บทที่ 118 ลู่จิ่งซานแทงใจดำ
ในความเข้าใจของสวี่จือจือ ไม่ว่าจะเป็มุมมองของนักเขียนในหนังสือที่มีต่อลู่จิ่งซาน การััของเธอเองในอดีต หรือคำเล่าลือจากปากคนอื่น
ลู่จิ่งซานให้ความรู้สึกว่าเป็คนสุภาพเรียบร้อยและจริงจังเสมอ
แต่ไม่นึกว่าเขาจะมีด้านอันธพาลและหน้าหนาแบบนี้ด้วย
สวี่จือจือชะงัก อึ้งมองลู่จิ่งซาน เธอลืมแม้แต่จะดึงมือออก ปล่อยให้เขาจับมือเธออยู่อย่างนั้น
“คุณ…ทำแบบนี้ได้ยังไง?” สวี่จือจือพูดอย่างงุนงง
“ยังไง?” ลู่จิ่งซานเห็นเธอแบบนี้ รอยยิ้มยิ่งชัดเจน “ผมทำให้อุ่นมือให้ภรรยา มีอะไรผิดเหรอ?”
แน่นอนว่าผิด!
สวี่จือจือจ้องเขาตาโต “พวกเราเป็สามีภรรยาตามสัญญา ไม่ใช่เื่จริง”
“วางใจเถอะ” เขาปล่อยมือเธอยิ้มๆ “สักวัน ผมจะทำให้เป็เื่จริง”
สวี่จือจือแค่นเสียง วินาทีที่เขาปล่อย เธอรีบซ่อนมือในผ้าห่ม เบ้ปากมองเขา “ตอนเซ็นก็คุณให้เซ็น ตอนนี้พูดแบบนี้ ฉันไม่เชื่อคุณหรอก”
“อย่ามาพูดอะไรไร้สาระกับฉันอีก ฉันง่วงแล้ว จะนอน”
พูดจบก็ดึงผ้าห่มคลุมหัว แล้วหันหลังให้เขา
ลู่จิ่งซานยิ้มเอ็นดู
ใต้ชายคาเดียวกัน เหอเสวียฉินกลับนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา
นังโง่หวังซิ่วหลิง ่สำคัญดันทำพลาดเสียได้
ต่อไปจะทำยังไง?
ในความมืด แววตาเหอเสวียฉินฉายความโเี้วูบหนึ่ง
สวี่จือจือไม่รู้เื่นี้ หลับสนิททั้งคืน พอตื่นมา ด้านนอกมีหิมะโปรยปรายั้แ่เมื่อไหร่ไม่รู้
ประตูถูกผลักจากข้างนอก ลมหนาวพัดผ่านม่านเข้ามา สวี่จือจือรีบห่มผ้าแน่น
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงของลู่จิ่งซาน
“อืม” สวี่จือจือตอบ “หิมะตกเหรอ?”
“ไม่หนัก เดี๋ยวก็คงหยุด” ลู่จิ่งซานบอก ถามต่อ “วันนี้คุณมีธุระไหม?”
“น่าจะไม่มีนะ” สวี่จือจือสวมเสื้อคลุม ก่อนจะมองเขา “คุณมีอะไรเหรอ?”
“อยากให้คุณไปอำเภอกับผม” ลู่จิ่งซานบอก “ไปทำธุระหน่อย”
“ได้สิ” เธอนึกอะไรได้ แล้วมองเขา “คุณออกไปก่อนสิ ฉันจะลุก”
ลู่จิ่งซานยิ้มแล้วหันหลัง “ผมไม่มองหรอก”
สวี่จือจือกลอกตาอย่างไม่สง่างาม แต่รู้ว่าธุระที่เขาพูดคงเกี่ยวกับเธอเลยไม่ต่อว่า รีบแต่งตัวลงจากเตียง
กินข้าวเช้าเสร็จหิมะก็หยุดตกแล้ว เดิมทีก็ตกไม่มาก ตอนนี้แดดออก พื้นยังไม่เปียกเลยด้วยซ้ำ
“หนูจะพาจิ่งซานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในอำเภอสักหน่อย แล้วดูว่าที่บ้านขาดของปีใหม่อะไรบ้างไหม” สวี่จือจือยิ้มตอนกินข้าว “ตอนเที่ยงไม่ต้องรอพวกเรานะคะ”
เหอเสวียฉินก้มหน้ากิน ไม่รู้คิดอะไรอยู่
แต่คงไม่ใช่เื่ดี
เช้านี้สวี่จือจือเห็นเหอเสวียฉินโดยเฉพาะรอยคล้ำใต้ตา ถ้าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกับหวังซิ่วหลิงไม่สนิทกัน เธอคงสงสัยว่าเหอเสวียฉินเป็ตัวการ
“ใช่สิ” สวี่จือจือเพิ่งนึกได้ว่าไม่เห็นลู่หลิงซานหลายวัน “่นี้ทำไมไม่เห็นหลิงซานเลยล่ะคะ?”
ใกล้ปีใหม่แล้ว ถึงอยู่บ้านตระกูลเหอ มันก็นานเกินไปหน่อยไหม?
“ไปบ้านป้าที่เมืองฉินน่ะ” เหอเสวียฉินยิ้มจาง “สามีของป้ามีความสามารถ โอกาสที่นั่นก็เยอะ”
“แม่คะ” เหอเสวียฉินพูดต่อ “จิ่งฟาที่นั่นเป็ยังไงบ้าง? ฉันได้ยินว่าคนที่ไปด้วยกันกลับมาแล้วเหรอคะ?”
ลูกชายเธอ เืเนื้อจากร่างกายของเธอ แต่กลับต้องเติบโตมากับลู่จิ่งซานภายใต้การดูแลของคุณนายลู่ อายุเพียงสิบหกปีก็ถูกยายแก่ส่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว
นึกถึงเื่นี้ทีไร เหอเสวียฉินก็โมโหทุกที
“เธอเพิ่งส่งของไปให้ไม่ใช่เหรอ?” คุณนายลู่ไม่แม้แต่จะชายตามอง
เธอจะถามเื่นี้ที่ไหน? อยากรู้ว่าเมื่อไหร่จิ่งฟาจะออกจากที่นั่นได้ต่างหาก
อยากจะถามต่อ แต่คุณนายลู่วางตะเกียบแล้ว
กินเสร็จ เหอเสวียฉินจะพูด แต่กลับถูกจ้าวลี่เจวียนเรียกไว้ “วันนี้อากาศดี ช่วยกันเก็บจาน แล้วทำความสะอาดบ้านหน่อย”
หมู่บ้านเข้าเทศกาลปีใหม่ มีรถเทียมล่อไปเมืองทุกวัน รถเข็นของลู่จิ่งซานเป็รุ่นทันสมัยจากหน่วยงาน พับได้ไม่เกะกะบนรถเทียมล่อ
สวี่จือจือคิดว่าลู่จิ่งซานไม่อยู่ในอำเภอนาน คงไม่มีเส้นสาย แต่เธอคิดผิด
ั้แ่ขึ้นรถเทียมล่อของหมู่บ้าน ลู่จิ่งซานก็ทำให้เธอทึ่งตลอด
“คุณรู้ได้ยังไงว่าเขามีนิสัยแบบนี้?” สวี่จือจือถามตื่นเต้น
เมื่อกี้พวกเขาเจอบุรุษไปรษณีย์ ลู่จิ่งซานไม่สนิทกับคนคนนี้ แต่กู้เสวียหมินที่ทำงานในสถานีธัญพืชสนิท เลยได้สมุดเล่มนี้มา
บันทึกจดหมายที่ส่งในเมือง่นี้อย่างละเอียด
“เพราะเขาคือลู่จิ่งซานยังไงล่ะ” ไม่รอให้เ้าตัวตอบ กู้เสวียหมินที่นั่งข้างๆ ยิ้มตอบแทน “เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
คนทั้งอำเภอคิดว่าลู่จิ่งซานประสบความสำเร็จเพราะเกิดมาดี มีย่าเก่ง แต่คนใกล้ชิดรู้ว่าเื่นั้นมันไม่จริง
ความเก่งของลู่จิ่งซาน มีแค่คนใกล้ชิดเท่านั้นที่เข้าใจ
“เป็ไง?” กู้เสวียหมินถามลู่จิ่งซาน “ดูอะไรออกไหม?”
ลู่จิ่งซานปิดสมุด แล้วมองกู้เสวียหมิน “ฉันหิว”
อะไรกัน!
กู้เสวียหมินกลอกตาแล้วลุกขึ้น “ได้ ไปกินข้าวกัน นายจะกินอะไร?”
ลู่จิ่งซานมองสวี่จือจือ
“พี่สะใภ้ เดี๋ยวผมพาไปร้านเล็กๆ รสชาติเด็ดกว่าร้านของรัฐแน่นอน” กู้เสวียหมินยิ้มแย้ม
“ฉันกินอะไรก็ได้” สวี่จือจือยิ้มตอบ
แต่สายตาสามีคุณบอกชัดๆ ว่าไม่ใช่กินอะไรก็ได้
กู้เสวียหมินแซวลู่จิ่งซาน เขาไม่ลืมวันที่รู้ว่าลู่จิ่งซานเกิดเื่ ตอนไปเยี่ยมแล้วได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เหมือนจะสั่งเสีย เกือบทำให้เขาโมโหจนกระอักเื แต่ไม่นานลู่จิ่งซานก็ตบหน้าตัวเองซะแล้ว
จุ๊ๆ…
แบบนี้ เขาจะพาสวี่จือจือกินที่ไหนก็ได้เหรอ?
แล้วก็ได้ยินน้ำเสียงเอ็นดูของลู่จิ่งซาน “เขามีเงิน คุณสั่งเยอะๆ เลย”
ฟังดูสิ คำพูดอะไรน่ะ? ยังเป็พี่น้องที่ใส่กางเกงเปิดเป้ากันอยู่ไหม?
แต่ยังมีคำที่แทงใจกว่านั้น
“ยังไงเขาก็โสด ไม่ต้องกังวลเื่ครอบครัว”
กู้เสวียหมิน “…”
ไม่อยากพูดแล้ว!
.............................