“เขาจะทำอะไร!”
ผู้าุโสี่ผุดลุกขึ้นยืน สีหน้าใ
“ทักษะวิชาขั้นลึกลับระดับสูง น้ำแข็งผนึกฟ้าดิน!”
ผู้าุโสามที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กล่าวอย่างเคร่งขรึม
เขารู้จักเคล็ดวิชานี้ เป็ทักษะวิชาขั้นสูงสุดของเมืองอวี่ฮว่า ทั้งยังเป็ทักษะวิชาธาตุน้ำแข็งด้วย เมื่อหลอมรวมเข้ากับธาตุภายในร่างของหานเฟิงยิ่งทำให้อานุภาพรุนแรงขึ้น!
เสิ่นล่างนั่งอยู่ตรงนั้น ตอนนี้เขาลืมตาที่พร่ามัวขึ้นแล้ว เขาเชื่อว่าเสิ่นเสวียนสามารถข้ามผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ เื่เล็กน้อยแค่นี้เอง
บนลานประลอง เสิ่นเสวียนหลบหลีกการโจมตีของแท่งน้ำแข็งไปพลาง คิดหาวิธีรับมือไปพลาง เขารู้ถึงธาตุน้ำแข็งของอีกฝ่ายมานานแล้ว เคล็ดวิชาเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกสนุกมาก แต่เพราะพลังยุทธ์ของหานเฟิงรวมเข้ากับเคล็ดวิชาเช่นนี้ ทำให้เขารับมือได้ค่อนข้างยากเพราะพลังที่ต่างกันมากเกินไป
พื้นกลายเป็น้ำแข็งรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ พริบตาเดียวก็แผ่ขยายมาถึงตรงหน้าเสิ่นเสวียนแล้ว
ต้องป้องกันแท่งน้ำแข็งและผลึกน้ำแข็งไปพร้อมๆ กัน ทำให้เสิ่นเสวียนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
เพียงสามลมหายใจเท่านั้น ร่างของเสิ่นเสวียนก็โดนผลึกน้ำแข็งตรึงไว้บนลานประลองเสียแล้ว!
ร่างของเขาถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้แล้วหนึ่งชั้น ไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย
“มีพลังแค่นี้เองหรือ ดูเหมือนข้าจะประเมินเ้าไว้สูงเกินไป”
หานเฟิงเห็นดังนั้นก็รู้สึกใ แต่มาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่แปลกใจเลย อีกฝ่ายเพิ่งจะมีพลังขั้นปรมาจารย์เท่านั้น จะต้านทานทักษะวิชาขั้นลึกลับของตนได้อย่างไร ไม้ตายที่เขาเตรียมไว้น่าจะไม่ต้องใช้แล้ว
หานเฟิงยืนขึ้น ใช้เท้ากระทืบลงไปที่พื้นน้ำแข็ง ภายในมิติของผลึกน้ำแข็งนี้ พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าหนึ่งส่วน อย่าเห็นว่าตอนนี้เขามีพลังขั้นแม่ทัพระดับกลางเท่านั้น อันที่จริงพลังยุทธ์ของเขาถึงขั้นแม่ทัพระดับสูงแล้ว
ทุกคนต่างจ้องไปที่ลานประลอง หรือเสิ่นเสวียนจะพ่ายแพ้ไปเช่นนี้? ตอนที่สู้กับสองพี่น้องหลงหู่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็อย่างนี้เลย แม้สองพี่น้องหลงหู่จะสู้กับหานเฟิงก็ไม่มีทางพ่ายแพ้รวดเร็วขนาดนี้
บนลานประลอง หานเฟิงเดินมาเบื้องหน้าเสิ่นเสวียน มองเขาที่โดนน้ำแข็งตรึงร่างไว้ หานเฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางดิ้นหลุดไปได้
หานเฟิงยกมือ น้ำแข็งพลันก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือของเขา จากนั้นก็โจมตีเข้าใส่หน้าอกของเสิ่นเสวียนอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือนี้ของเขายังไม่อาจปลิดชีวิตของเสิ่นเสวียน ทว่าเขาสามารถทำลายเส้นชีพจรพิเศษได้ ทำให้เสิ่นเสวียนหมดสิ้นพลังยุทธ์
ทันทีที่ฝ่ามือซัดออกไป ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างส่งเสียงออกมาด้วยความใ
ดอกไม้แห่งความหวังที่เพิ่งจะเติบโตมาได้เพียงสามวันของตระกูลเสิ่น อาจถูกทำลายด้วยฝ่ามือนี้ก็ได้
เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่นั่งอยู่กัดริมฝีปากตนเองเบาๆ แม้นางจะไม่เข้าใจการต่อสู้บนลานประลอง แต่นางก็รู้ว่าพี่ชายของนางไม่มีทางพ่ายแพ้เช่นนี้เด็ดขาด
เสิ่นล่างสังเกตสถานการณ์บนลานประลอง สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา เขาเองก็ไม่เชื่อว่าเสิ่นเสวียนจะพ่ายแพ้เหมือนกัน ที่เขาไม่เชื่อเพราะเขารู้จักเสิ่นเสวียนดี
แต่คนอื่นๆ ต่างส่ายหัว แสดงท่าทางเสียใจออกมา
เจี้ยนอู๋เฉินเองก็ส่ายหัวพลางถอนหายใจ รู้สึกเสียดายมาก
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์ได้เห็นดังนั้นพลันยิ้มมุมปาก ในสายตาของนาง ไม่ว่าเสิ่นเสวียนจะเป็หรือตายก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง คิดเพียงว่าคนที่ตนรังเกียจลดลงไปคนหนึ่งเท่านั้น
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีต่อเสิ่นเสวียน ฝ่ามือของหานเฟิงตบเข้าไปที่หน้าอกของเสิ่นเสวียนแล้ว
เปรี๊ยะ!
ฝ่ามือทำลายผลึกน้ำแข็งตรงหน้าอกของเสิ่นเสวียนเสียงดังลั่น ก่อให้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นเต็มไปหมด จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เสิ่นเสวียนกระเด็นออกไป แล้วร่วงหล่นกระแทกลงกับพื้นของลานประลองอย่างรุนแรง
ทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบในทันที!
“แค่ก แค่ก!”
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เสิ่นเสวียนไอหอบออกมาเสียงดัง
“เป็อย่างไร ได้ลิ้มรสแล้วรู้สึกดีไหม”
หานเฟิงยืนอยู่บนลานประลอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“ก็พอไหว เ้ามีพลังแค่นี้เองหรือ”
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืนด้วยร่างที่สั่นเทา เส้นชีพจรของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทว่าตอนที่โดนน้ำแข็งผนึกไว้เมื่อครู่นี้ เขาบิดเบือนเส้นชีพจรไปตามวิถีที่เป็เอกลักษณ์ จึงหลบหลีกตำแหน่งสำคัญไปได้
ทันใดนั้น ร่างของเขาพลันสั่นสะท้าน พลังแผ่ซ่านออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
“เ้า! เป็ไปได้อย่างไร!”
หานเฟิงมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความใจนตาค้าง เขารู้ดีกว่าใครถึงความแข็งแกร่งของพลังฝ่ามือตนเอง เสิ่นเสวียนไม่มีทางต้านทานได้แน่นอน
แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น
อย่าว่าแต่หานเฟิงเลย ทุกคนที่อยู่รอบๆ รวมไปถึงเจี้ยนอู๋เฉิน ซือหม่าหว่านเอ๋อร์ และเสิ่นเหวินเทา ต่างก็มีสีหน้าสงสัย
“จำเป็ต้องกำจัดเด็กคนนี้ให้สิ้นซาก!”
เสิ่นเหวินเทานั่งอยู่้าครุ่นคิดด้วยความรู้สึกมืดมน เด็กคนนี้ลึกลับมากเกินไป แม้แต่ในตระกูลเสิ่น เขายังไม่อาจสืบค้นตัวตนที่แท้จริงของเสิ่นเสวียนได้เลย
ข้อมูลที่เขาได้รับมาตลอดสามวันนี้ มีเพียงการใช้ชีวิตตามปกติ ออกไปข้างนอกไม่กี่ครั้ง แต่เป็เพียงการเที่ยวเล่นอยู่ในเมืองอวี่ฮว่า ไม่ได้ไปยังสถานที่พิเศษใดๆ ทว่าในความปกตินี้ พลังของอีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งกว่าเมื่อสามวันก่อนมาก
เขาเคยสู้กับเสิ่นเสวียนเมื่อสามวันก่อน แม้อีกฝ่ายจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่อย่างมากก็ถึงขั้นแม่ทัพระดับกลางเท่านั้น ได้เห็นเขาอีกครั้งในตอนนี้กลับน่ากลัวกว่าเดิมมาก!
“ตอนนี้ถึงคราวของข้าแล้วใช่ไหม”
เสิ่นเสวียนมองหานเฟิง ยิ้มมุมปากอย่างเ้าเล่ห์
หานเฟิงยังคงตื่นใอยู่ เขายังไม่ได้ตั้งสติกลับมา ทักษะวิชาขั้นลึกลับของตนที่โจมตีออกไปด้วยพลังทั้งหมดมิอาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย หากบอกว่าไม่น่ากลัวคงไม่ได้
ทันใดนั้นเสิ่นเสวียนก็เริ่มเคลื่อนไหว
เขายกเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงไปบนลานประลอง
ตึง!
เสียงหนักๆ ดังขึ้น ทำให้หัวใจของทุกคนทั่วทั้งบริเวณสั่นรัว ทั้งสองคนอยู่ห่างกันราวสี่จั้ง ทว่าเสิ่นเสวียนกระทืบเท้าย่างเข้าไปเพียงเจ็ดก้าวกลับไปถึงตรงหน้าหานเฟิงแล้ว
กำปั้นหนักหน่วงโจมตีใส่อีกฝ่ายตรงๆ
กระทั่งเสิ่นเสวียนเดินมาถึงตรงหน้า หานเฟิงถึงตั้งสติขึ้นมาได้ เขายกสองมือขึ้นมากันไว้ ปะทะกับพลังหมัดของเสิ่นเสวียนอย่างจัง
ตึก ตึก ตึก!
พลังหมัดที่พุ่งเข้ามารุนแรงจนหานเฟิงโดนซัดถอยหลังไปถึงสามก้าวจึงสามารถตั้งหลักได้ เขามองเสิ่นเสวียนด้วยความใยิ่งกว่าเดิม
“ทำไมเ้า...”
ทว่าเขายังไม่ทันกล่าวจบ เสิ่นเสวียนกลับก้าวเดินตามเขาเข้ามา พลันซัดพลังหมัดเข้าทางซ้าย
หานเฟิงทำได้เพียงป้องกันอย่างรีบร้อน สายตาเฉียบแหลมของเขาดูออกว่าเสิ่นเสวียนกำลังได้เปรียบ หานเฟิงจะพ่ายแพ้ไปตอนไหนก็ได้
“ท่านพี่! สู้เขา!”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยนั่งบนรถเข็นกำลังดูการต่อสู้อยู่ นางกำมือแน่นส่งเสียงให้กำลังใจเสิ่นเสวียน
ทว่าเจี้ยนอู๋เฉินและซือหม่าหว่านเอ๋อร์กลับมีสีหน้าแย่ลงเล็กน้อย ความลึกลับของเสิ่นเสวียนเหนือกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้ สำหรับพวกเขาแล้วเมืองอวี่ฮว่าเป็แค่เมืองเล็กๆ ตามแนวชายแดน และในเมืองก็มีแต่คนไม่เอาไหนอยู่เท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับมีคนที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ
“บังอาจเข้ามายังตระกูลเสิ่น เ้าไปเอาความกล้าหาญมาจากไหน”
เสิ่นเสวียนโจมตีพลางกล่าว เรียกได้ว่ากำลังเหยียดหยามอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
“เ้าแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร!”
“ไม่ใช่เพราะเ้าเป็เพียงกบในกะลาเท่านั้นหรอกหรือ”
ผัวะ!
ขณะที่หานเฟิงต้านทานพลัง เสิ่นเสวียนพลันปล่อยพลังหมัดตรงเข้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย ภายใต้สถานการณ์ที่หานเฟิงไม่ทันรู้ตัว พลังคลุมเครือสายหนึ่งได้แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเขา
ร่างของหานเฟิงกระเด็นออกไปทันที ทำให้เขาหมอบอยู่กับพื้นในท่าปากจูบดิน
“น่ารังเกียจ!”
หานเฟิงนอนหมอบอยู่ตรงนั้น กล่าวอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาตั้งใจมาหาเื่ตระกูลเสิ่น กลับโดนอีกฝ่ายทำให้เสียหน้า นี่คือความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง
“เ้าจบเห่แล้ว!”
ทันใดนั้น หานเฟิงตบฝ่ามือลงกับพื้น ส่งพลังให้ตนเองพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศ กลับมายืนบนลานประลองได้อีกครั้ง
ไอพลังทั่วทั้งร่างของหานเฟิงพลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม
ขั้นแม่ทัพระดับสูง!
ขั้นแม่ทัพระดับสูงสุด!
พลังของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นแม่ทัพระดับสูงสุดได้ในพริบตา!
“ระวังด้วย นี่คือเคล็ดวิชาลับตระกูลหาน!”
เสิ่นล่างลุกขึ้นยืน สีหน้าเคร่งขรึม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้