ลานจัตุรัสบริเวณทางเข้าอาคารเสินหวัง!
สองผู้เฒ่าในชุดนักพรตถือจอกทรงสูงไว้คนละใบ แต่พอจิบสุราในจอกแล้วกลับต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ผู้าุโเฉิน สุราจอกนี้แปลกแปร่งอย่างไรชอบกล แต่ก็กลืนลงคอไม่ยากนัก หากเป็เครื่องครัวพวกนี้ที่พิเศษจำเพาะเหลือเกิน!” ผู้าุโยิ้มกล่าว
“พิเศษจำเพาะนั้นจริง แต่ล้วนทำมาจากวัสดุที่หาได้ทั่วไปทั้งสิ้น ข้าลองใช้เตาหลอมโอสถเผากระจกที่ดูเหมือนแก้วพวกนี้ดู ปรากฏว่าไม่ได้เป็ของดีอะไรที่ไหน กลับเป็ท่านผู้าุโซุนต่างหากที่สามารถสละเวลามาร่วมพิธีเปิดของบริษัทเสินหวังอะไรนี่ได้ หาได้ยากจริงๆ!” ผู้าุโเฉินยิ้มตอบ
“ท่านเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึไง? โอ คนมากันเยอะทีเดียว! ต่างพรรคต่างสำนักมีคนแห่แหนกันมามากเหลือเกิน! นี่ออกจะโกลาหลอยู่บ้าง บริษัทเสินหวังนี่โผล่มาจากไหนกัน ท่านรู้หรือไม่?” ผู้าุโซุนถามอย่างใคร่รู้
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ท่านมองภาพไม่ออกรึ?” ผู้าุโเฉินลดเสียงถาม
“หือ?”
“ถึงแม้จะบอกว่าหวังเค่ออะไรนั่นเป็ผู้เปิดบริษัทเสินหวัง แต่ท่านดู ประมุขพรรคเทพหมาป่า์เฉินเทียนหยวนรวมถึงสี่เ้าตำหนักหมาป่าต่างมาร่วมพิธีเปิดกันทุกราย ท่านว่าเรียบง่ายอย่างที่ตาเห็นหรือเปล่าล่ะ?” ผู้าุโเฉินลดเสียงถาม
“ไม่เรียบง่าย?”
“ไม่ใช่แค่ไม่เรียบง่าย ท่านดูอีกที พวกที่มาดูแลความเรียบร้อยนั่นนอกจากศิษย์พรรคเทพหมาป่า์แล้วยังมีใครอีกบ้าง?” ผู้าุโเฉินถามพร้อมกับชี้นิ้วไกลออกไป
“พวกนั้น พวกนั้นคือศิษย์พรรคอีกาทองคำนี่นา?” ผู้าุโซุนเบิ่งตา
“มิผิด ศิษย์พรรคอีกาทองคำ ไม่กี่วันก่อนข้าได้ไปสำรวจดูเมืองหลางเซียนมารอบหนึ่ง ศิษย์พี่หญิงใหญ่พรรคอีกาทองคำจางหลี่เอ๋อร์นั่นเองก็มา แถมยังพำนักอยู่ในอาคารเสินหวัง หวังเค่อนั่นข้าเองก็เห็นมาแล้ว จางหลี่เอ๋อร์ทำตัวสุภาพต่อคนผู้นี้มากเชียวล่ะ!” ผู้าุโเฉินกระซิบกระซาบ
“บริษัทเสินหวัง? นอกจากจะมีพรรคเทพหมาป่า์อยู่เื้ั ยังมีพรรคอีกาทองคำอีกด้วยหรือนี่?”
“นั่นสิ สี่ยอดสำนักเซียนประจำสิบหมื่นมหาบรรพต ยังไม่ต้องพูดถึงลัทธิมารจันทรากับวัดขั้นโลหิตที่ปิดเขาไม่โผล่หน้ามาตลอดสี่ฤดูกาลนั่น พรรคอีกาทองคำ พรรคเทพหมาป่า์แม้เป็ฝ่ายธรรมะเหมือนกันแต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็สะกดข่มกันละกันมาโดยตลอด ท่านเคยเห็นพวกมันอัธยาศัยดีต่อกันแบบนี้เมื่อไหร่? เห็นทีครั้งนี้คงไม่เรียบง่ายอย่างที่เห็นแล้วล่ะ!” ผู้าุโเฉินถอนใจ
“เข้าใจผิดกันไปเองหรือเปล่า?”
“จะไปเข้าใจผิดได้อย่างไร? ยอดฝีมือชั้นทารกแกนิญญาของพรรคอีกาทองคำไม่โผล่มา จางหลี่เอ๋อร์ไม่เท่ากับเป็ตัวแทนของพรรคอีกาทองคำหรอกหรือ? ข้าเดาว่ารูปแบบของสิบหมื่นมหาบรรพตต้องเปลี่ยนไปเพราะการเปิดตัวในครั้งนี้ของบริษัทเสินหวังแน่!” ผู้าุโเฉินกระซิบบอก
“ไม่ใช่ว่าหวังเค่อเป็ศิษย์ของพรรคเทพหมาป่า์หรอกหรือ? แล้วทำไม...!”
“หยา คำประดานี้ท่านแค่รับฟังไว้ก็พอ! ข้าเดาว่าเื้ับริษัทเสินหวังอาจมีผู้หนุนหลังที่ใหญ่กว่านั้นอยู่อีก!” ผู้าุโเฉินว่า
“ไม่หรอกมั้ง?”
“ท่านคอยดูต่อไปเถอะ เพราะเดี๋ยวก็จะได้เห็นท่าทีของพรรคเทพหมาป่า์กับพรรคอีกาทองคำกันแล้ว เอาละ ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเห็นหวังเค่อโผล่มาโน่นแล้ว!” ผู้าุโเฉินว่า
“หวังเค่อคือคนไหน?”
“คนนั้นไงล่ะ ท่านดูสิ!” ผู้าุโเฉินชี้ตัวหวังเค่อที่รายล้อมด้วยศิษย์พรรคเทพหมาป่า์อยู่ลิบๆ
เพราะบนเทียบเชิญระบุว่าเฉินเทียนหยวนและสี่เ้าตำหนักต่างมาร่วมงานกันพร้อมหน้า ดังนั้นจึงเป็เหตุให้สำนักต่างๆ ส่งคนมาร่วมงาน พวกที่มาถึงก่อนเวลาส่วนใหญ่ล้วนได้รับภาพเหมือนของหวังเค่อล่วงหน้าแล้ว
ในใจของทุกคนเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์ ไม่รู้ว่าบริษัทเสินหวังนี่คิดจะทำอะไรกันแน่? เป็ธุรกิจการค้าประเภทใด?
ทันทีที่หวังเค่อโผล่มา รอบด้านพลันเงียบเสียงลงไปไม่น้อย
พวกถงอันอันที่อยู่ในฝูงชนเผยจิตสังหารออกมา พวกจางหลี่เอ๋อร์เดินเข้ามาเหมือนเห็นูเาเงินูเาทอง มู่หรงลวี่กวงเห็นจางหรี่เอ๋อร์มองหวังเค่อด้วยสายตาวาววับก็เผยสีหน้าริษยาระคนเคียดแค้น
ท่ามกลางสายตาของทุกคนหวังเค่อเดินมาหยุดอยู่บนเวทียกสูงตัวหนึ่งทางฝั่งเหนือของลานจัตุรัส
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ไม่นานมานี้ผู้น้อยหวังเค่อต้องบากหน้ารบกวนสหายหลายท่านให้ส่งเทียบเชิญออกไปเชิญชวนทุกท่านมาเข้าร่วมพิธีเปิดของบริษัทเสินหวังข้าในวันนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาร่วมงานเยอะแยะมากมาย เป็การให้เกียรติบริษัทเสินหวังข้าอย่างล้นเหลือจริงๆ! ดังนั้นจึงใคร่ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน หวังเค่อรับประกันว่าวันนี้ทุกท่านไม่ได้มาเสียเปล่าแน่!” หวังเค่อแย้มยิ้มกล่าวเปิดงานอยู่บนเวทียกสูง
ในฝูงชน เหล่ายอดฝีมือที่พรรคสำนักส่งตัวมามองหวังเค่อด้วยแววตาสงสัย ขณะเดียวกันก็มองไปทางเฉินเทียนหยวนที่โผล่มาแบบเงียบๆ ห่างออกไปไม่มากด้วยเช่นกัน วันนี้ใช่มีเื่สำคัญต้องประกาศหรือไม่? น่าจะไม่ได้เรียบง่ายเพียงแค่เปิดตัวธุรกิจเล็กๆ แค่นั้น
มีแต่จางเจิ้งเต้าที่มองหวังเค่อด้วยสีหน้าชอบกล เ้ายังมีหน้ามาพูดถ่อมตัวทั้งที่ใจจริงคิดโกยเงินจากพวกมัน? เ้าจะหน้าไม่อายเกินไปแล้ว
“ทุกท่านคงกำลังพิศวงกันอยู่แน่ๆ ว่าที่จริงแล้วบริษัทเสินหวังข้าคืออะไร?” หวังเค่อเปิดปากกล่าวสืบต่อ
สีหน้าทุกคนกลายเป็เคร่งขรึมขึ้นมา ทุกคนมองหวังเค่อเป็ตาเดียว ใช่แล้ว! บริษัทเสินหวังของเ้าทำอะไรกันแน่? พวกข้ามาที่นี่เพราะเห็นแก่หน้าพรรคเทพหมาป่า์หรอก
“บริษัทเสินหวังของข้าอุทิศตนคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่จะส่งผลดีต่อผู้ฝึกฌานทุกท่าน! ผลิตภัณฑ์ที่จะมอบความสุขให้พวกท่านนี้ต่างจากสินค้าในกระแสตลาด พวกมันขายสินค้าอุปโภคบริโภคสูบเงินจากพวกท่าน แต่บริษัทเสินหวังข้าขายความสุขและอนาคต!” หวังเค่อตะเบ็งเสียงให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึง
ผู้ฝึกฌานรอบด้านพากันอึ้งกิมกี่ บริษัทเสินหวังของเ้าแน่ใจนะว่ากำลังทำธุรกิจ? ขายความสุข? ขายอนาคต? แปลว่าอะไร?
จางหลี่เอ๋อร์ในฝูงชนปรายตามองจางเสินซวีผู้เป็น้องชายก่อนถามว่า “เห็นรึยังว่าการที่สามารถพูดจาปอกลอกเงินคนอื่นได้อย่างมีวาทศิลป์เช่นนี้ต้องอาศัยความหน้าหนาขนาดไหน!”
“ท่านพี่ นี่ท่านกำลังชมมันหรือว่ากำลังแดกดันมันอยู่กันแน่? ทำไมข้าฟังไม่เข้าใจเลยเล่า!?” จางเสินซวีครางด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“เ้ามีหัวไว้คั่นหูรึไง? ข้ากำลังชมมัน แค่นี้ก็ดูไม่ออก?” จางหรี่เอ๋อร์ถลึงตาใส่ผู้เป็น้อง
“บริษัทเสินหวังของท่านคือธุรกิจการค้า? พวกท่านขายอะไร?” มีคนะโมาจากในฝูงชน
หวังเค่อมองคนผู้นั้นก่อนยิ้มตอบ “เป็คำถามที่ดี แต่ของดีหากนำออกมาแสดงเร็วเกินไปใช่ว่าจะมีคนจดจำได้ มิอาจวู่วาม ประเดี๋ยวพอเสร็จพิธีเปิดข้าจะจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกให้ทุกท่านชม ให้โอกาสข้าได้แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเสินหวังแก่ทุกท่าน ตอนนี้ขอเชิญแขกกิตติมศักดิ์ขึ้นเวทีมาตัดริบบิ้นเพื่อเป็การเปิดตัวบริษัทเสินหวังของเรา ตัดเปิดอนาคตอันสวยสดงดงาม!”
สิ้นเสียงะโของหวังเค่อก็มีกลุ่มสตรีในชุดกี่เพ้าเดินกรีดกรายขึ้นเวทีมาพร้อมกับริบบิ้นที่ขมวดเป็ปม
ด้านล่าง ผู้ฝึกฌานแต่ละคนต่างปากอ้าตาค้างกันไปเป็แถวๆ นี่มีความหมายว่าอะไร?
“ขอเชิญท่านประมุขพรรคเทพหมาป่า์เฉินเทียนหยวนขึ้นเวที!” หวังเค่อะโ
ด้านล่าง เฉินเทียนหยวนหน้าดำคล้ำ
เฉินเทียนหยวนไหนเลยจะคาดคิดว่าการตัดริบบิ้นมีความหมายเช่นนี้? นี่ตั้งใจจะให้ตนทำอะไรกันแน่? ให้ตนตัดเชือกต่อหน้าสายตากลมโตนับพันคู่? ไอ้ศิษย์เนรคุณ เ้ากำลังล้อเลียนอาจารย์ตัวเองอยู่ชัดๆ!
หากรู้แต่แรกว่าเป็การตัดริบบิ้นแบบนี้ เฉินเทียนหยวนมีหรือจะตอบตกลง? ต่อให้ทุบไอ้ศิษย์เนรคุณนี่จนตายตนก็ไม่มีทางตอบตกลงเด็ดขาด!
แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังมองมาทางเฉินเทียนหยวน แถมเฉินเทียนหยวนยังรับปากเสียดิบดีมาแต่แรก
แม้จะกระอักกระอ่วนแค่ไหน แต่เฉินเทียนหยวนก็ยังต้องเดินขึ้นเวทีไปด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ขอเชิญท่านเ้าตำหนักหมาป่าประจิมพรรคเทพหมาป่า์โม่ซันซันขึ้นเวที!” หวังเค่อะโ
โม่ซันซันเองก็เดินหน้าดำตามขึ้นมา บิดาติดกับหวังเค่อเสียแล้ว? แม่งเอ๊ย ตนเองเป็ถึงั์ใหญ่ทารกแกนิญญาผู้สูงส่ง แต่ต้องมาเล่นตัดเชือกให้ทุกคนดู? แม่งเอ๊ย!
“ขอเชิญรองเ้าตำหนักหมาป่าบูรพามู่หรงลวี่กวงขึ้นเวที!” หวังเค่อะโ
มู่หรงลวี่กวงเองก็เดินหน้าดำขึ้นเวทีมาเหมือนกัน บิดาไม่ได้ขึ้นเวทีมาเพื่อแสดงเคล็ดกระบี่ปราบมารอันทรงเกียรติ แต่ขึ้นเวทีมาเพื่อเล่นตัดเชือกต่อหน้าธารกำนัล? ไอ้จิตวายป่วงหวังเค่อ!
“ท่านเ้าตำหนักหมาป่าทักษิณไม่สามารถมาแสดงตัวได้ จึงขอเชิญศิษย์สายตรงของเ้าตำหนักหมาป่าทักษิณ บุคคลลำดับหนึ่งรองจากท่านมาแทน ขอเชิญเถี่ยหลิวหยุนขึ้นเวที!” หวังเค่อะโ
หวังเค่อเอ่ยอย่างชาญฉลาด มันไม่ได้บอกว่าเ้าตำหนักหมาป่าทักษิณจะมาร่วมพิธีตัดริบบิ้น แต่ทุกคนพอได้ฟังต่างคิดตรงกันว่าเ้าตำหนักหมาป่าทักษิณไม่อาจมาร่วมงานได้ ก็เลยให้ศิษย์ของมันมาแทน?
เถี่ยหลิวหยุนไม่ได้รู้สึกอับอายขายขี้หน้าแต่อย่างใด ได้ร่วมทำงานกับศิษย์น้องหวังเค่อ มีอันใดให้ขายหน้า? เพื่อธำรงฝ่ายธรรมะ ศิษย์น้องหวังเค่อไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเองเลยด้วยซ้ำ แล้วข้ายังต้องขายหน้าอันใด?
“ศิษย์พี่ร่วมอาจารย์ของผู้น้อยท่านเ้าตำหนักหมาป่าอุดรไม่อาจมาด้วยตัวเอง ดังนั้นข้าที่เป็ศิษย์น้องและดำรงตำแหน่งรองเ้าตำหนักหมาป่าบูรพาจึงขอทำการตัดริบบิ้นแทน!” หวังเค่อว่า
เหล่าผู้ฝึกฌานไม่ได้คิดอะไรมาก
“แล้วก็ขอเชิญศิษย์พี่หญิงใหญ่พรรคอีกาทองคำ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ผู้งดงามที่สุดของสิบหมื่นมหาบรรพตขึ้นเวที!” หวังเค่อว่าต่อไป
จางหลี่เอ๋อร์ที่อยู่ในฝูงชนผุดยิ้มบางก่อนขยับตัวขึ้นเวที
จางหลี่เอ๋อร์ไม่ได้รู้สึกขายหน้าเลยสักนิด มีอันใดให้ต้องขายหน้า? เฉินเทียนหยวนยังขึ้นไปแล้วเลย แล้วข้ายังต้องกลัวอะไร อีกอย่าง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเงิน มีอันใดให้ต้องขายหน้า?
กลุ่มคนยืนเรียงแถว หวังเค่อกังวลว่าพวกท่านอาจารย์อาจกระอักกระอ่วนดังนั้นจึงไม่ได้ให้แขกกิตติมศักดิ์พูดเปิดพิธี
กลุ่มสตรีชุดกี่เพ้าเดินถือถาดมาหยุดอยู่หน้าแขกกิตติมศักดิ์
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่านเชิญหยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วเริ่มกันเลย!” หวังเค่อกล่าว
เฉินเทียนหยวนพยักหน้าทั้งที่ยังหน้าดำ โม่ซันซันหน้ากระตุก บิดาเป็ถึงั์ใหญ่ทารกแกนิญญาผู้ทรงเกียรติแต่กลับต้องมาเล่นตัดเชือกต่อหน้าธารกำนัลเป็เพื่อนเ้าจริงๆ? ท่านประมุข ทำไมท่านไม่พูดอะไรเลยเล่า!? พวกเราต้องตัดกันจริงๆ รึ? ขายขี้หน้าสิ้นดี!
“ตัดได้!” หวังเค่อเอ่ยเสียงดัง
“ปง~~~~~~~~~~~~!”
แสงมหาพิธีจำนวนมากที่หวังเค่อผลิตตามแบบพิมพ์เขียวที่องค์หญิงโยวเยว่ทิ้งเอาไว้ให้ะเิออกในพริบตา
ไอมงคลพวยพุ่งขึ้นฟ้าแสงสีตระการตาสาดไปทั่วสารทิศตลอดอาคารเสินหวัง จากนั้นคณะดนตรีที่หวังเค่อจัดเตรียมก็ขึ้นมาช่วยชูบรรยากาศของงานอีกทอดหนึ่ง
ริบบิ้นถูกกรรไกรตัดอันแล้วอันเล่า เป็ตัวบอกว่าพิธีเปิดตัวบริษัทเสินหวังได้เริ่มอย่างเป็ทางการ!
“ธุรกิจเจริญเฟื่องฟู! เงินทองไหลมาเทมา!” ‘ตัวช่วย’ที่หวังเค่อจัดวางไว้ในฝูงชนเริ่มะโส่งเสียงขึ้นมา
“ธุรกิจเจริญเฟื่องฟู! เงินทองไหลมาเทมา!” ตัวช่วยอีกมากมายช่วยกันะโ
ตอนนั้นเองที่เหล่ายอดฝีมือจากหลากหลายสำนักตระหนักถึงเื่บางอย่างขึ้นมากะทันหัน
“ผู้าุโเฉิน พวกเราเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? บริษัทเสินหวังเป็แค่ธุรกิจการค้าธรรมดาๆ นี่เอง?” ผู้าุโซุนถาม
“แค่งานเปิดตัวธุรกิจการค้าธรรมดา ั์ใหญ่อย่างพวกเราดั้นด้นพาศิษย์จำนวนมากมาร่วมส่งเสริม?” ผู้าุโเฉินอ้าปากค้าง
“นี่ไม่ใช่ทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่หรอกหรือ?”
“ข้าไม่รู้…!”
“มีคนกำลังะโว่าธุรกิจเจริญเฟื่องฟู! เงินทองไหลมาเทมาอยู่ใช่ไหมนั่น!?”
………
……
…
ในฝูงชน ยอดฝีมือสำนักเซียนนับไม่ถ้วนมองดูหวังเค่อด้วยแววตากังขาต่อชีวิตของตนเอง พอได้พูดคุยกันพวกมันต่างรู้สึกว่าตัวเองถูกต้มเข้าให้แล้ว แต่พอมองขึ้นไปยังกลุ่มแขกกิตติมศักดิ์อย่างพรรคเทพหมาป่า์กับพรรคอีกาทองคำแล้วกลับรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่อย่างที่คิด
“ไม่เข้าใจเลยโว้ย!” ผู้าุโซุนสบถ
“รอดูต่อไปอีกนิด รอต่อไปอีกหน่อย ประเดี๋ยวความจริงย่อมปรากฏ!” ผู้าุโเฉินสูดลมหายใจลึก
ทุกคนสะกดเืลมที่ตีพล่านขึ้นมา เฝ้ารอคอยทั้งที่หนังตากำลังกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่พวกเฉินเทียนหยวนโม่ซันซันตัดริบบิ้นกันเสร็จพวกมันก็อยากจะกระโจนลงจากเวทีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
พวกตนต่างก็เป็ผู้มีฐานะ จะให้มายืนช่วยหวังเค่อฉ้อฉลผู้คนอยู่บนเวทีต่อไปได้อย่างไร? พวกเราคล้อยตามวิถีของหวังเค่อกันไปแล้ว? ที่สำคัญคือเป็พวกเราเองที่สมัครใจมาั้แ่แรก! แม่งเอ๊ย!
ก่อนก้าวลงจากเวที เฉินเทียนหยวนถลึงตาคาดโทษหวังเค่อไปทีหนึ่งโดยมีความหมายว่าเหตุใดเ้าถึงไม่บอกข้าแต่เนิ่นๆ หากบอกกันแต่แรกข้าไม่มีทางมาตัดริบบิ้นบ้าบอคอแตกแหกทางโค้งนี่เด็ดขาด!
หวังเค่อย่นคอหนี
“อะแฮ่ม แขกที่มาร่วมพิธีเปิดบริษัทเสินหวังเราในวันนี้ แต่ละท่านจะได้รับของสมนาคุณกลับบ้านไปกันคนละชิ้น ต่อไปขอเชิญทุกท่านย้ายไปที่อาคารเสินหวัง ทางเราได้จัดเตรียมที่นั่งไว้ในโถงรับรองชั้นสามให้พวกท่านแล้ว ข้าจะทำการกล่าวแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเสินหวังแก่ทุกท่าน! ทุกท่าน เชิญ!” หวังเค่อประกาศเสียงดัง
คณะดนตรีด้านนอกยังคงขับร้องบรรเลงเพลงชูบรรยากาศ แสงมหาพิธีเบ่งบานเต็มน่านฟ้า ต่อให้ไม่กล้าบอกว่าพิธีเปิดบริษัทเสินหวังเป็พิธีที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุด แต่อย่างน้อยก็บอกได้ว่าครื้นเครงที่สุด
อาจบางทีที่สิบหมื่นมหาบรรพตอาจไม่เคยสนุกครื้นเครงแบบนี้มาหลายต่อหลายปีแล้ว
เฉินเทียนหยวนกังวลว่าอาจมีสหายร่วมฝ่ายมาถามหาถึงความหมายเบื้องลึกเื้ัของการตัดริบบิ้นฉะนั้นจึงเผ่นแผล็วหายเข้าไปในตัวอาคารเสินหวังก่อนใครเพื่อน ขายขี้หน้าประชาชียิ่งนัก ไอ้ศิษย์เนรคุณ ทำเื่งามหน้าให้ตนแล้วไหมล่ะ
ลูกน้องที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วจำนวนมากของหวังเค่อเริ่มชี้ชวนบรรดาแเื่เข้าสู่ตัวอาคารเสินหวัง
ในอาคารมีทั้งลิฟต์ทั้งบันไดเลื่อน แต่สำหรับยอดฝีมือสำนักเซียนชั้นสามนับเป็อย่างไรได้? ระยะห่างแค่นั้นแค่ะโพรวดเดียวก็ถึงแล้ว
แม้ทุกคนจะยังพกพาความสงสัยเต็มอกว่าพวกตนทำอะไรอยู่กันแน่? ที่แท้บริษัทเสินหวังแห่งนี้ตั้งใจจะทำอะไร? พวกมันขายอะไร? แล้วพวกมันเชิญพวกเรามาเล่นปาหี่อันใดอยู่กันแน่?
แน่นอนว่าต้องมีพวกโลกแคบถูกความอลังการงานสร้างของอาคารเสินหวังบังตาอยู่
ทุกคนต่างใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ในอาคารเก่าๆ พรรคสำนักบางแห่งให้การสนับสนุนแิรักธรรมชาติ กระทั่งทำถึงขั้นใช้กระท่อมหญ้าคาเป็ที่หลับนอน กระท่อมกระดำกระด่างพวกนั้นพอเอามาเทียบกับพื้นหินอ่อน พรมแดง โคมระย้าของอาคารเสินหวังแล้ว ความแตกต่างพลันทำให้ผู้รับชมต้องหูอื้อตาลายไปถนัดใจ
จำนวนแขกที่มาร่วมงานในโถงรับรองชั้นสามมีราวๆ สามพันคน
หวังเค่อนำมหาศาลาประชาชนขนาดย่อส่วนมาไว้ที่นี่[1] ด้านในมีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
พวกเฉินเทียนหยวนและเหล่าผู้บุญหนักศักดิ์ใหญ่ย่อมขึ้นไปยังที่นั่งบริเวณชั้นสอง
ส่วนด้านล่างมีที่นั่งจัดเตรียมไว้อย่างล้นเหลือเพียงพอแก่ทุกคน
ถงอันอันกับแก๊งหัวสะท้อนแสงทั้งสิบปะปนอยู่ใจกลางฝูงชน เพ่งมองกระดานสีขาวอันเขื่องที่ติดหราอยู่บนเวทียกสูงกลางห้องด้วยสายตาแปลกๆ
ที่เห็นคือแถวลายมือสีโลหิตโดดเด่นเตะตาเขียนไว้บนแผ่นกระดานสีขาวนั้น
หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ปีก่อน มหาศึกธรรมะอธรรมเขาหล่างเหยียน ฝ่ายธรรมะสูญเสียหนึ่งพันสามร้อยชีวิต ฝ่ายอธรรมสูญเสียหนึ่งพันสี่ร้อยชีวิต
หนึ่งร้อยสิบสามปีก่อน มหาศึกธรรมะอธรรมธารไท่ซวี ฝ่ายธรรมะสูญเสียแปดร้อยยี่สิบสี่ชีวิต ฝ่ายอธรรมสูญเสียเจ็ดร้อยเก้าสิบแปดชีวิต!
ผู้เยาว์เก้าสิบหกคน มหาศึกธรรมะอธรรมทะเลพิษอุดร…!
………
……
…
ประวัติศาสตร์การนองเืระหว่างฝ่ายธรรมะและอธรรมรวมถึงตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตอันน่าะเืขวัญหลายต่อหลายแถวได้เข้าไปกระตุ้นความทรงจำส่วนลึกของใครหลายๆ คนในที่นั้นในพริบตา บางคนกระทั่งเคยผ่านมหาศึกพวกนี้มาด้วยตัวเอง ท่านอาจารย์ของพวกตน ท่านลุง ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง ศิษย์พี่หญิง ศิษย์น้องหญิง มีคนมากมายเหลือเกินที่ตายไปในาเหล่านี้
ศิษย์สำนักเซียนที่ตอนแรกยังจับกลุ่มสรวลเสเฮฮาระหว่างเข้ามาในมหาศาลาเป็ต้องจิตใจหนักอึ้งขึ้นมาเฉียบพลัน
บริษัทเสินหวังเอาเหตุการณ์น่าสลดพวกนี้มาจัดแสดง ที่แท้ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?
จากการตัดริบบิ้นเมื่อครู่สามารถมองออกได้เลยว่าพรรคเทพหมาป่า์และพรรคอีกาทองคำต่างกำลังผลักดันส่งเสริมเื่ที่บริษัทเสินหวังกำลังจะทำอย่างสุดตัว!
เื่ที่สองยอดสำนักเซียนผลักดันส่งเสริม? เื่นี้เกี่ยวพันกับฝ่ายธรรมะอธรรม? นี่จะเป็เื่เล็กได้หรือ?
ทันใดนั้น ทุกคนต่างเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา เริ่มจริงจังกับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ศึกระหว่างธรรมะและอธรรม นี่ไม่ใช่เื่เล็กๆ อีกแล้ว!
มีคนรุ่นก่อนมากน้อยเพียงไรที่ต้องจบชีวิตไปในศึกธรรมะอธรรม การที่ให้ทุกคนมารวมตัวอยู่ในมหาศาลานี้จะต้องมีเื่ใหญ่ชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินมาประกาศใช่ไหม?
[1] หรือห้องประชุมใหญ่ของประชาชน เป็อาคารของรัฐบาลประชาชนจีน ตั้งอยู่ริมขอบด้านทิศตะวันตกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ถูกใช้เป็อาคารทางนิติบัญญัติและใช้ในงานพิธีการต่างๆ ของรัฐบาล
