ตอนที่ 3 ใครมาะโหน้าห้อง? ข้าจะนอน!
ความเงียบสงบคือสมบัติล้ำค่าที่สุดของมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์ที่เพิ่งใช้พลังงานในการด่าคนและบีบคออาสามไปเมื่อวันก่อน ฉันซุกตัวลงในหมอนขนเป็ดอย่างดีที่อาหลินไปหาซื้อมาให้ด้วยเงินตำลึงทองที่ได้จากการไถมาเมื่อวาน กลิ่นหอมจางๆ ของแดดที่ซึมอยู่ในเนื้อผ้าทำให้ฉันรู้สึกว่า์มีจริง และมันอยู่บนเตียงนี้นี่เอง
[ติ๊ง! คุณเข้าสู่สภาวะ นิ่งเป็หลับ ขยับเป็หายใจ เป็เวลา 3 ชั่วโมง] [ได้รับแต้มปลาเค็มสะสม: 200 แต้ม] [คำแนะนำจากระบบ: หากคุณสามารถนอนต่อได้อีก 1 ชั่วโมง ท่ามกลางเสียงรบกวนภายนอก คุณจะได้รับ เกราะปราณสูญญากาศ กันเสียงและกันตีนได้ 100%]
"จัดไประบบ... อย่าให้เสียชื่อราชินีแห่งการงีบ" ฉันตอบในใจพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
แต่ทว่า... ความปรารถนาของปลาเค็มมักจะถูกขัดขวางโดยพวก กิ้งก่าขยันขยับ เสมอ
"หลินชิงเซวียน! นังศิษย์ทรยศ! ออกมารับโทษเดี๋ยวนี้!"
เสียงะโนั้นทรงพลังจนฝุ่นบนเพดานร่วงกราวลงมาบนผ้าห่มของฉัน มันไม่ใช่เสียงแหบพร่าของคนแก่ แต่เป็เสียงที่กังวานและแฝงไปด้วยพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าหลินหงหลายเท่าตัว พื้นดินสั่นะเืเล็กน้อยตามจังหวะการก้าวเดินของเ้าของเสียง
ฉันขมวดคิ้วใต้ผ้าห่ม โอ๊ย... ใครอีกเนี่ย? คนจะนอน!
"คุณหนูคะ! คุณหนู!" อาหลินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง
"แย่แล้วค่ะ! ศิษย์พี่ใหญ่ เย่เฟิง จากสำนักเมฆาคล้อยพาคนมาที่เรือนค่ะ! เขาบอกว่าคุณหนูทำร้ายท่านอาสามและทำลายระเบียบตระกูล เขาจะมาจับคุณหนูไปขังที่ ถ้ำเหมันต์ค่ะ!"
ฉันยังคงนิ่ง "ถ้ำเหมันต์เหรอ? ที่นั่นเงียบไหมอาหลิน? ถ้าเงียบและแอร์เย็น ก็โอเคนะ"
"คุณหนู! มันคือคุกน้ำแข็งนะคะ! เข้าไปแล้วถ้าไม่มีพลังปราณคุ้มกาย ร่างกายจะแข็งตายในชั่วยามเดียวเลยนะคะ!" อาหลินร้องไห้โฮ
ฉันถอนหายใจยาว สลัดผ้าห่มออกช้าๆ แล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนแบบส่งๆ "ขังคนในคุกน้ำแข็ง? ช่างเป็รสนิยมที่ป่าเถื่อนจริงๆ... ไปบอกเขาซิอาหลิน ว่าถ้าอยากคุย ให้เขามาคุยที่หน้าต่างห้องนอนฉัน ห้ามก้าวเท้าเข้าห้องเด็ดขาด เพราะฉันยังไม่ได้กวาดพื้น"
"แต่คุณหนูคะ..."
"ไปเถอะจ้ะ... บอกเขาว่าถ้าเขายังะโอีกคำเดียว ฉันจะทำให้เขาะโไม่ได้ไปตลอดชีวิต"
อาหลินตัวสั่น แต่ก็ยอมทำตามคำสั่ง ฉันได้ยินเสียงโต้เถียงกันครู่หนึ่ง ก่อนที่หน้าต่างไม้ผุๆ ของห้องนอนจะถูกพลังปราณกระแทกจนเปิดออกเผยให้เห็นชายหนุ่มในชุดศิษย์เอกสีฟ้าคราม ใบหน้าของเขาหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยความจองหอง ดวงตามองมาที่ฉันราวกับมองหนอนแมลง
"หลินชิงเซวียน! เ้ากล้าดีอย่างไรถึงให้สาวใช้มาพูดจาสามหาวกับข้า!" เย่เฟิงตวาด "ขยะอย่างเ้าทำร้ายท่านอาสามได้อย่างไร? เ้าต้องไปรับโทษที่สำนักเดี๋ยวนี้!"
ฉันนั่งอยู่บนขอบเตียง เท้าคางมองเขาด้วยสายตาที่ง่วงงุนเต็มที
"คุณชื่อเย่เฟิงสินะ? หน้าตาก็ดีนะ แต่เสียดายที่สมองทำงานช้ากว่าใบหน้าไปเยอะเลย คุณรู้ไหมว่าทำไมอาสามถึงถูกฉันจัดการ?"
"เพราะเ้าใช้วิชามารสกปรก!"
"ผิดค่ะ..." ฉันยิ้มที่มุมปาก
"เพราะเขาขยันเกินเหตุ ขยันรังแกคนที่ไม่มีทางสู้ และขยันมาขัดจังหวะการพักผ่อนของฉัน ส่วนคุณ... คุณเย่เฟิง คุณก็กำลังเดินตามรอยเท้าเขาอยู่เป๊ะๆ เลยนะคะ"
เย่เฟิงชักกระบี่ออกมา แสงกระบี่สีครามวาววับ
"หุบปาก! ข้าคือศิษย์เอกอันดับหนึ่งของสำนักเมฆาคล้อย พลังปราณระดับ 6 ขั้นต้น! ขยะอย่างเ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า!"
ฉันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เป็เสียงหัวเราะที่ฟังดูเหนื่อยหน่ายที่สุดในโลก "ระดับ 6 ขั้นต้น? ว้าว... น่าประทับใจจังเลยค่ะ เหมือนมดที่พยายามจะบอกว่าตัวเองตัวใหญ่กว่ามดอีกตัวอย่างนั้นแหละ สำนวนจีนเขาว่ายังไงนะ? กบในกะลาครอบ คุณคิดว่าระดับ 6 ของคุณมันยิ่งใหญ่มากเหรอ?"
[ระบบ: ตรวจพบศัตรูระดับ 6... คุณ้าใช้แต้มปลาเค็ม 500 แต้ม เพื่อเปิดใช้งาน 'เขตแดนี้เีสมบูรณ์แบบ' หรือไม่?]
เปิดเลย... และช่วยทำให้เขาสงบปากสงบคำที ฉันรำคาญเสียงกระบี่นั่น
ทันทีที่เย่เฟิงพุ่งตัวเข้ามาพร้อมกับกระบี่ที่หมายจะฟันแขนฉัน จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนร่างกายจมลงไปในโคลนดูดที่มองไม่เห็น พลังปราณที่เคยไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งกลับหยุดนิ่งสนิท แรงโน้มถ่วงรอบตัวเขาเพิ่มขึ้นนับสิบเท่าจนเขาทรุดเข่าลงกับพื้นห้องนอนฉันดัง โครม!
"อึก! นี่มัน... วิชาอะไรกัน!" เย่เฟิงพยายามจะยกกระบี่ แต่แม้แต่นิ้วมือเขายังขยับไม่ได้
ฉันลุกขึ้นยืนช้าๆ เดินเข้าไปหาเขาทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน
"มันไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้หรอกค่ะคุณเย่เฟิง มันคือ ความสงบ คุณน่ะขยันขยับเกินไป จิตใจว้าวุ่นอยู่กับชื่อเสียงและอำนาจ จนลืมไปว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคือการอยู่นิ่งให้เป็"
ฉันเอื้อมมือไปหยิบกระบี่ชั้นดีจากมือที่สั่นเทาของเขามาถือไว้ "กระบี่สวยดีนะ... ในมือของคุณ แต่มันก็แค่เศษเหล็กที่เอาไว้ขู่เด็กเท่านั้น"
ฉันหักกระบี่เล่มนั้นด้วยมือเปล่าดัง เพล้ง! ราวกับหักกิ่งไม้แห้งๆ เศษเหล็กร่วงลงพื้นกระจายไปทั่ว
เย่เฟิงตาเหลือกค้าง ความภาคภูมิใจทั้งหมดของเขาพังทลายลงพร้อมกับกระบี่คู่ใจ
"เ้า... เ้าคือปีศาจ! เ้าซ่อนพลังไว้ระดับไหนกันแน่!"
"ฉันไม่ได้ซ่อน... ฉันแค่ี้เีใช้" ฉันก้มลงกระซิบที่ข้างหูเขา กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าจากชุดนอนของฉันช่างขัดกับบรรยากาศที่กดดันจนหายใจไม่ออก
"กลับไปบอกเ้าสำนักของคุณนะคะ ว่าถ้าอยากได้ตัวฉันไปรับโทษ ให้เขามาเอง... และบอกเขาด้วยว่า ให้พกชาเข็มเงิน เกรดพรีเมียมมาด้วยสักสองกิโลกรัม เป็ค่าเสียเวลาที่ฉันต้องลุกจากเตียง"
"เ้า... เ้ากล้าสั่งท่านเ้าสำนัก!"
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?" ฉันยิ้มหวาน
"ในเมื่อศิษย์เอกอันดับหนึ่งของเขายังคุกเข่าอยู่หน้าเตียงนอนฉันแบบนี้ เขาก็ควรจะรู้ตัวได้แล้วว่าเขา ขยันผิดคนแล้ว"
ฉันสะบัดมือเบาๆ เขตแดนที่กดทับอยู่ก็คลายออก แต่เย่เฟิงกลับไม่มีแรงแม้แต่จะยืน เขาคลานออกไปจากห้องผ่านทางหน้าต่างที่เขาพังเข้ามา ท่าทางทุลักทุเลเหมือนสุนัขที่ถูกน้ำร้อนลวก
อาหลินที่แอบดูอยู่หน้าประตูวิ่งเข้ามา
"คุณหนู! คุณหนูหักกระบี่ศิษย์พี่ใหญ่! นี่มัน... นี่มันเื่ใหญ่ระดับะเืสำนักเลยนะคะ!"
"เื่ใหญ่เหรอ?" ฉันหาวพลางกลับไปล้มตัวลงนอนที่เดิม
"เื่ใหญ่สำหรับฉันคือการที่พรุ่งนี้ไม่มีใครมาะโปลุกมากกว่าอาหลิน... อ้อ แล้วช่วยปิดหน้าต่างให้ทีนะ ลมมันแรง เดี๋ยวฉันเป็หวัดจะนอนลำบาก"
ในขณะที่ฉันกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นที่ข้างเตียง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็ใคร
"เซวียนเอ๋อร์..." หลินเจิ้น พ่อของฉันเดินเข้ามา เขามองดูเศษกระบี่บนพื้นแล้วมองมาที่ลูกสาวที่นอนคลุมโปง
"เ้าทำเกินไปหรือเปล่า? เย่เฟิงคือหลานชายของผู้าุโใหญ่ในสำนักนะ"
ฉันโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม มองดูพ่อที่ตอนนี้เดินได้เกือบปกติแล้ว แสดงว่าหายแล้ว
"พ่อคะ... คุณรู้ไหมว่าทำไมคนถึงชอบรังแกเรา? เพราะเราทำตัวเป็สุภาพชน มากเกินไปไงคะ ในโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ถ้าเราไม่แสดงให้เขาเห็นว่าเราคือ วาฬ เขาก็จะคิดว่าเราคือ กุ้งฝอยตลอดไป"
ฉันจับมือพ่อ "หนูไม่ได้อยากสู้ หนูแค่อยากนอน นอนสบายๆ กับพ่อที่นี่ แต่ถ้าใครจะมาพังบ้านเรา หนูจะทำให้เขารู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่คือภาระที่หนักอึ้งที่สุด"
หลินเจิ้นนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจและยิ้มออกมา
"นั่นสินะ... พ่อเองก็นิ่งเฉยมานานเกินไป จนลืมไปว่าการปกป้องลูกคือหน้าที่เดียวที่พ่อควรจะขยัน"
เขาลูบหัวฉัน
"นอนเถอะลูก... พ่อจะไปนั่งเฝ้าหน้าเรือนเอง ใครหน้าไหนจะเข้ามา พ่อจะจัดการให้ก่อนถึงมือเ้า"
"ขอบคุณค่ะพ่อ... อ้อ พ่อคะ ฝากบอกอาหลินด้วยว่าพรุ่งนี้เช้าหนูอยากกินบะหมี่เนื้อตุ๋นนะคะ ใส่พริกเยอะๆ จะได้กระตุ้นสมองไปด่าคนต่อ"
ฉันหลับตาลงอย่างเป็สุข ความอบอุ่นจากครอบครัวที่ฉันไม่เคยได้รับในชาติก่อนกำลังเติมเต็มช่องว่างในหัวใจ
[ติ๊ง! ภารกิจ สั่งสอนกบในกะลา สำเร็จ!] [ได้รับแต้มปลาเค็ม: 2,000 แต้ม] [เลเวลระบบ: 3] [คุณได้รับรางวัล: พัดจีบสยบหมื่นลี้ ใช้พัดเพียงครั้งเดียว ลมพัดแรงจนคนน่ารำคาญปลิวหายไปถึงนอกเมือง!]
"ขอบใจนะระบบ... แต่ตอนนี้... ขอฉันนอนต่ออีกห้านาทีนะ... ห้านาทีจริงๆ..."
แต่ปลาเค็มอย่างหลินชิงเซวียนไม่รู้เลยว่า การหักกระบี่ของเย่เฟิงในวันนี้ จะนำมาซึ่งพายุลูกใหญ่ที่พัดพา ท่านอ๋องปีศาจ ผู้แสนลึกลับมาเยือนเรือนร้างแห่งนี้ในตอนต่อไป!
