ให้บอกสูตรแต่ไม่ทำการค้าขาย?
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้้ามาที่นี่เพื่อทำการค้าขายจริงๆ เพียงแต่นางจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทันทีที่เถ้าแก่เฉิงนำสูตรไปแล้ว เขาจะนำไปหมักสุรา? และจะทราบชัดได้อย่างไรว่าเขาจะกลั่นสุรามากน้อยเพียงใด จำเป็ต้องใช้ซานชีเท่าใด?
นางใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะได้พบเถ้าแก่เฉิงตัวจริง นางไม่้าเผชิญหน้ากับความเสี่ยงใดๆ
ถ้าเถ้าแก่เฉิงชะลอสูตรสุรานี้ไปจนถึง่ฤดูใบไม้ร่วง ทางด้านของเวินจื่อเจี๋ยก็จะสามารถจัดหาซานชีที่เก็บมาใหม่ได้
เื่นี้นางก็จะกระทำไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว
กูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็ยิ้มเยาะ “เถ้าแก่เฉิง ข้านึกว่าท่านจะเป็ผู้ที่รู้จักวินิจฉัยสุราเสียอีก คิดไม่ถึงว่า…หึๆ จะทำได้แค่นี้เอง! สุราแก้วนี้ข้าได้มอบให้หัวหน้าผู้ดูแล ภายในมีส่วนผสมของซานชี ส่วนสุราที่ข้ามอบให้ฟูเหรินของท่าน ภายในมีซานชีมากยิ่งกว่าเสียอีก! ซานชีทำให้เืลมไหลเวียนดี เป็สุรากลั่นชั้นยอด สามารถช่วยเพิ่มอารมณ์เคลิ้มได้ดี แต่เพียงเพราะท่านไม่ชอบซานชีก็เลยจะให้นำซานชีออกจากสูตรสุรา นี่มันจะไม่เหยียดหยามสูตรสุราเกินไปหน่อยหรือ?”
สีหน้าของเถ้าแก่เฉิงเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินเช่นนี้
กูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็เกิดโทสะ “การที่ผู้น้อยยืนกรานที่จะพบท่านให้ได้ก็เป็เพราะอยากจะบอกกับท่านด้วยตนเองว่าสูตรสุราตัวนี้ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน! อีกทั้งผู้ที่เหยียดหยามสูตรสุราตามอำเภอใจเช่นท่าน ไม่คู่ควรแก่การดื่มสุรา! การค้ายิ่งไม่อาจประสบผลสำเร็จได้!”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา อย่าว่าแต่เถ้าแก่เฉิงเลย เพราะแม้กระทั่งสีหน้าของซ่างกวนฟูเหรินก็ยังเปลี่ยนแปลงไปเลย
เถ้าแก่เฉิงกล่าวว่า “ตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้ไม่เคยพูดว่าไม่ชอบซานชี”
กูเฟยเยี่ยนลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่านางแสร้งทำเป็ตื่นตระหนกใ “เถ้าแก่เฉิง หรือว่า…”
เถ้าแก่เฉิงดูจะหงุดหงิดเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”
กูเฟยเยี่ยนจึงเอ่ยวาจาที่หัวหน้าผู้ดูแลเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ให้เถ้าแก่เฉิงฟัง
“เถ้าแก่เฉิง เ้าของหมู่บ้านของพวกเราไม่มีทางยอมเปลี่ยนสูตรอย่างแน่นอน ผู้น้อยขอร้องหัวหน้าผู้ดูแลหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้หัวหน้าผู้ดูแลมาโน้มน้าวท่าน คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าผู้ดูแลจะ…”
นางมองเถ้าแก่เฉิงกับซ่างกวนฟูเหรินแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง “หรือว่าหัวหน้าผู้ดูแลไม่ชอบกลิ่นของซานชี? ”
แน่นอนว่าเถ้าแก่เฉิงเข้าใจแล้วว่าหัวหน้าผู้ดูแลมีปัญหา ทว่านอกจากความหงุดหงิดเล็กน้อยของเขาแล้ว เขาไม่แสดงออกถึงสิ่งอื่นมากนัก เขาหันไปหาฟูเหรินพลางกระซิบแ่เบา “สุรานี้ข้าจะรับไว้ ที่เหลือเ้าจัดการได้เลย”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นเตรียมออกไป
กูเฟยเยี่ยนกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง นางจึงวิ่งไปกางแขนสกัดกั้นตรงหน้าเขาโดยไม่ครุ่นคิดเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเื่นี้สามารถมอบให้ซ่างกวนฟูเหรินจัดการได้ นางก็คงเจรจากับซ่างกวนฟูเหรินโดยตรงั้แ่อยู่ที่หอโคมเขียวแล้ว นางจะต้องลำบากวิ่งมาหาเขาทำไม?
หัวหน้าผู้ดูแลเป็คนในตระกูลเดียวกันกับซ่างกวนฟูเหริน กูเฟยเยี่ยนจึงจำเป็ต้องระมัดระวังตัวจากซ่างกวนฟูเหริน!
กูเฟยเยี่ยนรีบไปสกัดกั้นเขาพลางเอ่ยออกมาตามตรง “เถ้าแก่เฉิง ถ้าเื่นี้มอบให้ฟูเหรินของท่านจัดการ มันจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก เนื่องจากหัวหน้าผู้ดูแลเป็คนในตระกูลเดียวกันกับซ่างกวนฟูเหริน!”
ซ่างกวนฟูเหรินทุบโต๊ะอย่างรุนแรงทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ “อีนังหนู เ้าหมายความว่าอย่างไร?”
กูเฟยเยี่ยนกล่าวโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว “ผู้น้อยคิดว่าไม่ว่าจะเป็เื่ของความรู้สึกหรือว่าเื่ของเหตุผล ท่านก็ควรที่จะเป็ผู้เลี่ยงออก”
ซ่างกวนฟูเหรินกำลังจะอ้าปาก ทว่าเถ้าแก่เฉิงก็แทรกขึ้นมา “การค้าขายนี้ยังเจรจากันไม่สำเร็จ เื่นี้ยังคงเป็เื่ภายในหอการค้าเสวียนคง คนนอกไม่จำเป็ต้องเป็ห่วง”
กูเฟยเยี่ยนมองออกว่าเถ้าแก่เฉิงเชื่อใจและรักฟูเหริน นางก็หวังว่าซ่างกวนฟูเหรินจะไม่มีส่วนร่วมเช่นกัน ทว่าทุกย่างก้าวต้องมีความรอบคอบระมัดระวัง นางไม่้าเผชิญความเสี่ยงเลยแม้แต่น้อย!
กูเฟยเยี่ยมไม่ยอมถอยให้แม้แต่ก้าวเดียว “ผู้น้อยไม่มีสิทธิ์มาเป็ห่วงเื่ภายในหอการค้าเสวียนก็จริง แต่ว่าผู้น้อยยังเจรจาการค้าขายไม่สำเร็จก็ใช้จ่ายไปแล้วสามแสนเหรียญทอง”
นางเอ่ยพลางรับถ้วยสุราที่เหมยกงกงยื่นให้ แล้วโยนไว้บนโต๊ะ “แน่นอนว่าจำนวนเงินสามแสนนี้ ผู้น้อยยินยอมจ่ายค่าผ่านทางด้วยความสมัครใจ ผู้น้อยยอมรับในข้อนี้ แต่บัดนี้ผู้น้อยสูญเสียความเชื่อใจในหอการค้าเสวียนคงแล้ว การค้าขายในครั้งนี้ ผู้น้อยไม่ทำแล้ว!”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยพลางจงใจนำสุราบนโต๊ะทั้งหมดกลับคืน ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินออกไป
เถ้าแก่เฉิงมองดูแผ่นหลังสง่างามและดื้อรั้นด้วยความชื่นชม เขาจึงเอ่ยถามออกมา “ถ้าหากว่าตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้ยืนกรานที่จะทำการค้าเล่า?”
กูเฟยเยี่ยนมีความปีติยินดีอย่างยิ่งแต่นางก็เอ่ยน้ำเสียงเ็าโดยที่ยังไม่หันกลับไป “ถ้าท่านจัดการด้วยตนเองจะเป็เกียรติสำหรับผู้น้อยมาก แน่นอนว่าผู้น้อยเชื่อใจท่าน และยินยอมอย่างยิ่ง!”
ถึงอย่างไรเถ้าแก่เฉิงก็ชื่อชอบสุราสมุนไพรขวดนั้น เขาหันไปมองฟูเหรินแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปนั่งโดยที่ไม่เอ่ยวาจาใดๆ ซ่างกวนฟูเหรินจ้องมองเถ้าแก่เฉิงอย่างดุดันแต่ก็กลับไปนั่งเช่นเดิม
กูเฟยเยี่ยนลอบถอนหายใจออกมา หญิงสาวย้อนกลับไปนั่งเจรจาตรงข้ามกับเถ้าแก่เฉิง
กูเฟยเยี่ยนเสนอวิธีการร่วมมือกับวิธีการแบ่งกำไรเช่นเดียวกันกับที่เคยเจรจากับหัวหน้าผู้ดูแล โดยที่หอการค้าเสวียนคงจัดหาวัตถุดิบ หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์รับผิดชอบในการกลั่น
ในขณะที่หัวหน้าสมาคมยกสุราขึ้นมาดื่ม เขาก็ฟังกูเฟยเยี่ยนเช่นกัน เมื่อกูเฟยเยี่ยนเอ่ยจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “หอการค้าเสวียนคงสามารถจัดหาวัตถุดิบได้โดยอิงราคาตามท้องตลาด ค่าแรงในการกลั่นก็ไม่มีปัญหา แต่หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์จะได้กำไรบริสุทธิ์หนึ่งส่วน อีกทั้งถ้าขาดทุนจะต้องรับผิดชอบกันฝ่ายละครึ่ง”
เงื่อนไขนี้จะกดขี่กันเกินไปแล้วนะ! ภายในใจของกูเฟยเยี่ยนมีเพียงคำว่า “ตระหนี่!”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้มาที่นี่เพื่อกำไร แต่นางกลัวว่าเถ้าแก่เฉิงจะสงสัย นางจึงแสร้งทำเป็คิดอย่างละเอียดรอบคอบกว่าเถ้าแก่เฉิงพลางเจรจากับเขาต่ออย่างจู้จี้จุกจิกเพื่อ่ชิงผลประโยชน์
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ทั้งสองคนเจรจากันเป็เวลานาน พวกเขาก็พูดคุยถึงเงื่อนไขในการร่วมมือและลงนามในสัญญา กูเฟยเยี่ยนมอบสูตรสุราทั้งสองให้เขา ภายในใจของนางในตอนนี้คือเบิกบานราวบุปผา ใบหน้ามีความยิ้มแย้มแจ่มใส “เถ้าแก่เฉิง หวังว่าความร่วมมือของเราจะผ่านไปได้ด้วยดี!”
เถ้าแก่เฉิงหยิบยกถ้วยสุราใบเล็กมูลค่าสามแสนเหรียญทองมาเล่นพลางเอ่ยถาม “ถ้วยสุราแพงขนาดนี้ ซื้อมาจากที่ใด?”
กูเฟยเยี่ยนจึงเอ่ยตอบไปว่า “ร้านเครื่องลายครามที่ไม่มีชื่อในตรอกเอ่อฝั่งตะวันตกของเมือง”
เถ้าแก่เฉิงผงกศีรษะตอบรับ “อีกสองสามวันข้าจะคืนเงินค่าผ่านทางให้เ้า”
“ขอบคุณเถ้าแก่เฉิงมาก!”
กูเฟยเยี่ยนรีบเอ่ยออกมาหลังจากที่มีความลังเลครู่หนึ่ง “เถ้าแก่เฉิง วัตถุดิบชุดแรกของพวกเราจะส่งครบภายในเดือนนี้ใช่หรือไม่? หลังจากที่พวกเรากลับไปจะได้เริ่มงานเลย”
เถ้าแก่เฉิงนำสูตรสุรามาดูอย่างจริงจังก่อนจะกล่าวว่า “สมุนไพรทั้งหมดจะพร้อมใช้งานหลังเดือนสิบ”
หลังเดือนสิบซานชีชุดใหม่ก็จะออกวางขาย! กูเฟยเยี่ยนเอ่ยด้วยความรีบร้อน “ไม่ได้ เดือนนี้เหมาะสมที่สุด น้ำบาดาลเดือนเจ็ดเหมาะสมกับการหมักสุราที่สุด!”
เพียงแต่เถ้าแก่เฉิงคิดอีกอย่าง “ราคาของวัตถุดิบจะต่ำสุดหลังจากเดือนสิบ บัดนี้สมุนไพรในสูตรสุราหลายชนิดล้วนขาดแคลน ไม่คุ้มเป็อย่างยิ่ง สุรานี้วางขายเป็จำนวนมากเพื่อผลกำไร ถ้า้าคุณภาพที่มากเกินไปจะขาดทุนเอาได้”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มแล้ว “สำหรับที่อื่นนั้น สมุนไพรเหล่านี้เป็ของขาดแคลน แต่สำหรับหอการค้าเสวียนคง เกรงว่าจะไม่เป็เช่นนั้น!”
เถ้าแก่เฉิงพยักหน้าแสดงออกถึงความจริงจังแต่กลับเอ่ยว่า “หอการค้าเสวียนคงไม่ได้ทำการค้ากับเ้าแต่เพียงผู้เดียว นังหนู กลับไปเถอะ เมื่อผ่านพ้นเดือนสิบแล้ว วัตถุดิบที่ควรให้เ้าจะไม่หายไปแม้แต่ชนิดเดียว”
ในยามนี้ถ้าเขานำวัตถุดิบไปขายจะได้กำไรมากกว่า ถ้าเขานำวัตถุดิบเหล่านี้มากลั่นสุราก็อาจจะไม่ได้กำไรเสมอไป
กูเฟยเยี่ยนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นางเริ่มกระวนกระวายใจแล้ว
นางจำเป็ต้องคิดหาวิธีโน้มน้าวเถ้าแก่เฉิง มิฉะนั้น ถ้าให้รอจนถึงเดือนสิบจริงๆ สิ่งที่พยายามทำไปทั้งหมดจะสูญเปล่า
ทว่าวิธีการของเถ้าแก่เฉิงคือวิธีที่ดีที่สุดนี่นา!
นางจะเอาเหตุผลอันใดไปโน้มน้าวเขาได้?