“ไม่เชื่อรึ” ชิงหรูเบ้ปากทำหน้าเหมือนน้อยใจ “เช่นนั้นคืนนี้เ้าของลอบไปดูที่ห้องนอนของหวังอี้สิ แล้วจะรู้ว่าสตรีมีอำนาจเหนือบุรุษได้อย่างไร”
หญิงสาวไม่รอดูว่าจางลี่ตัดสินใจอย่างไร นางเดินเข้าเรือนของตนแล้วก็เดินไปนั่งบนเตียงนอน กวาดตามองในห้องแล้วเอ่ยเรียกบ่าวรับใช้ส่วนตัวให้ปรากฏกาย
“กวงิ”
“ขอรับ”
บุรุษในชุดดำที่เร้นกายในมุมมืดปรากฏกาย ชิงหรูพยักหน้าเล็กน้อยกวงิก็เข้าใจความหมาย เขาเดินไปนั่งคุกเข่าเบื้องหน้า ถอดรองเท้าให้นาง เท้าเปลือยเปล่าปรากฏเบื้องหน้า เขาหมุนตัวลุกไปยกอ่างน้ำอุ่นที่ตระเตรียมไว้พร้อมผ้าผืนหนึ่งมานั่งลงและบรรจงเช็ดเท้าให้นาง
ปีศาจสาวยิ้มอย่างพึ่งพอใจ อยู่มาพันปี กวงินับเป็บ่าวรับใช้ที่รู้ใจนางที่สุด ปีศาจสาวเอนหลังเล็กน้อย ขยับยกเท้าขึ้นใช้ปลายเท้าเชยปลางคางของกวงิทำให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นสบตากับนาง
“ไม่ต้องกังวลไป พวกมันไม่คู่ควรกับเรือนร่างนี้”
ปีศาจราคะกล่าวแล้วพลิกตัวลงนอน เพราะนางไม่ได้ดื่มกินพลังหยางจากบุรุษ ร่างกายจึงอ่อนเพลียง่าย แต่ถึงกระนั้น นางก็มิใช่พวกกินไม่เลือก อย่างน้อยก็เลือกว่าจะกินอะไรดี หรือถ้าหิวขึ้นมาจริง ‘กวงิ’ ก็ไม่เลวนัก เท่าที่เคยให้เขาปรนนิบัตินางก็ทำให้นางพึงพอใจได้ เพียงแค่ไม่ค่อยสนุกกับคนหน้าตายอย่างเขานัก
กวงิเห็นนายหญิงไม่สนใจเขาแล้ว นางพลิกตัวแล้วปิดเปลือกตาหลับใหล ชายหนุ่มหยิบผ้าห่มคลี่คลุมร่างบอบบางแล้วปลดม่านมุ้งลงแล้วถอยห่างเร้นกายในมุมมืด เขาเอนหลังพิงผนังห้อง มองเงาร่างหลังม่านที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ระบายลมหายใจเบาๆ พลางคิดถึงเหตุผลที่เขาต้องกลายมาเป็ครึ่งคนครึ่งปีศาจเช่นนี้มันเป็หนทางที่เขาเลือกแล้ว ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็เลือกจะเป็เช่นนี้อยู่ดี
.......
ภายใต้การเคลื่อนไหวในห้องนอนของเศรษฐีหวังอี้
คืนนี้หวังอี้ต้องไปนอนค้างคืนที่ห้องของหูเตี๋ย ซึ่งยามนี้นางรอปรนนิบัติสามีแล้ว เพราะดื่มสุราเข้าไปมากและมีความปรารถนาต่อชิงหรู เมื่อเข้าห้องมาก็คว้าหูเตี๋ยไปกอดจูบลูบคลำ เสื้อผ้ายังถอดออกไม่หมดก็จับตลบกระโปรงของหูเตี๋ยขึ้นหมายจะจ้วงแทงแท่งหยกทันที
“ท่านพี่ ประเดี๋ยวก่อน” นางยังไม่ทันเตรียมตัว ช่องรักยังแห้งผาก เกรงจะได้รับาเ็
“เ้าไม่ยินยอมข้าจะไปหาเหมยกุ้ย”
“มะ ไม่ใช่ แต่ แต่ว่า”
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ทั้งสองหันไปมองอย่างใ เป็ร่างของเหมยกุ้ยที่เข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่หูเตี๋ยหน้าตึงขึ้นมาทันที
“เ้าเข้ามาทำไม วันนี้วันของข้ากับท่านพี่!”
“ข้ารู้ๆ”
เหมยกุ้ยกล้ำกลืนความอับอายลงท้องไปหมดสิ้น นางเดินเข้าไปหาช้าๆ ในห้องยังไม่ได้ดับเทียน จึงเห็นเรือนร่างของเหมยกุ้ยที่ดูแลตัวเองอย่างดีไม่มีหย่อนคล้อย นางปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกที่ละชิ้นจนเมื่อไปหยุดที่หูเตี๋ย ก็เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว
“เราสองคนเป็ภรรยาของท่านพี่ หน้าที่ของภรรยาคือปรนนิบัติสามี เหตุใดต้องคอยแบ่งวันกันในเมื่อเราอยู่ด้วยกันสามคนก็ได้”
“เ้าพูดอะไรออกมา” หูเตี๋ยหน้าแดง แต่เหมยกุ้ยยื่นมือมาช่วยถอดเสื้อผ้าของหูเตี๋ยออก
“ข้าพูดอะไรเ้าย่อมรู้ดี เราเป็พี่น้องกัน เื่เช่นนี้ควรช่วยเหลือกัน ท่านพี่ก็คิดเช่นนั้นใช่หรือไม่”
เหมยกุ้ยช้อนตามองสามีที่จ้องมองนางตาเป็มัน ทำให้รู้สึกราวกับเป็เด็กสาวอีกครั้ง นางปีนขึ้นไปบนเตียง นั่งซ้อนด้านหลังหูเตี๋ยใช้สองมือลูบไล้ทรวงอกของหูเตี๋ยอย่างยั่วยวนสายตาของหวังอี้
หากไม่ร่วมมือกันให้ความสุขสำราญกับสามี ไม่ว่าวันหนึ่งวันใดสามีย่อมต้องรับอนุเข้ามาเพิ่ม เด็กสาวสวยๆ ที่ทำให้พวกนางต้องไร้ค่า แม้มีตำแหน่งเป็ฮูหยินแต่ไม่ได้รับความรักจากสามี ช่างน่าเศร้านัก
หูเตี๋ยถูกเหมยกุ้ยลูบไล้ก็ปล่อยเสียงครางอย่างลืมตัว นานแล้วที่ร่างกายไม่ได้รับการใส่ใจเช่นนี้ สามีมักมาถึงกับสอดแท่งหยกในทันที ไร้การเล้าโลม บ่อยครั้งที่นางแอบปลอบดอกไม้สาวของตนเอง นางนั่งเอนหลังพิงกายนุ่มนิ่มของเหมยกุ้ย ทรวงอกอวบอิ่มแนบแผ่นหลัง สองขาแยกออก มือเรียวของเหมยกุ้ยแหวกพงหญ้าที่ตบแต่งอย่างดีแทรกนิ้วเรียวเข้าไป
หวังอี้เห็นภาพเบื้องหน้าแล้ว แท่งหยกยิ่งร้อนระอุ เขารีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเข้าไปใกล้ภรรยาที่ยังสาวสวยอยู่
“ท่านพี่ มาทางนี้สิเ้าคะ” เหมยกุ้ยเรียกขณะที่ซอยนิ้วเร่งเร้าในร่องของหูเตี๋ย นางให้หวังอี้ขึ้นมายืนบนเตียง นางอ้าปากแลบลิ้นเลียฝีปากอย่างหิวกระหาย โดยไม่รอช้า หวังอี้จับแท่งหยกของตนเข้าปากน้อยๆ ของเหมยกุ้ย
“อา...ดี ดียิ่ง เลียอีก ดูด...ดูดแรงๆ เหมยกุ้ย เหตุใดข้าไม่รู้ว่าเ้าดูดเลียแท่งหยกได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้”
หูเตี๋ยที่ถูกปลุกเร้าจนสิ้นอาย เห็นหวังอี้โยกเอวใส่ปากของเหมย กุ้ยก็อยากชิมบาง นางจับมือของเหมยกุ้ยแล้วพลิกตัวเป็ท่าคลานเข่าเข้าไปเลียลูกกลมๆ ที่โยกไปมานั้น เหมยกุ้ยถอนรินฝีปากออกให้หูเตี๋ยได้ชิมรสชาติบุรุษบ้าง หวังอี้เสียวซ่านจับศีรษะของหูเตี่ยแล้วโยกสะโพกรัวเร็ว
“โอ้ววว เสียวนัก ช่างดีอะไรอย่างนี้”
เหมยกุ้ยจับหูเตี่ยในท่าคลานยกสะโพกของนางขึ้น แล้วนางก็มุดลงไปใช้ลิ้นละเลงกับกลีบดอกไม้ที่หลั่งน้ำหวานไหลเยิ้ม หูเตี๋ยเสียวซ่านจนร่างกายกระตุกเป็จังหวะเดียวกับที่หวังอี้ปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นระลอกแรกออกมาจนเปื้อนเปรอะใบหน้า หวังอี้ถอนแก่นกายออกจากโพรงปาก เหมยกุ้ยถอนลิ้นออกจากร่องรัก หูเตี๋ยทิ้งตัวนอนแผ่หราแต่เหมยกุ้ยปีนป่ายไปบนร่างที่เปื้อนน้ำรัก ดูดเลียคราบขาวขุ่นจนทำให้ร่างของหูเตี๋ยบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน ภาพที่เห็นทำให้แท่งหยกของหวังอี้ตั้งตรงขึ้นมาอีก เขาเข้าด้านหลังของเหมยกุ้ยที่กระดกก้นขึ้นยั่วสายตาของหวังอี้ สองมือบีบแก้มก้นกลมกลึงให้แยกออกเผยให้เห็นช่องรักที่เปียกชุ่ม เขาจับท่อนเอ็นทิ่มพราดเข้าไปทีเดียวมิดด้าม
“อร๊ายยย ท่านพี่ ท่านใหญ่เหลือกิน ลึกยิ่งนัก อา ซี๊ด”
“ดีหรือไม่” เขาถามถอดแก่นกายออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับไปใหม่ ช่องรักของนางตอดรัดจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา
“ดียิ่งเ้าค่ะ” นางขมิบตอดรัด ทั้งปากทั้งมือยังวุ่นวนกับทรวงอกของหูเตี๋ย
“ข้าเสียว” หูเตี๋ยอดไม่ได้ครางออกมา นางบดเบียดโหนกเนื้อของตนกับเหมยกุ้ย ้าก็โยกคลอนเพราะแรงกระแทกกระทั้นของหวังอี้
“มาเถิดเมียรัก” เขาถอนแก่นกายที่เปียกคราบน้ำรักวาววับ จับเมียทั้งสองให้อยู่ในท่าคลานเข่าแล้วสอดแก่นกายเข้าไปในร่องร้อนของหูเตี๋ย ส่วนอีกมือก็แย่งนิ้วในร่องของเหมยกุ้ย
“นายท่าน เรี่ยวแรงท่านมหาศาลนัก เสียวซ่านเหลือเกิน อา”
หูเตี๋ยครางจนเสียงแหบ นางไม่เคยเสียวซ่านในรสรักเช่นนี้มาก่อน หวังอี้ได้ยินเสียงครางยิ่งคึกราวม้าคลั่งถอดแก่นกายออกทิ่มแทงในร่องของเหมยกุ้ยแล้วแหย่งนิ้วเข้าไปในร่องของหูเตี๋ย
“โอ้วว นายท่าน แท่งหยกท่านชนมดลูกของข้าแล้ว” เหมยกุ้ยร้องไม่หยุดปาก โดนกระแทกรัวๆ แรงๆ หนักๆ เน้นๆ จนร่างกายกระตุกไปอีกรอบ
“นายท่าน! ข้า! ข้าเสร็จ..เสร็จคานิ้วท่านแล้ว”
หวังอี้เองก็ทนไม่ไหว หลั่งน้ำรักออกมาอีกครั้ง เขาดึงมันออกมาปล่อยให้รินรดที่ก้นงามงอน แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอน ซ้ายมีเหมยกุ้ย ขวามีหูเตี๋ย
“ดีจริงที่เ้าสองคนพี่น้องเป็เช่นนี้”
เหมยกุ้ยกับหูเตี๋ยที่แต่เดิมไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ยามนี้ทั้งสองมองตากันยิ้ม และโดยไม่ต้องพูดอะไร หูเตี๋ยเคลื่อนตัวลงไปปลุกเร้าแท่งหยกด้วยปาก ส่วนเหมยกุ้ยจูบที่ยอดอกของหวังอี้ ดูดดึงเม็ดเล็กๆ นั้นในปาก แต่ทำให้หวังอี้ครางระงมออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้