กลิ่นสนิมเืลอยคละคลุ้งอยู่บริเวณปลายจมูก เสียงเบรกกระชั้นชิดยังดังก้องอยู่ในหัว หลินเซี่ยนสมองมึนงงก่อนที่สติจะค่อย ๆ คืนกลับมา
“นี่เรา…ตายแล้วไม่ใช่หรือ?”
หลินเซี่ยนลืมตาขึ้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับไม่ใช่ถนนในเมือง หรือเตียงในโรงพยาบาล หากแต่เป็เพดานไม้เก่า ๆ ที่มีรูให้แสงแดดลอดผ่าน เสียงไก่ขันดังแว่วอยู่ไกล ๆ ผสมกับเสียงหมาเห่า และลมพัดแ่เบาๆผ่านช่องฝาผนังที่แตกร้าว
นี่ร่างกายเธอเหมือนจะหดเล็กลงด้วยไหมนะ แขนขาบางเหมือนแขนขาเด็ก ไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงจะยันตัวลุก
“ทำไมตัวเราถึงเล็กขนาดนี้…?”
หลินเซี่ยนพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่แค่เงยหน้าก็รู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง ร่างบางล้มลงกระแทกเบา ๆ กับเสื่อฟางที่ทั้งเก่าและมีกลิ่นอับ ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงแหบพร่าก็ดังขึ้น!
“เซี่ยนเอ๋อร์! ลูกแม่ตื่นแล้ว!… ขอบคุณ์…”
พร้อมกับเสียบแหบพร่าก็ปรากฏใบหน้าหญิงวัยกลางคนที่ผอมซูบเพราะความเหนื่อยล้าและขาดสารอาหารปรากฏในสายตา ดวงตาแดงก่ำเปี่ยมด้วยความห่วงใย จับมือหลินเซี่ยนไว้แน่น
“แม่…?” หลินเซี่ยนเผลอหลุดปาก
“แม่อยู่ตรงนี้ลูก ไม่ต้องกลัวนะ ลูกหิวไหม?…กินนี่ก่อนนะ”
หญิงคนนั้นลุกขึ้นอย่างรีบเร่ง มือคว้ากระบวยไม้ที่มีเพียงน้ำข้าวต้มสีแดงจางๆ ที่มองแทบไม่เห็นเมล็ดข้าว ก่อนป้อนเธอช้า ๆ
หลินเซี่ยนนิ่งงัน ก่อนจะอ้าปากแล้วกลืนน้ำข้าวต้มลงท้อง เธอหิวมากจริงๆ
เมื่อหลินเซี่ยนกินเสร็จ แม่ก็ยกเอาชามไม้ออกไปเก็บข้างนอก
ความทรงจำที่เคยเลือนราง เริ่มไหลย้อนเข้ามาเหมือนสายน้ำ…
เด็กหญิงที่เธออาศัยร่างอยู่คนนี้ชื่อหลินเซี่ยนเหมือนกันกับเธอเมื่อชาติก่อน เป็ลูกสาวของลูกชายคนรองบ้านหลิน บ้านรองมักจะถูกบ้านใหญ่เอาเปรียบอยู่เสมอ
ไร้ทั้งเงิน ไม่มีปากมีเสียง
ครอบครัวรองหลินใช้ชีวิตในหมู่บ้านชนบทจีน่ปี 1993 ซึ่งไฟฟ้าเพิ่งเข้าถึงบางพื้นที่เท่านั้น ผู้คนยังอาศัยเพียงแสงตะเกียง แบกน้ำจากลำคลอง
ข้าวขาวมีแค่วันปีใหม่ สิ่งที่กินกันคือข้าวแดง และข้าวโพดป่นแหลก น้ำมันหมูหยดสุดท้ายที่ทั้งบ้านได้กินคือเมื่อปีที่แล้ว
และร่างที่เธออยู่ตอนนี้…คือเด็กหญิงวัย 9 ขวบที่เพิ่ง “ตาย” ด้วยไข้สูงโดยไม่มีเงินรักษา
“ฉันกลับมา…ในร่างของเด็กคนนี้?”
“นี่ไม่ใช่ความฝัน…”
มือที่ผอมแห้งนั้น้าจะพิสูจน์ความจริง กลับจับได้เพียงเศษเสื่อเก่าๆ
มองไปรอบด้านก็เห็นเพียงบ้านผุพังที่เก่าจนฝนสามารถสาดเข้ามาได้ทุกด้าน
“ในชาติก่อน ฉันสร้างบริษัทด้วยสองมือตัวเอง แต่ถูกสามีชั่วกับเมียน้อยหักหลัง เอาบริษัทไปทั้งบริษัท…”
“พวกมันวางแผนให้ฉันโดนรถชน แล้วหลบไปเปิดกิจการด้วยเงินของฉัน…”
ั์ตาเธอเปล่งประกายขึ้นทันทีจากความเจ็บแค้น
“ถ้าฟ้าให้โอกาสฉันเริ่มใหม่… ฉันจะใช้มันให้ดีทุกวินาที!”
เสียงไอเบา ๆ ดังจากมุมห้อง ปลุกให้หลินเซี่ยนได้สติ
เด็กชายที่ตัวเล็ก และผอมบางกว่าหลินเซี่ยน นอนบนผ้าขี้ริ้วอีกผืน มือเกายุงที่กัดแก้มจนแดง
แม่เดินเข้ามาอีกรอบพร้อมถุงผ้าขาวบาง
“แม่จะไปขอข้าวโพดจากย่า เ้ากับน้องอยู่กันดี ๆ นะ”
หญิงผู้นั้นออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบ เสียงไม้แห้งใต้ฝ่าเท้าส่งเสียงดังกรอบแกรบ
หลินเซี่ยนหันมองรอบตัว
มีเพียงผักดองไหเดียววางอยู่ข้างหม้อดิน
ไหนั้น…คือสิ่งเดียวที่ดู “มีค่า” ในบ้านหลังนี้
“เริ่มจากตรงนี้ก็ได้…”
“ผักดองหนึ่งไห ถ้าขายได้ไหละหยวน ฉันก็จะมีเงินหยวนแรกในโลกนี้!”
รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนริมฝีปากเด็กหญิง
แม้จะอยู่ในร่างเด็กที่ไร้พลัง
แม้จะมีแค่ผักดองไหเดียว
แม้จะไม่มีใครเชื่อในตัวเธอ
แต่หลินเซี่ยนรู้ดี —
“คนที่เคยปีนขึ้นที่สูง โดยเริ่มต้นจากศูนย์แบบเธอ…ทำได้อีกครั้งเสมอ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้