หารือ?
เซียวจื่อเซวียนเดินเข้ามาได้ยินเซี่ยยวี่หลัวบอกว่าจะหารือพอดี
“พี่สะใภ้ใหญ่?”
“ข้าอยากจัดห้องของเ้าใหม่ เตียงนี่จะวางติดกำแพงไม่ได้หากฝนตกน้ำจะซึมเข้ามาได้ง่าย ข้าคิดจะวางไว้ตรงนี้ห่างจากกำแพงเล็กน้อยจะได้ไม่ชื้น เ้าคิดว่าพอจะได้หรือไม่?” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวพลางชี้ให้ดู
เซียวจื่อเมิ่งไม่เข้าใจ เพียงพยักหน้าพร้อมบอกว่าได้
เซี่ยยวี่หลัวกำลังคิดจะย้าย ก็เห็นเซียวจื่อเซวียนเข้ามา "ไม่ได้จื่อเมิ่งชอบนอนพลิกตัวไปมา หากย้ายเตียงมา ไม่พิงกำแพง ข้ากลัวนางจะตกเตียง!"
"ข้ารู้!" เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามเป็เชิงขอความคิดเห็น "อือ คือว่าข้าอยากให้จื่อเมิ่งนอนกับข้า เ้าคิดเห็นอย่างไร?"
เซียวจื่อเมิ่งมองเซี่ยยวี่หลัว ก่อนหันมองเซียวจื่อเซวียนนอนกับพี่สะใภ้อย่างนั้นหรือ?
แววตาเซียวจื่อเซวียนเต็มไปด้วยความหวาดระแวง เขามองเซี่ยยวี่หลัวพร้อมดึงเซียวจื่อเมิ่งมา ท่าทีระแวงนั้นราวกับเซี่ยยวี่หลัวเป็ปีศาจกินคนอย่างไรอย่างนั้น
เซี่ยยวี่หลัวกลัวเขาจะเข้าใจผิด จึงรีบอธิบาย "เ้าอย่าเข้าใจผิดข้าเพียงคิดว่า เ้าอายุแปดขวบแล้ว เตียงก็เล็ก นอนคนเดียวยังพอได้นอนสองคนจะเบียดเกินไป ข้าคิดว่าเตียงของข้าใหญ่จะให้จื่อเมิ่งมานอนกับข้าได้หรือไม่ เ้าเองก็จะได้นอนสบายขึ้น!"
เซียวจื่อเซวียนไม่กล่าวสิ่งใด ไม่พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ส่ายหน้า แต่ที่เขาไม่ตอบตกลงเซี่ยยวี่หลัวก็เข้าใจว่าเซียวจื่อเซวียนไม่วางใจ จึงได้แต่ปล่อยไป
นำโต๊ะเตี้ยในห้องตัวเองออกมาวางไว้ริมกำแพงก่อนนำเก้าอี้สองตัวมาไว้ด้านใน เตียงยังใหญ่เท่าเดิม แต่ไม่ได้ติดกำแพงหากฝนตกแล้วมีน้ำรั่วซึมก็จะไม่เป็อะไรมาก
นางทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ก็กลับห้องตัวเองเพื่อพักผ่อนเหลือเพียงสองพี่น้องนั่งอยู่บนเตียง มองดูห้องอันคุ้นเคยของตัวเองด้วยความเหลือเชื่อ
ห้องยังคงเป็ห้องเดิม หลังจากทำความสะอาดอย่างละเอียดกลับเกิดความรู้สึกไม่คุ้นชิน
ใยแมงมุมที่ติดอยู่ตามมุมเพดานถูกปัดกวาดจนสะอาดโต๊ะถูกเช็ดจนไม่มีคราบฝุ่น เตียงก็ถูกเช็ดจนสะอาด ไม่เหลือฝุ่นผงแม้แต่น้อย พื้นใต้เท้าก็โดนกวาดหลายหนจนสะอาดหมดจด
ข้าวของที่เมื่อก่อนกองระเกะระกะถูกจัดเก็บอย่างเป็ระเบียบของที่ตากแดดได้ ตอนนี้ล้วนถูกนำไปตากอยู่ด้านนอก ภายในห้องสะอาดเรียบร้อยมาก
เครื่องนอนและผ้าปูเตียงตากแดดอยู่ด้านนอกระหว่างนอนหลับในตอนกลางคืน จะได้กลิ่นของแสงแดด
สองพี่น้องนั่งอยู่ริมเตียงต่างก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เซียวจื่อเมิ่งมองเซียวจื่อเซวียนก่อนมองพื้นข้างเท้า เหมือนอยากกล่าวอะไรกับพี่รอง สุดท้ายก็กัดริมฝีปากไม่ได้กล่าวออกมา
เซี่ยยวี่หลัวกลับห้องไปดื่มน้ำ ก่อนเริ่มรื้อตู้ของตัวเองอีกครั้ง
ภายในตู้มีผ้าปูเตียงและปลอกผ้านวมอีกหนึ่งผืนเป็ผ้าฝ้ายละเอียดสีม่วง ลองจับดูถือว่าพอจะอ่อนนุ่มยังมีผ้านวมฝ้ายที่เล็กกว่าเตียงเล็กน้อย หนักหลายจิน [1]หนากว่าผ้านวมของสองพี่น้องมาก
นางรื้อออกมา นำไปตากแดดข้างนอก คืนนี้นางจะนำปลอกผ้านวมผืนนี้ไปใส่ผ้านวมให้สองพี่น้องผืนเดิมของพวกเขาขาดจนไม่มีชิ้นดี ใช้ผืนเก่าของนางก่อน ไว้ค่อยซื้อผืนใหม่ในภายหลัง
หลังจากตระเตรียมเสร็จแล้วเซี่ยยวี่หลัวจึงไปทำอาหารเที่ยงที่ห้องครัว
เข้าไปในครัว ไข่ไก่ที่ซื้อมาวางอยู่บนเตาปรุงอาหาร เซี่ยยวี่หลัวหยิบไข่มาสามฟองตอกไข่และคนเสร็จแล้วจึงเหยาะน้ำมันลงไปเล็กน้อย เติมเกลืออีกนิดหน่อยใส่น้ำจำนวนหนึ่งก่อนคนอีกครั้ง หยิบตะแกรงมาวางในหม้อเพื่อนึ่ง นางจะทำไข่ตุ๋นแบบนี้กินกับข้าวก็อร่อยทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการ
ล้างผักจี้ช่ายที่เก็บมาเมื่อวานจนสะอาด น้ำในหม้อเริ่มเดือดแล้วเซี่ยยวี่หลัวใส่น้ำไว้ไม่น้อย หลังจากน้ำเดือดจึงตักออกมาชามใหญ่ วางไว้ข้างๆข้าวในยุคนี้ปลูกด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ น้ำข้าวก็มีสารอาหารมาก
"จื่อเมิ่ง จื่อเมิ่ง..." เซี่ยยวี่หลัวยังยุ่งอยู่ จึงส่งเสียงเรียกออกไปด้านนอก
ภายในห้อง สองพี่น้องยังตกอยู่ในภวังค์เซียวจื่อเมิ่งได้ยินเซี่ยยวี่หลัวกำลังเรียกตัวเอง จึงรีบลุกขึ้นเพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความใ
เซียวจื่อเมิ่งมองออกไปด้านนอก ก่อนหันมองเซียวจื่อเซวียนใบหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ตื่นเต้นและปรารถนา
เซียวจื่อเซวียนมองเซียวจื่อเมิ่ง รู้ว่านางจะไปหาเซี่ยยวี่หลัวเพียงยิ้มพร้อมกล่าว "ไปสิ!"
เซียวจื่อเมิ่งสาวเท้าเล็กวิ่งไปทันที
เซียวจื่อเซวียนมองเซียวจื่อเมิ่งที่ออกไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางเหม่อลอยแววตาฉายประกายซับซ้อน ขมวดคิ้วมุ่น เหมือนกำลังดิ้นรนจากอะไรบางอย่าง
น้ำข้าวที่ต้มจนเดือดทั้งหอมทั้งข้นเซี่ยยวี่หลัวตอกไข่ลงไปหนึ่งฟอง น้ำข้าวเดือดทำให้ไข่ไก่กระจายตัวเซี่ยยวี่หลัวใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อย นำไปให้เซียวจื่อเมิ่ง “ไปดื่มน้ำข้าวใส่ไข่ชามนี้กับพี่รองของเ้า!”
ไข่ไก่และน้ำข้าวต่างก็หอมกรุ่น เซียวจื่อเมิ่งกลืนน้ำลายยกชามไปในห้อง
เซียวจื่อเซวียนเห็นน้องสาวไปแล้วกลับมาอีกทั้งยังถือชามใบหนึ่งไว้ในมือ “เป็อันใดไป?”
“พี่สะใภ้ใช้น้ำข้าวชงไข่ไก่ บอกว่าให้เราดื่มให้หมด!” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวพร้อมยกชามในมือขึ้น
เซียวจื่อเมิ่งมองดูน้ำข้าวข้นด้านใน ทั้งยังมีไข่ที่กระจายตัวไอร้อนและกลิ่นหอมกรุ่นพวยพุ่งขึ้นมา
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าตอนนี้ไม่มีอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากนักไข่ไก่เป็อาหารบำรุงร่างกายที่ดีที่สุด เด็กสองคนร่างกายซูบผอมขนาดนั้นดื่มน้ำข้าว กินไข่ไก่ บำรุงให้มาก อย่างไรก็สามารถบำรุงร่างกายที่ซูบผอมนี้ได้
เซียวจื่อเมิ่งเลียริมฝีปากขณะมองดูน้ำข้าวใส่ไข่ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งชาม “พี่รองท่านไม่กินหรือ? หอมหวานมากทีเดียว!”
เซียวจื่อเซวียนส่ายหน้าลูบผมทรงซาลาเปาแสนน่ารักของเซียวจื่อเมิ่ง กล่าวด้วยท่าทางเอ็นดู “พี่รองไม่กินจื่อเมิ่งกินเถอะ”
ดวงตาคู่โตของเซียวจื่อเมิ่งมองดูน้ำข้าวใส่ไข่ที่เหลืออยู่ในชามด้วยแววตาตะกละคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็วางลง
"เป็อะไรไป? ทำไมถึงไม่กิน?" เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถาม
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงแ่เบา "พี่รองไม่กินจื่อเมิ่งก็ไม่กินเ้าค่ะ!"
เซียวจื่อเซวียนยิ้มพร้อมกล่าว "เมื่อครู่เ้าบอกว่าหอมหวานมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงไม่กินล่ะ?"
เซียวจื่อเมิ่งรวบรวมความกล้าก่อนกล่าว "นี่เป็ของที่พี่สะใภ้ใหญ่ให้ข้ากับท่านกินด้วยกันนางให้ข้ากินพร้อมกับท่าน ข้ากินส่วนที่ข้าควรกินไปแล้วที่เหลือควรเป็ส่วนของท่าน หากท่านไม่กิน พี่สะใภ้ใหญ่ก็จะรู้ว่าท่านไม่ได้กิน!"
เซียวจื่อเซวียนกล่าวอะไรไม่ออก "จื่อเมิ่ง..."
"พี่รอง ท่านกินเถอะนี่เป็น้ำข้าวใส่ไข่ที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำให้พวกเราโดยเฉพาะ อร่อยมากจริงๆ!" เซียวจื่อเมิ่งโยกแขนเซียวจื่อเซวียนใบหน้าเล็กฉายประกายขอร้องอ้อนวอน
เซียวจื่อเซวียนไม่อาจขัดขืนได้มองดูน้ำข้าวใส่ไข่ชามนั้นด้วยแววตาซับซ้อน เซียวจื่อเมิ่งเห็นว่าพี่รองไม่ได้ปฏิเสธที่จะดื่มจึงยื่นส่งไปตรงริมปากเซียวจื่อเซวียนประหนึ่งส่งมอบสมบัติล้ำค่าก็มิปาน “ดื่มสิ พี่รอง!”
เซียวจื่อเซวียนยื่นมือมาจะรับชามเซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยท่าทางดีใจ “ข้าป้อนพี่รองเอง” เขาหลุดหัวเราะอย่างจนใจมือของนางยกขึ้นป้อนน้ำข้าวใส่ไข่ให้เขาดื่มจนหมด
เซียวจื่อเมิ่งเอ่ยถาม “อร่อยหรือไม่พี่รอง!”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “อร่อย!”
เซียวจื่อเมิ่งจะเอาชามไปคืน “พี่รองพี่สะใภ้ใหญ่กำลังทำอาหาร พวกเราไปช่วยกันเถอะ!”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “ได้!”
เมื่อทั้งสองคนมาถึงห้องครัว อาหารก็เสร็จแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวผัดผักจี้ช่ายจานใหญ่ ตอนสองพี่น้องเข้ามาเพิ่งตักขึ้นจากกระทะพอดี
เห็นสองพี่น้องมา เซี่ยยวี่หลัวรีบยิ้มพร้อมกล่าว “มาแล้วหรืออาหารเสร็จแล้ว ยกไปวางบนโต๊ะก็กินได้เลย!”
นางเป็คนชอบยิ้มเป็พิเศษ คิ้วงามโก่งโค้ง แม้แต่ดวงตาก็กำลังยิ้ม
เชิงอรรถ
[1]จิน คือหน่วยวัดน้ำหนักของจีน โดย1 จิน = 500 กรัม