เสิ่นิพยักหน้าเบาๆ เนี่ยหลีผู้นี้เปิดเผยเื่ยันต์ะเิเพลิงสีแดงของตระกูลเสินเซิ่งว่าเป็การคัดลอกยันต์ของผู้อื่น ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเสินเซิ่งต้องเสียหายใหญ่หลวง ควรต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง งานประลองเยาวชนผู้มีพร์ครั้งนี้จัดขึ้นโดยตระกูลเสินเซิ่ง คนจากตระกูล์เซิ่งิและตระกูลวายุหิมะไม่ได้มาร่วมงานด้วย ถือเป็โอกาสอันดี ในเมื่อมีเสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยวอยู่ด้วย ก็แทบจะมั่นใจได้ถึงเก้าในสิบส่วนแล้ว เสริมเสิ่นเฟยขึ้นมาอีกคนก็คงไม่เป็ปัญหา
“งานประลองเยาวชนผู้มีพร์ครั้งนี้เป็หน้าตาของตระกูลเสินเซิ่งของพวกเรา ด้วยเหตุนี้ พวกเรายังจะเป็เ้ามือรับพนัน เหล่าประมุขจากครอบครัวต่างๆ ก็จะลงพนันแข่งขันกันด้วย” เสิ่นิพูดเสียงต่ำว่า “เื่นี้มีความสำคัญใหญ่หลวงนัก จะมีข้อผิดพลาดมิได้เป็อันขาด ไม่เช่นนั้น อีกไม่นานเมื่อท่านประมุขออกจากการบำเพ็ญตบะ พวกเ้าสองคนคงรู้ผลลัพธ์!”
ดวงตาของเสิ่นิกวาดมองร่างของเสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยว เสิ่นเฟยจะเล่นวุ่นวายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดว่า ทว่าหากเสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยวมีปัญหา พวกเขาคงต้องถูกทำโทษอย่างหนักแน่นอน
ในใจของเสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยวค่อนข้างกังวล สองคนรีบโค้งกายลงและขานรับ “ขอรับ ท่านผู้าุโใหญ่ พวกเราจะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน!”
สายตาโอหังของเสิ่นเฟยกวาดมองเสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยว แม้เสิ่นหนิงและเสิ่นเซี่ยวไม่ชอบเสิ่นเฟย ทว่าทั้งสองเป็เพียงลูกหลานของสาขาย่อยตระกูลเสินเซิ่งเท่านั้น กับเสิ่นเฟยเพียงกล้าโกรธแต่ไม่กล้าตอบโต้ ทั้งๆ ที่วรยุทธ์ของพวกเขาสูงกว่าเสิ่นเฟยเป็อันมาก แต่กับการปฏิบัติที่ไม่เป็ธรรมเช่นนี้ จิตใจของพวกเขาจะสงบได้อย่างไร?
“่ที่ผ่านมานี้ พอมีสมาคมนักปรุงยาวิเศษคอยปกป้อง ตระกูลเทียนเหินก็ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาอีกแล้ว รอท่านประมุขออกจากการบำเพ็ญตบะเสียก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว ต้องทำให้พวกมันได้เห็นดีแน่!” เสิ่นิครุ่นคิด วรยุทธ์ของท่านประมุขเสิ่นหงอยู่ในระดับทองดำขั้นสูงสุดแล้ว ไม่ทราบว่าจะสามารถทะลวงผ่านสู่ระดับตำนานได้สำเร็จหรือไม่
หากเสิ่นหงสามารถทะลวงฝ่าอุปสรรคขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานได้สำเร็จ ฐานะของตระกูลเสินเซิ่งภายในเมืองกวงฮุยย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กระทั่งสามารถร่วมทำการตัดสินใจในเื่สำคัญๆ ของเมืองกวงฮุยได้ แม้แต่ท่านเ้าเมืองก็ยังต้องฟังความคิดเห็นจากตระกูลเสินเซิ่งอย่างจริงจัง ถึงเวลานั้น ตระกูลเทียนเหินยังจะสามารถพลิกเื่ราวอะไรได้อีก?
‘ได้ยินว่าตระกูลเทียนเหินเมื่อเร็วๆ นี้ได้ทำการว่าจ้างยอดฝีมือไว้เป็จำนวนมาก ใช้จ่ายเงินทองไปสิบล้านเหรียญจิตอสูรเต็มๆ ไม่รู้ว่าพวกมันได้เงินมาจากไหน ดูเหมือนเื่นี้คงต้องเกี่ยวข้องกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษอย่างเลี่ยงไม่พ้น! สมาคมนักปรุงยาวิเศษคิดเลี้ยงดูตระกูลเทียนเหินหรือ?’ เสิ่นิครุ่นคิดกับตัวเอง สมาคมนักปรุงยาวิเศษขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่งไม่หยุดไม่หย่อน หนุนหลังตระกูลเทียนเหิน ทั้งยังแอบตรวจสอบตระกูลเสินเซิ่งอีกด้วย เป็ไปได้หรือไม่ว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษจะล่วงรู้อะไรบางอย่าง?
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเสินเซิ่งกับสมาคมมืดจะต้องไม่ถูกเปิดเผยเป็อันขาด! เสิ่นิระมัดระวังอย่างยิ่งยามลงมือกระทำการต่างๆ ไม่เคยถูกสมาคมนักปรุงยาวิเศษจับได้ เื่เหล่านี้จะต้องรอให้ท่านประมุขออกจากการบำเพ็ญตบะเสียก่อน จึงค่อยรายงานให้ท่านทราบ
ไม่ว่าตระกูลเทียนเหินจะได้รับการปกป้องจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษหรือไม่ ครั้งนี้พวกเขาจะต้องบดขยี้ตระกูลเทียนเหินให้หนัก ไม่เช่นนั้น ยังจะสามารถรักษาชื่อเสียงของตระกูลเสินเซิ่งอยู่ได้อย่างไร?
ภายในเขตหมู่บ้านตระกูลเทียนเหิน
เนี่ยหลีขังตัวฝึกยุทธ์อย่างยากลำบาก อีกทางหนึ่งก็กลั่นหลอมจิตอสูรที่ได้มา มอบจิตอสูรวายุหิมะที่มีอัตราการเจริญเติบโตระดับเทพให้แก่เยี่ยจื่ออวิ๋นได้ตนหนึ่ง มอบจิตอสูรสายฟ้าวายุที่มีอัตราการเจริญเติบโตระดับเทพให้เซียวหนิงเอ๋อได้ตนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีจิตอสูรระดับเทพอีกสามตน ซึ่งมีคุณลักษณะแบบเทพ์ แบบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และแบบพลังรักษาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเตรียมไว้ให้เว่ยหนัน จูเสียงจวิ้น และจางิทั้งสามคน
แม้การซื้อจิตอสูร หม้ออสูรแห่งฝันร้าย และการสนับสนุนเงินช่วยเหลือตระกูลจะใช้จ่ายเงินไปเป็จำนวนมาก ทว่าเงินของเนี่ยหลีก็ยังคงเพิ่มขึ้น เวลานี้งอกเงยขึ้นมากกว่าสองพันล้านเหรียญจิตอสูรแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา เงินจำนวนนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนี่ยหลีบังเกิดความรู้สึกยุ่งยากใจขึ้นมาอย่างหนึ่ง มีเงินแต่ไม่มีทางระบายออก
หอเก็บทรัพย์สมบัติของตระกูลเทียนเหิน
เมื่อเร็วๆ นี้ เนี่ยหลีมัวยุ่งวุ่นวายอยู่กับการกลั่นหลอมจิตอสูร ฝึกฝนร่างกาย ไม่มีโอกาสไปหอเก็บทรัพย์สมบัติของตระกูลเทียนเหินเสียที กระทั่งถึงเวลานี้ ภายใต้การนำของเนี่ยไห่ จึงได้เดินเข้าสู่เส้นทางลับด้านหลังบ้านของท่านประมุขเนี่ยไห่ หลังจากผ่านด่านป้องกันอันหนาแน่นไปหลายชั้น จึงเข้าถึงห้องเก็บสมบัติอันล้ำค่าของตระกูลเทียนเหิน
ห้องเก็บสมบัติลับของตระกูลเทียนเหิน
เนี่ยไห่ค่อนข้างเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย ชี้ไปยังห้องศิลาตรงหน้าและพูดขึ้นว่า “ที่นี่ก็คือห้องเก็บสมบัติลับของตระกูลเทียนเหิน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยไห่ สายตาของเนี่ยหลีกวาดมองห้องศิลา บนผนังหินรอบด้านของห้องศิลาเต็มไปด้วยตะขอติดผนังกว่าพันตัว อย่างไรก็ตาม กลับมีของแขวนอยู่บนตะขอเ่าั้เพียงหนึ่งหรือสองร้อยชิ้นเท่านั้น เนี่ยหลีจ้องมองเนี่ยไห่ด้วยสายตาน่าเกลียด พูดตรงประเด็นไร้ความปราณีใดว่า “ท่านประมุข ท่านแน่ใจหรือว่านี่คือห้องเก็บสมบัติลับของตระกูลเทียนเหิน?”
“แน่นอน!” สองแก้มของเนี่ยไห่ร้อนผะผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย พยักหน้าหงึกๆ
“ห้องเก็บสมบัติลับของตระกูลเทียนเหินมีของน้อยแค่นี้เองหรือ?” เนี่ยหลีกวาดตามองเนี่ยไห่ขึ้นๆ ลงๆ และพูดว่า “ท่านประมุข ทรัพย์สมบัติในห้องนี้คงมิใช่ถูกท่านยักย้ายถ่ายเทไปจนหมดหรอกกระมัง?”
“จะมีเื่เช่นนั้นได้อย่างไร!” เนี่ยไห่หน้าแดงก่ำทันที รีบพูดขึ้นว่า “ของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนได้รับการขึ้นทะเบียน หาก้านำของสักชิ้นหนึ่งออกไปจากที่นี่ ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้าุโทุกท่านเสียก่อน หลายปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลเทียนเหินของพวกเราตกอยู่ในสภาพยากจนข้นแค้นนัก เพื่อที่จะรองรับการเติบโตของตระกูล พวกเราไม่มีทางเลือก จำต้องนำทรัพย์สมบัติของตระกูลออกไปขายเพื่อแลกเป็เงินมาใช้จ่าย จึงจะพอทำให้ตระกูลเทียนเหินอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ได้!”
“ข้าก็แค่พูดขึ้นมาเรื่อยเฉื่อย ท่านประมุขเหตุใดจึงตื่นเต้นนักเล่า?” เนี่ยหลียักไหล่เดินตรงเข้าไป
จ้องมองเงาหลังของเนี่ยหลี เนี่ยไห่สับสนงุนงงไม่น้อย สมองของเ้าเด็กนี่ทำด้วยอะไรกัน? ไม่แตกต่างจากผู้ใหญ่แม้แต่น้อย ปั่นจนเขาหัวหมุนไปหมด ในใจของเนี่ยไห่อดที่จะรู้สึกถึงความไร้กำลังมิได้
“สมบัติที่พวกเรานำออกไปขาย ล้วนเป็ชิ้นที่ตลาด้า มีสมบัติบางชิ้นของตระกูลพวกเรา ข้าไม่รู้ว่าคืออะไร ดังนั้นจึงไม่กล้านำออกไปขายมั่วๆ!” เนี่ยไห่พูด พวกเขายังพอมีสายตาอยู่บ้าง
“เดาว่าสมบัติที่ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรได้บ้างเหล่านี้ คงขายไม่ได้ราคาดีสักเท่าไหร่กระมัง?” เนี่ยหลีชำเลืองมองเนี่ยไห่เล็กน้อย
“เ้า... ข้าว่า เสี่ยวหลีเอ๋ย เ้าจะช่วยไว้หน้าข้าบ้างได้หรือไม่! เวลานี้พวกเราสองคนอยู่กันตามลำพังก็ยังพอว่า ทว่ายามมีผู้อื่นอยู่ด้วย... จะอย่างไรข้าก็ยังเป็ประมุขของตระกูล!” เนี่ยไห่หดหู่ใจนัก ในฐานะที่เป็ประมุขของตระกูล ถูกเนี่ยหลีดักคอเสียจนหมดคำพูด เห็นๆ เช่นนี้แต่ก็ไม่มีปัญญาจะโกรธใส่เนี่ยหลีได้ เพราะความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลเทียนเหินในเวลานี้ ล้วนต้องฝากความหวังไว้กับเนี่ยหลี!
“แน่นอนอยู่แล้ว เวลามีผู้อื่นอยู่ด้วย ข้าย่อมต้องไว้หน้าท่านบ้าง” เนี่ยหลีพยักหน้าหงึกๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เนี่ยไห่โค้งกายลงกึ่งจะคำนับเล็กน้อย ยิ้มขื่นหน้าเบี้ยว คำพูดนี้ของเนี่ยหลี หมายความว่าเมื่อไม่มีคนนอก เนี่ยหลีก็จะไม่จำเป็ต้องไว้หน้าเขาเลย!
เนี่ยหลีกวาดตามองสมบัติต่างๆ ที่แขวนอยู่บนผนัง ในใจสั่นสะท้าน แม้ตระกูลเทียนเหินตกต่ำลง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเป็ตระกูลใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาั้แ่ยุคอาณาจักรวายุหิมะ ยังพอมีสมบัติล้ำค่าอยู่บ้าง สมบัติล้ำค่าส่วนที่เนี่ยไห่รู้จักว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร ล้วนถูกขายไปหมดแล้ว แต่อันที่จริง พวกที่เหลืออยู่เหล่านี้ต่างหาก จึงจะเรียกว่าของดีจริง
“สมบัติที่เหลืออยู่อีกกว่าร้อยชิ้นนี้ ข้าไม่รู้ว่าพวกมันใช้ทำอะไรได้บ้าง มีอานุภาพอย่างไร!” เนี่ยไห่จ้องมองสมบัติล้ำค่าที่แขวนอยู่ให้เห็นเต็มไปหมดนี้ พูดขึ้นพร้อมฝืนยิ้ม
เนี่ยไห่จะไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ ก็ถือเป็เื่ธรรมดายิ่ง สมบัติแทบทุกชิ้นล้วนเป็สิ่งของก่อนยุคอาณาจักรเสินเซิ่ง แม้แต่เนี่ยหลีก็สามารถระบุชื่อและรู้จักวิธีใช้งานพวกมันได้ราวเก้าในสิบส่วนเท่านั้น อีกส่วนที่เหลือ แม้แต่เนี่ยหลีก็ยังไม่มั่นใจว่าพวกมันใช้ทำอะไร!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้