ม้าตัวโตวิ่งฝ่าความมืดมุ่งมาหยุดลงเบื้องหน้าชายชราอย่างช้าๆผู้มาใหม่ล้วนแต่งกายเช่นเดียวกับเหล่าคนคุ้มกันสภาพของเขาย่ำแย่ไม่น้อยแสดงให้เห็นว่าเขาเร่งเดินทางมาทั้งวันทั้งคืน ถุงกระสอบใบใหญ่ถูกนำมาโยนลงเบื้องหน้าชายชราที่ทุกคนต่างเรียกเขาว่าพ่อบ้านส่วนคนคุ้มกันนายนั้นเหมือนจะเป็ลมล้มตึงไป
"ไปๆลากเ้าหนูนี่ไปพักผ่อน ส่วนเ้าสองคนมาช่วยข้าตรวจสอบสินค้า"เวลานี้จะชักช้าเกรงจะไม่ทันการณ์ชายชราจึงเรียกคนนคุ้มกันอีกสองนายมาช่วยเขาตรวจสอบหากมีข้อผิดพลาดนั่นคือชีวิตขอนายเหนือหัว พวกขุนนางชั่วเ่าั้ถึงกับกล้าวางยาพิษเ้านายของตน หากเป็พิษที่หมายปลิดชีพมีหรือว่าจะไม่ตรวจสอบพบ แต่พวกเขาก็ประมาทเหล่าอสรพิษเ้าเล่ห์มากเกินไปไม่รู้ว่าพวกมันไปสืบทราบได้อย่างไรว่าเ้านายของพวกตนไม่เคยข้องแวะกับอิสตรีจึงเลือกใช้พิษสิ้นสกุล อย่าได้ดูถูกพิาชนิดนี้ว่าเป็เพียงยาพิษที่ทำให้เป็หมันธรรมดาทั่วไป
หากชายชาตรีธรรมดาทั่วไปต้องพิษชนิดนีเพียงแค่กินยาถอนพิษก็ไม่เป็อันใด ทว่าหากผู้ที่ต้องพิษเป็ชายพรมจรรย์เพียงแค่ได้รับยาถอนพิษยังไม่เพียงพอภายในเจ็ดวันหลังจาถูกพิษต้องร่วมหอกับหญิงพรจรรย์เป็เวลาสามวันสามคืนจึงจะสามาถรักษชีวิตเอาไว้ได้!
"เวรกรรมอันใดกัน...นายท่านก็ช่างถือศักดิ์ศรียิ่งนักดึงดันจะกลับจวนโดยไม่ยอมถอนพิษ หากท่านเป็อันใดไปข้าน้อยผู้นี้คงต้องหิ้วหัวแก่ๆไปพบนายท่านและฮูหยินที่อยู่บน์เป็แน่"ชายชราร้องไห้อย่างหดหู่
"ท่านพ่อบ้านคนอยู่นี่แล้วขอรับ"
"ปลุกนาง"ชายชรามองสตรีที่ถูกเทออกมาจากกระสอบอย่างไม่ชอบใจเท่าใดนักแต่ก็ต้องทำใจเพราะยามนี้ไม่มีตัวเลือกอีกแล้ว กระบอกน้ำเย็นๆสาดไปบนหน้าของหญิงสาวที่นอนสลบอยู่บนพื้น
"กรี๊ด!"พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็แหกปากร้องโวยวายอย่างไม่รู้งานจริงๆ นี่คือของที่ซื้อมาด้วยราคาแพง?เหตุใดคุณภาพถึงได้ต่ำเช่นนี้ ชายชราถลึงตาระบายความโกธรกับเ้าพวกไม่ได้ความทั้งหลาย
"หุบปาก"พ่อบ้านชราตะคอกอย่างหมดความอดทน เขาส่งสายตาให้ท่านหมอที่ติดตามมาด้วยไปตรวจร่างกายหญิงสาวที่ตอนนี้ในั่งนิ่งอยู่บนพื้น ท่าทางที่นางแสดงออกอย่างเปราะบางราวกับจะสลายเป็ชิ้นๆล้วนอยู่ในสายตาของกลุ่มคนที่มองมา
นี่นางจะแสดงให้ผู้ใดดูกันท่าทางนางสนมตัวน้อยโดยรังแกและเฝ้ารอฮ่องเต้มาพบเช่นนี้ทำให้ชายชาตรีเช่นพวกเขาขนลุกซู่ไม่ได้
ท่านหมอที่อยู่ใน่วัยเดียวกันกับท่านพ่อบ้านเริ่มตรวจร่างกายสตรีเบื้องหน้าทันที จับชีพจรให้สายตาสอดส่องหาร่องรอยของโรคเมื่อไม่พบความผิดปกติใดๆหมอชราก็พำพัมกับตนเองเล็กน้อยพลางม้วนแขนเสื้อที่ยาวกรุยกรายของหญิงสาว เมื่อไร้อาภรรณ์ปกปิดส่วนที่เผยออกมาคือลำแขนเรียวยาวขาวผ่องเนียนนุ่มดุจไข่ปอกเมื่อสังเกตุดีๆจะพบจุดสีแดงเล็กตรงข้องพับเเขน
"ท่านหมอเป็เช่นนไรบ้างมีปัญหาหรือไม่"พ่อบ้านชราถามอย่างร้อนใจเมื่อเห็นว่าท่านหมอเงียบไป
"แม่นางท่านนี้ช่างใช้วิธีการที่แยบยลยิ่งนักนี่ไม่ใช่แต้มพรมจรรย์แต่เป็เพียงรอยสักชาดเท่านั้น"
"หาา"ทุกคนต่างอุทานโดยพร้อมเพรียงพร้อมกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
"ท่านหมอตัวข้าตอนเด็กที่บ้านยากจนมากจะทำแต้มพรมจรรย์ได้เช่นไร เพื่อให้ค่าตัวของข้าสูงขึ้นท่านแม่บุญธรรมจึงสักแต้มพรมจรรย์ปลอมให้ข้าแทน แต่ว่าข้ายังไม่เคยมีคืนเเรกกับแขกท่านใดเลยนะเ้าคะ"คนิกาสาวแก้ต่างให้ตนอย่าางน่าสงสารพลางเหลือบมองผู้คนรอบกายที่เริ่มจะคล้อยตามคำของนางมากขึ้นทุกที
"แม้นางโปรดอย่าได้กล่าววาจาโป้ปดอีกเลยแม้ไม่อาจตรวจสอบเยื่อพรมจรรย์ของเ้าได้แต่ข้าของเอาประสบการณ์การรักษามากกว่าสี่สิบปีเป็การรับประกันว่าเ้าเคยคลอดบุตรมาแล้วสองคน!"
คำวินิฉัยของท่านหมอราวกับสายฟ้าฟาดลงไปกลางใจของทุกคน
"ช่างขวัญกล้ายิ่งนัก! ข้าอยากจะรู้ว่าผู้ใดมีความสามรถช่วยเหลือให้เ้ารอดจากการตรวจสอบแล้วมาถึงที่นี่ได้"พ่อบ้านชราชี้นิ้วสั่นๆไปทางคณิกาตรงหน้าอย่างกับจะดื่มเืกินเนื้ออีกฝ่าย
เหล่าคนคุ้มกันลากตัวหญิงคณิกานางนั้นออกไปอย่างรู้หน้าที่
"ท่านหมอแล้วนี่จะทำเช่นไรกันดี"
"เื่ราวเหล่านี้เกินความสามารถของข้า"
คนชราทั้งสองนั่งงอหลังเคียงกันอยู่หน้ากองไฟอย่างหมดอาลัยสกุลเซียวคงสิ้นสกุลที่รุ่นพวกเขา ช่างบาปกรรมโดยแท้
เกาหนิงซินที่หมอบชมละครอยู่ตรงโพรงหญ้าได้แต่เบิกตาโตกับฉากหักมุมไปมาตรงหน้า อืม...นี่คงเป็ความบันเทิงใยุคโบราณชนิดหนึ่งทั้งโศกเศร้า สิ้นหวัง หลอกลวง แต่ว่าเ้าจุดเล็กที่เรียกว่าแต้มพรมจรรย์นี่มีค่ามากหรอ ในฐานะแพทย์การถกเถียงในเื่นี้เป็หัวข้อระดับชาติที่เหล่านักวิจัยให้ความสนใจกับความลึกลับนี้ หากหญิงสาวเสียบริสุทธิ์แต้มพรมจรรย์ก็จะหายไป สิ่งนี้ควรค่าแก่การศึกษายิ่ง
ถามว่าเธอให้ค่ากับการศึกษาค้นคว้าถึงขนาดนั้นงั้นหรอ หึ ไม่เลยสักนิดหลักการประกอบอาชีพอันสุจริตคือห้ามดูถูกอาจชีพใดอาชีพหนึ่งที่คนเ่าั้ทำการค้าอย่างถูกกฎหมาย อาชีพขายบริการก็เช่นเดียวกันหญิงสาวไม่เคยดูแคลนเหล่าสาวๆที่สู้ชีวิตพวกนี้แม้แต่น้อยครั้งหนึ่งสายข่าวที่สำคัญที่สุดที่ส่งข่าวเกี่ยวกับองค์กรการค้ารายเสพติดรายใหญ่ให้เหล่าทหารหน่วยรรบพิเศษก็คือหญิงขายบริการที่ถูกสังคมดูิ่เ่าั้
วันนี้หากปล่อยโอกาสในการฟันกำไรให้หลุดลอยไปจะไม่เป็การผิดต่อว่าที่เถ้าแก่เนี้ยที่จะมั่งคั่งร่ำรวยในอนาคตเช่นเธองั้นหรือ อยากจะรู้จริงๆว่าดีลธุรกิจครั้งแรกในยุคโบราณของเธอจะทำเงินได้มากเเค่ไหน
ความบริสุทธิ์สำหรับเกาหนิงซินที่คิดจะทำการใหญ่ตัวเธอไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เพราะว่าชีวิตก่อนเธอก็ผ่านการมีความรักมาหลายหนแต่ที่ครองสถานะโสดมาจนเกือบจะอายุสี่สิบเพราะในใจเธอรู้สึกว่ายังไม่เจอใครที่ให้ความรู้สึอยากที่จะเปลี่ยนเป็สถานะแต่งงานแล้วได้เลย
ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบเอาหนังสือกระดูกเสือบางส่วนและถุงน้ำดีของมันออกมาแล้วค่อยลุกขึ้นยืนฉีกยิ้มอย่างเป็มิตรให้เหล่าคนแปลกหน้าที่หันมาจ้องเขม็งอย่างพร้อมเพรียงเมื่อััได้ถึงผู้ที่บุกรุก
"ท่านตาข้ามีหนังเสือ กระดูกเสือ ดีเสือมาขายพวกท่านสนใจจะซื้อหรือไม่เ้าคะ"เกาหนิงซินใช้ความได้เปรียบจากความอ่อนวัยให้เป็ประโยชน์ เสียงหวานใสที่เปล่งออกมาช่วยลดความกดดันรอบด้านได้ไม่น้อย
"เ้าเป็ใคร มีจุดประสงค์อันใดถึงได้แอบฟังอยู่ตรงนั้น"พ่อบ้านชราแผ่ความกดดันออกมาเห็นได้ชัดว่านังหนูนี่แอบฟังพวกเขาอยู่นานสองนานจึงปรากฎตัวออกมา ต้องมีฝีมือขนาดไหนถึงหลบการตรวจจับของเหล่าผู้คุ้มกันได้
"กระดูกเสื้อ!ดีเสื้อ!นังหนูเหตุใดไม่เเช่ดีเสือไว้ในสุราเล่า ไปๆๆพวกเ้าไปเอาไหสุรายาของข้าออกมา"หมอชราไมได้สนใจเื่ราวอันใดให้มากนักเขามองแวบแรกก็รู้ว่าสิ่งของที่เด็กสาวนำมาขายล้ำค่าเพียงใด! ต้องซื้อต้องเหมาเอามาให้หมด
"ท่านปู่ท่านนี้ดูแล้วคงมีแต่ท่านที่ตาถึง! ท่านไม่ต้องรีบร้อนไปข้ามาดียิ่งนัก ที่เสียมารยาทแอบฟังก่อนหน้านี้เพราะ้าให้แน่ใจว่าพวกท่านไม่ใช่โจรผู้ร้าย!"
"เพ้ยๆนังหนูปากเสียขบวนของบ้านข้าออกจะใหญ่โตน่าเชื่อถือจะเป็โจรได้เช่นไร"พ่อบ้านชราที่เดินมายืนข้างท่านหมอถลึงตาใส่เด็กที่พูดจาไม่เป็ตรงหน้า
"ท่านพ่อบ้านเป็ข้าที่มีตาแต่ไร้แววเองเ้าค่ะ"เกาหนิงซินยิ้มให้อีกฝ่ายอย่าน่ารักทั้งแฝงไปด้วยความประจบประแจงนี่เรียกว่าหน้ายิ้มมือรอเฉือด ฮุๆๆ
"นังหนูอย่าไปฟังตาแก่งี่เง่านี่พูดเลยเ้าว่ามาสิ่งของเหล่านี้เ้าจะขายในราคาเท่าใด"ท่านหมอบอกอย่างใจป้ำการเติมตัวยาล้ำค่าเข้าจวนของนายท่านเป็หน้าที่ของเขาส่วนเื่เงินก็ให้เ้าพ่อบ้านกังวลไปเถิด
"ท่านปู่ข้าเชื่อว่าท่านเป็คนมีคุณธรรมผู้หนึ่งก่อนที่เราจะเจรจาเื่ราคาข้าขอตัวไปรับน้องชายสักครู่พวกเขาอยู่ไม่ไกลนัก หากพวกท่านไม่วางใจจะให้ผู้คุ้มกันไปกับข้าก็ได้"หยิงสาวกล่าวอย่างลื่นไหลไร้ช่องโหว่ของคำพูดแม้แต่น้อย
"ได้…อย่าได้คิดไม่ซื่อเชียวล่ะ พวกเ้าห้าคนตามนางออกไปหากนางทำตัวน่าสงสัยก็ฆ่าทิ้ซะ"พ่อบ้านชราสั่งการอย่างเคร่งเครียด
เกาหนิงซินยิ้มนิดๆไม่ได้ต่อปากต่อคำกับคนแก่ตรงหน้าให้มาก ไม่นานหญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับเด็กน้อยอีกสามคน
หญิงสาวผู้นี้ไม่มีความเกรงกลัวต่อคนแปลกหน้าเลยงั้นหรือหากพวกเขาคิดจะฆ่าแย่งชิงสิ่งของด้วยจำนวนคนที่มากกว่านางจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
ราวกับจะรู้ความคิดของพวกเขาเสียงหวานใสอันเป็เอกลักษณ์ก็ดังขึ้น
"หากข้าสามารถล้มเสือตัวผู้ตัวเต็มวัยได้ด้วยตัวคนเดียวการรับมือกับพวกท่านที่มีกันไม่กี่สิบคนคงไม่เกินความสามารถเท่าใด ข้ามาเพื่อทำการค้าเงินมาของไปเท่านี้ก็จบ อย่าได้สร้างหายนะเพราะความโลภชั่วครู่"
"เอาล่ะๆพวกเ้าจะลงมือกับเด็กและสตรีได้งั้นรึ นังหนูวางใจแม้ตระกูลเซียวของพวกข้าจะไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็ไม่เคยคิดของๆผู้อื่น"เป็พ่อบ้านชราที่เอ่ยปากสลายความกดดันระหว่างคนคุ้มกันกับเด็กสาวตรงหน้า
"ได้ยินเช่นนั้นข้าก็วางใจ"
"ว่าแต่นังหนูเ้าชื่อแว่ว่าอะไรเหตุใดถึงมาอยู่กลางป่าเขาเช่นนี้"
"ข้าแซ่เกาชื่อหนิงซิน กำลังอพยหนีภัยแล้งมาได้หนึ่งปีแล้วส่วนเด็กทั้งสามเป็น้องายแท้ๆของข้า เด็กๆแนะนำตัวให้พวกท่านปู่รู้จักหน่อยเร็ว"เธอไม่คิดจะปิดบังตัวตนแม้แต่น้อยด้วยประสบการณ์การอ่านลักษณะบุคคลที่ถูกฝึกมาทำให้เธอได้ข้อสรุปว่าคนเหล่านี้สามารถทำการค้าขายอย่างยุติธรรมแน่นอน
"ข้าชื่อเกาิเป็พี่ชายคนโต"
“ข้าชื่อเกาจูเป็น้องชายคนรอง"
"ชื่อปินปิน"เ้าหัวผักกาดน้อยคนสุดท้องก้มตัวปุ๊กลุกของเขาอย่างหน้ารัก
"เอาล่ะในเมื่อพวกเราก็ทำความรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ท่านหมอท่านเห็นว่าจะให้ราคาของทั้งหมดเท่าใดลองเสนอมาได้"ตามความจริงหญิงสาวก็ไม่รู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของสิ่งเหล่านี้จึงให้อีกฝ่ายเสนอราคา
"เช่นนั้นราคาหนึ่งหมื่นตำลึงเป็เช่นไร ด้วยความสมบูรณ์ของหนังสือผืนนี้อยู่ในระดับดีเยี่ยมยิ่งไม่ต้องพูดถึงของอีกสองอย่าง แม่หนูหนิงซินเเ้าว่าราคาเช่นนี้เ้าพอใจหรือไม่"ท่านหมอเสนอราคาอย่างเป็กังวลของล้ำค่าเช่นนี้ต้องซื้อมาให้ได้
"ตกลงเ้าค่ะ เช่นนั้นเรามาเขียนหนังสือซื้ขายกัน"เกาหนิงซินไม่ได้อิดออดมากนักเงินหมื่นตำลึงแรกที่หามาได้แม้ไม่มากมายแต่ก็เป็เงินก้อนแรกในชีวิตยุคโบราณเธอจึงรู้สึกภูมิใจไม่นน้อย ระหว่างที่กำลังร่างหนังสือซื้อขายไว้เพื่อเป็หลักฐานเด็กน้อยทั้งสามที่เล่นจนเหนื่อยก็ผลอยหลับไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของพี่สาว
"แม่หนูหหนิงซินเ้าลองตรวจสอบความถูกต้องก่อนลงชื่อให้ดี"พ่อบ้านชราใช้น้ำเสียงอันอบอุ่นบอกกล่าวกับหญิงสาวตรงหน้าต่างกับเมื่อหนึ่งเค่อก่อนหน้าลิบลับ ทุกคนได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยมิอาจทนฟังอีกต่อไป
เกาหนิงซินกวาดตามองเนื้อหาในกระดาษรอบหนึ่งแล้วตวัดพู่กันลงนามอย่างสวยงามการเขียนพู่กันจีนของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าคนในสมัยโบราณแม้แต่น้อย เธอเป็ใครไม่สิต้องถามว่ารู้หรือไม่ว่าเธอเป็ลูกใคร? พ่อเธอเป็นักโบราณคดีส่วนแม่เป็ศาสตราจารย์ด้านชาติศึกษาฟังดูก็รู้ว่าครอบครัวเธอจะอนุรักษ์นิยมขนาดไหน
"นี่...แม่หนูคนงาม"พ่อบ้านชราสวมหน้ากากหนังสุนัขอันไร้ยางอายเข้าหาหญิงสาวตรงหน้าอย่างมีความหวัง
"เ้าคะ?"เกาหนิงซินแสร้งถามทั้งที่ในใจขบขันกับท่าทางของคนแก่ตรงหน้า หึๆ
"คือว่า...คือ เ้ามีสิ่งนั้นหรือไม่"ท่านหมอที่นั่งอยู่ด้านข้างตอนนี้ได้แสร้งตายไปแล้ว เ้าแก่นี่ไปถามคำถามเช่นนั้นกับเด็กที่ไม่ประสาได้เช่นไร
"ท่านพ่อบ้านคงจะหมายถึงสิ่งนี้"หญิงสาวมองท่าทางกระอักกระอ่วนของคนทั้งสองอย่างชอบใจ แก่ปูนนี้แล้วยังมีสิงใดที่ไม่เคยพบเจอบ้างทำไม่ถึงได้มีท่าทางเช่นนี้ เธอถลกแขนเสื้อเผยให้เห็นท่อนแขนขาวผ่องดุจน้ำนม ตรงที่ข้อพับแขนมีจุดสีแดงเล็กๆแต้มอยู่
ท่านพ่อบ้านรีบดึงท่านหมอที่เบือนหน้าไปอีกทางให้หันมาตรวจสอบทันที ท่านหมอมองอยู่สักพักก็ขออนุญาตจับชีพจรก่อนจะพยักหน้าเป็การยืนยันว่าหนนี้ของแท้แน่นอน
"์เมตตาสกุลเซียวแล้ว ฮื่อๆๆ"พ่อบ้านชราดีใจจนเสียสติไปเรียบร้อย ทว่าจิตใต้สำนึกก็สั่งให้เขากลับมาเป็ปกติในไม่นานพร้อมแสดงท่าทางอันเคร่งขรึม
นี่เป็อาการเเรกเริ่มของผู้ป่วยบุคลิกแตกแยกหรือไม่ เกาหนิงซินได้แต่กลั้นขำกับท่าทางของเขา
"แม่นางเชิญท่านว่าราคามาได้เต็มที่"
"เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจท่านแล้ว ราคาเท่านี้เป็อย่างไร"หญิสาวชูสองนิ้วโปกไปเบื้องหน้าพ่อบ้านชรา
"สองหมื่นตำลึง เื่นี้ไม่มีปัญหาเรามาทำสัญญากันได้เลย"พ่อบ้านชรายิ้มร่าอย่างยินดี
"เกรงว่าจะทำให้ท่านพ่อบ้านเข้าใจผิดที่ข้าบอกคือตำลึงทอง"ใบหน้ายิ้มๆอย่างอ่อนโยนยามบอกราคาอันสูงลิ่วออกมาทำให้ผู้คนอดที่จะหนาวสั่นไม่ได้
"แม่หนูหนิงซินอย่าให้มันมากเกินไป ค่ำคืนแรกของแม่นางมู่ตานยอดหญิงงานแห่งหออี้ถางยังมีราคาแค่หนึ่งหมื่นตำลึงทองเท่านั้น"พ่อบ้านชรากล่าวอย่างเหลืออด
"งั้นท่านก็ไปหานางสิกลางป่าเขาเช่นนี้คงมีให้ท่านเลือกสักคนสองคน"
"เ้า…!"
"สองตำลึงทองต่อหนึ่งคืน ห้ามต่อรอง"
"เ้า...เ้าๆๆ"พ่อบ้านชราบัดนี้หน้าแดงก่ำเพราะโทสะอันท่วมท้น นางยังกล้าเรียกราคาต่อคืน!
"เอาน่า...ราคานี้ลดอีกไม่ได้แล้วท่านผู้เฒ่าต้องเข้าใจว่ากลไกลของตลาดก็เป็เช่นนี้'ค้าขายอย่างเสรี กำหนดราคาตามใจผู้ขาย'อยากซื้อก็ต้องจ่ายให้ไหว!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้