การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป การต่อสู้ระหว่างม่อชั่งหลันและท่านหัวนั้นรุนแรงมาก ลมปราณที่ชั่วร้ายและลมปราณไฟกำลังปะทะกัน เพราะพวกเขาต่อสู้ได้อย่างสูสีจึงเป็เื่ยากที่จะบอกว่าใครจะเป็ผู้ชนะ
ทักษะของม่อชั่งหลันนั้นชั่วร้าย ส่วนท่านหัวก็ใช้ทักษะของตนได้อย่างช่ำชอง โดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมไฟถือว่าเป็โดดเด่น
ปิงเหอเถิงและเมิ่งฉิงต่างปะทะกันอย่างดุเดือด ขอบเขตของปิงเหอเถิงสูงกว่าเมิ่งฉิง แต่พลังของเมิ่งฉิงกลับทรงพลังกว่า ประกอบกับที่เพิ่งโจมตีปิงเหอเถิงไป ซึ่งปิงเหอเถิงนั้นไม่สามารถทำอะไรเมิ่งฉิงได้
ส่วนผู้คนของป้อมอีแร้ง เดิมทีพวกเขาไม่สามารถแตะต้องหลินเฟิงได้เลย มิหนำซ้ำพวกเขาก็ไม่กล้าอีกด้วย
ผืนน้ำสีม่วงนั่นมันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว มันสามารถกลืนกินผู้คนได้และยังละลายพวกเขาจนไม่เหลืออะไรเลย!
“ดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะไม่ตายในวันนี้”
ฝูงชนพึมพำ ขนาดกลุ่มที่แข็งแกร่งอย่างป้อมอีแร้งและหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานก็ไม่สามารถสังหารหลินเฟิงได้ แม้กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งก็ยังถูกสังหารไป
ท่านหัวและเมิ่งฉิงสามารถจัดการกับอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งได้ แต่พร์ของหลินเฟิงเองก็แข็งแกร่ง เขาจึงไม่หวั่นเกรงต่อผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับ ดังนั้นด้วยพลังของอีกฝ่ายจึงไม่อาจแตะต้องเขาได้
ขณะที่ฝูงชนกำลังวิเคราะห์สถานการณ์อยู่ห่างๆ ขณะนั้นในบริเวณที่ห่างไกลออกไปได้ปรากฏเกี้ยวสีขาวกำลังตรงมาทางนี้
เกี้ยวสีขาวนี้ถูกยกโดยผู้หญิงสี่คนที่มีผ้าคลุมใบหน้า ขณะเดียวกันด้านหลังเกี้ยวก็มีคนมากมายกำลังวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าพวกนางราวกับไม่รีบร้อน ล่องลอยดั่งเทพธิดา ทำให้ฝูงชนรู้สึกราวกับกำลังฝันไป
เพียงพริบตา กลุ่มร่างเงาได้มาถึงสถานที่ที่เกิดการต่อสู้ แต่พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย
ฝูงชนล้วนประหลาดใจ คนเหล่านี้เป็ใครกัน?
แต่หลันเจียวที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนกลับมีประกายในดวงตา จากนั้นร่างของนางก็หายไปก่อนจะปรากฏขึ้นหน้าเกี้ยวดังกล่าว จากนั้นนางก็เอ่ยกับผู้ที่อยู่ในเกี้ยวว่า “ป้าหยุน ท่านถึงมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ผ้าม่านสีขาวค่อยๆ เลื่อนออกช้าๆ เผยให้เห็นร่างเงาที่สวยงาม สูงส่งและเ็า ราวกับสตรีนางนี้อยู่เหนือผู้อื่น ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองตรงๆ
“มีบางอย่างที่ต้องทำ!”
ป้าหยุนกล่าวขณะยิ้มให้หลันเจียว จากนั้นนางก็มองไปที่หลินเฟิง ทำให้หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ
ผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถคาดเดาอายุได้ ผิวของนางนวลเนียน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายที่สูงส่ง รวมไปถึงความแข็งแกร่งของนางก็ไม่ธรรมดา
“หลินเฟิงใช่ไหม?”
สตรีวัยกลางคนถามหลินเฟิงด้วยน้ำเสียงเ็า
“ใช่แล้ว”
หลินเฟิงพยักหน้าก่อนกล่าวต่อว่า “มีอะไรหรือ?”
“ใช่” หญิงวัยกลางคนพยักหน้าเล็กน้อย “หลินเฟิง วันนั้นที่เ้าอยู่ในหอประมูลแห่งความฝันของข้า เ้าประมูลได้หม้อัเก้า์ไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็ประโยชน์ต่อเ้า ตอนนี้เราต้องหม้อหินที่ว่ากลับคืนมา ส่วนหินหยวนที่เ้าประมูลได้ เราจะคืนให้ทั้งหมด เ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?”
“หม้อัเก้า์!” หลินเฟิงประหลาดใจ คนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อหม้อัเก้า์ ในใจของเขาตอนนี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดี อีกฝ่ายบอกว่าหอประมูลแห่งความฝันของนาง เห็นได้ชัดว่าสตรีวัยกลางคนนางนี้เป็เ้าของหอประมูลแห่งความฝัน ในเมื่อนางมาเพื่อเอาหม้อัเก้า์คืน เป็ไปได้ว่านางอาจรู้ว่าหม้อัเก้า์คือสิ่งใด
“สมบัติที่ประมูลออกไปแล้ว ดูเหมือนจะไม่เหตุผลที่ต้องเอาคืนนะ!”
หลินเฟิงกล่าวอย่างเยือกเย็นขณะมองอีกฝ่าย หม้อัเก้า์นั้น แน่นอนว่าเขาไม่มีทางคืนให้หอประมูลแห่งความฝันแน่นอน
ผู้คนเผยให้เห็นถึงร่องรอยความสงสัย ที่หลินเฟิงว่ามามันก็ถูก สิ่งที่ถูกประมูลออกไปแล้ว มันไม่มีเหตุผลที่ต้องเอากลับคืน
เื่นี้ต้องมีลับลมคมในบางอย่าง
“ข้าสามารถคืนหินหยวนแก่เ้าเป็สองเท่าได้ เพื่อเป็การชดเชย” ป้าหยุนกล่าวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
สองเท่า? หลินเฟิงยิ้มเยาะในใจ หม้อัเก้า์นั้นไม่ใช่มีค่าเพียง 4,000 หินหยวนระดับกลาง แต่มันเป็หนึ่งในสิบหม้อหินโบราณ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลและเป็สมบัติที่แท้จริง
“ไม่จำเป็ ข้าไม่้าหินหยวน ข้าชอบหม้อหินโบราณมากกว่า”
หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส
“หลินเฟิง เ้าประมูลหม้อหินโบราณมาด้วย 2,000 หินหยวนระดับกลาง ตอนนี้ข้าจะจ่ายให้ 10,000 หินหยวนระดับกลาง” ป้าหยุนยังคงต่อรอง
“ข้าบอกแล้วว่า ข้าชอบหม้อหินโบราณใบนี้ ไม่ว่าจะจ่ายด้วยหินหยวนเท่าไร ข้าก็ไม่ให้” หลินเฟิงกล่าวอย่างหนักแน่น ทำให้สีหน้าของหญิงวัยกลางคนแปลกไป
“ป้าหยุน มีอะไรหรือ?” หลันเจียวถาม นางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่ามีเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกิดขึ้นระหว่างหลินเฟิงกับป้าหยุน
“เจียวเจียว เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเ้า” ป้าหยุนกล่าวอย่างไม่แยแส จากนั้นนางก็หันไปมองหลินเฟิงอีกครั้ง “หม้อหินโบราณใบนั้น มันไม่มีประโยชน์สำหรับเ้า แต่ตอนนี้พวกข้า้ามัน ข้าหวังว่าเ้าจะคืนมันให้กับหอประมูลแห่งความฝัน หากเป็เช่นนั้นพวกข้าจะรู้สึกขอบคุณเป็อย่างมาก”
หลินเฟิงยังคงส่ายหัวเหมือนเดิม
ในที่สุดความอดทนของหญิงวัยกลางคนก็ถึงขีดจำกัด เจตจำนงที่หนาวเย็นได้ปรากฏออกมารอบๆ ตัวนาง ทำให้หลันเจียวถึงกับตัวสั่นเทา
“ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี” ป้าหยุนกล่าวอย่างแ่เบา นางสามารถมองเห็นใบหน้าโศกเศร้าของหลันเจียวได้ เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่หลินเฟิงกลับไม่รู้จักความเมตตา
“ข้าต้องทำอย่างไร ถ้าข้า้ามัน?”
หลินเฟิงตกตะลึง จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเ็าว่า “หอประมูลแห่งความฝันคือสถานที่ที่นำของมาประมูล ดูเหมือนว่าหอประมูลแห่งความฝันของท่านเป็แค่ผู้รับผิดชอบในการประมูล แต่ตอนนี้ท่านมาหาข้าและเรียกร้องให้ข้าคืนหม้อหินโบราณให้หอประมูลแห่งความฝัน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”
เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ยินคำพูดของหลินเฟิง แต่นางกลับไม่ได้สนใจเขา แล้วกล่าวอย่างเ็าว่า “ข้าบอกว่าวันนี้เ้าจะต้องคืนหม้อเหินโบราณมา มิเช่นนั้นเ้าต้องเสียใจภายหลัง”
ฝูงชนต่างใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคน ดั่งสุภาษิตที่ว่า ‘ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก’
ในตอนนี้หอประมูลแห่งความฝัน้าจัดการกับหลินเฟิงเช่นกัน แต่ความแข็งแกร่งของหอประมูลแห่งความฝันนั้น มันน่าหวาดกลัวกว่าป้อมอีแร้งหลายเท่านัก
“ั้แ่เมื่อไรกันที่หอประมูลแห่งความฝันถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้?” ท่านหัวกล่าวเย้ยหยัน ทันใดนั้นลูกไฟของท่านหัวได้ปรากฏออกมาจากมือและหมุนรอบตัวเขา เขาทิ้งม่อชั่งหลันไว้เื้ัและกลับมาหาหลินเฟิง สายตาดุดันของเขาจับจ้องไปที่ป้าหยุนอย่างไม่ละสายตา
“แม้กระทั่งหอประมูลแห่งความฝันยังโลภมากขนาดนี้ หากเป็คนอื่นมาแย่งชิงของในงานประมูลไป ข้าจะไม่แปลกใจเลย แต่หอประมูลแห่งความฝันของพวกเ้ากำลังขโมยสินค้าเ่าั้ด้วยตัวเอง ไม่รู้สึกอับอายกันเลยหรืออย่างไร”
เมื่อผู้คนได้ยินคำพูดของท่านหัว พวกเขาก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ใช่... การที่หอประมูลแห่งความฝันทำขนาดนี้ มันมากเกินไป
สมบัตินี้มันถูกประมูลมาจากพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขากลับจะมาแย่งชิงมันคืน...
“ฮ่าๆๆ!”
ม่อชั่งหลันหัวเราะขณะมองป้าหยุน และกล่าวขณะยิ้มอย่างชั่วร้ายว่า “ไร้ยางอายหรือไม่นั้น ถ้าพวกเ้าตายไปก็ไม่มีใครพล่ามไร้สาระได้อีก”
“ได้ยินไหม!” หญิงวัยกลางคนกล่าวอย่างเ็าขณะมองหลินเฟิง “ข้าไม่อยากจะสังหารเ้า หากเ้ามอบหม้อหินโบราณให้ข้าล่ะก็ ข้าจะไม่ลากเ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง”
“ป้าหยุน” หลันเจียวมีใบหน้าซีดขาวเล็กน้อย ตอนแรกป้าหยุน้าให้หลินเฟิงและนางเป็สหายกัน แต่ในตอนนี้ป้าหยุนกลับ้าสังหารหลินเฟิง
“เจียวเจียว ข้าบอกเ้าแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกับเ้า” ป้าหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า ทำให้หลันเจียวต้องกัดริมฝีปาก ป้อมอีแร้งและหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานนั้นไม่สามารถจัดการหลินเฟิงได้ หรือว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่จัดการหลินเฟิงได้จะเป็นาง?
หลันเจียวตระหนักได้ว่า หากป้าหยุน้าจัดการหลินเฟิงแล้ว ถ้าเป็เช่นนั้นหลินเฟิงคงไม่สามารถหนีไปได้ง่ายๆ
ในขณะนั้นเมิ่งฉิงและปิงเหอเถิงหยุดต่อสู้กัน จากนั้นเมิ่งฉิงก็กลับมาอยู่ข้างหลินเฟิง
หลินเฟิงมีสายตาที่เยือกเย็น กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องถูกคุกคามในวันนี้?
ผู้คนเหล่านี้ทั้งมีอิทธิพลและทรงพลัง ทุกคนสามารถข่มขู่เขาได้ทุกเมื่อ อยากทำอะไรก็ทำ และไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา นั่นก็เพราะว่าเขาอ่อนแอ
ถ้าหลินเฟิงแข็งแกร่งล่ะก็ ใครจะกล้าทำเช่นนั้นกับเขา แม้แต่ของที่ประมูลได้ก็ยังมาแย่งชิงกลับไป
“ดี!”
หลินเฟิงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะมองไปที่หญิงวัยกลางคน จากนั้นก็กล่าวอย่างเ็าว่า “เพราะท่านมีอำนาจจึงกล้าข่มขู่ข้า หากไม่ส่งให้ก็จะสังหาร ท่านคิดว่าหม้อหินโบราณใบนั้น ท่านจะต้องได้มันไปอย่างแน่นอนใช่ไหม?”
หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้ว แต่กลับเห็นรอยยิ้มของหลินเฟิงยิ่งดูชั่วร้ายขึ้น เขากล่าวต่อว่า “ทุกๆ คนได้ยินชัดหรือยัง? พวกเ้ารู้ว่าหอประมูลแห่งความฝันของพวกเขาทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ และยัง้าแย่งชิงหม้อโบราณที่ข้าประมูลมาได้อีก”
เมื่อหลินเฟิงกล่าวจบ หญิงวัยกลางคนนั่นก็ต้องตกตะลึง จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นว่า “หุบปาก!”
“หุบปาก? ท่านขู่จะสังหารข้า แล้วยังให้ข้าหุบปาก? ท่านคิดว่าสมบัติจะเป็ของพวกท่านเมื่อสังหารข้าไปแล้ว? ช่างไร้เดียงสา น่าขบขัน และโง่เขลาเสียจริง”
มุมปากของหลินเฟิงปรากฏรอยยิ้มอันเยือกเย็นขึ้น ขณะกวาดสายตามองผู้คนอย่างเงียบงัน
“ข้าได้รับหม้อหินโบราณใบนั้นมา มันเป็หนึ่งในสิบหม้อเตาโบราณ นั่นก็คือหม้อัเก้า์!”