ตอนที่ฉินเทียนเชวี่ยเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ หลงอวี้ที่อยู่ภายในกลุ่มต้นไม้ก็สามารถก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นที่หกได้ในที่สุด!
พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นในพริบตา เพียงสะบัดมือก็มีพละกำลังมากถึงสามหมื่นสองพันชั่งอย่างน่าสะพรึงกลัว อีกทั้งวิชากายาพิชิตมารยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งมากขึ้นอีก ทำให้เขาแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือวิถียุทธ์ขั้นหกทั่วไป มีพละกำลังมากถึงสามหมื่นห้าพันชั่ง
หากกระตุ้นสัญลักษณ์ัปรภพขึ้นมาด้วย พละกำลังจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหมื่นชั่ง มีพละกำลังสูงสุดถึงสี่หมื่นห้าพันชั่ง
“ถ้าเป็เช่นนี้ ระยะห่างด้านพลังระหว่างฉินเทียนเชวี่ยน่าจะลดลงไม่น้อย แต่หากคิดจะต่อกรกับมัน คงไม่ง่ายดายขนาดนั้น...”
ตาของหลงอวี้สาดประกายเ็า ในตอนนั้นเอง นอกกลุ่มต้นไม้ก็มีเสียงดังขึ้นกะทันหัน
“ศิษย์พี่ฉิน ศิษย์พี่ฉิน ท่านเป็อย่างไรบ้าง ไม่เป็อะไรใช่ไหม?”
เป็หนึ่งในชายหนุ่มสามคนเมื่อครู่!
เ้าสามคนนั้นไล่ตามหลงอวี้ไปผิดทาง แน่นอนว่าหาเขาไม่เจอ แต่เพราะไม่อยากทิ้งโอกาสผูกมิตรกับฉินเทียนเชวี่ยไป จึงวิ่งกลับมา
“ข้าย่อมไม่เป็อะไรอยู่แล้ว”
เสียงพูดของฉินเทียนเชวี่ยห่างจากหลงอวี้ไปเพียงยี่สิบจ้าง นี่ก็ทำให้เขารู้ตำแหน่งของอีกฝ่าย
“ศิษย์น้องฉิน เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผู้ใดเป็คนชิงเน่ยตานไป?”
พอเห็นฉินเทียนเชวี่ยมีท่าทีเ็า อีกคนหนึ่งจึงหันไปพูดกับฉินหยงเอ๋อร์แทน
ฉินหยงเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นก็กระแทกเสียงเบาๆ
“พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ป่านี้มืดเกินไป ทั้งมันยังซ่อนตัวได้แเี พวกข้าเลยไม่ทันเห็นหน้าตามันชัดๆ รู้แค่ว่าเป็ลูกศิษย์ระดับล่างวิถียุทธ์ขั้นห้าเท่านั้น”
“ศิษย์พี่ฉินก็ไม่เห็นหรือ”
อีกคนที่เหลืออยู่ถามขึ้นด้วยความใ
ฉินเทียนเชวี่ยกระแทกเสียงเ็า ไม่ได้ตอบอะไร ดูท่าว่าจะยังไม่เห็นหน้าตาของหลงอวี้ชัดๆ
พวกมันย่อมไม่รู้ว่าเมื่อชาติที่แล้วหลงอวี้เคยทำงานอะไร มีหรือที่คนอย่างเขาจะเปิดเผยรูปลักษณ์ตัวเองให้เห็นง่ายๆ แถมที่นี่ยังเป็สถานที่ที่เหมาะกับการซ่อนตัวขนาดนี้!
“มันเป็ใครไม่สำคัญ ข้ารู้แค่ว่ามันชิงเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาของข้าไป”
ฉินหยงเอ๋อร์ตอบกลับอย่างเฉยชา
พอทั้งสามคนได้ยินก็รีบแสดงจุดยืนของตัวเอง
“มันบังอาจชิงเน่ยตานของศิษย์น้องฉินไปอย่างนั้นหรือ คงจะเบื่อชีวิตแล้วสินะ! หรือว่าาแที่ขาของศิษย์น้องฉินก็เป็ฝีมือมัน? คนผู้นี้บังอาจลงมือกับศิษย์ร่วมลัทธิรุนแรงเช่นนี้ ยกโทษไม่ได้เด็ดขาด!”
“พวกเ้ารู้ก็ดีแล้ว อีกเดี๋ยวพี่ชายข้าจะไปจัดการมัน พวกเ้าคอยเฝ้ามันไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้ เข้าใจไหม?”
ฉินหยงเอ๋อร์ออกคำสั่งราวกับคุณหนูใหญ่ก็ไม่ปาน
“ขอรับ!”
ทั้งสามตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง
ส่วนหลงอวี้ที่แอบอยู่ในใจก็ได้แต่หัวเราะเ็า นังผู้หญิงคนนี้ใช้คำพูดเปลี่ยนให้เขากลายเป็คนชั่วช้าละโมบโลภมาก จิตใจของนางช่างต่ำทรามเสียจริง!
ทั้งสามคนนี้ปากบอกจะล้อมฆ่าหลงอวี้ หารู้ไม่ว่าคนชั่วที่แท้จริงคือฉินหยงเอ๋อร์ต่างหาก!
ต่อให้พวกมันรู้ เกรงว่าก็คงไม่เปลี่ยนจุดยืนอยู่ดี เพราะฉินเทียนเชวี่ยเป็ถึงลูกศิษย์ระดับสูงของลัทธิสยบฟ้า การยืนอยู่ฝ่ายฉินเทียนเชวี่ยดูจะมีประโยชน์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ฉินเทียนเชวี่ยค่อยๆ ขยับเข้าใกล้กลุ่มต้นไม้ แม้จะเป็การเผชิญหน้ากับไอ้กระจอกที่มีวิถียุทธ์เพียงขั้นห้า เขาก็ไม่อวดดีถึงขั้นเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอยู่แล้ว
วินาทีต่อมา ฉินเทียนเชวี่ยก็หยุดฝีเท้า จากนั้นก็ซัดคมมีดวายุออกไปอย่างต่อเนื่อง
วายุปราณทะลวง!
ฉินเทียนเชวี่ยที่เป็ยอดฝีมือวิถียุทธ์ขั้นเจ็ด สามารถปล่อยลมปราณออกสู่นอกร่างกายได้ เขาย่อมไม่ลืมข้อได้เปรียบของตัวเองอยู่แล้ว พลันใช้วิทยายุทธ์จากระยะไกล คมมีดวายุสีเขียวเล่มแล้วเล่มเล่ากระหน่ำใส่กลุ่มต้นไม้นั่น!
เมื่อเผชิญหน้ากับคมมีดวายุอันแหลมคมเหล่านี้ หลงอวี้ไม่สามารถหลบในนี้ต่อไปได้อีก หลังจากที่หลงอวี้ปรากฏตัว ได้มีกิ่งไม้ใหญ่ของต้นไม้ั์โผล่ออกมาด้วย!
หลงอวี้ะโออกจากกลุ่มต้นไม้พร้อมกับถีบต้นไม้ั์ต้นหนึ่งจนหักโค่น จากนั้นใช้สองมืออุ้มต้นไม้ั์เอาไว้ก่อนจะโยนไปทางฉินเทียนเชวี่ยอย่างรุนแรง!
ด้วยพละกำลังมหาศาลสามหมื่นกว่าชั่งของหลงอวี้ การโยนต้นไม้ั์นับว่ายังเป็เื่ยากลำบาก หากต้นไม้ั์นี่กระแทกโดนตัวของฉินเทียเชวี่ยละก็ ต่อให้มีิวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดก็เกรงว่าต้องาเ็เหมือนกัน
“คิดตื้นๆ!”
หลงอวี้หัวเราะอย่างเ็า ใช้วิชาท่าร่างในพริบตาเงาร่างพลันฉากหลบต้นไม้ั์ได้อย่างรวดเร็ว
โครม!!!
เกิดเสียงดังสนั่น ต้นไม้ั์กระแทกพื้นอย่างรุนแรง!
เงาร่างของหลงอวี้พลันกลับไปปรากฏตัวด้านหลังฉินเทียนเชวี่ย
วายุก้าวพริบตา เพียงก้าวเดียวเคลื่อนตัวได้ไกลถึงสามจ้างในพริบตา!
หลงอวี้มาอยู่ด้านหลังของฉินเทียนเชวี่ย สัญลักษณ์ัปรภพถูกปลุกขึ้นมาทันที ลูกเตะที่รวบรวมพลังสี่หมื่นห้าพันชั่ง หวดใส่บริเวณเอวของฉินเทียนเชวี่ย!
หากไม่มีอะไรผิดพลาด ลูกเตะนี่น่าจะสามารถทำให้ฉินเทียนเชวี่ยาเ็ได้!
ฮูม!!!
กำแพงสีเขียวกึ่งโปร่งใสหนึ่งชั้นปรากฏขึ้นข้างกายของฉินเทียนเชวี่ยกะทันหัน มันต้านทานลูกเตะอันทรงพลังของหลงอวี้ไว้ได้
“นี่มัน?”
หลงอวี้หน้าถอดสี เขามั่นใจว่าฉินเทียนเชวี่ยไม่มีทางรู้ทันลูกเตะนี้แน่ มันสร้างกำแพงสีเขียวนี่ขึ้นมาป้องกันไว้ได้อย่างไร?
เป็วิทยายุทธ์ประเภทป้องกันหรือ?
“นี่คือวิชาท่าร่างของตระกูลฉิน ท่าร่างวสันตวายุ หลังจากบรรลุสำเร็จถึงขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อออกกระบวนท่าจะสร้างกำแพงแห่งวสันตวายุขึ้นเอง!”
ฉินหยงเอ๋อร์หัวเราะเ็าอยู่ด้านข้าง
“ด้วยพลังของเ้า อย่าหวังเลยว่าจะเจาะทะลุกำแพงวสันตวายุไปทำอันตรายพี่ชายข้าได้แม้แต่ปลายเล็บ!”
หลังจากพูดจบ ฉินเทียนเชวี่ยก็ะโอย่างดุร้าย ชกหมัดข้างหนึ่งใส่หลงอวี้อย่างรุนแรง!
“ลมปราณ ปกคลุม!”
หลงอวี้รีบโคจรรลมปราณปกคลุมแขนขวาของตัวเอง แต่ถูกหมัดของฉินเทียนเชวี่ยชกใส่จนกระเด็น
หลงอวี้ล่วงลงกระแทกพื้น ััได้ถึงความเ็ปจากแขนของตัวเองจนต้องกัดฟันแน่น
โชคดีตอนที่เขาใช้ท่าวายุก้าวพริบตาเมื่อครู่ เขาได้บรรลุวิชาท่าร่างขึ้นอีกระดับ หลังผ่านไปครึ่งเดือน วิชาท่าร่างของเขาวิชานี้ก็ส่อแววบรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว
พอเห็นหลงอวี้นอนกัดฟันด้วยความเ็ปบนพื้น ฉินเทียนเชวี่ยที่ยืนอย่างยโสโอหังอยู่ ได้เผยแววตาดูถูกอย่างรุนแรง
“ไอ้เวรนี่ ต่อให้เ้าจะก้าวสู่วิถียุทธ์ขั้นหกได้ก็ไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของข้าได้อยู่ดี ระหว่างวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดกับเ้า มันห่างชั้นกันราวฟ้ากับเหว!”
ฉินเทียนเชวี่ยก้าวเท้าเข้าใกล้หลงอวี้ทีละก้าว เตรียมจะลงมือเผด็จศึก
“คนผู้นี้มันชั่วช้าต่ำทราม บังอาจแย่งชิงเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาไปจากน้องสาวข้า ทั้งยังทำร้ายน้องข้าจนาเ็ที่ขา แถมตอนนี้ยังใช้เน่ยตานโดยพลการ ยกระดับพลังตัวเองขึ้นเป็ขั้นหกอีกด้วย”
ฉินเทียนเชวี่ยพูดอย่างเรียบเฉย
“พวกเ้าว่า ข้าควรจัดการกับมันอย่างไรดี?”
ฉินหยงเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร อีกสามคนที่เหลือจึงรีบะโออกไป
“คนผู้นี้ต่ำช้า ไร้ยางอาย ลัทธิสยบฟ้าจะปล่อยให้มีคนอย่างมันอยู่ได้อย่างไร? ศิษย์พี่ฉิน ท่านต้องฆ่ามันเพื่อชำระล้างลัทธิ!”
“ชำระล้างหรือ พูดได้ดี”
ดวงตาของฉินหยงเอ๋อร์ราวกับจะพ่นไฟออกมาก็ไม่ปาน
เน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาหนึ่งชิ้น กลับถูกเ้าหมอนั่นใช้ไปแล้ว ช่างสิ้นเปลืองเสียจริง ไม่ใช่อย่างนั้นละก็ นางคงยกระดับขึ้นเป็ขั้นหกและได้เข้าป่าโสมโบราณของราชวงศ์ในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า
“ทั้งหมดนี้ต้องโทษเ้าหมอนั่น พี่ชาย ท่านต้องชำระล้างมลทินของลัทธินะ!”
ฉินหยงเอ๋อร์กัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้น ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าถ้าไม่ได้หลงอวี้ช่วยไว้ก่อนหน้านี้ นางคงกลายเป็อาหารของราชันอสรพิษเวหาไปแล้ว
“ย่อมต้องเป็เช่นนั้น”
ฉินเทียนเชวี่ยเชิดอกพูดอย่างจองหอง ราวกับเป็เทพแห่งความตายในรัตติกาลก็ไม่ปาน ก้าวเท้ามาอยู่ใกล้หลงอวี้
“วายุก้าวพริบตาขั้นสูงของเ้า ใช้ได้แค่ก้าวเดียวในเวลาสั้นๆ เท่านั้น ดูซิว่าเ้ายังจะหนีไปไหนได้อีก?”
“ถ้าจะฆ่าก็ลงมือเลย”
หลงอวี้ที่ล้มอยู่บนพื้นดูเหมือนจะทุ่มทุกอย่างออกไปแล้ว!
“เช่นนั้น ข้าจะสงเคราะห์ให้”
ฉินเทียนเชวี่ยหัวเราะลั่น ยกขาข้างหนึ่งขึ้นด้วยท่าทางของผู้ชนะ ก่อนจะกระทืบลงไปที่หลงอวี้อย่างรุนแรง!
ฝ่าเท้านี้แฝงพละกำลังกว่าหกหมื่นสี่พันชั่งของวิถียุทธ์ขั้นเจ็ด ถึงขั้นสร้างเสียงลมพัดขึ้นได้ หากกระทืบโดน จะต้องเหยียบหลงอวี้จนเละในเท้าเดียวแน่
ส่วนหลงอวี้ในตอนนี้ ถูกฉินเทียนเชวี่ยชกจนกระดูกร้าวไม่มีโอกาสหลบแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็ฉินหยงเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้ๆ หรือลูกศิษย์ระดับล่างสามคนนั้น ไม่มีใครออกปากห้ามแม้แต่คนเดียว
ในสายตาของพวกมัน หลงอวี้มีค่าน้อยกว่าผลประโยชน์อยู่แล้ว สมควรตาย!
ฉินหยงเอ๋อร์ถึงกับเผยแววตาคาดหวัง เ้าหมอนี่บังอาจใช้เน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาโดยพลการ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่มันต้องชดใช้แล้ว
“ตายซะเถอะ!”
ฉินเทียนเชวี่ยแผดเสียงอย่างดุร้าย กระทืบเท้าด้วยพละกำลังมหาศาล!
เปรี้ยง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นควันลอยฟุ้ง หลงอวี้ที่เคยอยู่ใต้เท้าเขากลับกลายเป็เพียงภาพติดตาสายหนึ่ง ค่อยๆ เลือนหายไปท่ามกลางสายลม!
“อะไรน่ะ?”
ฉินเทียนเชวี่ยชะงักอยู่กับที่อย่างงุนงง เป็ไปได้อย่างไร เ้านี่กลายเป็ภาพติดตาไปได้อย่างไร?
ไม่ใช่แค่ฉินเทียนเชวี่ย แม้แต่ฉินหยงเอ๋อร์และอีกสามคนที่เหลือก็ตะลึงงัน เ้าหมอนั่นหนีไปไหนแล้ว?
พวกเขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นหลงอวี้แม้แต่เงา อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ฉินเทียนเชวี่ยก็ััได้ถึงเสียงลมดังขึ้นเหนือหัวตัวเอง จึงรีบเงยหน้าดู เห็นเพียงรองเท้าคู่หนึ่งที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องกำลังตกลงมา
“คนที่สมควรตายน่ะ มันเ้าต่างหาก!”
หลงอวี้ร่วงลงมาจากฟ้า!
เกิดเสียงดังสนั่น หลงอวี้เหยียบหัวของฉินเทียนเชวี่ยที่ไร้การป้องกัน พละกำลังที่แฝงอยู่ในลูกถีบนี้มีมากกว่าขีดจำกัดของหลงอวี้แน่นอน!
ตูม!!!
ฉินเทียนเชวี่ยไม่อาจตอบโต้อะไรได้ ถูกลูกถีบของหลงอวี้ปะทะร่างจนล้มลงคอของเขาถูกพละกำลังมหาศาลบิดจนหัก ตายอย่างไม่รู้ตัว!
ที่แท้ ในจังหวะชี้เป็ชี้ตายเมื่อครู่นี้ หลงอวี้รู้สึกว่าวิชาวายุก้าวพริบตาได้บรรลุถึงขั้นสูงสุดไปแล้ว วิชาวายุก้าวพริบตาขั้นสูงสุดจะสามารถสร้างภาพติดตาทิ้งไว้ที่เดิมได้ จากนั้นสามารถก้าวพริบตาต่อเนื่องได้ถึงสามก้าว เคลื่อนตัวได้ไกลนับสิบจ้างในพริบตา
ตอนที่ฉินเทียนเชวี่ยกำลังจะกระทืบเท้าเผด็จศึกเมื่อครู่ หลงอวี้ได้ใช้วายุก้าวพริบตาออกมากะทันหัน สร้างภาพติดตาสายหนึ่งทิ้งไว้ที่เดิม จากนั้นได้ก้าวออกไปสามก้าว ขึ้นไปอยู่เหนือหัวของฉินเทียนเชวี่ยสูงถึงสิบจ้าง
พละกำลังมหาศาลของหลงอวี้นั้น เมื่อตกลงจากที่สูงก็ยิ่งหนักหน่วงรุนแรงจนเหยียบฉินเทียนเชวี่ยตายได้ในครั้งเดียว!
กำแพงวสันตวายุเมื่อครู่นี้ ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาอีก น่าจะปรากฏเฉพาะตอนที่ใช้วิชาท่าร่างเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับการลอบโจมตีของหลงอวี้เช่นนี้ ฉินเทียนเชวี่ยก็ไม่มีโอกาสตอบโต้แม้แต่น้อย
เพียงแต่ ตอนที่ฉินเทียนเชวี่ยถูกฆ่าตายจนล้มลงกับพื้น หลงอวี้เองก็ล้มลงไปด้วย แม้ลูกถีบเมื่อครู่นี้จะสามารถถีบฉินเทียนเชวี่ยจนตายได้ในเท้าเดียว แต่แรงสะท้อนก็รุนแรงมากเช่นกัน ทำให้ขาข้างนั้นของเขาหักอีกครั้ง!
แน่นอนว่า ถ้าเทียบกับชีวิตแล้ว ขาหักแค่ข้างเดียวย่อมไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร
หลังจากฉินเทียนเชวี่ยผู้หยิ่งยโสล้มลงไป ทั้งสี่คนที่ยืนดูอยู่รอบข้างต่างอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
ฉินเทียนเชวี่ย ลูกศิษย์ระดับสูงของลัทธิที่มีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด กลับถูกไอ้กระจอกที่เพิ่งก้าวสู่วรยุทธ์ขั้นหกฆ่าตายง่ายๆ แบบนี้?
“พี่ชาย!”
ฉินหยงเอ๋อร์ตะลึงงันไป พี่ชายของนาง พี่ชายผู้เป็ยอดฝีมือั้แ่เล็กจนโต กลับมาตายง่ายๆ แบบนี้?
หลงอวี้ฝืนทนต่อความเ็ป ลุกขึ้นยืนมองไปทางฉินหยงเอ๋อร์แวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพียงก้มลงไปค้นหายุทธภัณฑ์บนตัวของอีกฝ่าย
ตราวายุปราณ ได้มาแล้ว!
“ศิษย์น้องฉิน คนผู้นี้โเี้อำมหิต บังอาจฆ่าพี่ชายของเ้า พวกเราต้องฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้ศิษย์พี่!”
ในตอนนั้นเอง หนึ่งในสามคนนั้นก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ในแววตาเผยความละโมบอย่างปิดไม่มิด!
หากร่วมมือกับฉินหยงเอ๋อร์ฆ่าหลงอวี้ที่าเ็สาหัสตอนนี้ พวกเขาก็จะสามารถชิงยุทธภัณฑ์ ตราวายุปราณมาได้ ต้องบอกให้รู้ว่ายุทธภัณฑ์นั้น ลูกศิษย์ระดับสูงเท่านั้นถึงจะมี สำหรับลูกศิษย์ระดับล่างแล้วมันล้ำค่าราวกับสุดยอดสมบัติก็ว่าได้!