เสียงแจ้งเตือนทำให้เย่เทียนเซี่ยมีความรู้สึกงุนงง ถ้าคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว........... ทำไมระบบถึงจงใจแจ้งเตือนว่าเขาสามารถจัดการิญญานักรบได้ 100 ตัวแล้ว.........หรือว่าหลังจากที่ฆ่าไป 100 ตัวจะมีิญญาประเภทอื่นปรากฏขึ้นมา หรือมันจะเป็องค์ประกอบในการปรากฏภารกิจอื่น ?
การคาดเดาของเย่เทียนเซี่ยไม่ได้เกิดขึ้นจริงเพราะมันตามมาด้วยเสียงดังสนั่นที่น่าใและแรงสั่นะเืรอบๆซากหมื่นกระดูก และแล้วิญญานักรบจำนวนมหาศาลก็ปรากฏขึ้นมาในกรอบสายตาของเย่เทียนเซี่ย ิญญานักรบที่เต็มไปด้วยความโกรธและไอแห่งความตายอันหนักหน่วงพุ่งเข้ามาหาเย่เทียนเซี่ยด้วยความรวดเร็ว........ แต่ครั้งนี้จำนวนของพวกมันเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าอย่างเห็นได้ชัด....... ดูไปแล้วมันน่าจะมีสักร้อยกว่าตัวได้
ไม่จบไม่สิ้นสักที............. เย่เทียนเซี่ยกัดฟันแน่น เขามองไปยังเหล่าิญญาที่อยู่ห่างออกไปรอบๆโดยมีเขายืนอยู่ที่จุดศูนย์กลาง การล้อมกรอบของมอนสเตอร์ร้อยกว่าตัว......... นี่สามารถพูดได้ว่าหลังจากที่เขาเข้ามาใน World of Fate แล้วนี่คือครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่มากกว่าร้อยตัว ถ้านี่เป็มอนสเตอร์เลเวล 25 หนึ่งกลุ่มเย่เทียนเซี่ยคงต้องปวดหัวอยู่นาน แต่มอนสเตอร์เลเวล 20 ร้อยตัวเขากลับสามารถเผชิญหน้ากับมันได้อย่างสบายๆ เพราะแม้ว่าจะมีความต่างกันถึง 5 เลเวล แต่เขาสามารถฆ่ามันได้ภายในเสี้ยววินาที ทว่าอีกประเภทนั้นเขากลับทำไม่ได้
แผนเก่าถูกนำมาใช้อีกครั้ง พวกเขารอให้ิญญานักรบเข้ามาใกล้ก่อนจะโจมตีมันด้วยทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาเป็วงกว้างภายในเสี้ยววินาที และเมื่อกลุ่มใหม่เข้ามาใกล้อีกครั้งปราการิญญาทมิฬสีแดงสดก็ถูกเปิดใช้งานโดยมีร่างของเหยาเหยาเป็จุดศูนย์กลางทำให้เหล่าิญญานักรบที่เข้ามาใกล้ทั้งหมดถูกผลักกระเด็นออกไปก่อนจะกลืนกินพลังชีวิตของพวกมันไปอย่างไร้ความปราณี
ิญญานักรบไม่มีสติรับรู้ที่แท้จริง พวกมันถูกผลักดันด้วยสติรับรู้ของคนตายที่มีเพียงความคิดที่จะต่อสู้และปกป้องทำให้พวกมันโจมตีเข้าใส่ผู้บุกรุกไม่หยุดและฆ่าพวกเขาให้สิ้นซาก ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับทักษะต่อต้านอย่างปราการแห่งการชำระแค้นที่มีพลังทำลายล้างอันแข็งแกร่งพวกมันจึงยังคงพุ่งเข้ามาด้านอย่างอยางไม่หยุดหย่อน.......... และด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของมัน หลังจากที่ถูกผลักออกไปมันจึงไม่สามารถพุ่งเข้ามาถึงตัวเย่เทียนเซี่ยได้ก่อนที่ปราการแห่งการชะรำแค้นจะกระพริบขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นพวกมันจึงได้แต่ถูกผลักออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วค่อยๆทรุดลงไปทีละตัวๆ ส่วนตัวที่ถูกผลักกระเด็นไปด้านหลังก็จะพุ่งเข้ามาด้านหน้าอีกทันที.............
วันนี้เย่เทียนเซี่ยได้เรียนรู้ความสามารถอันน่ากลัวอีกอย่างของเหยาเหยาอีกครั้งแล้ว............ มันคือพลังอันแข็งแกร่งที่สามารถกำจัดมอนสเตอร์ิญญาได้ภายในเสี้ยววินาที แต่ตอนนี้เสี่ยวเป้ยที่มีคุณสมบัติอันสุดยอดกลับทำได้เพียงยืนอยู่บนหลังม้าอย่างหมดคำพูดแล้วจ้องมองไปที่ศัตรูที่ทรุดลงไปตัวแล้วตัวเล่าโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงมือเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เวลาในการแสดงผลอย่างต่อเนื่องของทักษะปราการแห่งการชำระแค้นคือ 20 วินาที หลังจากที่ปราการสีแดงกระพริบไปได้ 15 ครั้งภายใต้การพุ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิตของิญญานักรบ ิญญานักรบตัวสุดท้ายก็ถูกผลักกระเด็นออกไปนอกปราการแห่งการชำระแค้นก่อนเกราะเก่าๆนั่นจะแตกกระจายแล้วร่วงลงไปบนพื้น
“ติ๊ง! ท่านสังหาร ‘ิญญานักรบ’ 200 ตัวสำเร็จแล้ว.....”
เสียงแจ้งเตือนจำนวนิญญานักรบดังขึ้นมาอีกครั้ง เย่เทียนเซี่ยครุ่นคิดเงียบๆได้ไม่ถึง 5 วินาทีพื้นที่ห่างออกไปก็เริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง แล้วิญญานักรบจำนวนมากก็ปรากฏกายขึ้นรอบตัวเย่เทียนเซี่ย พวกมันค่อยๆเดินเรียงแถวเข้ามาทีละก้าวๆ พวกมันเดินเข้ามาหาเป้าหมายด้วยร่างโปร่งใสที่น่าสะพรึง และเป้าหมายที่ว่านั่นก็คือเย่เทียนเซี่ยที่มีตัวคนเดียว
นับด้วยตาแล้วน่าจะราวๆสองร้อยกว่าตัวได้!
สองร้อยตัว........... ในที่สุดเย่เทียนเซี่ยก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันขึ้นมานิดหน่อย ด้วยพลังโดยรวมของเขาหาก้าจะเอาชนะิญญานักรบทั้งหมด 200 ตัวโดยไม่ได้รับาเ็ใดๆ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการฝ่าวงล้อมออกไปโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็ทำการล้อมโจมตีแล้วทำลายพวกมันทีไปละตัวๆ วิธีที่ใช้มาก่อนหน้านี้แม้ว่าจะรวดเร็วมาก แต่ถ้าถูกล้อมเอาไว้คงจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า
เย่เทียนเซี่ยลังเลอยู่สักพักแต่เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน เขายังคงรอคอยให้พวกมันเข้ามาใกล้อย่างเงียบงัน ถ้าเป็เหมือนกับก่อนหน้านี้เวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือตอนที่เหยาเหยาปลดปล่อยทักษะเยียวยาิญญาทมิฬ.........
แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นมา ิญญานักรบสามสิบกว่าตัวแตกสลายกลายเป็เศษซากไปรวมกันในซากหมื่นกระดูกอีกครั้ง และเย่เทียนเซี่ยก็ตัดสินใจขยับกายในตอนนั้นเอง ร่างของเขาพุ่งตรงไปด้านหน้า เมื่อกลุ่มิญญานักรบขยับเข้ามาใกล้เขาก็เรียกเก็บเหยาเหยา เสี่ยวเป้ย และม้าเหงื่อโลหิตก่อนจะปลดปล่อยเงาัสะบั้นออกไป ร่างของเขากลายเป็เงาสายฟ้าเจาะผ่านกำแพงของเหล่าิญญานับรบที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นออกไปได้ ขณะที่เขาเคลื่อนตัวผ่านไปเขาก็สร้างตัวเลขความเสียหายสีแดงตามทางที่เขาเคลื่อนผ่านไปด้วย เมื่อร่างของเขายืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้งเขาก็หันกลับมาด้วยความรวกเร็วแล้วกระชับห้วงเวลาแห่งโชคชะตาสีดำในมือแน่นก่อนจะตวัดมันออกไปเป็วงกลมสีดำที่ครอบคลุมบริเวณกว้างสองครั้งสังหาริญญานักรบทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเขาจนเกลี้ยง
แม้ว่าเสี่ยวเป้ยจะมีความสามารถในการโจมตีที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการสู้ตัวต่อตัวที่น่ากลัว แต่รูปแบบการโจมตีของมันก็ชี้ชัดแล้วว่ามันไม่เหมาะกับการต่อสู้แบบกลุ่ม แม้ว่าก้าวย่างแมวเหมียวจะลึกลับเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง แต่ภายในวงล้อมของศัตรูที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นทักษะโจมตีและหลบหลีกทั้งหมดก็ดูเหมือนจะใช้ออกมาได้ยากยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของมันเย่เทียนเซี่ยจึงต้องเก็บเสี่ยวเป้ยและเหยาเหยากลับไปพร้อมๆกัน.............. และสิ่งที่เขาอยากทำก็คือการกำจัดิญญานักรบเลเวล 20 กว่าสองร้อยตัวไปให้หมดด้วยตัวเพียงคนเดียว
ในความเป็จริงแล้วด้วยพลังชีวิตและพลังโจมตีของเขาในปัจจุบัน ภารกิจนี้ก็ไม่ใช่ภารกิจที่ยากเย็นอะไรเลย
เย่เทียนเซี่ยไม่ได้พุ่งเข้าไปด้านหน้าอีกครั้งแต่เขายังคงถอยหลังลงไปด้วยความเร็วที่เหมาะสม แม้ว่าศัตรูจะมีจำนวนมาก แต่มันก็มีเพียงความคิดที่จะปกป้องและโจมตีเท่านั้น การไม่มีสติปัญญาถือเป็จุดอ่อนร้ายแรงของพวกมัน พวกมันที่รู้จักเพียงการโจมตีสามารถถูกเย่เทียนเซี่ยกำจัดไปได้โดยง่าย ความเร็วในการเคลื่อนที่ของิญญานักรบอยู่ในระดับเดียวกันกับเย่เทียนเซี่ย แต่หลังจากเย่เทียนเซี่ยขึ้นขี่ม้าเหงื่อโลหิตพวกมันก็ถูกเย่เทียนเซี่ยจูงจมูกไปโดยสมบูรณ์ เขาถอยหลังสามก้าวแล้วหมุนตัวโจมตีออกไป การโจมตีนั้นจัดการพวกมันได้จำนวนหนึ่ง เมื่อศัตรูเข้ามาใกล้มากขึ้นอีกครั้งเขาก็ถอยออกไป่เล็กๆแล้วโจมตีออกไปอีกครั้ง
เขาทำอย่างนั้นซ้ำๆ หลังจากหนึ่งนาทีผ่านไปิญญานักรบสามสิบตัวก็ถูกเขาฆ่าตายไปจนหมด เย่เทียนเซี่ยมองิญญานักรบที่ไล่ตามเข้ามาด้านหน้าอย่างหดหู่ และเมื่อคิดถึงตอนที่เหยาเหยาจัดการิญญานักรบทั้งกลุ่มได้ภายในเสี้ยววินาทีอย่างสบายๆ ในใจของเขาก็ก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจต่อทักษะโจมตีแบบกลุ่มของตัวเองมากขึ้นอีกหลายส่วน เขาเรียกเหยาเหยาออกมา เย่เทียนเซี่ยไม่ถอยอีกต่อไปแต่เขากลับพุ่งตัวเข้าไปในกลุ่มิญญานักรบ
ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาถูกปลดปล่อยออกมาและทำการกวาดล้างออกไปเป็วงกว้างกว่าสิบเมตรและตามมาด้วยการโบกสะบัดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาของเย่เทียนเซี่ย เขาหยิบยืมความเร็วของม้าเหงื่อโลหิตในการพุ่งไปทางซ้ายทีขวาทีในกลุ่มศัตรู มันเป็การขี่ม้าที่ดีมากๆ........... แต่จริงๆแล้วเขากลับทำการโจมตีออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าความเร็วในการสังหาริญญานักรบกลับยังเทียบไม่ได้กับทักษะเยียวยาิญญาทมิฬที่ปลดปล่อยออกมาทุกๆ 5 วินาที
ทักษะของเหยาเหยาไม่จำเป็ต้องเข้าใกล้เป้าหมายเพื่อทำการปลดปล่อย มันเพียงแค่ยืนอยู่บนหลังม้าแล้วถูกเย่เทียนเซี่ยปกป้องไว้อย่างดีอยู่ตรงหน้าอกของเขา และภายใต้การตัดสินใจและการเคลื่อนที่อันน่าตกตะลึงของเย่เทียนเซี่ยก็ทำให้พวกเขาไม่ได้รับความเสียหายจากิญญานักรบเลยแม้แต่น้อย
“ติ๊ง! ‘เสี่ยวเป้ย’ สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 7 .....................”
“ติ๊ง! ท่านสังหาร ‘ิญญานักรบ’ 300 ตัวสำเร็จแล้ว.....”
ครึ่งนาทีผ่านไป...............
“ติ๊ง! ท่านสังหาร ‘ิญญานักรบ’ 400 ตัวสำเร็จแล้ว.....”
เป็อีกครั้งที่เขาจัดการิญญานักรบไร้ค่าพวกนี้ไปจนหมด ภายใต้ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬของเหยาเหยาบวกกับิญญานักรบที่พุ่งเข้ามาใกล้เขาอย่างสุดกำลังโดยไม่เคยรู้จักคำว่ากระจายตัวทำให้เย่เทียนเซี่ยสามารถเอาชนะิญญานักรบสองร้อยตัวนี้ไปได้โดยใช้เวลาสั้นๆไม่ถึงสามนาทีเท่านั้นเอง
ไม่ต้องพูดถึงทีมผู้เล่ยเลเวล 20 จำนวน 12 คนเลย แม้แต่ผู้เล่นเลเวล 30 จำนวน 12 คนและยังเป็ทีมที่มีอาชีพนักบวชทั้งหมด หากมาเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ก็คงไม่สามารถจัดการศัตรูได้ด้วยความเร็วอันน่าตื่นตะลึงเช่นนี้
“ติ๊ง! ท่านสังหาริญญานักรบ 400 ตัวได้ภายในเวลา 5 นาที ปลดล็อคภารกิจลับของภารกิจ ‘กระดูกเทพา’ .......... ความโกรธของิญญาผู้พิทักษ์!”
เมื่อเสียงแจ้งเตือนจบลงความกดดันมหาศาลก็พุ่งขึ้นมาจากทั่วทุกทิศทาง.......... มันคือกลิ่นคาวเืที่มีเฉพาะในสนามรบที่เต็มไปด้วยเืเท่านั้นถึงจะมีได้ แรงกดดันนี้ทำให้ลมหายใจของเย่เทียนเซี่ยสะดุดลงและหายใจได้อย่างยากลำบากขึ้นมาทันที
กลิ่นเหม็นเน่าที่ยากจะรับได้ดูเหมือนจะเบาบางลง ราวกับแม้แต่กลิ่นอายที่มาจากซากหมื่นกระดูกก็ล้วนถูกกลิ่นอายนี้กดลงไปจนสิ้น
เกราะและอาวุธเก่าๆลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างช้าๆราวกับกำลังเต้นรำสลับไปสลับมา เกราะและอาวุธที่ลอยขึ้นมาทำให้บนพื้นด้านล่างเหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น............ มันมีทั้งโครงกระดูกที่สมบูรณ์และแตกหักกระจายอยู่ในนั้นเต็มไปหมด
ในหัวของเย่เทียนเซี่ยเริ่มมึนงงขึ้นมา............... ยังคงเป็ิญญาของนักรบ
และยังลอยตัวขึ้นมามากมายมหาศาลจนกลายเป็คลื่นสีดำ!
เมื่อไม่มีเกราะและอาวุธชิ้นใหม่ลอยขึ้นมาอีกแล้ว เกราะและอาวุธเก่าๆที่ไม่รู้ว่านอนนิ่งอยู่ที่นี่มานานกี่ปีแล้วก็ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาเป็กลุ่มทหารแบบพิเศษ......... หรือจะพูดว่ามันคือกองทัพกองหนึ่งเลยก็ว่าได้
กองทัพทหารกว่าพันคน!
กองทัพกว่าพันคนโอบล้อมเข้ามาเป็วงกลมอย่างหนาแน่น โดยที่ใจกลางของวงกลมมีเพียงแค่เย่เทียนเซี่ยที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างโดดเดี่ยว
“ติ๊ง! เนื่องจากท่านได้สังหาริญญานักรบ 400 ตัวต่อเนื่องภายในเวลา 5 นาที ทำให้ดึงดูความโกรธแค้นของิญญาอันเงียบงันทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียง ปณิธานแห่งการต่อสู้และปกป้องที่ยังไม่ตายจากไปทำให้พวกมันตื่นขึ้นมา สิ่งที่ท่านต้องเผชิญก็คือการต่อสู้ร่วมกันของิญญานักรบกว่าหนึ่งพันนาย ขอให้ท่านโชคดี”
“..............” เย่เทียนเซี่ย
คนเดียวต่อสู้กับทหารหนึ่งพัน และเป้าหมายในการโจมตีก็ยังเป็ตัวเขาเองด้วย ความรู้สึกนี้ทำให้เย่เทียนเซี่ยหัวใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ในที่สุดกองทัพพันคนก็เดินหน้าเข้ามาหาเขาทีละก้าวๆจนแผ่นดินสั่นถึงกับะเื
ในสุสานเทพ์ เพราะเขาจัดการิญญาหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเทพ์รวดเร็วเกินไปถึงได้ไปปลดล็อคภารกิจลับที่ทำให้สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ทั้งหมดฟื้นคืนชีพขึ้นมา ทำให้ความยากของ “โบราณวัตถุแห่งาาทหารรับจ้าง” ยากขึ้นมาอีกหลายเท่า และครั้งนี้เพราะเขาจัดการิญญานักรบรวดเร็วเกินไป เขาถึงได้ไปปลดล็อคภารกิจลับอันน่ากลัวเข้าอีกแล้ว
ถ้าเป็ทีมผู้เล่นธรรมดา 12 คน เมื่อเผชิญกับศัตรูจำนวนมากขนาดนี้คงจะรู้สึกช็อคและสิ้นหวังไปแล้ว บางทีตอนนั้นก่อนที่จะเหยียบย่างเข้าไปในขอบเขตความเกลียดชังของพวกมัน การใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมืองหนีไปทันทีน่าจะเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว
แต่ว่าถ้าเย่เทียนเซี่ยเลือกที่จะหนีไป เขาก็คงไม่ใช่เย่เทียนเซี่ยแล้วล่ะ
เย่เทียนเซี่ยถอนหายใจยาว ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆครั้งหนึ่งแล้วคำนวณเวลาที่พวกมันจะเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็ก้มหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆ “เหยาเหยา ต้องพึ่งเธอแล้วล่ะ......... ปลดปล่อยทุกอย่างของเธอออกมาให้หมดไม่ต้องกั๊กเลย! มีเธออยู่พวกเราชนะได้แน่ แล้วยังเป็ชัยชนะที่สบายๆด้วย!”
เหยาเหยาเงยหน้าขึ้นมาแล้วใช้ดวงตาเหมือนคริสตัลสีขาวจ้องมองไปที่เย่เทียนเซี่ยก่อนที่มันจะพยักหน้าเบาๆ