล่างอย่างหมดท่า!
“ผู้ชนะ เกาซีิ” กรรมการกล่าว
ทันใดนั้น เป็จื่อต้าหลงทะยานไปรับร่างนางที่กระเด็นลงจากเวทีประลองมาไว้ในอ้อมแขน
“สุ่ยเยว่ท่านไหวหรือไม่?!” จื่อต้าหลงถาม แววตาบ่งบอกถึงความเป็ห่วง
หลิวสุ่ยเยว่กระอักเืออกมาอีกครั้งตอนนี้ร่างกายของนางบอบช้ำหลายที่ อีกทั้งยังาเ็ภายใน จำเป็ต้องรีบรักษาโดยด่วน!
“ต้าหลง….ข้า….ไหว” สุ้มเสียงของหญิงสาวแ่เบา
จื่อต้าหลงอุ้มร่างของหลิวสุ่ยเยว่ จากนั้นจึงนำไปให้หมอช่วยรักษา ส่วนเขาตอนนี้กำหมัดแน่น! จื่อต้าหลงเริ่มมีโทสะบ้างแล้ว!
