แต่นอกจากตู้ซิวจู๋แล้ว…จะมีผู้ใดพกเงินเป็พันตำลึงติดตัวบ้างเล่า
ท้ายที่สุด หลัวจินซานค้นเงินออกมาทั่วร่าง จ่ายให้หลินหวั่นชิวสองร้อยตำลึง อีกแปดร้อยตำลึงที่เหลือเขียนเป็สัญญากู้
เจียงหงหย่วนเพิ่มดอกเบี้ยหนึ่งส่วนตามกฎของบ่อนพนัน แล้วยังเป็ดอกเบี้ยทบต้น
หลัวจินซานร้องไห้อีกรอบ
ร้องเพราะสามีภรรยาใจดำคู่นี้
เขาคิดในใจว่าจะคืนเงินภายในวันพรุ่งให้ได้ มิเช่นนั้นเืทั้งร่างคงได้ถูกพวกเขาดูดเสียหมดเป็แน่
หลินหวั่นชิวอ่านสัญญากู้อย่างมีความสุข ตบไหล่หลัวจินซานว่า “ตัวตั้งเบ้อเริ่ม จะร้องไห้เพราะเหตุใด พวกเราพนันกัน เ้าแพ้เสียหนึ่งพันตำลึง แต่ถ้าข้าแพ้ต้องเสียสองพันตำลึง ข้าไม่เห็นจะร้องว่าไม่ยุติธรรมเลย เ้าไม่ควรเป็ฝ่ายร้องนะ”
หลัวจินซาน “…”
ฮือฮือฮือ…นี่มันไม่ปกติชัดๆ หลอกให้ะโลงหลุมพรางโดยแท้
ลงนามในสัญญาเงินกู้เสร็จ หาเขาหายอ่อนทันที รีบวิ่งไปทางบ้านสวี
“ไม่เห็นรู้เลยว่าสัญญาเงินกู้ช่วยรักษาอาการขาอ่อนได้ด้วย” ตู้ซิวจู๋ที่แต่งหน้าประณีตและแต่งตัวหรูหราส่ายพัดเดินเข้ามา ปิ่นระย้าสีทองพร่างพรายบนผมเขาส่ายไปมาจนตาลาย
จังหวะที่จะเดินมาใกล้หลินหวั่นชิว เจียงหงหย่วนกลับเอาตัวมาขวางตรงกลาง
คงเพราะรู้สึกถึงความเป็ศัตรูจากเจียงหงหย่วน ตู้ซิวจู๋จึงไม่สู้ด้วย ย่อตัวลงเก็บเศษหยกขึ้นมาดูอย่างละเอียดแทน
หยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อและขูดบนผิวหยก ไม่นานก็ขูดเศษผงจำนวนหนึ่งออกมาได้
ตู้ซิวจู๋ถูไปมาที่ปลายนิ้ว ยิ้มว่า “บนหินอ่อนขาวเคลือบด้วยขี้ผึ้งขาว และบนขี้ผึ้งก็ไม่รู้เคลือบกระไรไว้…กรรมวิธีนี้ปราดเปรื่องยิ่งนัก ทำให้ของปลอมดูสมจริงได้เช่นนี้…ต้องเป็ช่างระดับปรมาจารย์เป็แน่”
เหตุการณ์วันนี้มีจุดผิดปกติเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเป็ฝีมือหลินหวั่นชิวหรือเจียงหงหย่วน
“เพื่อนสาว เ้าซื้อมาจากที่ใด? ช่วยบอกข้าที ข้าก็อยากซื้อกลับไปเล่นบ้าง” เขาเงยหน้ามองหลินหวั่นชิวแต่ถูกเจียงหงหย่วนที่ขมวดคิ้วเอาตัวมาบัง ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็ส่งสายตาให้เจียงหงหย่วนแทน
หลินหวั่นชิวดึงเจียงหงหย่วนไปด้านหลัง “ตู้ซิวจู๋ ข้าขอเตือนเ้านะ สามีเพื่อนห้ามยุ่ง หากเห็นเ้ายั่วยวนหย่วนเกออีก ข้าจะควักตาเ้าเสีย!”
ตู้ซิวจู๋ใจนโยนเศษหยกในมือทิ้ง ตบหน้าอกหอบหายใจว่า “ไอ๊หยา เ้าจะโหดเกินไปแล้ว ไม่รักหยกถนอมบุปผาเลยสักนิด[1] ทำข้าใหมด”
เขาทำท่าเกินจริงมาก หลินหวั่นชิวหัวเราะ
เจียงหงหย่วนเห็นดังนั้นก็ยิ่งไม่พอใจ
“ซื้อจากพ่อค้าหาบเร่ ไม่รู้เมื่อไรจะได้เจออีก นี่ก็สายมากแล้ว เชิญคุณชายตู้กลับเถิด!”
เจียงหงหย่วนไล่แบบไม่ไว้หน้า ตู้ซิวจู๋คนนี้…ชั่วร้าย
อาจเพราะลางสังหรณ์ของบุรุษ ความเป็ศัตรูและระมัดระวังที่เจียงหงหย่วนมีต่อตู้ซิวจู๋ล้วนสูงมาก
หลินหวั่นชิวพูดกับตู้ซิวจู๋ว่า “ข้าซื้อป้ายหยกเช่นนี้มาเยอะ ถ้าเ้าอยากได้ข้าจะแบ่งให้ วันนี้เกิดเื่วุ่นวาย ไม่ได้ต้อนรับเ้าให้ดี เ้ากลับก่อนเถิด วันหน้าค่อยนัดกันใหม่”
“ตกลง!” ตู้ซิวจู๋ดีใจ เขามองเจียงหงหย่วนอย่างลำพอง ชายฉกรรจ์ยิ่งหน้าดำ เขาก็ยิ่งมีความสุข
ไม่นาน หลินหวั่นชิวก็อุ้มตลับไม้ใบหนึ่งออกมา หยิบป้ายหยกออกมาให้ตู้ซิวจู๋สองชิ้นและให้ทังหยวนสองชิ้น “ไม่มีราคา เอาไปเล่น”
ทังหยวนมองตู้ซิวจู๋อย่างน่าสงสาร ของเล่นน่ากลัวเช่นนี้…เขาไม่อยากรับ แต่ไม่กล้ารับ…
“ของที่เพื่อนสาวข้าให้ รับไว้สิ!” ตู้ซิวจู๋เหลือบตามองมา ทังหยวนเกือบคุกเข่าลงพื้น รีบรับของจากหลินหวั่นชิวมาเก็บในอกเสื้อ เกือบทำร่วงตกแตก
“เช่นนั้นพวกเราค่อยนัดกันวันหน้า!” อย่างไรเสียหลินหวั่นชิวก็จะนัดเจอเขา ทั้งยังรับปากว่าจะไปดูละครเป็เพื่อน ไม่ต้องอยู่ดูชายฉกรรจ์ขวางหูขวางตาผู้นี้
ตู้ซิวจู๋จากไปอย่างมีความสุข แต่เจียงหงหย่วนกลับตรงกันข้าม
ในหัวเขามีแต่เื่ที่ภรรยาตัวน้อยจะเชิญตู้ซิวจู๋มาเพียงลำพัง
“ถึงเวลาแล้วข้าจะไปด้วย” เจียงหงหย่วนพูดกับหลินหวั่นชิว
แต่หลินหวั่นชิวกลับส่ายหน้าเป็กลองสั่น “ไม่ได้! เขาอย่างกับนางปีศาจ หากล่อลวงท่านไปจะทำอย่างไร? เมื่อครู่ก็ส่งสายตาหยาดเยิ้มให้ท่านอีกด้วย!”
“เ้ากลัวข้าโดนล่อลวง?” เจียงหงหย่วนหรี่ตาเล็กน้อยประหนึ่งแสงแดดจ้าตาเกินไป
หลินหวั่นชิวพยักหน้า นางควงแขนเจียงหงหย่วน “หย่วนเกอของข้าดีถึงเพียงนี้ ข้าย่อมกลัวสตรีแพศยาด้านนอกหมายปองท่าน”
“ไม่มีหรอก” เจียงหงหย่วนพูด “สภาพอย่างข้า…คงมีแต่เ้าที่มองเป็สมบัติ” ปากพูดเช่นนี้ แต่ใจชายฉกรรจ์กลับหวานปานน้ำผึ้ง
“อีกอย่าง คนที่ล่อลวงข้าได้ก็มีแค่เ้า เ้าชายตามองข้าเพียงแวบเดียว ไม่ใช่ิญญาข้าที่ถูกเกี่ยวดึงไป แม้แต่ร่างกายก็โดนไปด้วยเช่นกัน…”
ชายฉกรรจ์ถูกเปิดทักษะถ้อยคำรัก คำพูดคำจาน่าฟังมาก
ป้าฝูหรงที่กำลังเก็บกวาดเพราะแขกออกไปหมดแล้วกำลังทำงานเงียบๆ บอกตัวเองในใจว่าไม่ได้ยิน ไม่ได้ยิน ไม่ได้ยิน
ทวนซ้ำอยู่สามรอบ…
บ้านสวี
ในบ้านนอกบ้านถูกคนล้อมไว้เสียหมด
มีซุนเคออยู่ บรรดามือปราบตรวจค้นละเอียดมาก
คนพวกนี้อาจจับโจรไม่เก่งก็จริง แต่พวกเขาเชี่ยวชาญเื่การค้นบ้านมาก เพราะพวกเขาสามารถหาเงินได้นิดหน่อยเวลามีงานค้นบ้าน
มิหนำซ้ำ พวกเขายังรู้ดีว่าตรงไหนซ่อนของได้ดีที่สุด ตามซอกมุมต่างๆ อย่างไรเล่า!
หรือไม่ก็ห้องนอน
นี่เป็สัญชาตญาณของมนุษย์เราเช่นกัน รู้สึกว่าควรเฝ้าของมีค่าด้วยตัวเอง
ซุนเคอคอยสังเกตสีหน้าสวีฝูอยู่ตลอด เมื่อคนของเขาออกมาจากห้องนอนเป็ครั้งแรก เห็นชัดว่าอีกฝ่ายถอนหายใจโล่งอก
แต่เมื่อคนของเขากลับเข้าไปเป็ครั้งที่สอง สีหน้าสวีฝูกลับประหม่าขึ้นมา
ซุนเคอเข้าใจทันที
เขาส่งสัญญาณมือให้ลูกน้อง มือปราบทั้งหมดกรูกันเข้าห้องนอนสวีฝู
ไม่นาน มีคนพบว่าก้อนอิฐใต้เตียงสองสามก้อนดูแปลกๆ
เปิดออกดู ที่แท้ก็มีไหหลายใบฝังอยู่
ในไหเต็มไปด้วยเงิน เหล่ามือปราบมุดเข้าใต้เตียงโดยไม่ต้องให้บอก แอบขโมยเงินกันคนละก้อนแล้วยกไหออกไป
“ช้าก่อน ตรงนี้มีบางอย่าง” หลังจากที่ไหใบสุดท้ายโดนยกออกไป มือปราบคนหนึ่งพูดขึ้น
เชิงอรรถ
[1] รักหยกถนอมบุปผา(怜花惜玉) เป็สำนวนจีน หมายถึงการอ่อนโยนต่อสตรี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้