คังเหลียนิไม่จำเป็ต้องดูแลคังเหว่ย
สองผู้าุโตระกูลคังเองก็ไม่จำเป็ต้องดูแลคังเหว่ย
คนที่ควรดูแลคังเหว่ยที่สุดก็คือเซี่ยอวิ๋น!
พ่อแม่เป็ผู้นำพาลูกมาถือกำเนิดอยู่บนโลกใบนี้ ดังนั้นพ่อแม่ย่อมมีหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกจนเติบใหญ่ ทว่าเซี่ยอวิ๋นกลับจมอยู่กับความเศร้า เธอสอบผ่านในฐานะคนรัก แต่อย่าพูดถึงในฐานะมารดา แค่ฐานะ ‘ภรรยา’ เธอก็ไม่ผ่านเกณฑ์สักนิด
กวนฮุ่ยเอ๋อพูดตรงไปตรงมาอย่างไม่อ้อมค้อม เซี่ยอวิ๋นร้องไห้จนสุดเสียง
ความะเืใจครั้งแรกคือตอนที่คังเหว่ยปรับปรุงบ้านใหม่
และนี่คือครั้งที่สองซึ่งมาในรูปแบบที่น่าใจหาย พร้อมทั้งส่งสัญญาณกรีดร้องข้างหูเซี่ยอวิ๋นว่า ในฐานะมารดาคนหนึ่ง เธอยังไม่สามารภปกป้องลูกชายของตัวเองได้ แล้วจะมีสิทธิสงสัยในตัวผู้อื่นได้อย่างไร
“ร้องเถอะ ร้องออกมาแล้วจะรู้สึกดีขึ้น” กวนฮุ่ยเอ๋อคุกเข่านั่งตบไหล่เพื่อนสนิทอย่างปลอบใจ
าแนี้ล่วงเลยเวลามาเนิ่นนาน แม้ภายนอกเหมือนจะสมานจนหายดี แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเืหนอง ถ้าอยากรักษามันจนสมานตัวอย่างแท้จริงก็ต้องเปิดปากแผลใหม่อีกครั้ง และบีบเอาหนองที่อยู่ข้างในออกมา อดทนกับความเ็ปเพื่อเฉือนเนื้อร้ายอันเน่าเฟะออก เซี่ยอวิ๋นจำเป็ต้องเผชิญหน้ากับความเ็ป ถึงจะหลุดพ้นจากการใช้ชีวิตดั่งผีดิบที่จมอยู่กับฝันร้าย
หลายปีมานี้ทุกคนต่างก็ไม่้าสะกิดาแของเซี่ยอวิ๋น จึงพยายามไม่พูดถึงพ่อของคังเหว่ยต่อหน้าเธอ แต่นั่นกลับทำให้เซี่ยอวิ๋นไม่สามารถปล่อยวางได้
เซี่ยเสี่ยวหลานกับโจวเฉิง รวมถึงไป๋เจินจูเดินแยกตัวออกไปทางอื่น
ทั้งสามคนรู้ล้วนกาลเทศะ เซี่ยอวิ๋นนั้นาุโกว่า ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็การทำให้เธอรู้สึกเสียหน้า พวกเขาจึงให้พื้นที่ส่วนตัวกับเซี่ยอวิ๋นและกวนฮุ่ยเอ๋อ ให้เซี่ยอวิ๋นได้ระบายความเศร้าอย่างเต็มที่
จนกระทั่งคังเหลียนิคุยกับทังหงเอินเสร็จก็เดินกลับมา และพบว่าเซี่ยอวิ๋นกำลังร้องไห้
ฝีเท้าของคังเหลียนิหยุดชะงัก ก่อนจะเดินตรงมายังโจวเฉิงราวกับมองไม่เห็นอาการของเซี่ยอวิ๋น
“โจวเฉิง หลานลาหยุดถึงพรุ่งนี้ได้ใช่ไหม”
เซี่ยเสี่ยวหลานมองหน้าโจวเฉิงอย่างประหลาดใจ ลาถึงวันพรุ่งนี้? เป็ไปได้อย่างไรกัน!
ทว่าโจวเฉิงกลับพยักหน้ารับเป็การยืนยัน
“พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ก็ได้ครับ ผมจะต้องอยู่จนเห็นกับตาว่าคังเหว่ยปลอดภัยแล้วจริงๆ ”
คังเหลียนิพยักหน้า ใครบอกกันว่าคังเหว่ยไม่เอาไหน?
ถ้าไม่เอาไหนจริงโจวเฉิงก็คงไม่ใยดี คงไม่เล่นกับคังเหว่ยเช่นนี้ และเด็กสองคนคงไม่สนิทสนมกันขนาดนี้แน่นอน
“ไปเถิด พวกเรากลับโรงพยาบาลกันก่อน คังเหว่ยน่าจะตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานกับโจวเฉิงตามคังเหลียนิกลับโรงพยาบาล โดยมีเซี่ยอวิ๋นกับกวนฮุ่ยเอ๋อเดินตามหลังมาอีกที พอมาถึงโรงพยาบาล เซี่ยต้าจวินก็ทำ ‘เซอร์ไพร์ส’ ครั้งใหญ่ให้กับเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่าตอนเขาโผล่มาอย่างกะทันหัน เซี่ยเสี่ยวหลานดูไม่ค่อยแปลกใจนัก
“เสี่ยวหลาน!”
เซี่ยต้าจวินนั่งอยู่บนรถเข็นพร้อมทั้งส่งเสียงเรียกเธอ
เวลาแค่หนึ่งปี ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ชาวไร่ชาวนาที่อาศัยอยู่ในชนบทอีกแล้ว
กลิ่นอายคนชนบทจางหายไปจากตัวเซี่ยต้าจวินจนเกือบหมด ผิวสีแทน แข็งแรงมีกล้ามเนื้อ หากมองแค่ภายนอกความจริงแล้วเซี่ยต้าจวินตรงกับรสนิยมของพวกชาวยุโรปและอเมริกายิ่งนัก
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกแปลกใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงอย่างไรตู้เ้าฮุยก็เป็คนชั่วจอมเ้าเล่ห์ แน่นอนว่าเื่นี้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้นานแล้ว คนชั่วอาจจะได้เปรียบพวกผู้ดีจอมปลอมอย่างหวังก่วงผิง แต่หากคนชั่วเวลาเผชิญหน้ากับคนปกติ มักจะทำให้เื่ง่ายกลายเป็เื่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ไม่ใช่แค่ตู้เ้าฮุย ตระกูลจี้ก็เป็โรคนี้เช่นเดียวกัน!
ในเมื่อเซี่ยต้าจวินเป็ลูกน้องของตู้เ้าฮุย! คุณชายใหญ่ตู้มีหรือที่จะไม่ลากเซี่ยต้าจวินออกมาใช้งาน นายทุนเป็กลุ่มคนที่คิดคำนวนถึงผลประโยชน์อย่างละเอียด เมื่อเขาให้เงินเดือนกับเซี่ยต้าจวิน ดังนั้นก็ต้องเรียกใช้งานอย่างเต็มที่
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าตู้เ้าฮุยผู้นี้หลงคิดว่าตัวเองเป็คนฉลาดหลักแหลม
คุณชายใหญ่ตู้ไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอพูดเลยหรืออย่างไรกัน?
เธอกับเซี่ยต้าจวินไม่ผูกพันกันเหมือนพ่อกับลูก ถ้าอีกฝ่ายไม่โผล่หน้ามาให้เห็นก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าโผล่หน้ามาให้พบเจอ เธอก็จะรู้สึกรังเกียจราวกับเห็นเขาเป็ศัตรู!
ตอนนี้คังเหลียนิอยู่ด้วย โจวเฉิงเองก็เช่นกัน อีกไม่นานกวนฮุ่ยเอ๋อก็จะประคองตัวเซี่ยอวิ๋นเดินเข้ามาใกล้ เวลาแบบนี้เซี่ยต้าจวินดันเรียกเธอไว้เสียได้
เซี่ยเสี่ยวหลานชะงักเล็กน้อย ในขณะที่โจวเฉิงรู้สึกข้องใจ
เขาคือใครกัน?
ใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานตอนนี้บวมไปหมด ข้อมือก็มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อย่างแ่า เซี่ยต้าจวินเห็นแวบแรกยังอดรู้สึกสงสารไม่ได้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานทำหน้าเหมือนเขาเป็คนแปลกหน้า นั่นจึงทำให้เขาเขาเริ่มหงุดหงิด
หมายความว่าอะไรกัน จำหน้าพ่อแท้ๆ ของตัวเองไม่ได้หรือ?!
“เสี่ยวหลาน แกล้งทำเป็ไม่รู้จักฉันอย่างนั้นหรือ”
น้ำเสียงของเซี่ยต้าจวินเจือไปด้วยความเสียใจ อยู่ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ท่าทีห่างเหินของเซี่ยเสี่ยวหลานทำให้เขารู้สึกเสียหน้า
“เปล่าค่ะ คุณเซี่ย ฉันรู้จักคุณแน่นอน ทว่าฉันก็แค่แปลกใจที่เห็นคุณที่นี่ ตู้เ้าฮุยรีบเรียกตัวคุณจากฮ่องกงมาแบบนี้ คงอยากให้คุณมาเกลี้ยกล่อมฉันสินะคะ คุณเซี่ย คุณคงไม่ได้เล่าความสัมพันธ์ของพวกเราให้ตู้เ้าฮุยฟังอย่างละเอียดสินะคะ ั้แ่คุณหย่ากับแม่ฉัน ฉันกับคุณมีความเกี่ยวข้องกันเพียงอย่างเดียวคือใช้แซ่เดียวกันเท่านั้นค่ะ”
ที่แท้ชายที่นั่งบนรถเข็นคนนี้คือพ่อของเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยต้าจวินนั่นเอง!
ทุกครอบครัวล้วนมีประวัติอันยากจะลืมเลือน คังเหลียนิรู้แค่ว่าพ่อแม่ของเซี่ยเสี่ยวหลานหย่าร้างกันแล้ว คนพ่อทำงานเป็ลูกน้องของตู้เ้าฮุย อีกทั้งเซี่ยเสี่ยวหลานยังเคยบอกว่าเขาทำงานอยู่ที่ฮ่องกง การที่ตู้เ้าฮุยเรียกตัวเซี่ยต้าจวินมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาพยายามมากแล้วจริงๆ
คังเหลียนิกลัวว่าถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปอาจจะทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกอึดอัดได้ใจ เขาจึงเดินไปที่ห้องคังเหว่ยก่อนโดยไม่พูดอะไร
โจวเฉิงยืนบังหน้าเซี่ยเสี่ยวหลาน “คือเขาหรือ?”
คือผู้ชายโง่เง่าคนนนี้ คนที่ใช้ความรุนแรงกับครอบครัว ลำเอียงเข้าข้างหลานสาว และยืนมองข่าวลือเสียหายถาโถมเข้าใส่เสี่ยวหลานจนบีบให้เธอต้องฆ่าตัวตาย... เสี่ยวหลานผู้เข้มแข็งคนนี้ ตอนนั้นสิ้นหวังแค่ไหนกันนะ ถึงได้คิดอยากฆ่าตัวตาย?
หากมีคนเป็ที่พึ่งให้เสี่ยวหลานได้ เธอคงไม่เลือกเดินเส้นทางนั้น
ไม่รู้ว่าเวลานั้นผู้ชายคนนี้ไปอยู่ที่ไหน ทั้งที่รูปร่างดูแข็งแรงกำยำ แต่กลับปกป้องเสี่ยวหลานไม่ได้!
เซี่ยต้าจวินบีบที่พักแขนแน่น เซี่ยเสี่ยวหลานเรียกเขาต่อหน้าคนอื่นว่า ‘คุณเซี่ย’ ทำเอาเขารู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที แถมเธอยังพูดเื่ที่เขากับหลิวเฟินหย่าร้างกันได้อย่างหน้าตาเฉย คนเราไม่ควรสาวไส้ให้กากินไม่ใช่หรือ ทว่าสิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำในตอนนี้คือ้าเหยียบเขาให้สยบแทบเท้า
ไหนจะชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายเสี่ยวหลานอีก นี่คงเป็คู่ครองของเสี่ยวหลานที่คุณชายใหญ่พูดถึงสินะ?
ผู้ชายคนนี้ทำหน้าหวาดระแวง ไม่เคารพเขาเลยสักนิด ไม่รู้จักแม้แต่การนอบน้อมต่อผู้าุโกว่า!
“คือเขานั่นแล ดูเหมือนว่าตู้เ้าฮุยยังไม่ตัดใจจริงๆ สินะ”
โจวเฉิงเองก็คิดเช่นเดียวกัน
เซี่ยต้าจวินอยากประกาศ ‘ความรักของพ่อ’ อันไร้ค่าของตัวเอง แต่ช่างเลือกจังหวะได้เหมาะเจาะเหลือเกิน เช่นนั้นคงมาช่วยพูดแทนตู้เ้าฮุยเป็แน่
“คุณเป็พวกที่เ้านายทำดีด้วยหน่อยก็จงรักภักดีเสียจริง แต่ตอนนี้จังหวะเวลาไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไร คุณคิดว่าอย่างไรกันครับ คุณเซี่ย เชื่อผมเถิด เสี่ยวหลานยอมเห็นคุณเป็แค่คนแปลกหน้าเช่นนี้ ก็ถือว่าเมตตาคุณที่สุดแล้ว”
สองคนนี้มีท่าทีที่เ็าต่อเขา เซี่ยต้าจวินรู้สึกโกรธจัดจนอยากะเิอารมณ์ออกมา แต่พอนึกถึงสิ่งที่ตู้เ้าฮุยกำชับ เขาก็ต้องจำยอมข่มโทสะนี้เอาไว้
คุณชายใหญ่ฉลาดกว่าเขา ดังนั้นเขาควรทำตามคำสั่งของคุณชายใหญ่
“ไม่แปลกที่เสี่ยวหลานจะเกลียดฉัน เมื่อก่อนเป็ฉันที่ทำผิดไปเอง ตอนนี้ฉันกำลังปรับปรุงตัว คุณชายใหญ่บอกว่าตอนนี้เสี่ยวหลานอยู่ที่เผิงเฉิง ฉันจึงรีบเดินทางจากฮ่องกงมาเพื่อเจอหน้าลูก เสี่ยวหลาน พ่อทำผิดต่อลูกและแม่ของลูก ทำให้พวกลูกต้องทนอยู่กับความอยุติธรรม ตอนนี้ลูกสอบติดมหาลัยแล้วสินะ พ่อเห็นลูกจากในโทรทัศน์ นี่คือเงินเดือนที่พ่อเก็บออมไว้ น่าจะพอให้ลูกจ่ายค่าเทอมจนกว่าจะเรียนจบได้... ถ้ายังไม่พอ พ่อจะหาเงินมาให้ลูกอีก”
เซี่ยต้าจวินล้วงซองจดหมายที่ทั้งนูนทั้งหนาและยังไม่ถูกปิดผนึกออกมาจากด้านข้างของเบาะรถเข็น
มันคือธนบัตรดอลลาร์ฮ่องกงสีเขียวปึกใหญ่ ดูจากความหนาของมันแล้วน่าจะมีมูลค่าหนึ่งหมื่นหยวนเป็อย่างต่ำ
เซี่ยต้าจวินชูซองจดหมายขึ้นมา ดึงดูดสายตาผู้คนในโรงพยาบาลได้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว จากนั้นก็มีคุณปู่คนหนึ่งเดินลากสายน้ำเกลือผ่านมา เขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เป็พ่อลูกกันจะมีเื่เข้าใจผิดกันได้อย่างไร รับเอาไว้เถิด พ่อของเธอคงอยากปรับปรุงตัวจากใจจริง”