ทันใดนั้นประตูห้องสอบสวนก็ถูกเปิดออกเ้าหน้าที่เสี่ยวหลิวเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ท่านรองหลิ่วครับ นี่คือหลักฐานที่เราพบในวังัพลอยม่วงรวมถึงรายการพนันด้วยครับ”
เสี่ยวหลิววางเอกสาร2แผ่นลงบนโต๊ะสืบสวน เขามองดูเอกสารทั้งสองแผ่นและมองไปที่ฉินเฟิงขณะสวดมนต์ให้เขา
แม้ว่าหลิ่วปิงปิงจะเพิ่งย้ายมาเมื่ออาทิตย์ก่อนแต่ทุกคนในโรงพักล้วนเคยเห็นอารมณ์ที่รุนแรงและความกล้าหาญของเธอแม้ว่าคนที่ถูกพามาโรงพักจะเป็ฆาตกรที่ฆ่าคนมามากแต่เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของหลิ่วปิงปิงแล้วเ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในสำนักงานเขตเหนือก็คงจะสวดมนต์ให้แก่เขา
นี่เป็เพราะว่าวิธีการของหลิ่วปิงปิงน่ากลัวเกินไป!
“ท่านรองหลิ่วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนครับ”เสี่ยวหลิวพูดอย่างลังเล เมื่อเห็นว่าหลิ่วปิงปิงไม่ได้สนใจเขาเขาก็รีบออกจากห้องทันที ขณะที่เขาปิดประตู เขามองฉินเฟิงด้วยความสงสาร
หลิ่วปิงปิงตรวจดูเอกสารทั้ง2แผ่นอย่างจริงจัง และสีหน้าของเธอก็บึ้งตึงขึ้น
“ฉินเฟิง ลานต่อสู้ใต้ดินในวังัพลอยม่วงเป็การลงทุนที่นายเปิดขึ้นเหรอ?”หลิ่วปิงปิงเงยหน้าขึ้นและจ้องฉินเฟิงทันทีแม้แต่ฉินเฟิงก็ยังตะลึงในสิ่งที่เธอพูด
“วังัพลอยม่วงไม่ได้เป็ของพ่อผมสักหน่อยผมจะไปเปิดลานประลองที่นั่นได้อย่างไร? คุณตำรวจคนสวยคุณจะกล่าวหาคนมั่วๆ ไม่ได้นะ”
หลิ่วปิงปิงโยนเอกสารลงบนโต๊ะต่อหน้าเขาเขามองดูสัญญาอย่างเผินๆ ซึ่งมีสถานะว่าเขาได้ซื้อลานประลองใต้ดิน
ฉินเฟิงเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นนี่อาจจะเป็ของขวัญชิ้นใหญ่ที่ฮ่าวหยุนบอกว่ามันจะให้เขาฮ่าวหยุนต้องวางแผนให้ฉินเฟิงมองดูจางเปียวโดนฆ่า และก็เรียกตำรวจมาจับฉินเฟิง
เพราะชื่อของเขาอยู่บนสัญญาและลานประลองก็ใช้มูลค่าสิบล้านหยวนรวมถึงความจริงที่มีคนตาย ตระกูลฉินอาจจะต้องจ่ายหนักเพื่อความปลอดภัยของฉินเฟิง
ฉินเฟิงยอมรับว่าการเคลื่อนไหวของฮ่าวหยุนครั้งนี้ค่อนข้างร้ายกาจอย่างไรก็ตาม เขาประเมินฉินเฟิงต่ำเกินไปและแผนของเขาก็โดนทำลายโดยความสามารถของฉินเฟิง
สุดท้ายเขาก็ตายเพราะแผนของตัวเองเขาต้องประสบกับความสูญเสียเป็สองเท่าในการพยายามเอาชนะฉินเฟิง
“นายยังจะพูดว่าฉันกล่าวหานายอย่างไม่เป็ธรรมอีกเหรอ?” เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงเงียบไปขณะอ่านเอกสาร หลิ่วปิงปิงก็ตั้งคำถามอีกครั้งฉินเฟิงยกมือและพูดอย่างใสซื่อ “ผมไม่รู้เื่นี้จริงๆ ต้องมีคนใส่ร้ายผมแน่นอน”
“ใส่ร้ายนาย? จะมีคนใส่ร้ายนายโดยการให้ลานประลองใต้ดินที่มีมูลค่ากว่าสิบล้านหยวนได้อย่างไร?นายคิดว่าฉันจะเชื่อเื่พวกนั้นหรือไง?” ชัดเจนว่าหลิ่วปิงปิงไม่เชื่อเขาเลยแม้แต่นิด
แล้วเธอก็โยนเอกสารอีกแผ่น“งั้นแล้วที่นายฆ่าชายแก่ต่อหน้าคนดูทั้งหมดนั่นล่ะ? นายก็โดนใส่ร้ายงั้นเหรอ?”
ฉินเฟิงดูเอกสารทั้งแผ่นและพบว่ามีคำให้การของเหล่าคนดูมากมายสายตานับไม่ถ้วนเห็นเขาส่งเฒ่าเฟิงกระเด็นไปกระแทกกรงไฟฟ้าที่ที่เขาถูกช็อตจนเกรียม ฉินเฟิงไม่สามารถโต้เถียงเื่นี้ได้
ยิ่งกว่านั้นหลิ่วปิงปิงไม่รู้จักว่าเฒ่าเฟิงเป็ใครและคิดว่าเป็แค่ชายแก่ธรรมดาเมื่อเธอคิดว่านายน้อยเ้าสำราญชั่วช้านี้ฆ่าชายแก่น่าสงสารเพื่อเอาสนุกเธอก็อยากจะสำเร็จโทษมันทันที
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ : กอดหลิ่วปิงปิง 10 วินาที!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 1 ชั่วโมง”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 100 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลว โฮสต์จะถูกโยนเข้าคุกครึ่งปี”
...
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ :ฝึกหลิ่วปิงปิงให้เหมือนลูกแกะเชื่องที่เชื่อฟังคำสั่งของโฮสต์โดยสมบูรณ์!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 3 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 3,000 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลว โฮสต์จะสูญเสียผู้หญิงสองคนที่สนิทที่สุด”
...
หลังจากเห็นภารกิจพวกนี้ฉินเฟิงก็ด่าในใจอย่างอดไม่ได้ เขาเริ่มสงสัยว่าระบบนี่มันบ้าหรือเปล่า
ฝึกหลิ่วปิงปิง? แถมให้เธอเชื่องเหมือนลูกแกะและเชื่อฟังคำสั่งของเขาโดยสมบูรณ์? ฉินเฟิงมองไปที่หลิ่วปิงปิงตรงหน้าเขาและะเิคำบ่นออกมาทันที
“เ้าหมู ทำไมถึงมีภารกิจห่าเหวอะไรแบบนี้ด้วยวะ?” ฉินเฟิงบ่น
“นายท่าน ภารกิจกอดหลิ่วปิงปิงนั่นเป็ความปรารถนาดั้งเดิมของนายท่านเองและข้าให้มันเป็ ‘เซอร์วิส’ ส่วนสำหรับภารกิจฝึกหลิ่วปิงปิงเป็ภารกิจบังคับโดยระบบและไม่เกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเลย”เ้าหมูน้อยบอกอย่างเกียจคร้านทำเหมือนกับว่าฉินเฟิงจะเป็หรือจะตายก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน
ฉินเฟิงรู้สึกอึดอัดเมื่อได้ยินเ้าหมูน้อยรู้ถึงความปรารถนาของเขาแต่ถึงอย่างนั้น ไอ้ภารกิจอย่างนี้มันจะเรียกว่า ‘เซอร์วิส’ ได้อย่างไร?
ฉินเฟิงนึกภาพที่เขาโดนหลิ่วปิงปิงทำให้พิการหลังจากกอดเธอ
“ไอ้เด็กเวร อย่ามาทำซื่อบื้อกับฉันนะฉันเห็นพวกคนชั่วอย่างนายมานักต่อนักแล้ว ฉันจะถามนายอีกครั้ง นายจะสารภาพหรือไม่?”มันเหมือนกับว่าฉินเฟิงเสียิญญาไป หลังจากที่ถามเขาหลายครั้งเขาก็ไม่มีท่าทีอะไร ซึ่งทำให้หลิ่วปิงปิงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
ทันใดนั้นฉิงเฟิงก็รู้สึกตัวเขาไม่แม้แต่จะพิจารณาว่าอยากสารภาพหรือไม่เขามองไปที่สาวสวยที่กำลังจ้องเขาและกัดฟัน แล้วเขาก็ะโเข้าไปหาเธอ
“คุณตำรวจคนสวย ในห้องสอบสวนนี้ไม่มีคน ดังนั้นมาเล่นกับพี่สักนิดหน่อยนะ”
ฉินเฟิงว่องไวราวสายฟ้าและก่อนที่หลิ่วปิงปิงจะรู้ตัว เขาก็หุ้มเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา
กลิ่นหอมบางๆแตะจมูกของฉินเฟิง มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแต่เป็กลิ่นจากร่างกายของหลิ่วปิงปิงโดยธรรมชาติ
บางทีอาจเพราะหลิ่วปิงปิงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและฝึกศิลปะป้องกันตัวนอกจากผิวจะกระชับและอ่อนนุ่มแล้ว รูปร่างของเธอก็น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวฉินเฟิงรู้สึกว่าเขาสามารถใช้แขนเพียงข้างเดียวโอบรอบเอวเธอได้หมด
‘กระต่าย’ตัวใหญ่ทั้งสองตัวกดเข้าที่หน้าอกของเขาจนเกือบจะะเิออกมาจากยูนิฟอร์มของเธอทำให้ฉินเฟิงรู้สึกมึนเมา
ความคิดมากมายพุ่งเข้ามาในหัวของฉินเฟิงและหลิ่วปิงปิงก็ตะลึงโดยสมบูรณ์ เธอไม่เคยถูกกอดจากผู้ชายอย่างนี้มาก่อนและเธอเอนลงในอ้อมกอดของฉินเฟิงโดยไม่ขยับ
“ติ๊ง...ขอแสดงความยินดีแก่โฮสต์ฉินเฟิงที่ทำภารกิจกอดหลิ่วปิงปิง 10วินาทีสำเร็จ คุณได้รับแต้มสำราญ 100 แต้มเป็รางวัล”
แกร็ก!
ทันใดนั้นประตูห้องสอบสวนก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง และเสี่ยวหลิวก็เดินเข้ามาอีกรอบเขามีสีหน้ากระวนกระวายเหมือนกับว่ามีเื่ใหญ่เกิดขึ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้