ว่านฉิน สาวแก่ขึ้นคานนางนั้น มิยอมแต่งงานจนตัวตาย นางจะมิแต่งงานชั่วชีวิตเพื่อท่านพ่อ จากนั้นก็ให้ลูกสาวบุญธรรมของนางมาแต่งงานกับเขา หากมิใช่เพราะคะนึงถึงความงามของลูกสาวบุญธรรมของว่านฉิน เขาก็มิยอมแต่งงานด้วยหรอก
“ลูกเอ๋ย เ้าคงมิได้ยังรักว่านเนี่ยนเนี่ยนอยู่ใช่หรือไม่” เกาซื่อโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ เมื่อเห็นลูกชายลังเลมิตัดสินใจสักที
“ท่านแม่ นางตายไปแล้ว เหตุใดท่านต้องพูดถึงนางอีก” ซย่าหลี่จวินขัดเกาซื่ออย่างมิพอใจ เขากับว่านเนี่ยนเนี่ยนเป็สามีภรรยากันเพียงในนามเท่านั้น นอกจากจับมือและจรดริมฝีปากลงบนใบหน้าของนาง เขาก็มิเคยหลับนอนกับนางด้วยซ้ำ
เวลานั้นเขาบุ่มบ่าม ถึงยอมแต่งสตรีมีครรภ์เป็ภรรยา เพื่อให้ท่านแม่ยอม เขาจึงโกหกท่านแม่ว่าลูกในท้องของนางคือลูกของเขา
“ลูกเอ๋ย หากเด็กนั่นมิใช่ลูกของเ้า พวกเราก็สามารถใช้ภูมิหลังของนางมาสร้างความปั่นป่วนได้ ถึงเวลานั้นนางคงอยู่กับซ่งจื่อเฉินต่อไปมิได้แล้ว”
“ช่างเถิด เด็กนั่นหัวแหลมยิ่งนัก ถึงข้าอยากจะปิดบังเพียงใดก็ปิดมิอยู่หรอก” ซย่าหลี่จวินยอมเล่าความจริงให้เกาซื่อฟัง เมื่อเกาซื่อฟังจบ นางก็โกรธจนฉุดมิอยู่
ลูกชายยอดดวงใจของนาง ปิดบังนางมาอย่างยากลำบาก
“พวกเราช่วยเลี้ยงลูกสาวของว่านเนี่ยนเนี่ยนมาแบบเปล่าประโยชน์ จะช่างเื่นี้มิได้ พวกเราต้องเอาเื่นี้ไปเปิดเผยต่อหน้าชาวบ้าน ให้เด็กบ้านั่นถูกผู้คนรังเกียจที่เป็ลูกมิมีพ่อ”
“อย่า หากท่านเอาไปประกาศ พวกเราจะขอเงินจากนางได้อย่างไร เด็กนั่นมีเงินมากมาย รอให้พวกเราปอกลอกนางจนหมดตัว แล้วค่อยจัดการนางดีกว่าขอรับ”
ซย่าหลี่จวินกังวลว่าเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกไปแล้วเขาจะมิได้เงินของจิ่นเซวียนอีก
ความคิดของเกาซื่อตรงข้ามกับซย่าหลี่จวินโดยสิ้นเชิง นางรู้สึกว่านี่คือจังหวะที่เหมาะสมแล้ว หากมิเอาเงินของจิ่นเซวียนในเวลานี้ พวกเขาก็เลิกคิดว่าจะได้เงินจากจิ่นเซวียนอีกเลย
“ลูกเอ๋ย เพื่ออนาคตของเ้า เ้าต้องโเี้เสียหน่อย เ้าฟังข้าและข้าสัญญาว่าเ้าจะได้สิ่งที่้ามาอย่างราบรื่น”
“ท่านแม่ เด็กเซวียนเซวียนนั่นยังมีน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่แน่ ข้าขอนางแล้ว แต่นางมิยอมให้ขอรับ”
“เก็บเื่น้ำยาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ก่อน พวกเราสามารถใช้ภูมิหลังของนาง บังคับเอาเงินสินสมรสจากนางได้” เกาซื่อราวกับเห็นเงินโบกมือให้นาง นางตัดสินใจจะขอเงินหนึ่งพันตำลึงจากจิ่นเซวียน หากได้มากกว่านั้นก็ยิ่งดี
“เงินสินสมรสมีแค่เท่าใดเอง น้ำยาศักดิ์สิทธิ์ขวดหนึ่งมีค่ามากกว่าเงินสินสมรสส่วนนั้นเสียอีก” ซย่าหลี่จวินลังเล แล้วจึงตัดสินใจยอมรับคำแนะนำของเกาซื่อและรีบตรงไปหาจิ่นเซวียน
เกาซื่อและซย่าหลี่จวินมุ่งตรงมาที่บ้านของซย่าชุนอวิ๋น เมื่อมิเห็นจิ่นเซวียนและซ่งจื่อเฉิน พวกเขาจึงรีบไปที่บ้านของสวี่ติ้งหรงแทน
“ซย่าจิ่นเซวียน เ้าไสหัวออกมา” เมื่อเกาซื่อมาถึงหน้าประตูบ้านของสวี่ติ้งหรง นางก็เอะอะโวยวายทันที พวกเขาเอ็ดตะโรจนสวี่ติ้งหรงใ
“หลี่จวิน แม่ของเ้ามาก่อกวน เ้าก็ตามนางมาก่อกวนด้วยหรือ?” สวี่ติ้งหรงเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ และเหลือบมองซย่าหลี่จวินอย่างมิพอใจ
“ท่านอาสะใภ้เล็ก เซวียนเซวียนเล่าขอรับ?” ซย่าหลี่จวินเผยรอยยิ้มบาง มิได้ก้าวร้าวแต่อย่างใด
“เซวียนเซวียนมิอยู่ที่บ้านของข้า” สวี่ติ้งหรงพูดปดเล็กน้อย
“หึ มิอยู่ที่บ้านของเ้า แล้วไปมุดดินอยู่ที่ใดหรือ?สวี่ติ้งหรง ข้าขอเตือนว่าเ้าอย่ามายุ่งเื่ของพวกเราจะดีกว่า มิเช่นนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงยิ่งนัก”
เกาซื่อพูดแล้วพุ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของบ้านสวี่ติ้งหรง สวี่ติ้งหรงเห็นว่าพวกเกาซื่อเตรียมตัวมาเป็อย่างดี นางจึงบอกให้ลูกชายรีบไปตามซย่าหลี่เจิ้งมาทันที
“ดียิ่งนัก กล้าดีอย่างไรมาโกหกข้า” เมื่อเกาซื่อเห็นจิ่นเซวียนอยู่ในห้องโถงใหญ่ นางก็โกรธจนควันออกหู
“หลานนอกคอก แม่ของเ้าสวมหมวกเขียวให้ลูกชายของข้า เ้ายังกล้ามารังแกข้าถึงบ้านอีก เ้ากล้าหาญยิ่งนัก”
“แม่เฒ่า ท่านพูดจาให้เกียรติกันหน่อย” จิ่นเซวียนรู้ว่าเกาซื่อพูดถึงเื่ใด แต่นางแสร้งทำเป็มิรู้
จากที่นางรู้จักเกาซื่อมา เกาซื่อคงมิยอมวางมือ เกาซื่อตามมาถึงบ้านของท่านย่าเล็กเช่นนี้ คงรู้ภูมิหลังของนางแล้ว
“หลานนอกคอก ข้าลำบากเลี้ยงเ้ามาจนโต แต่เ้ากลับมิใช่หลานสาวแท้ๆ ของข้า วันนี้เ้าจะต้องชดใช้หนี้แทนแม่ของเ้า” เดิมทีเกาซื่อนั้นก็เป็สตรีไร้เหตุผลอยู่แล้ว และเมื่อนางรู้ภูมิหลังของจิ่นเซวียนเช่นนี้ นางจะปล่อยจิ่นเซวียนไปง่ายๆ ได้อย่างไร นาง้าให้จิ่นเซวียนมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่นาง
“ท่านพ่อ ท่านย่าด่าข้าว่านอกคอก ท่านมิมีสิ่งใดจะพูดหรือ?” จิ่นเซวียนลืมตามองซย่าหลี่จวิน เพื่อขอความเห็นจากเขา หากเขาสนับสนุนเกาซื่อ นางก็มิมีความจำเป็ต้องคำนึงถึงสิ่งใดมากมาย
“เซวียนเซวียน เื่มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้ามิอาจปิดบังเ้าได้อีก เ้ามิใช่ลูกสาวของข้าจริงๆ ครานั้นข้าโกหกท่านย่าว่าเ้าคือลูกสาวของข้า ก็เพื่อให้นางยอมรับการแต่งงานของข้ากับแม่ของเ้า” แม้น้ำเสียงของซย่าหลี่จวินจะอ่อนโยน แต่มันทิ่มแทงลึกเข้ามาในหัวใจของจิ่นเซวียนราวกับคมดาบ แม่ของนางมิได้โกหกซย่าหลี่จวิน หากมิใช่เพราะซย่าหลี่จวินเต็มใจแต่งกับแม่ของนาง แม่ของนางคงมิยอมแต่งงานกับเขาแน่
“ลูกเอ๋ย เ้าอย่าไปพูดจาไร้สาระกับนางเลย รีบให้นางมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้พวกเรามาดีกว่า” เกาซื่อตรงไปตรงมาจริงๆ เมื่ออ้าปากก็ขอเงินจากนางเลย
“ท่านมิใช่ย่าแท้ๆ ของข้าเสียหน่อย เหตุใดข้าต้องให้เงินท่านด้วย” จิ่นเซวียนยิ้มเยาะอย่างมินำพา จุดอ่อนที่เกาซื่อจะใช้เล่นงานนาง มิใช่ภูมิหลังของนางหรือ?
ลูกมิมีพ่อก็ลูกมิมีพ่อ นางมิสนใจหรอก หากซ่งจื่อเฉินมิ้านาง เพราะภูมิหลังของนาง แสดงว่าเขามิคู่ควรกับความดีของนาง
“เ้า เ้ามิกลัวว่าข้าจะเอาภูมิหลังของเ้าไปป่าวประกาศ แล้วทำให้เ้าอับอายไปตลอดชีวิตหรือ?” เกาซื่อมิคิดว่าจิ่นเซวียนจะตอบเช่นนี้ มันเกินกว่าที่นางคาดเอาไว้
“ภรรยาของข้ามิได้ขโมยหรือปล้นทรัพย์สินของผู้ใดมา ผู้ใดจะกล้าดูถูกนาง คนเราเลือกเกิดมิได้ ท่านคุกคามนางให้มันน้อยๆ หน่อยเถิด” ซ่งจื่อเฉินเข้าใจเจตนาของเกาซื่อ เขาจับมือของจิ่นเซวียนเอาไว้ ให้นางรู้ว่ายังมีเขาอยู่ มิต้องกังวล
“จื่อเฉิน เ้าอย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้อยากขู่เซวียนเซวียน ข้าเพียงแค่อยากบอกความจริงกับนางเท่านั้น” ซย่าหลี่จวินยังอยากทำตัวเป็คนดี
“เ้าลูกโง่ เ้าถูกสวมหมวกเขียวแล้วยังจะใจดีเช่นนี้อีก” เกาซื่อมิพอใจกับวิธีการของลูกชาย นางรู้สึกว่าวิธีการของเขามันนุ่มนวลเกินไป กลัวว่าหากทำเช่นนี้แล้วจะเอาเงินมามิได้
“ท่านพ่อ แม้ท่านจะมิเคยเลี้ยงดูและมิเคยให้เงินกับข้าสักเหวินเดียว แต่ข้าก็ยังเต็มใจจะให้เงินส่วนหนึ่งกับท่านเ้าค่ะ” จิ่นเซวียน้าตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับพ่อเฮงซวยให้ได้ นางจึงยอมเสียเงินเสียหน่อย
“พวกเราเลี้ยงเ้ามาหลายสิบปี เ้าคิดว่าเงินจำนวนเล็กน้อยจะไล่พวกเราไปได้หรือ?อย่างน้อยๆ เ้าต้องให้พวกเราหนึ่งพันตำลึง”
“พวกเรามิมีเงินมากเช่นนั้นหรอก หนึ่งพันตำลึงมันมากเกินไป” จิ่นเซวียนมิอยากเสียเปรียบเกาซื่อ พวกนางอยากได้เงินหนึ่งพันตำลึงหรือ ย่อมได้แต่นางมีเงื่อนไข
“เกาซุ่ยจู๋ เซวียนเซวียนเกิดมาก็ได้ซย่าชุนอวิ๋นคอยดูแล เ้าเคยดูแลนางหรือ?เ้ายังมีหน้ามาขอเงินจากเซวียนเซวียนตั้งหนึ่งพันตำลึงอีก ช่างใจกล้าหน้าด้านเสียจริง” สวี่ติ้งหรงเกลียดเกาซื่อยิ่งนัก ั้แ่ที่จิ่นเซวียนมาโลกนี้ เกาซื่อก็มิเคยกอดนางเลย มิต้องพูดถึงเื่ซื้อของกินให้ด้วยซ้ำ
“สวี่ติ้งหรง เ้ามันยุ่งมิเข้าเื่ แม้ข้าจะมิเคยเลี้ยงดูนาง แต่นางก็เป็ส่วนหนึ่งของครอบครัวของข้าอยู่ดี หากมิมีพวกเรา นางคงกลายเป็ลูกมิมีพ่อ มิมีหน้ามีตาในสังคมไปนานแล้ว” เกาซื่ออ้าปากพูดทีมีแต่คำว่าลูกมิมีพ่อ มิไว้หน้าจิ่นเซวียนเลยสักนิด
“แม่เฒ่า ท่านอย่าได้คืบจะเอาศอก ท่านยั่วโทสะของข้าแล้ว ข้าก็จะมิให้เงินท่านสักเหวินเดียว” จิ่นเซวียนรู้สึกต่อต้านภูมิหลังของตนเองเล็กน้อย ผู้ที่มิรู้จักพ่อของตนเองอาจจะถูกผู้คนประณามจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้