หลงเหยียนมองเ้าของร้านด้วยสายตาประหลาดใจ แต่พบว่าเขามีพลังขั้นที่สี่เป็อย่างน้อย เ้าของร้านเล็กๆ เช่นนี้กลับมีพละกำลังเท่านี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าร้านของเขาไม่ธรรมดา
หลงเหยียนแสร้งทำเหมือนไม่สนใจ “เหอะๆ สายตาของท่านไม่เลวเลย สามารถดูออกว่าข้าอายุน้อย ดูเหมือนการแปลงโฉมของข้าจะแย่ไปหน่อย” หลงเหยียนหัวเราะ
เ้าของร้านก็หัวเราะเช่นกัน “คนอายุน้อยยังด้อยประสบการณ์ ผิวพรรณที่มือของเ้า ข้าเห็นแค่แวบเดียวก็ดูออกแล้ว”
จากนั้นพวกเขาก็สนทนากันครู่หนึ่ง สุดท้ายสายตาหลงเหยียนยังคงวนเวียนอยู่กับต้นโสมจักรพรรดิัอยู่ดี แค่กลิ่นหอมของมันก็ทำให้หลงเหยียนรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หากหลอมมันแล้ว ไม่แน่อาจช่วยการผสานของหมัดทั้งสองในร่างกายหลงเหยียนได้
“เถ้าแก่ หากขายให้ข้า ท่านคิดสมุนไพรต้นนี้ราคากี่ตำลึง!”
เถ้าแก่เอามือถูกัน “มันเป็ถึงของล้ำค่าในร้านข้าเชียวนะ ราคาไม่ใช่ปัญหาหรอก อีกอย่าง มีคนจองมันแล้วด้วย”
ขณะที่พูดอยู่นั้นก็มีคนบุกมาที่หน้าร้าน “เถ้าแก่ คนของตระกูลเซียวมาแล้ว”
“อ้อ อย่างงั้นหรือ?”
“พ่อหนุ่ม ต้องขอโทษด้วยจริงๆ พวกเ้าอยู่ชมสมุนไพรแบบอื่นในนี้ไปก่อนนะ ข้ามีแขกคนสำคัญต้องออกไปต้อนรับ” ดูออกว่าเขาดีใจมากที่คนของตระกูลเซียวมาถึง
หลังจากเขาออกไปแล้ว หยุนฉีก็เห็นคนสามคนจากซอกประตู ชายสองหญิงหนึ่ง นั่นก็คือบุตรชายทั้งสองของเซียวเหลิงเอ้า คนหนึ่งชื่อเซียวเทียนเซี่ยวและเซียวเทียนอวี่ ส่วนหญิงผู้นั้นคือบุตรสาวของเซียวมั่วเหยียน นางชื่อเซียวจื่อมั่ว มีพลังระดับเดียวกับตน
“พี่เหยียน เป็พวกเขา” หลงเหยียนก็เห็นพวกเขาแล้วเช่นกัน ในงานประลองเขาเคยเจอสองคนนั้นแล้ว แต่นี่เป็ครั้งแรกที่พบสตรีผู้นี้ นางงดงามและมาพร้อมรังสีทะนงตนที่ซ่อนไม่มิด
“ข้าเคยได้ยินท่านพ่อเล่าว่าพวกเขาทั้งสองมีพลังระดับชีพัขั้นที่หก ส่วนเซียวปิงมั่วมีพลังขั้นที่เจ็ด ในตระกูลเซียว คนที่มีพร์สูงสุดก็เห็นจะเป็เซียวมั่วแล้วล่ะ ได้ยินมาว่ามีพลังขั้นที่เจ็ดสูงสุด ใกล้เข้าขั้นที่แปดแล้ว ทั้งเล่ากันว่าเ้าหมอนั่นฝึกมายาเก้าพิภพสำเร็จแล้วด้วย”
“มายาเก้าพิภพงั้นหรือ?” หลงเหยียนก็เคยได้ยินมาก่อน มันเป็วิชาที่น่ากลัวมากจริงๆ ถึงกระนั้น หมัดมายาแปดทิศของหลงเหยียนก็ไม่เลวเช่นกัน
ขณะที่กำลังพูดอยู่ เซียวเทียนเซี่ยวก็เดินเข้ามาจากด้านนอก เถ้าแก่เดินประกบอย่างนอบน้อม เมื่อเดินเข้ามา พวกเขาสามคนก็พบหลงเหยียนและหลงหยุนฉี
เซียวเทียนเซี่ยวจำไม่ได้ว่าคนตรงหน้าคือหลงเหยียน ไม่ได้ให้ความสนใจ “เถ้าแก่ ต้นโสมจักรพรรดินี้พวกเราจะรับไว้เอง”
“ขอรับๆๆ ข้าน้อยจะรีบไปห่อให้คุณชายเซียวเลย”
แต่ไม่นานเขาก็ถูกหลงหยุนฉีขวางไว้ก่อน
“ไม่ได้นะ สมุนไพรต้นนี้พวกเรามาเจอก่อน ไหนท่านบอกว่ามันเป็ของล้ำค่าในร้านมิใช่หรือ เพราะอะไรถึงยอมขายให้พวกเขาเล่า” นางแสดงท่าทางไม่ยอมใคร ทำให้หลงเหยียนเห็นแล้วตื้นตันใจมาก
เวลานี้เอง เซียวจื่อมั่วก็เดินเข้ามาจับหลงหยุนฉีแล้วยิ้ม “ข้าก็นึกว่าผู้ใด ที่แท้ก็เป็คนของตระกูลหลง ทำไม เ้ากล้าแย่งกับข้างั้นหรือ?” น้ำเสียงของนางคล้ายไม่เห็นหลงหยุนฉีอยู่ในสายตา
หลงเหยียนห้ามปรามหลงหยุนฉี นางจึงยอมหยุดลง...
“เถ้าแก่ เชิญทำธุระอื่นก่อนเลย!” เมื่อเอ่ยจบเขาก็ลากหลงหยุนฉีออกมานอกร้าน
หากสู้กันในร้านอาจทำให้สมุนไพรเสียหายไปมาก หลงเหยียนไม่อยากก่อเื่
พอออกมาแล้ว หยุนฉีก็สะบัดมือออกจาหลงเหยียน หน้าแดงคล้ายกำลังโมโห “พี่เหยียน เพราะอะไรเมื่อครู่ท่านต้องห้ามไม่ให้ข้าแย่งชิงกับพวกเขาด้วย ทั้งที่ท่านเจอต้นโสมจักรพรรดิันั่นก่อน”
หลงเหยียนก็หมดคำพูด “เจอก่อนจะมีความหมายอะไร หรือเ้ายังมีเหรียญตำลึงอีก สมุนไพรต้นนั้นขายห้าร้อยตำลึงเชียวนะ วางใจเถิด ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องได้โสมจักรพรรดิัมาแน่ แค่ไม่ใช่ตอนนี้” รังสีดุร้ายกะพริบวาบ
หลงเหยียนคำนวณระดับพลังของตัวเองในใจ หากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง มันเป็การต่อสู้ระหว่างผู้มีพละกำลังขั้นที่ห้ากับขั้นที่หกสองคนเชียว ความหวังเลือนราง แต่เพื่อความแข็งแกร่ง มีเพียงต้นโสมจักรพรรดิัเท่านั้นที่จะช่วยหมัดมายาแปดทิศให้ผสานกันได้อย่างสมบูรณ์
และนี่ก็เป็วิชาป้องกันตัวของหลงเหยียนในวันแข่งขัน...
ไม่นานเซียวเทียนเซี่ยวและพวกก็เดินออกมา พวกเขาสามคนพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น เตรียมออกจากร้าน ทันใดนั้นเซียวเทียนเซี่ยวก็พบสายตาคู่หนึ่งที่ร้อนระอุ
“ข้าคุ้นเคยกับสายตานี้ เทียนอวี่ เ้าดูคนที่อยู่ข้างนางสิ พวกเราเคยเจอมาก่อนหรือไม่?”
เซียวเทียนอวี่มองอยู่นาน สุดท้ายก็นึกขึ้นได้
“พี่ชาย เหมือนเขาจะเป็หลงเหยียนนะ ครั้งก่อนในวันงานประลอง เ้าหมอนี่เด่นมากทีเดียว ล้มหลงอวี่ซีได้ด้วย!”
จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็นึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในร้านค้า ดูเหมือนเ้าหมอนี่ก็้าของสิ่งนี้เช่นกัน
“ไป พวกเราไปทักทายเขาเสียหน่อย เขาล้มหลงอวี่ซีที่เป็อันดับหนึ่งของตระกูลหลงเชียวนะ ตอนนี้คงผยองมากพอดู ถือว่าวันนี้เขาซวยที่มาเจอเราสองพี่น้อง” ขณะที่พูดแววตาพวกเขาก็ประกายความเย็นเยือก
“วันนี้ ต่อหน้าผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนในตลาดอู่จี้ฟาง เราจะสั่งสอนเขาให้หลาบจำ ฮ่าๆๆ แค่คิดก็สะใจแล้ว”
หลงเหยียนเห็นพวกเขาสามคนเดินเข้ามาหา หลงหยุนฉีเพิ่งเข้าใจ
“แย่แล้ว พี่เหยียน พวกเขาสามคนเจอเราแล้ว เรารีบออกจากที่นี่กันดีกว่า ด้วยระดับพลังของท่านในตอนนี้คงสู้คนตระกูลเซียวขั้นที่หกสองคนไม่ได้หรอก พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาด้วยซ้ำ มีแค่เซียวจื่อมั่วที่มีพลังเทียบเท่าข้า”
หลงเหยียนถอนหายใจในความคิด แล้วนึก ‘นั่นสิ การล้มหลงอวี่ซีที่มีพลังขั้นที่หกยังเป็เื่ที่ยากยิ่ง ทั้งอาการาเ็ยังไม่หายดี หากต้องสู้กับผู้แข็งแกร่งขั้นที่หกถึงสองคน การที่นางไม่เห็นดีเห็นงามก็เป็เื่ที่ควร’ ทว่าหลงเหยียนกลับไม่ยอมถอย เพราะเขาสาบานั้แ่วันประลองยุทธ์แล้วว่าจากนี้ไปจะไม่ยอมให้ใครดูถูกอีกเป็อันขาด
เห็นสายตาที่เด็ดเดี่ยวของหลงเหยียน หลงหยุนฉีก็รู้แล้วว่าด้วยนิสัยของเขา ครั้งนี้ต้องไม่ยอมถอยแน่
แววตานางประกายความสิ้นหวัง “พี่เหยียน หากเดี๋ยวต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆ ข้าจะรับมือกับเซียวจื่อมั่วนั่นเอง”
ไม่นานสองพี่น้องตระกูลเซียวก็เดินเข้ามา เซียวเทียนเซี่ยวมองหลงเหยียนแล้วหัวเราะเยาะ “เมื่อครู่ข้ารู้สึกคุ้นตาเ้ามาก นึกไม่ถึงว่าจะเป็เ้า หลงเหยียน อ้อ ไม่สิ ตอนนี้เ้าเป็หนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งในตระกูลหลงแล้วนี่ คิดว่าพละกำลังคงเก่งกล้ามากแล้ว”
“พี่ชาย จะไปเสียเวลาคุยกับเขาทำไม จัดการเลยก็สิ้นเื่” เซียวเทียนอวี่ที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น
หลงเหยียนถูกจับได้แล้วจึงไม่จำเป็ต้องปลอมตัวอีก เขาใช้พลังปราณถอดสิ่งปลอมแปลงบนใบหน้าออกแล้วจ้องตากับเซียวเทียนเซี่ยว
ไม่นานผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่รอบๆ ก็เริ่มได้กลิ่นไฟปะทุ!
หลงเหยียนตัดสินใจแล้ว เขาพูดในใจ ‘วันนี้ข้าต้องเอาโสมจักรพรรดิักลับไปให้ได้!’
วินาทีนี้เอง เงาหนึ่งพุ่งเข้ามาปะทะเซียวจื่อมั่วโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หญิงสาวทั้งสองเริ่มการต่อสู้ แต่ไม่นานคนส่วนมากก็จำหลงเหยียนได้
“นั่น... นั่นมันหลงเหยียนที่ล้มอัจฉริยะอันดับหนึ่งในตระกูลหลงเมื่อสามวันก่อนไม่ใช่หรือ? ได้ยินมาว่าพลังเขาเลื่อนเข้าขั้นที่ห้าภายในระยะเวลาครึ่งเดือน เป็เื่ที่เหนือฟ้าจริงๆ”
ทุกคนต่างก็มองมาที่หลงเหยียนด้วยความใ บอกได้เลยว่าเมื่อผ่านการต่อสู้ในครั้งนั้น ชื่อเสียงของหลงเหยียนก็โด่งดังไปทั่วเมืองั ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขา สามารถพูดได้ว่าเื่ที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มผู้นี้เป็เื่ที่ดูไม่น่าเป็ไปได้เลย
--------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้