ถังชิงหรูเห็นท่าทีขององครักษ์ ก็ตระหนักสถานการณ์ปัจจุบันของน่าหลันหลิงได้ทันที
ยามน่าหลันหลิงเพิ่งมาใหม่ๆ คนของจวนสกุลหลี่คงมิได้มองเขาในแง่ดีนัก ดังนั้นแม้แต่องครักษ์ประจำประตูยังกล้าดูิ่เหยียดหยัน แต่เมื่อครู่ขณะที่พวกเขาเข้าไปตามคนออกมา กลับพบว่าาาปีศาจประจำบ้านตนได้ถูกกำราบเป็ที่เรียบร้อย ดังนั้นจึงมีมารยาทต่อเขามากขึ้น ต่อไปหากนางมาพบน่าหลันหลิง ก็คงไม่ต้องพบเจอกับสถานการณ์แบบวันนี้อีกแล้ว อุปนิสัยอันน่ารังเกียจเช่นนี้ ไม่ว่ายุคสมัยไหน หรือดาวดวงใด ล้วนเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้
น่าหลันหลิงเดินออกมา เห็นนางหิ้วตะกร้า ดวงตาทอประกายสุกสกาว เขามองนางด้วยแววตาอ่อนโยนกล่าวว่า "ขอบใจนะ หรูเอ๋อร์"
"จะเกรงใจไปไย ท่านไม่กลับ ข้าก็ต้องมาเยี่ยมหน่อย สองสามวันมานี้คงอึดอัดแย่แล้วกระมัง เื่อื่นคงพอไปได้ แต่เื่กินท่านน่ะจุกจิกที่สุด" ถังชิงหรูส่งตะกร้าให้
น่าหลันหลิงเห็นว่าตะกร้าค่อนข้างหนักจึงเปิดดู กลิ่นหอมฟุ้งจากด้านในลอยมาเตะจมูก ภูมิต้านทานของอร่อยทลายลงในพริบตา
"ด้านล่างมีเครื่องปรุงรสสองสามขวด หากอาหารในจวนมิถูกปากท่าน ก็เหยาะเครื่องปรุงลงไปเล็กน้อย รสชาติก็จะดีขึ้น" ถังชิงหรูอธิบาย "ส่วน้าเป็ขนมเปี๊ยะ มีทั้งหวานและไม่หวาน แบ่งให้นักเรียนของท่านกินด้วยเถิด โบราณว่ากินของผู้อื่นก็ปากยิ่งคุยง่าย พวกเขาจะเชื่อฟังท่านมากขึ้นแน่นอน"
"ร้านของเ้าเป็อย่างไรบ้าง ข้าไม่มีเวลาไปช่วยเ้าเลย ขออภัยด้วยจริงๆ" น่าหลันหลิงมองถังชิงหรูตรงหน้าด้วยความรู้สึกปวดใจ เอื้อมมือไปลูบดวงหน้าน้อยของนาง พลางนิ่วหน้าเอ่ยว่า "เ้าผอมลงไปมาก"
ถังชิงหรูหัวเราะเบาๆ "สองสามวันนี้อยู่กับการจัดสมุนไพรทั้งวัน ก็เลยยุ่งจนหน้ามืดตาลาย แต่ท่านมิต้องเป็ห่วง ตอนนี้ข้ามีคนคอยปรนนิบัติแล้ว หลังจากท่านไป ข้าอยู่คนเดียวรู้สึกเหงา ก็เลยไปซื้อสาวใช้มาสองคน พวกนางเป็ลูกชาวนา ท่าคล่องแคล่ว ่นี้ช่วยงานข้าได้เยอะ ครั้งหน้าตอนท่านกลับมาก็จะเห็นพวกนางเอง"
น่าหลันหลิงไม่รู้สึกว่าการที่สาวใช้คนหนึ่งจะไปซื้อสาวใช้มาเพิ่มเป็เื่ผิดตรงไหน นับั้แ่ถังชิงหรูช่วยชีวิตตนเองไว้เป็ต้นมา นางก็ไม่ใช่สาวใช้ธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็น้องสาวของเขา
ถังชิงหรูเล่าภาพรวมของความวุ่นวายตลอดหลายวันมานี้ให้เขาฟัง น่าหลันหลิงไม่นึกรำคาญในการพูดจ้อจนน้ำลายแตกฟองของนางสักนิด เป็ผู้ฟังที่ดีอยู่เงียบๆ ถังชิงหรูพูดจนคอแห้งถึงรู้ตัวว่าตนเองพูดแต่เื่ไร้สาระไปมากมาย นางแลบลิ้นเอ่ยปากอย่างประหม่า "ท่านต้องยุ่งมากแน่เลย ข้ายังจะพูดเื่ไร้แก่นสารให้ท่านฟังอีก"
"อาจารย์หลิน..." เสียงรถม้าหยุดอยู่หน้าประตู สตรีนางหนึ่งเลิกม่านขึ้น ทอยิ้มมองมาที่น่าหลันหลิง พลางเอ่ยถาม "แม่นางท่านนี้คือ..."
ขณะที่สตรีคนนั้นพิศมองถังชิงหรูั้แ่หัวจรดเท้า ถังชิงหรูก็มองนางอย่างพินิจเช่นกัน นางมีดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาดอกท้อ[1] หน้าตาสะสวยยิ่ง สายตาที่นางมองน่าหลันหลิงมีแต่ความชื่นชมเลื่อมใส แต่สายตาที่มองถังชิงหรูกลับมีความระแวงเจือไปแฝงแววดูแคลน ต่อหน้าถังชิงหรู สตรีคนนี้แลดูเย่อหยิ่ง น่าหลันหลิงประสานมือ กล่าวกับสตรีคนนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "คารวะคุณหนูใหญ่ ผู้นี้คือน้องสาวของผู้น้อยเอง"
พอสตรีคนนั้นได้ยินว่าเป็น้องสาวของน่าหลันหลิง สายตาระแวงพลันเลือนหายกลายเป็ความอ่อนโยน "แล้วไยถึงมายืนด้านนอกเล่า อาจารย์หลินควรเชิญน้องสาวเข้าไปในจวนถึงจะถูก"
"ไม่ต้องหรอก" ถังชิงหรูยิ้มอ่อนกล่าวว่า "ข้ายังมีธุระอื่น ไม่รบกวนพี่ชายแล้วล่ะ"
น่าหลันหลิงลูบศีรษะของถังชิงหรูเอ่ยอย่างอ่อนโยน "ขากลับก็ระวังด้วยเล่า ต่อไปไม่ให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้ว เ้าเป็สตรีไม่ปลอดภัย"
ถังชิงหรูผงกศีรษะ น่าหลันหลิงโบกมือกล่าว "เอาล่ะ เ้ากลับไปได้แล้ว"
สตรีคนนั้นยังไม่เข้าจวน มองทางที่ถังชิงหรูจากไปพลางเอ่ยถาม "นางเป็น้องสาวของท่านจริงหรือ หน้าตาของพวกท่านสองคนไม่เห็นเหมือนกันเลย"
"ผู้แซ่หลินเป็เพียงอาจารย์ มิต้องอธิบายให้ชัดเจนนักก็ได้กระมัง" น่าหลันหลิงกล่าวอย่างไม่เกรงใจ ก่อนหมุนตัวเข้าไปในจวน
"เ้า!" สตรีคนนั้นถลึงตาใส่หลังของเขาอย่างโกรธเกรี้ยว ขอบตาเริ่มแดง สีหน้าเผยความน้อยเนื้อต่ำใจ "ข้าแค่เป็ห่วงเขา ผิดด้วยหรือ ทำไมถึงต้องเ็ากับข้าเช่นนี้ด้วย"
"คุณหนูใหญ่ เมื่อเขาไม่รู้จักดีชั่ว ขับไล่ไปก็สิ้นเื่ อย่าให้อาจารย์แค่คนเดียวมามีผลต่ออารมณ์ของคุณหนูเลยขอรับ" องครักษ์พูดอย่างประจบสอพลอ
"ถ้าจะไล่ ก็ไล่พวกเ้านั่นแหละ อาจารย์หลินใช่คนที่บ่าวชั้นต่ำอย่างพวกเ้าจะเอ่ยถึงได้หรือ" สตรีผู้นั้นเอ่ยอย่างเ็า "เฝ้าประตูใหญ่ให้ดี ยุ่งเื่ของคนอื่นให้น้อยหน่อย"
รถม้าเคลื่อนเข้าไปในจวน องครักษ์มองไปทางรถม้า พลางยิ้มเยาะ "เป็ถึงคุณหนูใหญ่ แต่กลับหมายตาบัณฑิตจนๆ ยังนึกว่าตนเองสูงส่งนักหนา"
"เ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง เื่ของคุณหนูใหญ่ยังกล้าวิจารณ์" คนข้างๆ พูดกับเขาอย่างไม่สบอารมณ์ "พวกเราเป็เพียงสุนัขเฝ้าประตู เื่ของผู้อื่นล้วนไม่เกี่ยวกับเรา แม่นางจากหอร้อยบุปผาแต่ละคนหน้าตาจิ้มลิ้มผิวพรรณละเอียดลออ ทั้งยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง คืนนี้ไปเที่ยวด้วยกันไหมเล่า"
ในจวนสกุลหลี่ น่าหลันหลิงหิ้วตะกร้าเดินเข้าไป เด็กชายอายุราวสิบขวบสองคนวิ่งออกมา พวกเขาเห็นของในมือของน่าหลันหลิง แต่ละคนต่างมีสีหน้าสนอกสนใจเป็พิเศษ
"ครานี้เป็สิ่งใด เห็นเป็งูอีกหรือไม่" เด็กชายอ้วนตุ้ยนุ้ยมองตะกร้าในมือของน่าหลันหลิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"เ้าโง่ วันก่อนอาจารย์หลินจับงูมาให้พวกเราเล่น วันนี้ยังจะเป็งูเหมือนเดิมได้อย่างไร ต้องเป็ของอย่างอื่นที่น่าสนใจแน่ๆ" เด็กชายที่อยู่ด้านข้างผอมกว่า แต่ดวงตาเป็ประกายยิ่งกว่า "อาจารย์ ครานี้คือสิ่งใด"
เด็กชายคู่นี้เป็ฝาแฝด แต่หน้าตาแตกต่างกัน เด็กชายร่างท้วมดูซื่อๆ ไร้เล่ห์เหลี่ยม ส่วนคนผอมร่าเริงสดใสแต่ค่อนข้างซุกซน ทั้งสองคนอุปนิสัยไม่เลว เพียงแต่ติดเล่นมากไปหน่อยเท่านั้น
ก่อนหน้าที่น่าหลันหลิงจะมาเป็อาจารย์ของพวกเขา ทุกปีจะมีอาจารย์ถูกพวกเขายั่วโทสะจนลาออกไปนับสิบคน ในจำนวนนั้นอาจารย์ที่อยู่ทนและอยู่นานที่สุดคือเป็ผู้าุโ ที่ค่อนข้างหัวรั้น แม้ว่าจะถูกสองพี่น้องเผาหนวดเครา แต่ละวันล้วนถูกทุบตีจนหน้าบวมจมูกเขียวช้ำ แต่ยังคงอดทน คิดอยากจะแกะสลักไม้สองชิ้นให้กลายเป็ประติมากรรมชั้นเอก แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า สุดท้ายเขาก็ไปไม่รอด
ยามน่าหลันหลิงเข้าจวนมาใหม่ๆ ไม่มีผู้ใดเห็นความสำคัญ นายท่านกับฮูหยินไม่มาพบเขาด้วยซ้ำ ให้คนรับใช้พาไปหาคุณชายทั้งสองคนที่เรือนด้านหลังโดยตรง ตามความคิดของเด็กๆ อาจารย์ของพวกเขาเมื่อก่อนล้วนไม่มีใครอยู่ยืดสักคน ไยต้องเสียเวลากับคนที่อีกประเดี๋ยวก็ต้องจากไปด้วยเล่า แต่ไม่นึกว่าน่าหลันหลิงจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันกำราบพวกเขาจนอยู่หมัด
"ครานี้ไม่ใช่ของเล่น แต่เป็ของกิน" น่าหลันหลิงยิ้มอ่อนพลางเอ่ยวาจา "เมื่อครู่น้องสาวของอาจารย์มาหา บอกว่าเป็ห่วงว่าอาจารย์จะไม่มีของดีๆ กิน ดังนั้นก็เลยมาส่งของกินให้ พวกเ้าจะลองชิมดูไหมเล่า"
พี่น้องสองคนได้ยินว่าเป็ของกินก็รู้สึกหมดสนุก บ้านสกุลหลี่เป็ตระกูลเศรษฐีมีอันจะกิน พ่อครัวใหญ่ของพวกเขาจ้างมาจากเมืองหลวง หากอาหารในบ้านไม่อร่อย ของที่คนอื่นทำก็ยิ่งกินไม่ได้เข้าไปใหญ่ พวกเขาจึงไม่เชื่อว่าคนที่มีฐานะยากจนจะทำของอร่อยออกมาได้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีแต่ผักดองก็เป็ได้
น่าหลันหลิงเข้าใจความคิดของพวกเขา แต่ไม่เปิดโปง ขาเปิดตะกร้า หยิบขนมเปี๊ยะชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิ่มเอม เด็กชายร่างท้วมชื่อว่าหลี่จื้อ ส่วนคนผอมชื่อว่าหลีหย่วน[2] หลี่จื้อโปรดปรานอาหารเลิศรส พอน่าหลันหลิงเปิดตะกร้าออก เขาก็ได้กลิ่นหอมทันที
"หอมจัง" หลี่จื้อมองขนมในมือน่าหลันหลิงอย่างน้ำลายสอ "อาจารย์ ท่านกินอะไรหรือ ดูเหมือนจะอร่อยไม่น้อย"
น่าหลันหลิงกินไปพูดไป "น้องสาวของอาจารย์ทำอาหารเก่ง ขอแค่เป็ของที่นางทำออกมา จะต้องเป็ของเลิศรส วัตถุดิบอย่างเดียวกันแท้ๆ แต่นางมีวิธีทำออกมาให้รสชาติแตกต่าง ทว่า...พวกเ้ากินแต่ของดีจนเคยชิน คงไม่ชอบขนมธรรมดาเหล่านี้หรอก"
"บางครั้งกินแต่เนื้อก็น่าเบื่อ อยากลองเปลี่ยนรสชาติดูบ้าง" หลี่จื้อหยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง กินเข้าไปคำใหญ่ "เอ๋? อร่อยมาก"
หลีหย่วนได้ยินคำพูดของหลี่จื้อก็เริ่มสนใจขึ้นมาบ้าง หลี่จื้อเป็คนกินยาก ตอนแรกเพื่อทำให้เขาพึงพอใจ บิดามารดาหาพ่อครัวมาถึงสิบกว่าคน สุดท้ายก็มีคนหนึ่งที่เขาถูกใจ ปรกติหากเป็คนอื่นทำล้วนไม่อาจดึงดูดความสนใจของเขา เขาจึงกินแต่อาหารของพ่อครัวผู้นั้น ไม่นึกว่าวันนี้จะกินของที่ผู้อื่นทำได้
หลีหย่วนหยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน พอขนมเข้าปาก เขาทำตาโต แลดูน่าเอ็นดูยิ่ง ปรกติลิงสองตัวนี้จะะโโลดเต้นไม่หยุด แต่ยามนี้กับสงบนิ่งอย่างน่าอัศจรรย์
น่าหลันหลิงเห็นพวกเขากินอย่างเบิกบาน ก็รู้สึกดีใจมาก การได้เห็นถังชิงหรูได้รับการยอมรับทำให้เขามีความสุขมากกว่ายามที่ตนเองได้รับการยอมรับเสียอีก
ถังชิงหรูกลับมาถึงบ้าน หวนเอ๋อร์กับจิ่นเอ๋อร์ก็ปลูกเมล็ดพืชเสร็จเรียบร้อย จิ่นเอ๋อร์กำลังหักร้างถางพงตรงหัวมุม วางแผนจะเปลี่ยนพื้นที่ตรงนั้นให้เป็แปลงสมุนไพร
ถังชิงหรูตรวจสอบความคืบหน้าของพวกนาง ก็พบว่าทำได้ดียิ่ง อาหารค่ำก็มอบหมายให้พวกนางตระเตรียม ส่วนตนเองก็กลับห้องเริ่มวิเคราะห์ระบบ
นางนอนบนเตียง พูดกับเสี่ยวอี "ตอนนี้ค่าจิตพิสัยแพทย์มีเท่าไร"
"สองร้อยสี่สิบหกครับ" เสี่ยวอีตอบ
"ของในกระเป๋าไม่มีทางเอาออกมาใช้ได้เลยหรือ" ถังชิงหรูยู่ปาก เอ่ยวาจาอย่างไม่พอใจ "่นี้ฉันช่วยเหลือคนตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลยล่ะ"
"คนที่นายหญิงช่วยเหลือรวมกับชิ่งอ๋องซึ่งไม่มีผลมากนัก ตอนนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วนะครับ คะแนนความนิยมไม่ใช่ว่าเก็บสะสมกันได้ง่ายๆ หากไม่เพราะ่นี้นายหญิงพยายามสะสมแต้มอย่างเต็มที่เกรงว่าผมคงถูกปิดตายไปอีกแสนนาน ไม่อาจเปิดใช้ได้อีก" เสี่ยวอีกล่าว "วันนี้โปรแกรมร้านค้ามีลดราคา นายหญิง้าซื้อของสำรองไว้หรือไม่"
ถังชิงหรูลุกขึ้นมานั่ง ถลึงตาไปด้านหน้า "เสี่ยวอี ฉันว่านายจงใจนะ ตอนนี้ฉันเหลือแต้มอยู่แค่สองร้อยสี่สิบห้า แต่นายกลับยุให้ฉันซื้อของ นี่ไม่ใช่การล่อลวงให้ฉันหมดเนื้อหมดตัวหรอกหรือ ไม่เอาหรอก ฉันจะเก็บแต้มไว้ก่อน หากใช้จนหมด ต่อไปอาจเปิดระบบห่วยๆ อย่างนายไม่ได้อีกแล้ว
"นายหญิงอย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน" เสี่ยวอีกล่าวจบ ก็เงียบไปอีก
คำพูดประโยคสุดท้ายของเสี่ยวอีทำให้ถังชิงหรูคันยุบยิบในใจ นางย่นคิ้วเอ่ยขึ้น "เสี่ยวอี... เสี่ยวอี... เมื่อกี๊นายว่ามีอะไรลดราคาบ้างนะ"
เสี่ยวอีไม่ตอบ
ถังชิงหรูเบ้ปาก แค่นเสียงบ่นอุบ "ช่างเป็หนุ่มขี้น้อยใจเสียจริง แค่ได้ยินฉันบอกว่าไม่ซื้อ ก็ไม่สนใจกันซะแล้ว นายนี่มันน่ารังเกียจไร้ยางอายยิ่งกว่าไอ้ร้านค้าหน้าเืนั่นอีก ก็ได้... ฉันจะดูว่ามีของอะไรบ้างค่อยตัดสินใจอีกที เปิดระบบร้านค้า..."
แผงระบบปรากฏขึ้นด้านหน้า หลังจากนั้นก็มีภาพสิ่งของเด้งขึ้นมามากมาย ด้านล่างคือราคาส่วนลด
"ยาถอนพิษ ก่อนลดราคาหนึ่งร้อยแต้ม ลดเหลือยี่สิบแต้ม ยาเสริมความงาม ก่อนลดราคาร้อยห้าสิบแต้ม ลดเหลือสามสิบแต้ม ยาเพิ่มพูนสติปัญญา ก่อนลดราคาหนึ่งร้อยยี่สิบแต้ม ลดเหลือยี่สิบสี่แต้ม"
ถังชิงหรูมองสินค้าลดราคาทั้งหลาย พลางยกมือขึ้นนวดหน้าผากกล่าวว่า "ลดแปดสิบเปอร์เซ็นต์ทุกชิ้น ราคาถูกมาก ทว่า... มีแต่ของฟุ่มเฟือยทั้งนั้น"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ดวงตาดอกท้อ เป็ลักษณะของดวงตาที่มีเสน่ห์เย้ายวน คล้ายมีหยาดน้ำฉ่ำวาวอยู่ภายใน ทำให้แลดูหวานหยาดเยิ้ม
[2] หลีหย่วน การออกเสียงภาษาจีน หากอักษรสองตัวที่อยู่ติดกันเป็เสียงที่สามเหมือนกัน ตัวอักษรแรกต้องเปลี่ยนเป็เสียงที่สอง จากหลี่หย่วน จึงเป็หลีหย่วน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้