อวิ้นกุ้ยเฟยคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะตอบกลับมาเช่นนี้ สีหน้าของนางตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ทางด้านของเหล่าผู้คน รวมไปถึงจวินฮั่นหยิ่นก็ประหลาดใจเช่นกัน มีเพียงเฉิงอี้เฟยเท่านั้นที่เผยยิ้มด้วยความดีใจ
มุมปากของกูเฟยเยี่ยนยกยิ้มเช่นกัน ใบหน้าของนางในยามนี้คือไร้ซึ่งความอันตราย
นางไม่ทราบว่าอวิ้นกุ้ยเฟยวางอุบายอะไรไว้ แต่เมื่อกลั่นแกล้งนางซึ่งๆ หน้า นางก็จะไม่ยอมเสียเปรียบอย่างแน่นอน แกล้งนางหนึ่งครั้งนางก็จะคืนกลับไปหนึ่งครั้ง
อวิ้นกุ้ยเฟยตกตะลึงแต่ไม่ช้าก็ได้สติกลับมา นางไม่ได้ให้กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้น แต่นางกลับนั่งดื่มชาอย่างไม่รีบร้อนและเจตนาครุ่นคิดโดยไม่พูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนจึงเอ่ยอีกว่า “กุ้ยเฟยเหนียงเหนี่ยง พระองค์คิดให้ดีๆ ในคืนวันนั้นพระองค์ยังถวายชาตังกุยหนึ่งแก้วให้ฝ่าาอยู่เลย”
คราวนี้อวิ้นกุ้ยเฟยไม่เพียงตกตะลึง แต่เกิดความตระหนกใกลัว
นางไม่ทราบความจริงของอาการประชวรฝ่าา นางกลัวเหลือเกินว่ากูเฟยเยี่ยนจะเปิดโปงเื่ราวในวันนั้นที่นางทำร้ายฝ่าาจนกระอักเืออกมา นางกลัวว่าจะทำลายศักดิ์ศรีของตนเองจนกลายเป็เื่ตลกของคนอื่น
อวิ้นกุ้ยเฟยเลิกกลั่นแกล้งแล้วรีบเอ่ยออกมา “เปิ่นกงนึกออกแล้ว กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้นเถอะ”
“ขอบพระทัยกุ้ยเฟยเหนียงเหนี่ยง! ”
กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้นอย่างมีความสุขแล้วหันไปแสดงความเคารพจวินฮั่นหยิ่น พร้อมกับอวยพรและยื่นของขวัญไปให้
จวินฮั่นหยิ่นที่มีคุณธรรมสูงส่งเ็าพยักหน้าขึ้นลง พลางเอ่ยต่อหน้าผู้คน “ลุกขึ้นแล้วเข้าประจำที่นั่งเถอะ”
เื่ที่เขาบอกว่าจะแย่งผู้หญิงกับเฉิงอี้เฟยคือเื่ส่วนตัว ก่อนหน้านี้เขาพูดโกหกฟู่หวงไปแล้ว และไม่ยอมรับในข่าวลือเมื่อไม่กี่วันมานี้ด้วย
เขาไม่เคยคิดเลยว่าอวิ้นกุ้ยเฟยจะเชิญกูเฟยเยี่ยนมา อีกทั้งเป็การส่งจดหมายเชิญไปก่อนแล้วค่อยบอกเขาด้วยนะ แถมยังบอกว่าจะช่วยเป็คนกลางติดต่อกูเฟยเยี่ยนให้สหายสนิทของเขาอย่างเฉิงอี้เฟยอีกด้วย
บัดนี้เขาไม่ทราบว่าควรที่จะเผชิญหน้ากับกูเฟยเยี่ยนอย่างไรดี เนื่องจากยามนี้อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายและต่อหน้าเฉิงอี้เฟยด้วย!
หากเขาเป็คนกลางในการติดต่อให้ ประการแรกคือจะทำร้ายจิตใจของกูเฟยเยี่ยน ประการที่สองคือทำให้เฉิงอี้เฟยเกิดความสงสัย แต่หากเขาไม่เป็กลางในการติดต่อให้ มันจะทำให้ผู้คนคิดอย่างไรกัน?
หากเื่ราวไปถึงหูของฟู่หวง ฟู่หวงจะมองเขาอย่างไร?
นี่มันอยู่ในจุดที่จะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ลำบาก ให้ตายสิ!
จวินฮั่นหยิ่นหันไปมองอวิ้นกุ้ยเฟย ดวงตาอดไม่ได้ที่จะทอประกายความคับแค้นใจออกมา
กูเฟยเยี่ยนครุ่นคิดจุดยืนของจวินฮั่นหยิ่นไปพร้อมกับหันตัวเตรียมเดินไปด้านหลัง ในขณะนี้เองเฉิงอี้เฟยก็ได้เอ่ยขึ้นมา “แพทย์หญิงน้อย มานี่ เปิ่นเจียงจวินเหลือที่ไว้ให้เ้าแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนแอบแค้นเคืองในใจ หมอนี่นั่งดูละครเงียบๆ ไม่ได้หรือ? เขามาร่วมสนุกอะไรกัน?
เดิมทีนางคิดว่าจะไม่สนใจเขา เพียงแต่เมื่อคิดดูอีกทีก็เกิดความสุขขึ้น
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยขึ้นมาว่า “นู๋ปี้เป็เพียงแพทย์หญิงเท่านั้น การได้รับเชิญจากองค์ชายแปดถือเป็เกียรติอย่างยิ่งแล้ว นู๋ปี้จะกล้ากำเริบเสิบสานไปนั่งกับท่านแม่ทัพเฉิงได้อย่างไรกัน”
หญิงสาวเอ่ยพลางเจตนาหันไปโค้งคำนับต่อจวินฮั่นหยิ่น “องค์ชายแปด ท่านแม่ทัพเฉิงแกล้งนู๋ปี้เล่นแล้ว ท่านห้ามหน่อยเถอะนะ”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ผู้คนก็เงียบลง แม้แต่อวิ้นกุ้ยเฟยยังเผยสีหน้าสงสัยออกมา
ต้องทราบไว้ว่าแม้ผู้คนจะเคยได้ยินข่าวลือมาว่าองค์ชายแปด้าแย่งผู้หญิงกับเฉิงอี้เฟย แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อกันนัก วันนี้ที่ได้เห็นกูเฟยเยี่ยนมา ทุกคนก็คิดว่าองค์ชายแปดเชิญกูเฟยเยี่ยนมาเพื่อเป็การช่วยเฉิงอี้เฟย
แต่เมื่อเห็นกูเฟยเยี่ยนพูดคุยกับองค์ชายแปดเช่นนี้ ทุกคนจึงตระหนักได้ว่าเื่ราวอาจจะไม่ได้เป็อย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้แล้ว!
ในเวลานี้แผ่นหลังของจวินฮั่นหยิ่นมีเม็ดเหงื่อไหลพลั่ก เขาไม่ทราบว่าจะตอบกลับเช่นไรดี
กูเฟยเยี่ยนรอพร้อมกับแอบหัวเราะในใจ อวิ้นกุ้ยเฟย้ากลั่นแกล้งนาง แต่ก็ให้โอกาสนางในการกระชากหน้ากากจอมปลอมของจวินฮั่นหยิ่นออกมา นางจะรอดูว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนกับเฉิงอี้เฟยนั้น จวินฮั่นหยิ่นจะทำเยี่ยงไร!
เฉิงอี้เฟยไม่ทราบถึงความร้ายแรงของความสัมพันธ์นี้เลย เขาคิดว่าคนที่เชิญกูเฟยเยี่ยนมาคือจวินฮั่นหยิ่น เขาไม่ทราบว่าเป็อวิ้นกุ้ยเฟย
บัดนี้เขาก็มองไปที่จวินฮั่นหยิ่นเพื่อรอให้สหายเอ่ยออกมาเช่นกัน ภายในใจของเขายังคงตำหนิ ในเมื่อองค์ชายแปดเชิญนางมาแล้ว เหตุใดจึงไม่จัดเตรียมที่นั่งด้านหน้าไว้ให้ หากแพทย์หญิงน้อยนั่งด้านหลัง มันก็คงจะไม่สนุกสิ!
ด้วยเหตุนี้ตำหนักไท่จี๋ขนาดใหญ่จึงจมลึกอยู่ในความเงียบ
แต่ถึงอย่างไรจวินฮั่นหยิ่นก็เป็คนที่เคยพบคลื่นลมมาก่อน แม้เขาจะลนลานแต่ก็คิดหาวิธีการรับมือได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่อธิบายอะไรแล้วตำหนิขันทีที่อยู่ด้านข้าง “ทำงานอย่างไรกัน! ยังไม่รีบเพิ่มที่นั่งให้แพทย์หญิงกูอีก! ”
คำพูดนี้บังเอิญมาก
ให้คนเพิ่มที่นั่งโดยไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา ส่วนจะเพิ่มตรงไหนนั้นก็ให้ขันทีเป็คนคิด และสุดท้ายขันทีเพิ่มที่นั่งเข้าไปตรงไหนก็ไม่สามารถแสดงความหมายของเขาได้ทั้งหมด
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะเหยียดหยามจวินฮั่นหยิ่นมาก แต่ภายในใจก็มีความชื่นชม
ขันทีในพระราชวังล้วนเฉลียวฉลาด ต่อให้คาดเดาความคิดของเ้านายไม่ออก แต่ก็จะไม่ทำให้เื่ราวแย่ลง ไม่ช้าที่นั่งก็ถูกส่งมาเพิ่มตรงกลางระหว่างเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่น
เฉิงอี้เฟยค่อนข้างพอใจกับการดำเนินการเช่นนี้ ทางด้านของจวินฮั่นหยิ่นก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
กูเฟยเยี่ยนไม่กลั่นแกล้งจวินฮั่นหยิ่นต่อ นางโน้มกายแสดงความขอบคุณแล้วเข้าไปนั่งทันที
แม้ว่าจะบีบบังคับให้จวินฮั่นหยิ่นเผยร่างที่แท้จริงออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยท่าทีคลุมเครือของจวินฮั่นหยิ่นในวันนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนเกิดความสงสัยแล้ว กูเฟยเยี่ยนไม่เชื่อว่าเมื่อเื่นี้ไปถึงหูเทียนอู่ฮ่องเต้แล้วเทียนอู่ฮ่องเต้จะยังนั่งได้อีก!
อวิ้นกุ้ยเฟยทอดมองไปที่จวินฮั่นหยิ่นก่อนจะมองไปที่เฉิงอี้เฟย นางรู้สึกว่ามีความผิดปกติแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
วันนี้นางไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เป้าหมายของนางในวันนี้คือกูเฟยเยี่ยน!
ทันทีที่นางถ่ายทอดคำสั่ง เหล่านางข้าหลวงก็นำอาหารอันโอชะกับสุราชั้นดีที่จัดเตรียมไว้ขึ้นมา
เดิมทีเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน จวินฮั่นหยิ่นก็จะพูดน้อยอยู่แล้ว เมื่อบวกกับ่เวลาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ เขาจึงไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้ว หลังจากที่เขาไปคารวะสุรากับพี่น้องในราชวงศ์สองสามคนเขาก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป
ทว่าเฉิงอี้เฟยนั้นเหมือนกับคนที่ไร้จิตสำนึก เขาดีใจมากจนต้องขึ้นไปคารวะสุรากับจวินฮั่นหยิ่นหลายแก้ว สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่ใช้แก้วแต่ยกเหยือกสุราขึ้นมากระดกแทน!
“ดี! ท่านแม่ทัพเฉิงเป็ชายกล้าหาญอย่างที่คิดไว้จริงๆ ! ”
“มาๆ ท่านแม่ทัพเฉิง ข้าน้อยดื่มเป็เพื่อนท่าน! ”
“เหอะๆ เปิ่นหวงจื่อร่วมด้วย! ”
……
ไม่ช้าองค์ชายหลายท่านกับเหล่าทายาทตระกูลขุนนางก็ได้มาดื่มสุรากับเฉิงอี้เฟย แม้ว่าจวินฮั่นหยิ่นจะไม่พูดเยอะแต่ก็ร่วมด้วยจนถึงที่สุด
กูเฟยเยี่ยนอยากจะเตือนสติเฉิงอี้เฟยให้ค่อยเป็ค่อยไปเพราะเป็ห่วงกระเพาะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยออกมา นางไม่เข้าใจคนอย่างเฉิงอี้เฟยเลยจริงๆ สหายรักแย่งชิงผู้หญิงกับเขา แต่เขายังสามารถดื่มสุรากับสหายรักอย่างมีความสุขได้อีก หมอนี่ใจกว้างป่าเถื่อนหรือไร้สมองกันแน่!
กลุ่มคนด้านนี้กำลังเล่นสนุกสนาน อีกด้านหนึ่งองค์ชายใหญ่กับองค์หญิงหวายหนิงกลับไม่ทำตัวเป็จุดสนใจ
องค์หญิงหวายขลุกอยู่กับการรับประทานอาหาร ทางด้านขององค์ชายใหญ่มักจะปฏิเสธคนอื่นที่มาคารวะสุราราวกับไม่อยากจะดื่มนัก ในส่วนของอวิ้นกุ้ยเฟยนั้นแทบจะไม่แตะต้องสักหยด นางกำลังรับประทานอาหารอย่างไม่รีบร้อน
นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนระวังตัวจากพวกเขามาโดยตลอด ขณะที่นางกำลังระแวง จู่ๆ ก็มีคุณชายตระกูลขุนนางท่านหนึ่งนำสุราหนึ่งเหยือกมาไว้ตรงหน้านาง จากนั้นจึงลากเฉิงอี้เฟยมาแล้วพูดด้วยความเมาสะลึมสะลือ “ท่านแม่ทัพเฉิง ได้ยินมาว่าคนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลเฉิงนั้นอันดับแรกคือคอต้องแข็ง! เหอะๆ วันนี้พวกเราจะลองความสามารถในการดื่มสุราของแพทย์หญิงกูดูหน่อย! ”
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้นเว้นระยะห่างจากพวกเขาทันที นางไม่รังเกียจคนเมาแต่รังเกียจคนเมาที่กระทำตัวไม่ดีมากๆ !
แต่ใครจะไปทราบว่าเฉิงอี้เฟยที่เมาอ้อแอ้แล้วจะยื่นเหยือกสุรามาให้นาง “ดื่ม ไม่เมาไม่กลับ! ”