ถังชิงหรูมองหน้าของเฉินิ สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เคร่งเครียด
เฉินิเห็นนางหน้าซีดเผือด ก็ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเอง ไม่พบว่ามีสิ่งใดผิดปรกติ แต่สีหน้าของทั้งสองคนแลดูน่ากลัวขนาดนี้ เขาก็อดคลางแคลงไม่ได้ว่าตนเองเสียโฉมไปแล้วหรือไม่ ถึงแม้ว่าการถูกผู้อื่นเห็นเป็สตรีั้แ่เล็กจะทำให้เขาหงุดหงิด แต่มิได้หมายความว่าจะรังเกียจใบหน้าของตนเอง เขาได้ชื่อว่าเป็ชายงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง จะเปลี่ยนเป็อัปลักษณ์ได้อย่างไร
"นี่..." เฉินิร้องเรียก "ตกลงหน้าข้าเป็อย่างไรกันแน่"
ถังชิงหรูหาได้ตอบกลับไป นางเอื้อมมือมาลูบใบหน้าของเฉินิ พลางทำปากขมุบขมิบพึมพำ "พิกลนัก ไฉนจึงกลายเป็แบบนี้ไปได้"
"ข้าก็นึกไม่ออกเหมือนกัน เื่แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" เฉินรุ่ยกล่าว "หรือไม่...ลองดูกันอีกทีดีไหม"
"ดี" ถังชิงหรูพยักหน้าติดกัน "หาสาวใช้เข้ามาอีกสองคน"
เฉินรุ่ยะโออกไปด้านนอก "เด็กๆ ไปพาสาวใช้เข้ามาสองคน"
เฉินิไม่ได้คำตอบจากทั้งสองคน พอได้ยินกว่าเฉินรุ่ยเรียกสตรีที่น่ากลัวที่สุดเข้ามา เขาก็ถลึงตาใส่พี่ชาย "ท่านพี่ ท่านคิดจะทำอันใด"
เฉินรุ่ยตบๆ หลังมือของเฉินิ พลางเอ่ยปลอบประโลมด้วยถ้อยคำที่มีความหมายล้ำลึกและทรงพลัง "น้องิ อย่ากังวลไปเลย ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีพี่ชายคนนี้อยู่ ข้าจะคุ้มครองเ้าไปชั่วชีวิต"
"นะ...นี่หมายความว่าอย่างไร ตอนนี้ข้ากลายเป็คนอัปลักษณ์ไปแล้วหรือ คันฉ่อง เอาคันฉ่องมาให้ข้า" เฉินิละล่ำละลัก
ถังชิงหรูเห็นเฉินิใจนหน้าซีด ก็กล่าวพลางทอดถอนใจ แววตาเปี่ยมไปด้วยความเวทนา "ขออภัยด้วย เมื่อครู่ข้าไม่ควรใช้อารมณ์กับท่านเลย ที่จริงท่านก็หน้าตาดีอยู่นะ"
การที่ถังชิงหรูอ่อนโยนกับตนเอง มิเพียงทำให้เฉินิรู้สึกใ กลับยังแฝงไปด้วยความไม่สบายใจอีกด้วย ความรู้สึกแบบนี้คล้ายว่าเขาป่วยระยะสุดท้ายและไร้ทางเยียวยาแล้ว คนข้างกายแต่ละคนถึงจงใจพูดปลอบประโลมให้ตนเองรู้สึกสบายใจ แต่แท้ที่จริงอาการของเขาหมดทางรักษา มีแต่ต้องตายสถานเดียว
มีคนผลักประตูเข้ามา พร้อมกับหิ้วสาวใช้มาด้วยสองคน สาวใช้สองคนนี้ก็มีท่าทางตื่นกลัวเหมือนกับสองคนก่อน หมอบลงกับพื้นไม่กล้าขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น
ถังชิงหรูดึงสาวใช้ขึ้นมาคนหนึ่ง แล้วผลักนางเข้าหาเฉินิ
"ไสหัวไป" เฉินิตะคอกเสียงดัง
สาวใช้คนนั้นใจนร้องไห้โฮ เอ่ยปากพลางสะอึกสะอื้น "ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต"
พอสาวใช้เห็นมือของตนเองไปแตะถูกหลังมือของเฉินิ ก็ใสุดขีด สมองขาวโพลนว่างเปล่าก่อนเป็ลมหมดสติไป
เฉินรุ่ยกับถังชิงหรูจับจ้องเฉินิไม่วางตา ก็เห็นว่าที่มือของเขามีผื่นแดงเห่อขึ้นมาอีกมากมาย เฉินิรู้สึกคันจนไม่ไหว คิดอยากจะเกา ถังชิงหรูรีบเข้ามาจับมือเขาไว้ แต่เพียงแค่นางจับมือเท่านั้น เขาก็ไม่รู้สึกคันอีก
ทั้งเฉินรุ่ยและถังชิงหรูเห็นกับตา เพียงแค่นางแตะต้องตัวของเฉินิ ผื่นแดงบนมือของเขาก็หายไป โดยไม่ต้องใช้ยาอันใดเลย นางก็คือยารักษาอาการของเขา
ถังชิงหรูยังไม่ปักใจเชื่อ ให้สาวใช้อีกคนััเฉินิ แต่แล้วสถานการณ์ก็เหมือนเมื่อครู่ หลังมือของเฉินิมีผื่นแดงผุดขึ้นมาอีก
เฉินิพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เลยลุกขึ้นมานั่ง ผื่นแดงเ่าั้ลามออกไปอย่างรวดเร็ว อาการคันบังเกิดขึ้นอีกหน ทรมานจนแทบทนไม่ไหว
ถังชิงหรูคว้ามือเขาไว้อีกครั้ง เพียงชั่วพริบตาเดียว ผื่นบนมือก็หายไปจนหมด มาเร็วและไปเร็วยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนต่างงุนงง
มิเพียงแต่ถังชิงหรูที่คลำหาศีรษะไม่ถึง[1] เฉินิก็ยิ่งงงเป็ไก่ตาแตก เมื่อก่อนยามเกิดผื่นแดงแบบนี้ เขาต้องทรมานไปถึงสามวันสามคืน มีครั้งหนึ่งเป็หนักที่สุด ลากยาวไปถึงเจ็ดวัน ตลอดเจ็ดวันนั้นเขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากทายา และอาบน้ำ พยายามคิดสารพัดวิธีที่จะช่วยลดอาการคัน ทว่าตอนนี้เขาพบหนทางที่ช่วยให้อาการหายเป็ปลิดทิ้ง เพียงแต่วิธีนี้...
ไฉนถึงต้องเป็นางด้วย?
เพราะเหตุใดแค่สตรีผู้นี้ััผิวของเขา ผื่นแดงเ่าั้ก็หายไปหมด
"ที่แท้แม่นางก็เป็ยาแก้ของน้องินี่เอง" เฉินรุ่ยหรี่ตามองพวกเขาสองคน "บางที...นี่อาจเป็วาสนา"
ถังชิงหรูมุมปากกระตุก เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "วาสนาบ้าบอน่ะสิ ใต้หล้านี้มีโชคชะตาหลายรูปแบบ ชะตาร้ายก็เป็หนึ่งในนั้น"
"กล่าวไม่ผิด แม้จะเป็โชคชะตา แต่ก็อาจเป็ชะตาร้ายก็ได้" เฉินิแค่นเสียงเยาะ "สตรีน่ารำคาญแบบนี้ ใครจะไปอยากมีวาสนากับนาง"
"ชายแท้ก็ไม่ใช่ ใครจะไปอยากมีวาสนากับเขากันเล่า" ถังชิงหรูแค่นเสียงหึ ไม่ยอมลดราวาศอก
"จะ... เ้าอย่ามาพูดส่งเดช เปิ่นหวางจะทำให้เ้าได้รู้ว่าเปิ่นหวางเป็ชายแท้หรือไม่" เฉินิร้องลั่นอย่างโมโหโทโส
"ปรกติบุรุษที่พูดจาแบบนี้มักเป็คนขาดความมั่นใจ มิเช่นนั้นคงไม่เสียงดังวางอำนาจเช่นนี้หรอก" ถังชิงหรูกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ "ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่มีคนนอก ท่านไม่ต้องปิดบังก็ได้"
เฉินรุ่ยเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว ก็ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า "แม่นาง สุขภาพของน้องิเป็อย่างไรบ้าง เห็นเมื่อครู่เ้าบอกว่าโรคของเขายังไม่หายขาด ยังต้องรักษาอยู่"
"ใช่" ถังชิงหรูหยุดต่อปากต่อคำ หันมาสนทนากับเฉินรุ่ยในฐานะหมออย่างมืออาชีพ "เขาถูกวางยาปลุกกำหนัดมาเป็เวลานาน จนร่างกายทรุดโทรม ต้องค่อยๆ ฟื้นฟูกันไป นี่ไม่ใช่เื่ที่สามารถทำได้เพียงชั่วข้ามคืน ข้าจะจัดเทียบยาช่วยขับพิษที่เหลืออยู่ในร่างกายออกให้หมด แล้วก็จะเขียนรายการอาหารที่เป็ยาชั้นดีให้อีกฉบับหนึ่ง บอกให้พ่อครัวปรับเปลี่ยนตามแนวทางที่ให้ไว้ก็พอ นอกจากนี้ก่อนที่จะรักษาจนหายขาด ทางที่ดีอย่าให้เขาัักับสตรีอื่น แม้ว่าสตรีงมงายในความรักเ่าั้จะทำไม่ถูก แต่ก็เป็เพราะพวกนางถูกใครบางคนใช้เสน่ห์ล่อลวงจนหลงผิด"
เฉินิถลึงตาใส่ถังชิงหรู แต่พอวาจามาถึงริมฝีปากกลับต้องกลืนกลับลงไป วันนี้เขาเหนื่อยพอแล้ว หากต้องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่แบบนี้ ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วอาจย่ำแย่ลงกว่าเดิม
ถังชิงหรูไม่ได้ยินเสียงของเฉินิ ก็หันมามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ พอเห็นอีกฝ่ายหลับตาไปแล้ว ใบหน้าขาวซีดไร้สีเื ก็ใจอ่อนโดยไม่รู้ตัว "ช่างเถอะ ใครใช้ให้ข้ารับเงินเขามาแล้วกันเล่า ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ข้าจะไปทำอาหารมาให้สักสองสามอย่างแล้วกัน"
เฉินิลืมตามองนางอย่างตกตะลึง "เ้าจะใจดีขนาดนั้นเชียว"
"ฮึ! งั้นก็ช่างเถอะ" ถังชิงหรูชะงักเท้าทันใด
สาเหตุที่นางทำแบบนี้ ก็เพราะว่านางซื้อน้ำอำมฤตมาเป็จำนวนมาก ตอนแรกที่ซื้อมา บนฉลากเขียนแนะนำสั้นๆ ว่าน้ำอมฤตชนิดนี้มาจากแดนเซียน นั่นก็หมายความว่าเป็ยาบำรุงของเหล่าทวยเทพ หากมนุษย์โลกได้กินย่อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ขนมที่นางเพิ่งทำเมื่อไม่นานมานี้ก็เติมน้ำอมฤตลงไป
"จะได้อย่างไร เมื่อเอ่ยปากแล้ว ก็ต้องทำด้วยสิ เปิ่นหวางได้ยินพ่อบ้านหลินบอกว่า เขามอบร้านค้าให้เ้าแห่งหนึ่ง ราคาพันกว่าตำลึง เปิ่นหวางแค่ให้เ้ามาตรวจโรค มิได้ซื้อยา เ้ายังเก็บเงินมากมายขนาดนั้น ตอนนี้เปิ่นหวางป่วยหนัก เ้าก็ควรช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้มิใช่หรือ" เฉินิเอ่ยวาจาด้วยท่าทีแปลกๆ
"พูดราวกับข้าเป็ฝ่ายเอารัดเอาเปรียบ ท่านเป็ถึงท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ ชีวิตชราของท่านทั้งชีวิตมีค่าไม่ถึงหนึ่งพันตำลึงหรืออย่างไร"
"ชีวิตชรา? เปิ่นหวางดูแก่มากนักหรือ" เฉินิลุกขึ้นมานั่งด้วยความโมโห เอื้อมมือมาหมายคว้านางไว้ แต่ถังชิงหรูถอยหลบไปด้านหลัง ก่อนเดินดุ่มๆ ไปหน้าประตู แล้วหันมาทำสัญลักษณ์มือแสดงถึงการท้าทาย "ท่านหรือยังไม่แก่? อายุแค่นี้เรียกตนเองว่าเปิ่นหวางทุกคำอย่างกับพวกคนแก่หัวโบราณ ท่านไม่เหนื่อย แต่ข้าฟังแล้วรู้สึกเหนื่อย"
พอเฉินรุ่ยเห็นถังชิงหรูวิ่งออกจากประตูไปแล้ว ก็ขำพรืดออกมา กล่าวว่า "แม่นางคนนี้ช่างน่าสนใจยิ่ง น้องิ เ้าไม่รู้สึกว่านางน่ารักดีหรอกหรือ"
"เสด็จพี่..." เฉินิโอดครวญ ก่อนเหลียวมองไปรอบด้าน แล้วรีบแก้คำพูดเสียใหม่ "ท่านพี่ สตรีนิสัยเ้าเล่ห์แบบนี้น่ารักตรงไหน"
"เ้าเนี่ยนะ ข้าว่าเ้าก็ชื่นชมนางอยู่ มิเช่นนั้นแล้วเหตุใดสตรีอื่นแตะต้องเ้า เ้าถึงกับผื่นขึ้นทั้งตัว แต่พอเป็นาง เ้ากลับไม่เป็อะไรเลย ทั้งยังสามารถช่วยรักษาอาการที่เกิดจากสตรีอื่นได้อีกด้วย หากเ้ารังเกียจนางจริง เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ส่วนลึกในใจของเ้ามิเคยปฏิเสธนางเลย"
เฉินิแววตาวูบไหว เอ่ยปากอย่างหงุดหงิด "เทียบกับสตรีอื่นแล้ว นางก็ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ"
"นั่นก็พอแล้ว" เฉินรุ่ยลูบศีรษะน้องชาย "เห็นเ้ามีความสุข ข้าก็วางใจแล้ว"
"ท่านพี่ ตาแก่เ่าั้ยังสร้างความลำบากให้ท่านอยู่หรือไม่" เฉินิเอ่ยถามเสียงขุ่น "แต่ท่านไม่ต้องเป็ห่วง พวกเราต้องทวงอำนาจกลับคืนมาได้แน่"
"ใต้เท้าน่าหลันถูกพวกเขาให้ร้ายจนตาย สกุลน่าหลันต้องโทษปะาล้างตระกูล ข้าเสียใจยิ่งนัก" เฉินรุ่ยหลุบสายตา มือกำหมัดพลางเอ่ยต่อไปว่า "น้องิ พี่ชายของเ้าช่างไร้ประโยชน์แท้ๆ"
"ท่านพี่ ท่านทำดีมากแล้ว นั่นหาใช่ความผิดของท่าน ตาแก่เ่าั้ต่างหากที่ทำร้ายผู้อื่น สกุลน่าหลันในแดนน้ำพุเหลืองย่อมตระหนักได้ และรู้ว่าศัตรูคู่แค้นของพวกเขาแท้จริงแล้วคือผู้ใด" เฉินิเอ่ย
"ข้าเป็ห่วงเ้า ดังนั้นจึงแอบมาหา ตอนนี้คนที่อยู่ในวังผู้นั้นเป็ตัวแทนของข้า หากนานไป เกรงว่าจะถูกจับได้ ดังนั้นจึงต้องรีบกลับ เ้าก็อยู่ที่นี่ให้ดีๆ เถิด ตาแก่เ่าั้ไม่มีทางให้เ้าอยู่เป็สุข สตรีเ่าั้ก็คงถูกพวกเขาเตรียมไว้นั่นแหละ เ้าต้องดูแลตนเองให้ดี"
"ท่านพี่..." เฉินิเอ่ยด้วยความรู้สึกเสียใจ "อภัยให้ข้าด้วย ข้ามิเพียงแต่ช่วยอะไรท่านไม่ได้ ยังทำให้ท่านต้องเป็กังวล"
"อย่ากล่าวเช่นนั้น เ้าเป็น้องชายคนดีของข้า ขอเพียงเ้าอยู่รอดปลอดภัย ย่อมเป็กำลังสนับสนุนอย่างดีที่สุดของข้าแล้ว" เฉินรุ่ยตบๆ บ่าของเฉินิ "แต่เ้ามีหมอฝีมือสูงส่งอยู่ข้างกาย ต่อไปข้าคงหมดห่วงแล้วล่ะ"
สองพี่น้องสนทนากันอยู่ครู่หนึ่ง ยามอยู่ต่อหน้าเฉินรุ่ย เฉินิก็จะเก็บเขี้ยวเล็บอันร้ายกาจ ทำตัวน่ารักราวกับแมวน้อย
ถังชิงหรูยกอาหารเข้ามา ภาพที่นางเห็นคือสองพี่น้องรักใคร่กลมเกลียว นางวางสำรับอาหารบนโต๊ะ เอ่ยว่า "ของวางอยู่ตรงนี้ ข้ากลับก่อนนะ"
"รอเดี๋ยว" เฉินิรั้งให้นางหยุด "ไยถึงรีบแล่นกลับไปเร็วนัก หรือว่าวางยาพิษไว้ในอาหารเลยกลัวว่าจะถูกพวกเราจับได้"
ถังชิงหรูยกยิ้มน้อยๆ มองเฉินิ "ใช่แล้วล่ะ ข้าวางยาไว้เรียบร้อย แค่มิใช่ยาพิษ แต่เป็ยา… วสันต์ ท่านกล้ากินหรือไม่เล่า"
เฉินิหน้าแดงก่ำ จดจ้องใบหน้านางจนแทบทะลุ "ข้าล่ะสงสัยนัก ว่าสตรีเช่นเ้าสะกดคำว่ายางอายเป็หรือไม่ ถึงกล้าเอ่ยถึงสิ่งของพรรค์นั้นต่อหน้าบุรุษ"
"ข้าก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน ท่านทราบหรือไม่ว่าควรมีมารยาทต่อผู้มีพระคุณ อย่าลืมสิ ข้าคือยาถอนพิษของท่านนะ" ถังชิงหรูแค่นเสียงหึ "ข้ากลับล่ะ ถึงอย่างไรของก็ทำเสร็จแล้ว ท่านจะชอบหรือไม่ ข้าก็มิทำให้อีกเป็ครั้งที่สอง"
"แม่นางอย่าเพิ่งหงุดหงิด น้องิไม่ค่อยรู้ความ ข้าจะสั่งสอนเขาเอง" เฉินรุ่ยหันไปมองน้องชาย พลางกล่าวว่า "แม่นางช่วยชีวิตเ้า ไม่ว่าอย่างไร เ้าก็มิควรไร้มารยาทแบบนี้"
ต่อหน้าเฉินรุ่ย เฉินิย่อมไม่กล้ากล่าวอันใด ได้แต่ตอบรับอย่างฝืนใจ "ขอรับ ขอบคุณท่านหมอเทวดาที่มีพระคุณช่วยชีวิตข้าไว้"
ถังชิงหรูตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ "เอ่ยแบบขอไปที ไม่มีความจริงใจสักนิด หากจะขอบคุณแบบนี้ไม่พูดเสียยังดีกว่า ข้ากลับแล้ว พรุ่งนี้จะมาฝังเข็มให้ท่านอีก"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] มาจากสำนวนที่ว่าพระสูงสองจั้งคลำไม่ถึงศีรษะของท่าน หมายถึงมึนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้