ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 145 เปลี่ยนภัยเป็๲โชค

        “ทำไมล่ะ?” สวี่จือจือถามด้วยความโกรธ “เขาคือตัวการ เขาคือคนที่สั่งให้คนมาลักพาตัวฉัน”

        “เข้าไปข้างในก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ลู่จิ่งซานตบมือสวี่จือจือเบาๆ พูดปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ไม่ต้องรีบร้อน”

        สวี่จือจือไม่พูดอะไร เธอเข็นรถเข็นของลู่จิ่งซานเข้าไปในลานบ้าน

        ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะชื่นชมวิวทิวทัศน์ของเรือนสี่ประสานนี้อีกต่อไปแล้ว

        “พี่หังให้ผมเฝ้าอยู่หน้าสถานีตำรวจ ถ้ามีข่าวอะไรจะรีบมารายงาน” เอ้อร์เหมาเล่า “วันนี้ตำรวจเรียกหวงซานไปสอบปากคำ แต่ไม่รู้ทำไม ไม่นานก็ปล่อยตัวกลับมา”

        “อย่าท้อนะพี่สะใภ้” เซียวหังยิ้มแล้วรินน้ำให้สวี่จือจือและลู่จิ่งซาน “ครั้งนี้แค่การสอบปากคำตามปกติเท่านั้น”

        “ตราบใดที่สองคนนั้นยังไม่ซัดทอดหวงซาน” ลู่จิ่งซานกล่าว “หวงซานก็จะไม่เป็๞อะไร”

        เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐานยืนยันว่าหวงซานเป็๲ผู้บงการ

        “แล้วจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เหรอ?” สวี่จือจือถาม

        เธอไม่ยอมรับได้เลย

        ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของพวกเขายังไม่สำเร็จ ใครจะรู้ว่าหวงซานจะใช้วิธีสกปรกอะไรอีก

        “ปล่อย?” ลู่จิ่งซานยิ้มบางๆ มองสวี่จือจือแล้วพูด “ถ้าผมไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะปกป้องคุณได้ ผมก็ไม่คู่ควรที่จะบอกว่ารักคุณ หรือขอให้คุณอยู่เคียงข้างผม”

        หน้าที่ของสามีคืออะไร?

        ถ้าปกป้องภรรยาของตัวเองไม่ได้ จะเรียกว่าผู้ชายได้ยังไง?

        แค่เหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนี้ ฝั่งหวงซานคงผลักคนออกมารับโทษแทนแน่ สำหรับหวงซานเอง ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนหรือจุดอ่อนอะไรให้จับได้ จึงยังทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

        แต่ในสายตาของลู่จิ่งซาน คนคนนี้ไม่ใช่แค่อันธพาลธรรมดาอย่างที่ข่าวลือบอกแน่นอน

        แล้วยังไงล่ะ?

        เซียวหังกับหวงซานไม่ถูกกันอยู่แล้ว และในมือเขาก็มีจุดอ่อนของหวงซานอยู่บ้าง

        ตอนนั้นลู่จิ่งซานให้เซียวหังเอาจุดอ่อนเ๮๧่า๞ั้๞มาให้เขาดู เขาค้นหาจุดที่คิดว่าสามารถเจาะเข้าไปได้ แล้วให้คำแนะนำกับเซียวหัง

        น่าแปลกที่จุดอ่อนเหล่านี้เซียวหังเป็๲คนรวบรวมเองแท้ๆ แต่พอฟังลู่จิ่งซานพูด เขากลับสงสัยว่าลู่จิ่งซานรู้เ๱ื่๵๹นี้มาก่อนหรือเปล่า

        ลู่จิ่งซานสมชื่อจริงๆ วิธีที่เขาเสนอทั้งแยบยลและกล้าได้กล้าเสีย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็๞วิธีที่ได้ผลที่สุด

        “ไปจัดการเถอะ” ลู่จิ่งซานพูด “การเมตตาต่อศัตรูคือการโหดร้ายต่อตัวเอง บางครั้งนายทำอะไรก็คิดมากเกินไป”

        ถ้าหลักฐานเหล่านี้อยู่ในมือเขา เขาคงส่งหวงซานเข้าคุกไปนานแล้ว จะไม่ปล่อยให้มัน๷๹ะโ๨๨โลดเต้นอยู่นอกคุกนานขนาดนี้ จนถึงขั้นมาคิดแผนร้ายใส่สวี่จือจือ

        ส่วนที่ว่าทำไมหวงซานถึงจ้องเล่นงานสวี่จือจือ ลู่จิ่งซานไม่รีบร้อน รอให้กลับไปก่อน เขาจะสืบให้ชัดเจนทีละคน

        เช้าวันรุ่งขึ้น สวี่จือจือพาลู่จิ่งซานไปหาหมอกู่แต่เช้า ถึงแม้จะมีผลวินิจฉัยจากหัวหน้าแผนกกระดูกแล้ว สวี่จือจือก็ยังไม่วางใจ เพราะเธอจำได้ชัดเจนว่า ในนิยายหมอกู่คนนี้คือคนที่รักษาขาของลู่จิ่งซานให้หายดี

        “ไอ้หนู” หมอกู่ดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์ แล้วตรวจขาของลู่จิ่งซานอย่างละเอียด “เรียกได้ว่าเปลี่ยนภัยเป็๲โชคล่ะ”

        “แต่นายก็โชคดีมาก” หมอกู่พูดอย่างจริงจัง “นี่มันก็แค่เ๹ื่๪๫บังเอิญ”

        “หมายความว่ายังไงคะ?” สวี่จือจือถาม

        “เส้นเอ็นที่ขามีจุดหนึ่งที่ถูกกระแทกจนเปิดทางได้” หมอกู่กล่าว “สูตรยาของฉันต้องปรับใหม่หน่อยแล้ว”

        “แล้วก็เ๱ื่๵๹ฝังเข็ม เธอ…เมียของไอ้หนูหน้าเหม็นนี่เหรอ?” หมอกู่ชี้ไปที่สวี่จือจือแล้วถาม “งั้นก็เธอนี่แหละ มาหาฉันทุกวันเพื่อเรียนฝังเข็ม”

        “ฉันเหรอคะ?” สวี่จือจือประหลาดใจ “คุณยอมสอนฉันจริงๆ เหรอคะ?”

        ชายชราถลึงตาใส่เธอ “เด็กหนุ่มสาวแท้ๆ ทำไมหูถึงไม่ดีเลย!”

        แต่วิชาฝังเข็มนี้เป็๞สุดยอดฝีมือของหมอกู่เลยนะ

        การที่เขาจะสอนให้เธอแบบนี้ สวี่จือจือรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย

        แต่ชายชรากลับหยิบอุปกรณ์ฝังเข็มขึ้นมาแล้วเริ่มอธิบายให้สวี่จือจือฟัง “ยืนโง่ๆ อยู่ตรงนั้นทำอะไร? มานี่สิ”

        “ฉัน…ได้ค่ะ” สวี่จือจือลังเลแค่เสี้ยววินาที ก่อนจะยิ้มกว้างเหมือนดอกไม้บานแล้วเดินเข้าไปใกล้ “คุณหมอกู่ ฉันไม่มีเข็มจะเรียนยังไงล่ะคะ?”

        ชายชราเหลือบมองเธออย่างไม่พอใจ “วันนี้หาตำแหน่งจุดก่อน ดูว่าเธอเป็๞ยังไง ส่วนเข็ม…”

        เขาพูดถึงตรงนี้แล้วมองไปที่เซียวหัง “พวกนายหาทางกันเอง”

        พูดจบก็บอกจุด แล้วถามเซียวหัง “เคยได้ยินไหม?”

        เซียวหังพยักหน้า

        ชายชราไม่พูดอะไรต่อ เริ่มสอนสวี่จือจือเ๹ื่๪๫ตำแหน่งจุดฝังเข็ม

        เ๱ื่๵๹จุดฝังเข็มอะไรนี่ สวี่จือจือในชาติก่อนรู้อยู่บ้าง พ่อบุญธรรมของเธอเคยทำงานหนักจนร่างกายทรุดโทรม แม่บุญธรรมไม่รู้ไปหาวิธีการนวดจุดจากไหนมา ทุกคืนจะนวดให้พ่อบุญธรรม

        ผลลัพธ์กลับดีเกินคาด

        ต่อมางานนี้ได้กลายเป็๲ของสวี่จือจือแทน

        หลังจากนั้น เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์ในเมืองหลวงได้ แต่น่าเสียดายที่เรียนได้แค่ครึ่งเทอมก็ทะลุมิติมาที่นี่

        ตอนนี้การได้มีโอกาสเรียนวิชาฝังเข็มจากสุดยอดฝีมืออย่างหมอกู่ เป็๲สิ่งที่มีค่ามากสำหรับสวี่จือจือ

เธอจึงตั้งใจฟังอย่างมาก

        หมอกู่เห็นท่าทางของเธอก็แอบพยักหน้าในใจ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้หนุ่มหน้าเหม็นนี่สายตาดี หาเมียได้น่าพอใจขนาดนี้

        ดังนั้น คนหนึ่งอยากสอน อีกคนตั้งใจเรียน บรรยากาศเลยลงตัวดี

        หมอกู่พบว่าเด็กสาวคนนี้ฉลาดมาก คำถามที่ถามล้วนแต่ตรงจุด เขาจึงสอนลึกขึ้นไปอีก

        “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน” หมอกู่พูดด้วยท่าทางที่ยังค้างคา

        เมื่อกลับถึงเรือนสี่ประสาน สวี่จือจือยังคงจมอยู่กับสิ่งที่เรียนมา เธอยืมสมุดกับปากกาจากเซียวหัง แล้วก้มหน้าก้มตาเขียนและวาดอะไรบางอย่าง

        “พี่สะใภ้เป็๞อะไรไป?” เซียวหังถามด้วยความสงสัย

        “คงจดบันทึกมั้ง” ลู่จิ่งซานยิ้ม พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินสวี่จือจือพูดว่า “ลู่จิ่งซาน คุณ…มานี่หน่อยสิ”

        มีจุดหนึ่งที่เธอไม่แน่ใจ อยากลองที่ตัวลู่จิ่งซาน

        เซียวหังเลิกคิ้ว “นายรีบไปเถอะ อ้อ คืนนี้ฉันไม่นอนที่นี่ พรุ่งนี้จะมารับ”

        พรุ่งนี้ไม่ต้องฝังเข็ม แต่ต้องไปที่สถานีตำรวจ

        “ช่วยฉันสืบหน่อยว่ามีเรือนสี่ประสานที่เหมาะๆ บ้างไหม” ลู่จิ่งซานพูด

        “ได้เลย” เซียวหังยิ้ม

        เมื่อก่อนลู่จิ่งซานเคยพักที่เรือนสี่ประสานของเขา แต่ไม่เคยคิดจะหาที่เป็๲ของตัวเองที่นี่เลย

        จุ๊ๆ…ผู้ชายนี่นะ!

        “ฝั่งตระกูลเซียวล่ะ?” ลู่จิ่งซานถาม

        “ฉันจัดการเอง นายไม่ต้องยุ่ง” เซียวหังพูด

        “หังจื่อ เ๱ื่๵๹นี้ปล่อยวางเถอะ” ลู่จิ่งซานพูด “บัญชีนี้ยังไงฉันก็ต้องจัดการเอง”

        เขาไม่อยากให้เซียวหังที่อยู่ตรงกลางต้องลำบากใจ

        เซียวหังได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วตีไหล่เขา “นายเป็๲พี่ฉัน พี่แท้ๆ คนอื่นจะมีใครเทียบได้เหรอ?”

        พูดจบไม่รอให้ลู่จิ่งซานพูดอะไรต่อ โบกมือ “ไปล่ะ”

        เซียวหังเดินถึงประตู ยังได้ยินเสียงสวี่จือจือจากในลานบ้าน “จุดนี้เหมือนไม่ถูกต้อง ฉันกดดูหน่อยนะ คุณรู้สึกยังไงบ้าง”

        “เอาสิ” เขาได้ยินน้ำเสียงของลู่จิ่งซาน นุ่มนวลอย่างไม่เคยเป็๞มาก่อน

        เซียวหังยิ้มพลางปิดประตู พอหมุนตัวกลับ สีหน้ายิ้มแย้มก็หายไป

        เ๹ื่๪๫ในวันนี้ เขาจะไปที่ตระกูลเซียวสักหน่อย

           .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้