“อ๊ะ...อเล็กซานเดอร์!”
น้ำเสียงของแองเจล่าดีใจมาก หันหลังกลับไปมองร่างที่อยู่ด้านหลังตัวเอง
ทันทีที่นางเห็นร่างสูงแข็งแกร่ง สาวน้อยก็พลันรู้สึกว่าแรงกดดันที่กดทับร่างของนางพลันหายไป ในดวงตาของนางพลันกระจ่างใส ความวิตกกังวลและความเศร้าทุกอย่างก็สลายไปทันที
และแม้แต่แลมพาร์ดที่ยืนอยู่ข้างๆ แองเจล่าก็ปล่อยมือออกจากดาบพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ฝูงชนที่อยู่สองฝากฝั่งอดไม่ได้ที่จะโห่ร้องออกมาอย่างดีใจ องค์าาอเล็กซานเดอร์มาแล้ว จู่ๆ ทุกคนก็เหมือนหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจได้ พวกเขาเชื่อมั่นอย่างมากว่า บนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่องค์าาอเล็กซานเดอร์จะทำไม่ได้
“ปลดโซ่ซะ แล้วไสหัวไป”
ซุนเฟยมองไปที่บาทหลวงอ้วนเตี้ยที่อยู่ตรงหน้าพลางพูดออกมา
ในใจของบาทหลวงอ้วนเตี้ยพลันโมโหขึ้นมา แต่…เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายที่ทำให้เขาทำให้เขาหายใจไม่ออกแผ่ออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้า กลิ่นอายนี้ได้บอกเขาว่า รีบหนีไป ไม่อย่างนั้นน...ผลที่ตามมาจะรุนแรงมาก
ราวกับโดนเวทมนตร์สะกดจิต บาทหลวงอ้วนเตี้ยก็พลันปลด ‘โซ่แห่งแสง’ ในมือที่เอาไปคล้องคอสาวน้อยผมสีเกาลัดที่น่าสงสารออก สาวน้อยผมสีเกาลัดเหมือนกระต่ายน้อยที่ถูกทำให้ใวิ่งเข้าไปหลบหลังซุนเฟย แองเจล่าก็คอยกระซิบปลอบโยนนาง ค่อยๆ ลูบผมของสาวน้อยคนนั้น บรรเทาความหวาดกลัวในหัวใจของนาง
ซุนเฟยยืนขวางด้านหน้านางไว้ ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงหันไปมองรอบๆ อย่างสงบ
ก็แค่มองธรรมดาๆ เท่านั้น
แต่ทุกที่ที่สายตากวาดผ่านไป เหล่าอัศวินที่เป็ข้าราชบริพารที่ก่อนหน้านั้นทำตัวเหมือนหมาป่าดุร้าย ตอนนี้เหมือนหมาได้เห็นเ้าป่า พวกเขาทุกคนต่างถูกข่มจนกลัวไปหมด ร่างสั่นพั่บๆ...
ไม่มีใครกล้าสบตากับซุนเฟย
พวกบาทหลวงที่ถือ ‘โซ่แห่งแสง’ ไว้ในมือก็รับรู้ได้ถึงสายตาของซุนเฟยที่จ้องมายังร่างตัวเองราวกับมีดาบแหลมคมจ่ออยู่ที่คอ มือที่ถือ ‘โซ่แห่งแสง’ ไว้ก็รีบปล่อยทันทีด้วยความกลัว เหมือนของที่อยู่ในมือของพวกเขาไม่ใช่ ‘โซ่แห่งแสง’ เครื่องมืออันศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้พวกเขากล้าที่จะจับกุมพวกขุนนางชั้นสูงอยู่ทุกวัน เหมือนมันเป็ของร้อนที่ต้องรีบโยนทิ้ง
เหล่าคนที่โชคร้ายที่ถูกจับก็เหมือนได้รับนิรโทษกรรม พวกเขารีบลุกขึ้นมาจากพื้นดินแล้ววิ่งไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังซุนเฟยอย่างหวาดกลัว
ในสายตาพวกเขา แผ่นหลังนี้คือกำแพงที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจทลายได้ ครึ่งเดือนก่อน ในยามที่ทหารเกราะดำบุกโจมตีเมือง แผ่นหลังนี้แลที่ปกป้องเมืองเอาไว้ และตอนนี้แผ่นหลังนี้แลที่ช่วยชีวิตพวกเขาออกมาจากเงื้อมมือปีศาจอย่างหวุดหวิด
ตึก ตึก ตึก ตึก...
ซุนเฟยไม่มีเหตุผลที่จะต้องข่มขู่พวกอัศวินข้าราชบริพารและบาทหลวงจนขวัญหนีดีฟ่อ เขาเดินอย่างเชื่องช้าไปที่รถม้าเวทมนตร์สีทองตรงหน้า เหล่าผู้คุ้มกันหลายสิบคนที่มีหน้าที่คอยอารักขาก็ไม่มีใครกล้ามาขวาง ต่างเปิดทางให้อย่างเชื่อฟังราวกับอีกฝ่ายเป็เ้านายของตัวเอง ปล่อยให้ซุนเฟยเดินเข้าไป
ซุนเฟยวางมือลงบนรถม้าก่อนจะเคาะเบาๆ แล้วพูดว่า “เฮ้ ออกมาหน่อยสิ พวกเรามาคุยสักหน่อยเถอะนะ”
ในรถม้าก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
บรรยากาศเงียบจนน่ากลัว
“ความอดทนของข้าไม่มากเท่าไรหรอกนะ” ซุนเฟยขมวดคิ้วก่อนจะะเิพลังคนเถื่อนเลเวล 20 ออกมา พลังดุดันเริ่มแผ่กระจายออกมาจากร่างของเขา นี่คือสัญญาณว่าจะเริ่มลงมือ
ตอนนี้เองก็มีเสียงดังแกรก
เสียงไม้เสียดสีกันดังขึ้นดังแอ๊ดขึ้นเบาๆ เหมือนเสียงยุงบินที่มองไม่เห็น แต่กลับทำให้ในใจของทุกคนสั่นหวั่นไหว
เพราะในที่สุด ‘งูหางกระดิ่งสองขา’ ก็ออกมา
“ที่แท้เป็องค์าาอเล็กซานเดอร์....” นักบวชแมซโซลาเปิดประตู ในที่สุดงูหางกระดิ่งจอมโลภก็ไม่ได้ยืนอยู่บนคานไม้เหยียบของรถม้าอีกต่อไป ก้มตัวลงมายืนบนพื้น เขายิ้มน้อยๆ พลางคำนับ “ความจริงพ่อคิดจะไปทำความเคารพกับฝ่าา ขอแสดงความยินดีต่อองค์าาอเล็กซานเดอร์ ที่อีกห้าวันต่อจากนี้จะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็ทางการโดยราชอาณาจักรเซนิทในการขึ้นครองบัลลังก์...ฮึๆ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้พบท่านเร็วแบบนี้ ขอให้องค์าาอเล็กซานเดอร์รับคำอวยพรจากพ่อที่เป็ตัวแทนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยขอรับ”
ดวงตาของคนรอบข้างถลนจนแทบหลุดออกจากเบ้าลงพื้น
แม้กระทั่งพวกบาทหลวงและเหล่าอัศวินก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ มองไปที่นักบวชแมซโซลาเหมือนมองคนแปลกหน้า นี่มันบ้าไปแล้ว นักบวชที่หยิ่งจองหองก่อนหน้านั้นจู่ๆ ก็กลายเป็มิตรขึ้นมา? แม้กระทั่งท่าทางเมื่อครู่นี้ แล้ว...แล้วท่าทางเหมือนกับกำลังเอาอกเอาใจต่อองค์าาตรงหน้าอีก? นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้น?
มีเพียงแลมพาร์ดที่อยู่ไกลออกไปสังเกตเห็นว่าในตอนที่นักบวชแมซโซลาออกมาจากในรถ เขาเหลือบไปมองหัวหน้าอัศวินลูเซียโนที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างลับๆ
น่าเสียดาย ที่ซุนเฟยกลับไม่สนใจท่าทางเอาอกเอาใจของงูหางกระดิ่ง
แม้แต่คำพูดตอบกลับเป็พิธีก็ไม่มี
“ทำไมถึงจับคนของข้า?” ซุนเฟยชี้ไปที่เหล่าคนหนุ่มสาวและวัยกลางคนเ่าั้ที่ยืนอยู่ข้างๆ แองเจล่าด้วยความหวาดกลัวแล้วถามอย่างไม่เกรงใจ เขาขมวดคิ้ว ดวงตาจับจ้องไปที่แมซโซลาเขม็งด้วยสายตาดุจมีดที่แหลมคม เหมือนกับว่าหากคำตอบของแมซโซลาทำให้เขาไม่พอใจ เขาจะสับแมซโซลาให้กลายเป็ชิ้นๆไปเสีย
ที่น่าแปลกใจก็คือ แม้จะได้ยินคำถามที่แทบจะเป็การตำหนิแบบนี้ แต่งูหางกระดิ่งก็ยังคงแสดงท่าทางอดทน ซึ่งมันผิดวิสัยของเขา เขามองไปตามนิ้วของซุนเฟยที่ชี้ให้ดูด้วยท่าทางแปลกใจราวกับเขาไม่รู้เื่อะไรเลย เขาพูดยิ้มๆ ว่า “แฮะๆ ที่แท้องค์าาก็ทรงโมโหเพราะเื่นี้เอง หลังจากที่พ่อไตร่ตรองเมื่อวินาทีที่แล้ว บางทีที่องค์หญิงแองเจล่าพูดก็ถูก นี่อาจเป็เื่เข้าใจผิด ปล่อยคนสิ เร็วๆ ปล่อยคน...องค์าา ข่าวที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ได้รับว่ามีเวทมนตร์แห่งความตายปรากฏออกมาอยู่รอบๆ เมืองแซมบอร์ด เื่นี้บิชอปเซิร์จเยเรมีคำสั่งให้ตรวจสอบอย่างแน่ชัด ในฐานะที่พ่อเป็ผู้รับผิดชอบประจำการเมืองแซมบอร์ด พ่อไม่มีทางเลือก!”
“นี่เป็ครั้งแรก ข้าจะไม่ซักถามอะไร...แต่ต่อจากนี้ หากโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์คิดจะจับกุมชาวเมืองในเมืองแซมบอร์ด ก็ให้มาแจ้งแก่ข้าผู้เป็าาทราบ”
แม้จะเผชิญหน้ากับท่าทางกระตือรือร้นของแมซโซลา สีหน้าของซุนเฟยก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด แม้แต่จะยิ้มเล็กน้อยก็ไม่ เขามองผ่านหน้าของแมซโซลา ก่อนจะหยุดชะงักที่หัวหน้าอัศวินลูเซียโนที่อยู่ห่างออกไป เขาสังเกตเห็นแส้ที่มีรอยเืเปื้อนอยู่ ก่อนจะชี้ไปที่ลูเซียโนแล้วพูดว่า “เ้าน่ะ ลงจากม้าแล้วมานี่!”
ลูเซียโนชะงัก
วินาทีต่อมา หัวใจของหัวหน้าอัศวินก็พลันลุกเป็ไฟอย่างควบคุมไม่ได้
าาตัวเล็กๆ ที่เหมือนมดปลวก กล้าดีอย่างไรมาทำตัวหยาบคายต่อตัวเขาที่เป็ถึงอัศวินนักรบสามดาวของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เคราของลูเซียโนกระดกเล็กน้อย ตั้งท่าจะโจมตี แต่ทันใดนั้นก็เห็นนักบวชแมซโซลาที่อยู่ด้านหลังซุนเฟยส่ายหน้า ลูเซียโนก็พลันนึกถึงคำบรรยายเกี่ยวกับองค์าาองค์นี้ในรายงานโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ เมื่อได้สติ ความโกรธเกรี้ยวก็พลันลดลง เขาอดกลั้นความโกรธไว้ในใจ หมุนกายลงจากม้าแล้วเดินมาตรงหน้าซุนเฟย
“องค์าาอเล็กซานเดอร์ ไม่ทราบว่าฝ่าามีรับสั่งอะไร?”
ซุยเฟยกวาดสายตามอง ก่อนจะชี้ไปที่หญิงสาวที่น่าสงสารที่ถูกเขาใช้แส้ม้าเฆี่ยนจนเป็ลม ดูเหมือนไม่เต็มใจพูดมาก เขาพูดเสียงรอดไรฟังอย่างเ็าอยู่สองประโยค “ขอโทษเสีย แล้วชดใช้หนึ่งร้อยเหรียญทอง”
“เ้า...” ลูเซียโนเกือบเหลือจะทน
แต่ทันใดนั้น แมซโซลาก็ดึงผ้าเสื้อคลุมของลูเซียโน จากนั้นก็ขยิบตาให้กับบาทหลวงที่อยู่ด้านหลัง ความจริงแล้วบาทหลวงเสื้อคลุมสีดำเป็คนฉลาด เขารู้ความนัยทันที รีบควักเงินยัดเข้าไปในมือของลูเซียโนหนึ่งร้อยเหรียญทองก่อนจะขยิบตาส่งสัญญาณให้อัศวินไว้หนวดเคราคนนี้อีกครั้ง เขาเดินไปตรงหน้าของหญิงคนนั้นอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะเทเหรียญทองลงบนร่างของหญิงคนนั้นแล้วร้องฮึ หมุนร่างเตรียมจะเดินออกไป...
“หยุดก่อน เ้ายังไม่ได้ขอโทษเลยนะ!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ซุนเฟยก็พลันพูดออกมาหยุดเขา
หัสหน้าอัศวินลูเซียโนก็หันร่างกลับมา ‘วงแหวนแห่งา’ สีขาวกระจายตัวออกมาจากใต้เท้าของเขา ปกคลุมพื้นที่โดยรอบประมาณห้าหกเมตร พลังของเขาพลันพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ พลังของนักรบสามดาวถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่ ลูเซียนโนจ้องไปที่ซุนเฟยอย่างเ็า ความหมายในดวงตาก็สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน เ้ารังแกคนเกินไปแล้ว บิดาไม่เห็นเ้าอยู่ในสายตา
ซุนเฟยเปลี่ยนเป็โหมด ‘พาลาดิน’
เขาไม่พูดอะไรออกมา
เขาก้าวไปหาลูเซียโนอย่างช้าๆ ทีละก้าว
เมื่อก้าวไปได้สามก้าวก็มีเื่แปลกๆ เกิดขึ้น นั่นคือ ‘วงแหวนแห่งา’ สีทองกระจายออกมาจากใต้เท้าของเขา พาลาดินเลเวล 12 นอกจากจะมีพลังแข็งแกร่งแล้วยังสร้างแรงกดดันให้แก่ผู้คนอีกด้วย ทว่ามันก็เทียบไม่ได้กับลูเซียโนที่เป็นักรบสามดาว แต่ ‘วงแหวนแห่งา’ สีทองกลับทำให้ทุกคนรวมทั้งแมซโซลาต่างตัวแข็งทื่อประหนึ่งโดนฟ้าผ่า ยืนนิ่งอยู่กับที่
เป็ไปได้อย่างไร?
วงแหวนสีทอง?
นั่นแสดงว่าเป็บุตรคนโปรดของพระเ้าที่สูงส่ง สีของ ‘วงแหวนแห่งา’ ที่มีในหมู่อัศวินนับพันนับหมื่น วงแหวนแห่งาสีเงินจะมีมากที่สุด และอัศวินที่มีวงแหวนแห่งาสีทองถือว่าเป็บุคคลที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง แม้ว่าสถิติที่วงแหวนแห่งาสีทองจะปรากฏออกมามีเพียงหนึ่งในสิบ แต่ถ้ามีนั่นแสดงว่าพวกเขาเป็บุตรคนโปรดของพระเ้า และจะได้รับพรของพระเ้า กลายเป็ผู้มีอิทธิพลที่มีอำนาจในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
แม้แต่ ‘งูหางกระดิ่งสองขา’ อย่างแมซโซลาที่ว่ากันว่า ‘เพียงวินาทีเดียวก็สามารถวางแผนชั่วๆ ได้นับพัน’ ตอนนี้เขาก็เข้าสู่สภาวะชะงัก เขาใอย่างมากจนคิดอะไรไม่ออก
เช่นเดียวกับเหล่าบาทหลวงและอัศวินที่พากันขยี้ตา แทบไม่อยากจะเชื่อกับเื่ที่เกิดขึ้น เมื่อซุนเฟยก้าวไปได้สี่ก้าว วงแหวนสีทองก็เกิดเสียงดังติ้ง วงแหวนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าก็กระจายออกมาเกิดเป็วงแหวนสีทองวงที่สอง สีทั้งสองวงอาจจะดูคล้ายกันมากแต่มันแตกต่างกันพอสมควร ทุกคนรู้สึกได้ วงแหวนที่น่าเกรงขามทั้งสองวงนั้นมีคุณสมบัติและความสามารถไม่เหมือนกัน
“รีบขอโทษเสีย!”
ซุนเฟยไม่สามารถระงับกลิ่นอายของพาลาดินเลเวล 12 ไว้ได้ เขาเหมือนพระเ้าที่ห่อหุ้มไปด้วยแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ ผมสีดำที่ลู่ไปตามลมถูกเคลือบด้วยสีทอง ดูสูงส่งเหนือคนทั้งปวง ไม่อาจละสายตาได้ เขาพูดเสียงเ็าประโยคหนึ่งเหมือนค้อนหนักๆ ทุบไปที่หัวของหัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์อย่างลูเซียโน
ตัวละครพาลาดินของโลก Diablo มีทักษะหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ จนกล่าวได้ว่าเหมือนกันราวกับเป็สิ่งเดียวกัน แม้กระทั่ง ‘พลังศักดิ์สิทธิ์’ ของ ‘กลิ่นอาย’ ก็ยังดูคล้ายกันมาก จนไม่มีใครมองออก ทุกคนที่นี่ต่างคิดว่าองค์าาอเล็กซานเดอร์เป็อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่งของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดต่างตกตะลึง
หัวหน้าอัศวินลูเซียโนไม่อาจควบคุมการสั่นเทาของร่างตัวเองได้
ทันทีที่แสงสีทองของ ‘วงแหวนแห่งา’ ปรากฏออกมา แรงต่อต้านทั้งหมดก็พลันหายไป ไม่กล้าขัดขืนแม้สักนิด สีหน้าซีดเผือกยามมองมาที่ซุนเฟย ในดวงตาเต็มไปด้วยแววอ้อนวอน
“นายท่าน...โปรดไว้ชีวิตด้วย!” ลูเซียโนคุกเข่าลงต่อหน้าซุนเฟย
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้