บัดนี้เทียนอู่ฮ่องเต้ไม่เพียงแค่โกรธ แต่มีความเสียใจยิ่งกว่า! เสียใจที่ตนเองไม่ควรปิดบังอาการประชวรต่อจิ้งหวาง จากความสามารถของจิ้งหวางแล้ว หากรับรู้ถึงความจริงจะต้องไม่ปล่อยให้แพทย์กู้ออกไปอย่างง่ายดายแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะเสียใจทว่าเขาก็ยังคงระวังตัวจากจวินจิ่วเฉินอยู่ดี แม้ว่าบุตรชายคนนี้จะเป็บุตรของตนเอง ทว่าเขาไม่ได้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ด้วยตนเอง ความทรงจำของจวินจิ่วเฉินที่ถูกลบล้างไปในวัยเยาว์นั้น คือสิ่งที่เขากับพี่ชายใหญ่หวาดกลัวชั่วนิจนิรันดร์
เขาทราบดีว่าจวินจิ่วเฉินมีความสามารถมากพอที่จะนำพาราชวงศ์จวินไปสู่จุดสูงสุดแห่งใหม่ได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ราชวงศ์จวินรวบรวมดินแดนเสวียนคงและกลับไปอยู่ในตำแหน่งเกียรติภูมิอันรุ่งโรจน์ที่สุดแห่งดินแดนเสวียนคงได้เช่นกัน ทว่าราชวงศ์จวินมิอาจตกอยู่ในมือของจวินจิ่วเฉินเด็ดขาด! ไม่มีใครรับรองได้ว่าความทรงจำของจวินจิ่วเฉินจะไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาตลอดกาล!
แม้ว่าเขาจะไม่ปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ชั่วนิจนิรันดร์แบบพี่ชายใหญ่ แต่เขาก็ไม่อยากตายและตายไม่ได้ ต่อให้เขายืนหยัดไม่ถึง่เวลาที่รัชทายาทเติบใหญ่ แต่ก็ต้องยืนหยัดจนกว่าพี่ชายใหญ่จะกลับมาที่เมืองจิ้นหยาง
“ปัง! ปัง! ปัง! ”
เสียงสะท้อนดังกังวานไปทั่วห้องทรงพระอักษรที่เงียบสงัด
กูเฟยเยี่ยนคิดว่าเทียนอู่ฮ่องเต้เพียงแค่อัดอั้นตันใจ แต่ใครจะไปทราบว่าในขณะนี้เทียนอู่ฮ่องเต้คิดอะไรอยู่? นางไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกับเทียนอู่ฮ่องเต้มาโดยตลอด นางคิดไม่ถึงว่าความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรชายจะมีช่องว่างขนาดใหญ่และมีความลับอันมากมายเพียงนี้
ในที่สุดเทียนอู่ฮ่องเต้ก็หยุดมืออย่างฉับพลัน
เขาไม่ได้เอ่ยถึงเื่ของกู้อวิ๋นหย่วนอีกแต่ถามด้วยความโกรธแทน “นังหนู เม็ดยาของเ้านั้นกลั่นออกมาได้หรือยัง? ”
ในเมื่อไม่สามารถร้องขอแพทย์ได้ เทียนอู่ฮ่องเต้จึงทำได้เพียงฝากฝังความหวังไว้ที่ยาสมุนไพรชั่วคราว
ยาอี้เสินตันที่เขาในยามนี้มีเพียงพอสำหรับทานเพียงครึ่งปีเท่านั้น คนที่ถูกส่งออกไปในระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครกลับมาเลย ในส่วนของแพทย์ท่านอื่นต้องใช้ระยะเวลาสามถึงห้าปีในการกลั่นยา ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนใช้เพียงสามถึงห้าเดือนเท่านั้น กูเฟยเยี่ยนจึงเป็ตัวเลือกแรกสำหรับเขา
ที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนไม่ได้ใช้เวลากลั่นยาต่ออายุขัยนานสามถึงห้าเดือน หากไม่ได้กลั่นยาจำนวนมากในครั้งเดียว นางเพียงแค่จดจ่อในหนึ่งวันก็จะสามารถกลั่นยาออกมาได้หนึ่งเม็ด
นางไม่้าให้เทียนอู่ฮ่องเต้ปฏิบัติต่อนางราวกับตัวนางคือหม้อปรุงยา ดังนั้นนางจึงสงวนท่าทีไว้ไม่น้อย
หญิงสาวเอ่ยด้วยความจริงจัง “ทูลฝ่าาเพคะ นู๋ปี้ตามหาสมุนไพรครบถ้วนและเริ่มกลั่นยาแล้ว ฝ่าาโปรดวางพระทัย ภายในครึ่งปีนู๋ปี้จะนำเม็ดยาสมุนไพรมาถวายให้พระองค์อย่างแน่นอน”
หากว่าภายในครึ่งปีเทียนอู่ฮ่องเต้ตามหาเม็ดยาสมุนไพรชนิดอื่นไม่เจอ เขาก็จะยอมจำนนต่อนางมากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อผ่านไปอีกครึ่งปีต่อให้ยาทว่าก็มิอาจช่วยชีวิตเขาได้แล้ว!
กูเฟยเยี่ยนทราบดีว่าการที่ตนเองคุกคามข่มขู่เทียนอู่ฮ่องเต้เช่นนี้ ก่อนที่เทียนอู่ฮ่องเต้จะต พระองค์จะต้องลงมือเก็บกวาดนางอย่างแน่นอน ทว่านางดีใจที่ตนเองยังมีเวลาอีกครึ่งปีในการวางแผนดีๆ ว่าจะแยกตัวออกไปอย่างไร
เทียนอู่ฮ่องเต้พึงพอใจกับคำตอบของนาง ทว่าเขาก็มีความสงสัย “เ้ากลั่นยาที่ใดกัน? กลั่นยาออกมาอย่างไรกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนใเล็กน้อยพลันรีบทำเป็แข็งกร้าวทันที “ฝ่าา นู๋ปี้เดิมพันชีวิตไว้ตรงนี้แล้ว ดังนั้นนู๋ปี้จะมุ่งมั่นกลั่นยาออกมาอย่างแน่นอน สำหรับเื่อื่นๆ พระองค์ไม่จำเป็ต้องกังวล! ”
ในที่สุดเทียนอู่ฮ่องเต้ก็เกิดโทสะ “เ้าเอ่ยวาจาอย่างไรกัน? ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กูเฟยเยี่ยนหยาบคายต่อเทียนอู่ฮ่องเต้ นางคุกเข่าจนปวดเมื่อยไปหมดจึงถือโอกาสลุกขึ้นยืนให้รู้แล้วรู้รอด ปล่อยให้เทียนอู่ฮ่องเต้พิจารณานางอย่างละเอียดถี่ถ้วน “เอ่ยตามความเป็จริงก็เท่านั้น! ”
เทียนอู่ฮ่องเต้้าขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เขาจึงต้องอดทน ทว่านอกจากความอัดอั้นตันใจแล้ว ภายในใจของเขายังมีความชื่นชมนังหนูผู้นี้อีกด้วย เพราะว่าแม้แต่จิ้งหวางกับรัชทายาทที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดยังไม่กล้าพูดคุยกับเขาเช่นนี้เลย
เทียนอู่ฮ่องเต้ดื่มน้ำชาเพื่อสงบสติอารมณ์พลางเอ่ยถาม “นังหนู อีกสามวันก็จะครบกำหนดสามเดือนแล้ว เ้าคิดว่าเ้าจะอาศัยอยู่ที่ใดต่อ? ”
วินาทีนั้นกูเฟยเยี่ยนรับรู้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้เจตนาหยั่งเชิงนาง อารมณ์ความรู้สึกดีๆ ในคราแรกตกต่ำลงทันที
นางมีงานมากมายจนลืมเื่นี้ไปเสียได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เื่ราวก็ยังต้องเกิดขึ้น
จนถึงบัดนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีออกมา ตกลงว่าเขาคิดอย่างไรกันแน่?
กูเฟยเยี่ยนครุ่นคิดถึงปัญหานี้มาโดยตลอด และเมื่อเื่ราวมาถึงจริงๆ นางก็จำเป็ต้องคิดให้รอบคอบมากๆ
นางคิดว่าจิ้งหวางไม่ได้ตั้งใจจะรับนางไว้ั้แ่แรกแล้ว บวกกับนางได้ค้นพบความลับของฝ่าา ดังนั้นเขาจึงต้องเลี่ยงนางมากกว่าเดิมใช่หรือไม่? เพราะมิฉะนั้นจะเป็เช่นองค์ชายแปด จวินฮั่นหยิ่น!
ที่จริงแล้วนางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยต่างก็ต้องเลี่ยงพบเจอกัน หากนางยืนกรานที่จะอยู่ในจิ้งหวางฝู่ต่อไปมันจะไม่เพียงแค่สร้างปัญหาให้กับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเท่านั้น แต่ยังสร้างข้อสงสัยให้แก่ตนเองอีกด้วย
นางสามารถคุกคามข่มขู่เทียนอู่ฮ่องเต้ได้แต่ไม่สามารถตรึงเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ในยามนี้นางจำเป็ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังในทุกย่างก้าวและควบคุมความพอดี ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจตรงข้ามกับสิ่งที่คาดหวังไว้!
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะอาลัยอาวรณ์ ไม่เต็มใจและไม่สมัครใจ แต่หลังจากที่ไตร่ตรองมาครู่หนึ่งจึงตอบกลับไป “ฝ่าาโปรดตัดสินพระทัยเลยเพคะว่าจะให้นู๋ปี้อาศัยอยู่ที่ใดต่อ”
เทียนอู่ฮ่องเต้ค่อนข้างพึงพอใจในคำตอบของนาง
อย่าว่าแต่้าอาศัยที่จิ้งหวางฝู่ต่อไปเลย แม้แต่การที่นังหนูผู้นี้้าอาศัยอยู่ในห้องยาสำนักหมอหลวง เขาก็เกิดกังวลกลัวว่านางมีใจทรยศ!
การที่ให้นังหนูมาอยู่ข้างกายเขาอย่างสงบเสงี่ยมและจดจ่ออยู่กับการปรุงยาให้เขา ถึงจะทำให้เขาวางใจลงได้
แม้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้จะพอใจแต่ก็ยังคงไม่แสดงท่าที เขาหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ยขึ้นว่า “ยังมีเวลาอีกสามวัน รอดูว่าจิ้งหวางจะคิดอย่างไรดีหรือไม่? เจิ้นไม่สามารถแย่งคนจากเขาได้ใช่หรือไม่? ”
แย่งคน?
หลังจากที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้หญิงสาวจึงตระหนักได้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ไม่เพียงแค่ไม่คาดหวังให้นางอาศัยในจิ้งหวางฝู่ แต่้าให้นางอยู่ข้างกายเขาแทนที่จะกลับไปยังห้องยาสำนักหมอหลวง!
นางตกตะลึงเหลือเกิน!
การอยู่รับใช้เทียนอู่ฮ่องเต้ไม่ต่างกับเครื่องมือในการผลิตยา นางจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
อีกทั้งเทียนอู่ฮ่องเต้โด่งดังในเื่มักมากในกาม หญิงรับใช้ข้างกายล้วนรับใช้ไปถึงบนเตียง
แผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยนเย็นวาบ ร่างกายเกิดความหวาดหวั่น
เทียนอู่ฮ่องเต้ยิ้มแย้มเอ่ยวาจาออกมาอย่างชัดเจน “เหอะๆ ครั้นผ่านไปสามวันแล้วหากว่าจิ้งหวางไม่ได้รับเ้าต่อ เ้าก็มารับใช้ที่ห้องทรงพระอักษรก็แล้วกัน”
กูเฟยเยี่ยนตอบส่งๆ สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าตนเองออกมาจากห้องทรงพระอักษรได้อย่างไร ิญญาของนางใจนหายไปหมดแล้ว
วินาทีที่นางกลับมาถึงจิ้งหวางฝู่ นางวิ่งไปเคาะประตูห้องบรรทมของจวินจิ่วเฉินทันที “ปัง ปัง ปัง”
ทว่าผู้ที่พบเจอหาใช่จวินจิ่วเฉินแต่เป็เซี่ยเสี่ยวหม่านแทน
น้ำเสียงของเซี่ยเสี่ยวหม่านเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “มาเคาะประตูกลางดึกกลางดื่นเนี่ยนะ! เตี้ยนเซี่ยช่วยเหลือเ้าจนอ่อนเพลียแล้ว พระองค์กำลังพักผ่อนอยู่! ”
กูเฟยเยี่ยนความร้อนใจเหลือเกิน “ข้ามีเื่ด่วน เป็เื่ที่ทุกข์ร้อนมาก เ้าให้ข้าได้พบเตี้ยนเซี่ยเถอะนะ! ”
ในสถานการณ์เช่นนี้นอกจากจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้วไม่มีใครสามารถช่วยนางได้อีก
หญิงสาวเตรียมเคาะประตูอีกครา ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านขวางไว้ “ไม่ว่าจะเื่ใหญ่โตเพียงใดก็เก็บไว้วันพรุ่งนี้ เ้าไม่ต้องเคาะประตูแล้ว เตี้ยนเซี่ยไม่ได้ยินหรอก”
กูเฟยเยี่ยนย่ำเท้าด้วยความร้อนใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นางจ้องมองเซี่ยเสี่ยวหม่านด้วยความจริงจังพลางเอ่ยอย่างตั้งใจ “เช่นนั้นเตี้ยนเซี่ยจะตื่นบรรทมขึ้นเมื่อใด? วันพรุ่งนี้พระองค์จะเสด็จไปด้านนอกหรือไม่? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่สนใจไยดีนัก “ข้าพเ้าไม่แน่ใจ”
กูเฟยเยี่ยนโกรธจนกระทืบเท้าเขาอย่างรุนแรง เซี่ยเสี่ยวหม่านะโร้องด้วยความเ็ปและเกิดโทสะขึ้น “นังหนู เ้าทำบ้าอะไรกัน! ”
กูเฟยเยี่ยนไม่สนใจเขาแล้วมองหาที่ข้างๆ นางตัดสินใจไม่กลับห้องพัก นางจะรออยู่ที่นี่!
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่อาจทนอยู่เฉยได้ เขาอยากจะพูดออกมาแต่หลังจากที่ลังเลครู่หนึ่งก็ยอมแพ้ไป ไม่ช้าเขาก็หลบหนีจากด้านข้างเพื่อไปที่สวนดอกไม้ด้านหลัง
ที่จริงแล้วจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้บรรทม ในยามนี้เขากำลังแช่ยาสมุนไพรอยู่ อาการของเขากำเริบอีกแล้ว…