บทที่ 1 งานแต่ง
บัวชมพูซึ่งอยู่ในชุดผ้าสะใบเกาะอกนุ่งผ้าไหมลวดลายงดงามพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับทองคำและไข่มุกที่มีทั้งสร้อยคอ แหวนและกำไลข้อมือต้องเดินตามเ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในชุดพื้นเมืองผ้าไหมสีทองอร่าม ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นหล่อเหลาตามแบบฉบับของลูกครึ่งไทยรัสเซีย
มือเรียวบางของเธอถูกผูกติดกับมือหนาใหญ่ของ ศาสตรา พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้แม่เมยซึ่งบัดนี้อยู่ในฐานะเ้าบ่าวที่ต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมอย่างล้านนาของชาวเหนือ นั่นคือคู่แต่งงานต้องผูกข้อมือไว้ด้วยกันก่อนจะมีการส่งตัวเข้าเรือนหอโดยญาติผู้ใหญ่ทั้งบิดามารดาของฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมจัดพิธี
“ให้ผัวเป็แก้ว เมียเป็แสง บ่ดีหื้อเป็ผัวเผต เมียั์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเปนไฟ หื้อเมียเปนน้ำ หื้อพ่อชายเป็หิง แม่ญิงเป็ข้อง”
หลังจากเสียงการให้โอวาทในการครองเรือนสิ้นสุดลงหนุ่มสาวทั้งสองจึงเอนหลังลงไปพร้อมกันบนที่นอนซึ่งเป็ฟูกหนาคลุมด้วยผ้าปูรัดมุมตึงแน่น ้าโรยด้วยกลีบดอกไม้ ฟูกหนาตั้งอยู่ชิดหน้าต่างบนพื้นของห้องนอนภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ซึ่งถูกใช้เป็ห้องหอ
ด้านนอกเสียงบรรเลงดนตรีไทยยังขับกล่อมแเื่ที่มาร่วมเลี้ยงฉลองการจัดงานสมรสระหว่างลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังและพ่อเลี้ยงเ้าของปางไม้แม่เมย
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงภายในนั้นจึงเหลือเพียงหนุ่มสาวที่นอนอยู่บนฟูกผืนเดียวกัน ข้อมือของเขาและเธอต่างถูกมัดไว้ด้วยด้ายที่ทำจากด้ายดิบหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฝ้ายไหมมือ
ร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวชาวไทยนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาคนตัวใหญ่ซึ่งเป็ลูกครึ่งไทยรัสเซีย ดวงตาสีเขียวอมฟ้าแวววาวบนใบหน้าหล่อเหลากำลังจับจ้องมายังเ้าสาวของเขา
“คุณจะออกไปจากห้องตอนนี้ก็ได้นะ บัวชมพู”
น้ำเสียงดุดันที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย แต่บัวชมพูก็ทำสีหน้าอย่างปกติทั้งที่ในใจเริ่มหวาดหวั่นต่อท่าทีของเ้าบ่าวที่แสดงความไม่เป็มิตรออกมา
แน่นอนว่าศาสตราไม่ได้มีความสุขกับการแต่งงานในครั้งนี้ เขาแสดงอาการเคร่งขรึมตลอดเวลาของงานพิธี และมีเพียงเขาและเธอกับญาติสนิทในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่ไม่ใช่พิธีแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นสำหรับเธอ แต่เป็งานสมรสที่ต้องจัดขึ้นเพราะ บัวไพลิน พี่สาวของเธอและเป็เ้าสาวตัวจริงได้ก่อเหตุอัปยศให้แก่ครอบครัวด้วยการหนีตามผู้ชายอีกคนไปก่อนพิธีแต่งงานเพียงวันเดียว
บัวชมพูผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับบัวไพลินซึ่งมีอายุห่างกันแค่ปีเดียวถูกบิดามารดาขอร้องให้ต้องมาทำหน้าที่เ้าสาวแก้ขัดไปก่อน เพราะพิธีสมรสระหว่างลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ของเมืองลำปางและศาสตรา บุตรชายคนเดียวของเ้าของปางไม้ชื่อดังถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และคงไม่อาจล้มเลิกงานครั้งนี้ได้เนื่องด้วยต้องรักษาชื่อเสียงของทั้งสองฝ่ายเอาไว้
เหนือสิ่งอื่นใดคือความอัปยศที่บัวไพลินก่อนั้นไม่อาจแพร่งพรายออกไปให้ใครได้รู้ บัวชมพูจึงจำต้องแบกรับหน้าที่ที่เธอก็ไม่ได้เต็มใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อรักษาชื่อเสียงของครอบครัว
แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่หน้าที่ใหม่ในชีวิตนั่นคือการเป็เ้าสาวและเมียของพ่อเลี้ยงศาสตรา แต่กลับกลายเป็ว่าเธอต้องมานั่งเห็นหน้าบอกบุญไม่รับของเขาตลอดทั้งงาน
“ไม่เป็ไรหรอกค่ะ” บัวชมพูตอบเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ถ้าฉันออกไปตอนนี้อาจเกิดเสียงครหาว่าคุณเอาได้”
“ดูคุณกลัวเื่นี้เหลือเกินนะ เกียรติยศ ชื่อเสียง...ทำไมพี่สาวของคุณถึงไม่คิดแบบนี้บ้าง!”
“ซีนิธ” หญิงสาวครางชื่อที่เขาให้พี่สาวของเธอเรียกตลอดระยะเวลาที่คบหากัน
“ฉันอยากขอโทษสำหรับเื่ทุกอย่างแทนพี่บีนะคะ”
“ไม่มีอะไรจะลบล้างความผิดของพี่สาวคุณครั้งนี้ได้หรอก! บีทำเหมือนกับเล่นขายของ หรือคุณไม่ได้คิดอย่างผม“
“นั่นคุณจะไปไหนคะ?”
บัวชมพูร้องถามเมื่อชายหนุ่มถอดด้ายที่มัดมือของเขาและเธอเอาไว้และขยับลุกจากฟูกหนา
“คุณไม่ต้องกลัวไปหรอกว่าผมจะออกจากห้องหอนี่ ผมจะไปอาบน้ำ ผมเหนื่อย อยากพักผ่อน”
ศาสตราตอบเสียงห้วนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำขณะที่หญิงสาวมองตามพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าถึงยังไงก็ไม่มีทางแทนที่ บัวไพลิน พี่สาวของเธอที่เขารักได้เป็แน่
เธอก็เป็แค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจนำมาชักใยให้กระโดโลดเต้น พูดไปก็เหมือนหนังหน้าไฟ ต้องมาแบกรับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมยังถูกศาสตราแสดงท่าทีรังเกียจเข้าให้เสียอีก
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยรู้จักเขา ศาสตราเป็ลูกชายคนเดียวของเ้าของปางไม้แม่เมย แม่ของเขาเป็ชาวรัสเซียและเขาก็พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
การแต่งงานระหว่างเขากับบัวไพลินก็เกิดขึ้นจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ บัวชมพูรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เต็มใจและแบ่งรับแบ่งสู้ทุกครั้งที่ศาสตราเดินทางไปหาที่บ้าน
แต่ในสายตาของบัวชมพู เขาเป็ผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง แม้จะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติแต่ศาสตราก็เป็หนุ่มวัยยี่สิบแปดที่ดูดีมาก เขาสมบูรณ์แบบและเธอก็รู้สึกชื่นชมั้แ่ครั้งแรกที่ได้เห็น
