หวังอิ่งกอดแขนซุนเย่และเดินออกไปจากล็อบบี้ของแผนกการขายพร้อมกับเชิดหัวขึ้น“ที่รัก เราโดนต้มไปแปดล้านหยวน! ทำไมคุณต้องซึ้งใจจนร้องไห้ด้วย? อย่าบอกนะว่าพวกนั้นทำให้คุณสับสนไปหมดแล้ว?”
ซุนเย่ผลักหวังอิ่งไปทุกครั้งที่พวกเขาไปหวงเจียกรุ๊ปและเห็นความสวยที่ไม่ธรรมดาของหลี่อวี่เฉินเขารู้สึกอยากจะอ้วกเมื่อเขากลับไปมองหวังอิ่งในอ้อมแขนหลังจากนั้นเขาคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด “ที่ฉันร้องไห้เพราะปวดใจโว้ย”
“ฉินเฟิง รอก่อนเถอะไอ้เด็กเปรต กล้าดีอย่างไรมาโกงฉัน? ระวังตัวไว้เถอะ”
“ฉินเฟิง ผมตัดสินคุณไม่ผิดจริงๆ ถ้าพนักงานขายทุกคนมีความสามารถอย่างคุณความสำเร็จของหวงเจียกรุ๊ปคงจะเพิ่มขึ้นเป็สองเท่าในปีนี้แน่ๆ”หลังจากที่ซุนเย่และหวังอิ่งออกไป มันก็ได้เวลาที่หวังจุนจะเลียขาฉินเฟิง
“ซูเปอร์ไวเซอร์หลี่ คุณก็เห็นความสามารถของฉินเฟิงเมื่อกี้แล้วต่อไปคุณต้องอบรมเขาให้ดีในแผนกการขาย อย่าให้พร์อย่างนี้ต้องสูญเปล่า แล้วก็เราจะให้เครดิตฉินเฟิงสำหรับคฤหาสน์หลังสี่เขตสี่ของตำหนักฮั่วเมืองหยุนคุณไม่มีความเห็นอื่นใช่ไหม?”
“ไม่มีค่ะ” เมื่อหวังจุนพูดขึ้นมา หลี่อวี่เฉินจะกล้ามีความเห็นได้อย่างไร?
แถมเนื่องจากการกระทำของฉินเฟิงในที่สุดเธอก็ข่มหวังอิ่งได้ครั้งหนึ่ง หลี่อวี่เฉินอารมณ์ดีมากเธอแม้แต่มองฉินเฟิงด้วยท่าทีอ่อนโยนซึ่งค่อนข้างจะตรงข้ามกับสายตาเ็าที่คมเหมือนมีดที่เธอชอบส่งให้เขา
“โอเค งั้นผมขอตัวกลับไปดูแลธุระของผมต่อแล้วกัน”หวังจุนรีบออกจากห้องของหลี่อวี่เฉินทันทีเมื่อเขาเห็นสายตาระคายเคืองของฉินเฟิง
เขารู้ว่านายน้อยฉินกำลังจะเริ่มเกี้ยวหญิงอีกแล้ว!
“หัวหน้าหลี่ รีบใส่ถุงน่องที่ผมให้คุณสิ ผมอยากเห็นว่ามันพอดีหรือเปล่า”ฉินเฟิงรู้ว่าหุ่นและความสูงของหานอิ๋งอิ๋งกับหลี่อวี่เฉินนั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกันดังนั้นถุงน่องก็ควรจะพอดี แต่เขาอยากจะเห็นด้วยตาตัวเอง
หลี่อวี่เฉินที่เพิ่งอารมณ์ดีก็กลับมาเ็าอีกครั้ง“ฉินเฟิง ออกไปได้แล้ว”
“โอ้ หัวหน้าหลี่อายงั้นเหรอ? ผมไปข้างนอกก็ได้แต่ถ้าใส่เสร็จแล้วก็บอกให้ผมรู้ด้วยนะ!”
หลี่อวี่เฉินเม้มปากแน่นเธอจ้องฉินเฟิง “ที่ฉันหมายถึงก็คือ ฉันไม่ใส่ถุงน่องพวกนี้”
ทันใดนั้นฉินเฟิงก็รีบมาข้างหน้าโต๊ะทำงานของหลี่อวี่เฉินด้วยความตื่นเต้นเขาดึงถุงน่องลายตาข่ายจากลิ้นชัก นั่งยองๆ และเริ่มถอดส้นสูงของหลี่อวี่เฉิน
“คุณจะทำอะไรน่ะ?” หลี่อวี่เฉินสะดุ้งและถอยผงะไปข้างหลังเพื่อเว้นระยะความปลอดภัยระหว่างเธอกับฉินเฟิง
“หัวหน้าหลี่ ไม่ใช่คุณพูดไว้เหรอว่าคุณใส่ถุงน่องตาข่ายพวกนี้ไม่เป็น่ะ?ช่างบังเอิญจัง ผมรู้วิธีใส่มันอยู่พอดี ผมช่วยคุณได้นะ!”ฉินเฟิงมองหลี่อวี่เฉินอย่างไร้เดียงสา
หลี่อวี่เฉินอยากจะขบกัดฉินเฟิงเป็ชิ้นๆเธอหายใจเข้าลึกๆ และข่มความโกรธไว้ “ฉินเฟิง สิ่งที่ฉันหมายถึงคือฉันไม่้าถุงน่องที่คุณเอามา เอามันกลับไปหรือเอาไปทิ้งซะ ตอนนี้เข้าใจหรือยัง?”
“เข้าใจแล้ว หัวหน้าหลี่ชอบเปลือยนี่เอง”
“คุณพูดว่าอะไรนะ?” ั์ตาของหลี่อวี่เฉินปล่อยแสงออกมา
“เปลือย ขา” ฉินเฟิงพูด
หลี่อวี่เฉินเหลือฟางเส้นสุดท้ายที่เกือบจะขาดเธอมองฉินเฟิงด้วยความเคร่งเครียด “ฉินเฟิง คุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกับหวังจุน?”
“เพื่อนร่วมงาน”
“แล้ว? อะไรอีก?”
“ไม่มีอะไรอีก”
“จริงเหรอ? ไม่มี?”
ฉินเฟิงครุ่นคิดระยะเวลาหนึ่งและตอบ“อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เป็คู่เกย์กันแน่ๆ”
หลี่อวี่เฉินกัดฟันและถามต่อ“งั้นคุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลฉิน?”
“ก็...แน่นอน ผมเป็ลูกหลานตระกูลฉิน”
“อะไรนะ? คุณคือลูกหลานของตระกูลฉิน? คุณเป็ลูกของฉินหวงเหรอ?” หลี่อวี่เฉินจับมือของฉินเฟิงอย่างตื่นเต้น
“แล้วคุณคือลูกสาวของฉินหวงหรือเปล่าล่ะ” ฉินเฟิงตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“งั้นทำไมคุณถึงพูดว่าเป็ลูกหลานตระกูลฉินล่ะ?” หลี่อวี่เฉินเริ่มใจเย็นลงอีกครั้งและจ้องฉินเฟิง
“ก็ผมแซ่ฉิน ผมก็ต้องเป็ลูกหลานของตระกูลฉินสิ งั้นแล้วคุณล่ะคุณเกี่ยวข้องยังไงกับตระกูลหลี่?”
หลี่อวี่เฉินพ่ายแพ้ตอนแรกเธออยากจะจับฉินเฟิงและดูว่าเขามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับตระกูลฉินถ้าเขาเกี่ยวพันกัน เธอก็จะสามารถให้เขาแนะนำเธอกับนายน้อยฉินได้
ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถทำให้ความฝันของแม่เธอที่แต่งเข้าตระกูลที่ร่ำรวยได้สมปรารถนา
“โอเค ออกไปได้แล้ว ฉันต้องทำงานต่อ”หลี่อวี่เฉินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างผิดหวัง
ฉินเฟิงไม่ได้รบกวนหลี่อวี่เฉินอีกต่อไปเนื่องจากหญิงสาวคนนี้กำลังจะพบตัวจริงของเขา เขาคิดไปหลบข้างนอกก่อนจะดีกว่า
ตอนบ่ายฉินเฟิงฟุบลงบนโต๊ะของเขาและเผลอหลับ สวี่รั่วโหรวแค่ปลุกเขาตอนเลิกงานเท่านั้น
ทั้งสองออกจากที่ทำงานด้วยกันฉินเฟิงขี่จักรยาน 28 นิ้ว และสวี่รั่วโหรวก็นั่งอย่างผ่อนคลายไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงตำหนักฉิน
“ฉินเฟิง ฉันจะไปอาบน้ำก่อนหลังอาบน้ำก็พาฉันไปทำความสะอาดที่ห้องนายน้อยฉินด้วยนะฉันมาที่นี่เพื่อเป็แม่บ้านของนายน้อยฉิน ฉันจะไม่ทำอะไรเลยได้ยังไงกัน”เมื่อพวกเขาถึงตำหนักฉิน สวี่รั่วโหรวก็วิ่งไปที่ห้องของเธอและเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะอาบน้ำ
สุดท้ายเธอก็ยังเป็ผู้หญิงที่ดีและมีความรับผิดชอบ เธอไม่เคยรับเงินถ้าเธอไม่ทำงาน
ครึ่งชั่วโมงถัดมามีเสียงเคาะบนประตูของฉินเฟิง เขาเปิดประตูและเห็นสวี่รั่วโหรวยืนอยู่ด้านนอก
เห็นได้ชัดว่าสวี่รั่วโหรวเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะเธอเปลี่ยนไปใส่ชุดนอนสีชมพูที่มีรูปหนูน้อยจอมซ่ามารุโกะจัง ชุดนอนหลวมๆและส่วนล่างของชุดก็คลุมเข่าของเธอ เผยผิวที่ละมุนละไมเหมือนดอกบัวนิดๆ หน่อยๆ
ผมของเธอยังเปียกและแผ่อยู่บนไหล่ปกคลุมคอที่ขาวบางของเธอ สวี่รั่วโหรวตอนนี้ไม่ได้แต่งหน้า แต่เธอก็ยังสวยและใสซื่อเหมือนเดิมทำให้หัวใจคนเต้นรัว
“ฉินเฟิง พาฉันไปที่ห้องของนายน้อยฉินหน่อยสิ ฉันจะได้ทำความสะอาด”สวี่รั่วโหรวเงยหน้าครึ่งหนึ่ง มองฉินเฟิงด้วยรอยยิ้มหวาน
ตอนนี้เธอเห็นฉินเฟิงเป็คนที่สนิทกับเธอเมื่อเธออยู่กับเขา เธอจะไม่กังวลใจอีกต่อไป
“รั่วโหรว กลับห้องไปก่อน ฉันจะช่วยเธอเป่าผม เธอจะได้ไม่เป็หวัด”ฉินเฟิงจับผมที่เปียกของสวี่รั่วโหรวและพาเธอกลับห้องของเธอ
เมื่อเธอเดินเข้ามานี่เป็ครั้งแรกที่ฉินเฟิงเข้าห้องของเธอ ข้างในคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของเธอห้องเรียบร้อยดี หน้าต่างก็ถูกเช็ดจนสะอาด พื้นก็เงางามและโต๊ะของเธอก็สะอาดเรียบร้อยเช่นกันเธอเป็ผู้หญิงที่รักสะอาดและเอาการเอางานจริงๆ
“ฉินเฟิง ฉะ...ฉันเป่าเองได้ค่ะ คะ...คุณไปข้างนอกและรอฉันก่อน ตกลงไหม?”สวี่รั่วโหรวประหม่านิดหน่อยเมื่อผู้ชายเข้าห้องของเธอ
ฉินเฟิงขมวดคิ้วและทำหน้าจริงจัง“ไม่ ถ้าฉันไปแล้วเธอจะเป่ายังไง?”
เห็นได้ชัดว่าสวี่รั่วโหรวไม่เข้าใจความหมายของฉินเฟิงเธอจ้องเขาอย่างงงงวย “ปกติฉันก็เป่าผมเองนะคะ ฉันทำได้!”
“โอ้ เธอกำลังพูดถึงเื่เป่าผมนี่เอง ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจผิดนะ”ฉินเฟิงรู้แต่ก็ยังถาม
“งั้นคุณคิดว่าเป่าอะไรเหรอ?” สวี่รั่วโหรวเงยหน้าและมองฉินเฟิงอย่างเป็เื่เป็ราว
“ถ้ามีเวลา...ฉันจะสอนเธอเป่าขลุ่ยแล้วกัน!” ฉินกล่าวหลังจากครุ่นคิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้