นักพรตหนุ่มที่สวีม่านนีเชิญมา จัดตั้งโต๊ะประกอบพิธีกรรมขับไล่ดวงิญญาทันที หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติการโต้เถียงกัน ชาวบ้านในอำเภอเหออันต่างก็รู้ดีเื่ชื่อเสียงของนักพรตผู้นี้ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นพนมหลังจากที่เขาเริ่มบทสวด
เสียงสวดภาวนาของเขาดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างเงียบเพื่อรอดูเหตุการณ์ต่อไป เถียนสวี่หลันที่เป็ตัวเอกยืนมองชาวบ้านที่มามุงดูด้วยสายตาเรียบเฉย
แม้จะมีโอกาสได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่เื่วุ่นวายทำนองนี้ก็ไม่ยอมหายไปจากชีวิตของนางเสียที นางจะต้องทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายอมเลิกราไปแต่โดยดี เถียนสวี่หลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
ผู้ช่วยที่ติดตามนักพรตมาด้วยเชือดไก่สองตัวเพื่อรีดเอาเืของมัน ทุกคนเห็นกับตาว่าไก่สองตัวนั้นดิ้นพล่านด้วยความเ็ปจนกระทั่งมันหยุดดิ้นเพราะถูกรีดเอาเืไปจนหมดตัว
ผู้ช่วยนำเืมาวางด้านหน้านักพรตหนุ่มที่ยืนกวัดแกว่งกระบี่ไม้ของตนที่หน้าปะรำพิธี นักพรตหนุ่มผู้นั้นยังคงหลับตาปากก็ไม่ยอมหยุดสวดภาวนา จนกระทั่งเขาใช้ยันต์แผนสี่เหลืองโยนขึ้นไป้าพร้อมกัน สวีม่านนีที่ยืนมองอยู่ข้างสวีไคมองไปยังเถียนสวี่หลันที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม ใบหน้ากลมแป้นยกยิ้มอย่างสะใจ เ้าจบเห่แล้ว
ไก่สองตัวที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วก่อนหน้านี้ กลับลุกขึ้นมาดิ้นพล่านอีกครั้ง มันวิ่งเข้าหาเถียนสวี่หลันที่ยืนกอดอกอยู่ตรงกลาง จากนั้นจึงหยุดอยู่ด้านหน้านาง คอไก่ที่ถูกเชือดจนขาดล่องแล่งส่ายไปมา ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องฮือฮาด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะไม่คิดว่านักพรตผู้นี้จะมีอิทธิฤทธิ์มากมายเพียงนี้
“พวกท่านทุกคนดูให้ดี นางบอกว่าตนเองมิใช่ดวงิญญาร้ายที่มาสิงร่างของเถียนสวี่หลัน แล้วเหตุใดไก่ที่ตายไปแล้วของท่านนักพรตถึงได้ไปหยุดยืนอยู่ต่อหน้านาง”
สวีม่านนีที่คอยหาโอกาสเล่นงานเถียนสวี่หลัน ไม่มีทางยอมปล่อยนางไปง่ายๆ นางใช้เหตุการณ์ตรงหน้าเอ่ยกระตุ้นชาวบ้านให้เห็นด้วยกับตน
เถียนสวี่หลันไม่มีท่าทีตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดตรงหน้าแม้แต่น้อย ถึงนางจะไม่รู้ว่านักพรตผู้นี้ใช้วิธีใดทำให้ไก่ที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมาวิ่งได้ แต่เขาไม่กล้าหักหลังนางแน่ เพราะนางเป็คนที่กุมความลับของเขาเอาไว้
ชาวบ้านของหมู่บ้านหนานซานต่างก็คุกเข่าลงเพราะศรัทธาต่ออิทธิฤทธิ์ที่นักพรตหนุ่มกำลังแสดง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่านักพรตที่พวกเขาต่างก็ศรัทธานั้น ยังมีความลับบางอย่างซุกซ่อนเอาไว้
เมื่อชีวิตที่แล้ว เถียนสวี่หลันเคยได้ยินว่ามีหญิงหม้ายจากจวนคหบดีผู้หนึ่งกำลังพัวพันอยู่กับเขา แต่อีกสองเดือนจากนี้นางจะจับได้ว่าเขาแอบซุกลูกเมียเอาไว้
เื่นี้ทำให้นางโกรธมากเพราะนางเป็ผู้ปรนเปรอเงินทองและคอยหนุนหลังนักพรตหนุ่มมาหลายปี ดังนั้นนางจึงออกมาป่าวประกาศให้คนทั่วทั้งอำเภอเหออันได้รับรู้
นางบังคับให้นักพรตหนุ่มหย่าร้างกับภรรยาลับของตน แต่เขาไม่ยอมทำให้เื่นี้ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลยทีเดียว เมื่อคืนนี้เถียนสวี่หลันได้พูดข่มขู่นักพรตหนุ่มไปแล้ว หากเขาไม่ทำตามที่นางสั่ง นางจะนำความลับของเขาไปบอกแก่หญิงหม้ายผู้นั้น
นักพรตหนุ่มใช้เืไก่เขียนยันต์ขึ้นมาสองแผ่น ก่อนที่จะติดไปที่หัวของไก่ทั้งสองตัว และแล้วเป้ามายของพวกมันก็เปลี่ยนไป ไก่สองตัวพุ่งเข้าหาสวีม่านนีเป็คนแรกจากนั้น ยันต์ที่ติดอยู่บนตัวพวกมันก็ลุกไหม้ขึ้น
นักพรตหนุ่มซัดข้าวสารที่อยู่ในถ้วยไปที่สวีม่านนี รอบๆ ตัวนางเกิดะเิเล็กๆ ขึ้นเหมือนคนกำลังจุดประทัด ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ใวิ่งหนีกันอลหม่าน เถียนสวี่หลันเหลือบมองนักพรตที่กำลังรำกระบี่ด้วยสายตาเลื่อมใส ท่านนักพรตเ้าเล่นใหญ่มากไปแล้ว
สวี่ม่านนี่ที่โดนะเินางก็กรีดร้องออกมาเสียงแหลม ที่ชายชุดของนางถูกไฟไหม้ไปบางส่วน สภาพของนางในตอนนี้ไม่ต่างจากขอทานข้างถนนสักเท่าใดนัก ถึงสภาพของนางจะเป็อย่างนั้น แต่ปากของนางก็ไม่หยุดก่นด่าเถียนสวี่หลัน
“เหตุใดถึงเป็เช่นนี้ มันต้องเป็เ้ามิใช่หรือที่ถูกผีเข้า เ้ากำลังใช้กลอุบายบางอย่างกับข้าใช่หรือไม่ สารเลวบอกมาว่าเ้าทำอะไรกับข้ากันแน่”
เถียนสวี่หลันยืนกอดอกหัวเราะเบาๆ
“โอ้!! สวีม่านนี เป็เ้าอย่างนั้นหรือที่ถูกิญญาร้ายเข้าสิง มิน่าเล่าคนที่ไม่เคยแม้แต่จะกล้าเงยหน้ามองข้าสักครั้ง ถึงได้มีความกล้ามาพูดยุยงให้ชาวบ้านขับไล่คนตระกูลเถียนออกไปจากที่นี่”
เถียนสวี่หลันเอ่ยออกมาเสียงดัง ท่าทางของสวีม่านนีแสดงออกว่าใไม่น้อยที่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเช่นนั้น ชาวบ้านที่ยืนอยู่ใกล้สวีม่านนีต่างก็ถอยห่างจากนางด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ใช่ข้านะ!! พวกท่านต้องเชื่อข้า ท่านพ่อช่วยข้าด้วย เป็ฝีมือของเ้าใช่หรือไม่เถียนสวี่หลัน หญิงสารเลว ไม่อย่างนั้นข้าจะเป็เช่นนี้ได้อย่างไร”
เถียนสวี่หลันไม่สนใจเสียงโวยวายของสวีม่านนี นางหันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้นักพรตหนุ่มทำพิธีต่อ ไก่สองตัวที่ยืนนิ่งตอนนี้กับบินไปทางต้นไม่ใหญ่ร้อยปีที่ยืนต้นอยู่ตรงกลางหมู่บ้าน เป็อีกครั้งที่เถียนสวี่หลันรู้สึกทึ่งในความสามารถของนักพรตผู้นี้
ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนต่างก็รีบเดินตามไก่หัวเกือบขาดสองตัวนั้นไป ครอบครัวตระกูลเถียนเองก็เช่นเดียวกัน เถียนสวี่หลันเดินตามไปเป็คนสุดท้าย ทำให้ร่างสูงของใครบางคนสามารถขวางนางเอาไว้ได้โดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น
“เพราะแบบนี้ใช่หรือไม่ เ้าถึงได้ออกจากหมู่บ้านไปกลางดึก ทั้งยังแอบปีนเข้าไปในเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน”