ตอนเถารั่วเซียงกับฉินหลางมาถึง ตีนเขาก็เต็มไปด้วยรถตำรวจแล้ว
ทว่าภายใต้การบังคับบัญชาของวู๋เวินซ๋างกับจ้าวจื้อเหว่ย ตำรวจจึงไม่ได้ตรวจค้นฉินหลางกับเถารั่วเซียงแต่อย่างใด
หลังจากนั้นตำรวจที่มาสายพวกนี้ถึงเริ่มขึ้นไปบนเขา เพื่อทำการจับกุมสมุนของอันเต๋อเซิ่งและแกะดำของสำนักงานตำรวจที่กระทำความผิดเ่าั้
ในขณะที่ฉินหลางกับเถารั่วเซียงไม่ได้ร่วมเคลียร์สถานที่ เพราะพวกเขารู้ว่ามันถึงเวลาที่จะให้โจวหลิงหลิงกลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวของเธอแล้ว
โจวหลิงหลิงคิดไม่ถึงว่าฉินหลางกับเถารั่วเซียงจะมาที่นี่ตอนกลางดึก ตอนแรกที่รู้ว่ามีคนมา เธอยังตื่นตระหนกไม่น้อย แต่เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือฉินหลางกับเถารั่วเซียง โจวหลิงหลิงจึงวางใจ
ได้ยินเถารั่วเซียงกับฉินหลางบอกว่าจะส่งเธอกลับบ้าน เธอพูดขึ้นด้วยความดีใจ “อาจารย์เถา…พูดจริงเหรอคะ? หนูกลับบ้านได้จริงๆ เหรอคะ?”
เถารั่วเซียงพยักหน้าด้วยความหนักแน่น “ใช่จ้า เธอกลับบ้านได้แล้ว! พวกเรามาเพื่อส่งเธอกลับบ้าน!”
“แต่ว่าพวกงูที่อยู่ข้างนอกนั่น—”
“ฉันไล่งูพวกนั้นไปหมดแล้ว” ฉินหลางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “และอาจารย์เถากับฉันก็ได้จัดการอันเต๋อเซิ่งกับพวกคนเลวพวกนั้นหมดแล้วด้วย”
“อาจารย์เถาเก่งจังเลยค่ะ!” โจวหลิงหลิงพูดด้วยความตื้นตัน
“หลักๆ แล้วเป็ความดีความชอบของฉินหลาง” ในเื่นี้ เถารั่วเซียงไม่กล้าพูดว่าเป็ผลงานของตนจริงๆ ถึงเธอจะเป็คนรวบรวมหลักฐานความผิดของอันเต๋อเซิ่ง แต่เพราะเธอเชื่อใจแกะดำอย่างหลูจินมากเกินไป จนเกือบจะนำไปสู่การสูญเสียทั้งหมด แม้แต่ชีวิตของฉินหลางและตัวเธอเอง เมื่อคิดถึงเื่นี้ทีไร เถารั่วเซียงก็รู้สึกละอายใจ และไม่มั่นใจในฝีมือการทำคดีของตัวเอง เธอรู้สึกว่าบางที การที่เธอไม่ได้เลือกเป็ตำรวจ อาจเป็การตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
“อาจารย์เถา คุณอย่าตัดความดีความชอบของตัวเองทิ้งสิครับ” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม “โชคยังดี ปัญหาทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว โจวหลิงหลิง เธอเองก็กลับบ้านได้แล้ว ฉันคิดว่า พ่อแม่เธอจะต้องดีใจมากแน่ๆ ที่ได้พบเธอ”
“อืม” โจวหลิงหลิงพยักหน้าด้วยความหนักแน่น สำหรับเธอแล้ว เวลานี้ไม่มีที่ไหนจะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และสุขใจได้มากเท่าบ้านอีกแล้ว
โจวหลิงหลิงตามฉินหลางและเถารั่วเซียงออกมาจากบ้านร้าง ไม่เจองูแล้วจริงๆ ด้วย ฝูงงูที่โอบล้อมอยู่ทั่วทุกทิศของบ้าน เหมือนจะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ทว่าโจวหลิงหลิงไม่มีกะจิตกะใจสนใจเื่พวกนี้แล้ว เพราะตอนนี้ในหัวของเธอคิดอยู่เพียงเื่เดียวคือกลับบ้าน
เมื่อมาถึงถนนใหญ่ ฉินหลางกะว่าจะหารถตำรวจส่งโจวหลิงหลิงกลับบ้าน
แต่คิดไม่ถึง ว่าจะถูกตำรวจปฏิเสธด้วยข้ออ้างที่ว่ากำลังทำคดีใหญ่อยู่ ไม่ว่างสนใจพวกเขา
ฉินหลางโมโหมาก จึงโทรศัพท์ไปหาเฉินจิ้นหยง
ขณะนี้เฉินจิ้นหยงเพิ่งจะนอนกอดเมีย คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ โทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้น ทำเอาเขาโมโหไม่น้อยเลย แต่ฉินหลางเป็คนโทรเข้ามา เขารู้ว่านายกเทศมนตรีวู๋ให้ความสำคัญกับฉินหลางมาก เขาจึงไม่กล้าเดือดใส่ฉินหลาง หลังจากฟังเื่ราวความเป็มาจากฉินหลางแล้ว เฉินจิ้นหยงเดือดดาลมากขึ้น โทรไปตำหนิหัวหน้าทีมที่ลงไปเคลียร์พื้นที่ทันที
ซึ่งหัวหน้าทีมดังกล่าวกำลังเคลียร์พื้นที่อยู่บนเขา เมื่อเห็นสภาพของคนบางส่วนที่โดนงูกัดจนสภาพใกล้ตาย และศพของคนที่โดนงูกัดตาย แล้วยังโดนฉีกเนื้อกินจนเห็นกระดูกพวกนั้น ทำให้เขาไม่สบอารมณ์เป็อย่างมาก เพราะเศษซากพวกนี้เขาจะต้องเป็คนจัดการ แล้วอาจจะต้องจับงูสองสามตัวกลับไปเพื่อเป็หลักฐานอีก ทำทั้งคืนยังไม่รู้จะเสร็จหรือเปล่าเลย หลังจากรับสายเฉินจิ้นหยง หัวหน้าทีมเดือดดาลมากขึ้น วอร์ด่าตำรวจที่สร้างเื่ดังกล่าวชุดใหญ่ แถมยังพูดส่งท้ายว่า “แม่ม! ไปส่งคนเสร็จแล้ว รีบกลับมาจับงูบนเขาด้วย!”
หลังจากตำรวจคนนั้นโดนด่าแล้ว ถึงได้รู้ว่าเขาไม่ควรทำกิริยาแบบนั้นใส่ฉินหลาง ทำให้ท่าทีของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง 180 องศาขึ้น ขับรถมาส่งพวกเขาใต้ตึกของบ้านโจวหลิงหลิงด้วยความสุภาพ ครอบครัวของโจวหลิงหลิงอาศัยอยู่ในห้องคอนโดที่มีหลายห้องนอน
ฉินหลางกับเถารั่วเซียงขึ้นไปบนตึกเป็เพื่อนโจวหลิงหลิงเมื่อมาถึงประตูบ้าน
ตอนแรกโจวหลิงหลิงตื่นเต้นมาก แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว เธอกลับลังเลว่าจะกดกริ่งดีหรือเปล่า
ตอนนี้โจวหลิงหลิงลังเลมาก เธอไม่รู้จะต้องสู้หน้าพ่อแม่เธออย่างไร เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น สิ่งต่างๆ ที่เธอทำ เื่ราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธอจะอธิบายกับพ่อแม่ยังไง
“ไม่ต้องห่วงนะหลิงหลิง พวกท่านเป็พ่อแม่ของเธอ เธอเป็ลูกสาวของพวกท่านตลอดไป” เถารั่วเซียงพูดให้กำลังใจโจวหลิงหลิงพลางตบหลังเธอเบาๆ คำพูดนี้อาจฟังดูธรรมดา แต่โจวหลิงหลิงเข้าใจความหมายแท้จริงที่อยู่ในนั้น—รักของพ่อแม่ เป็รักที่เสียสละ และให้อภัยได้มากที่สุด ไม่ว่าโจวหลิงหลิงจะทำอะไร พวกท่านก็อภัยให้ได้ทั้งนั้น แล้วที่สำคัญโจวหลิงหลิงก็เป็แค่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น
โจวหลิงหลิงพยักหน้า สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าก่อนจะกดกริ่ง
ผ่านไปสักพัก ประตูก็เปิดออก
ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาหม่นหมอง ผมเผ้ารุงรังเป็คนเปิดประตู ในวินาทีที่เธอเห็นหน้าโจวหลิงหลิง ดวงตาที่เศร้ามองก็เป็ประกายระยิบระยับขึ้นมา เธอคว้าแขนโจวหลิงหลิงไว้ “ลูก! ลูกแม่! ในที่สุดหนูก็กลับมา หนูกลับมาหาแม่ใช่ไหมลูก? ในที่สุด ์ก็ได้ยินคำวิงวอนของแม่ ในที่สุดก็ให้หนูกลับมาหาแม่แล้ว…”
“แม่คะ—แม่พูดอะไร! หนูยังไม่ตาย! หนูยังไม่ตายค่ะแม่!” โจวหลิงหลิงรีบพูดขึ้นเพราะได้ยินเสียงสั่นเครือของแม่
“อะไรนะ! ลูก—ใช่จริงๆ ด้วย มือของลูกยังอุ่นอยู่! ลูกยังไม่ตาย! ลูกของแม่ยังอยู่! ก่อนหน้านี้ แม่ละเมอไปเองงั้นเหรอ! ใช่ แม่จะต้องละเมอแน่ๆ! ตอนนี้ต่างหากที่เป็เื่จริง คือลูกจริงๆ! ลูกสาวของแม่! แม่คิดถึงลูกจะตายอยู่แล้ว!” แม่โจวหลิงหลิงร้องไห้ด้วยความดีใจ
“อาเจา เธอพูดกับใครอยู่น่ะ—” พ่อของโจวหลิงหลิงเดินออกมา เมื่อเห็นโจวหลิงหลิงเขาตะลึงงันไปในทันที บุหรี่ในมือร่วงลงบนพื้น จากนั้นโผเข้ากอดโจวหลิงหลิง “ลูกพ่อ—ิญญาลูกกลับบ้านแล้วเหรอ! อย่าจากไปอีกเลยนะ ถ้าลูกจะไป ลูกก็เอาพ่อกับแม่ไปด้วย…”
ตอนที่พ่อของโจวหลิงหลิงกอดเธอเอาไว้ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว
ลูกผู้ชายน้ำตาไม่ไหลง่ายๆ นั่นเพราะยังไม่เสียใจมากพอเท่านั้น
ในที่สุดฉินหลางก็เข้าใจความหมายของคำคำนี้ ความรักของพ่อลูกคู่นี้ทำให้เขารู้สึกซึ้งตามอย่างอดไม่ได้
หลังจากที่ทั้งสามคนกอดกันร้องไห้ยกใหญ่แล้ว โจวหลิงหลิงจึงเช็ดน้ำตา ก่อนจะพูดขึ้นกับพ่อแม่ “โชคดีที่อาจารย์เถากับฉินหลาง พวกเขาสองคนเป็คนช่วยหนูเอาไว้ แล้วยังช่วยลงโทษพวกคนเลวด้วย”
“อาจารย์เถา น้องฉินหลาง ขอบคุณพวกเธอมาก ขอบคุณพวกเธอมากจริงๆ!” พ่อโจวหลิงหลิงรีบกล่าวขอบคุณ ั้แ่ลูกสาวเขา ‘ฆ่าตัวตาย’ พวกเขาสองผัวเมียก็ขาดเป้าหมายในชีวิตไป เหมือนสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไป ทุกๆ วันพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดและเสียใจมาตลอด พวกเขารู้สึกว่าปกติพวกเขายุ่งๆ อยู่กับการทำงาน จนละเลยไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของลูกสาว ถึงได้เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ขึ้น
แต่จู่ๆ ลูกสาวของพวกเขากลับยืนอยู่ตรงหน้า ตอนนี้สองสามีภรรยาดีใจมากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
ฉินหลางกับเถารั่วเซียงกล่าวลากับพ่อแม่โจวหลิงหลิง เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และโจวหลิงหลิงก็เพิ่งจะกลับมาอยู่กับครอบครัว พวกเขาต้องมีเื่คุยกันอีกเยอะแน่ๆ ถ้าฉินหลางกับเถารั่วเซียงอยู่ต่อก็คงไม่เหมาะ
เมื่อลงมาจากตึกแล้ว ตำรวจหนุ่มคนนั้นยังคงนั่งรอพวกเขาอยู่ในรถ ว่ากันว่า ‘ส่งพระส่งให้ถึงนิพพาน’ ในเมื่อรู้แล้วว่าเ้าหนุ่มน้อยตรงหน้าเป็คนมีเส้นมีสาย ตำรวจหนุ่มก็ต้องพยายามเอาอกเอาใจเขาอยู่แล้วเป็ธรรมดา และที่สำคัญ ถ้าเขากลับไปตอนนี้หัวหน้าทีมต้องเรียกเขาไปจับงูแน่ เขายิ่งเป็คนที่กลัวงูอยู่แล้วด้วย แค่คิดยังขนลุกซู่ไปทั้งตัวเลย เทียบกับคนจับงู เขายอมเป็คนขับรถดีกว่า
“ฉินหลาง ตอนนี้นายจะไปไหน?” เถารั่วเซียงถาม
“เห็นโจวหลิงหลิงได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว ผมก็คิดถึงบ้านแล้วเหมือนกัน” ฉินกลางกล่าว
“นั่นสิ ฉันก็อยากกลับบ้านเหมือนกัน” เถารั่วเซียงยังคงอยู่ในภวังค์ความรู้สึกตอนที่โจวหลิงหลิงได้พบครอบครัวอีกครั้ง
“งั้นคุณจะกลับบ้านพร้อมกับผมไหมครับ” ฉินหลางพูดด้วยเจตนาแอบแฝง
“เ้าหนู นายรนหาที่ตายรึไง—กล้าพูดจาแต๊ะอั๋งอาจารย์!” เถารั่วเซียงฉลาดขนาดไหน รู้ได้ทันทีว่าฉินหลางมีความหมายแอบแฝงว่าอะไร
ตำรวจหนุ่มสตาร์ทรถตำรวจ ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้พลางพูดในใจ ‘ยิ่งนับวันสังคมก็ยิ่งเสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้อาจารย์กับนักเรียนหยอกเย้ากันซะ… เมื่อก่อน ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ชีจง ฉันก็ชอบอาจารย์ภาษาอังกฤษของตัวเองเหมือนกัน น่าเสียดาย ตอนนี้เขามีลูกไปซะแล้ว’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้