จู้หลงเห็นลู่เต้าพุ่งเข้ามาดุจพยัคฆ์ บวกกับก่อนหน้านี้อีกฝ่ายสามารถทำลายค่ายกลของเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ย่อมแสดงให้เห็นถึงฝีมืออันแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย
“นี่หรือเ้าหนูที่ว่า ท่าทางดูแข็งแกร่งไม่เลว” จู้หลงผิวปากเรียกนักรบกระดูกกลับมา
อากาศที่ร้อนระอุอบอวลไปด้วยกลิ่นไหม้ เสียงกรีดร้องภายในค่ายที่เพลิงโหมกระหน่ำค่อยๆ เบาลง เพราะคนตายย่อมไม่อาจเอื้อนเอ่ยสิ่งใดได้อีก
เกาอิ้งมองภาพเบื้องหน้าอันน่าสยดสยองด้วยสีหน้าตื่นตระหนก กลิ่นคาวเืที่สูดเข้าไปราวกับความหวาดกลัวที่ฝังลึก ภาพศพที่เกลื่อนกลาดทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตนเองนั้นได้ตายไปแล้วหรือไม่
ท่ามกลางกองเพลิง ทันใดนั้นเกาอิ้งรู้สึกเพียงแสงวาบผ่านตา จากนั้นร่างของเขาก็ถูกผ่าออกเป็สองส่วน กลายเป็หนึ่งในิญญาที่สิ้นชีพใต้คมดาบของนักรบกระดูก
หลังจากดูดกลืนิญญาของเกาอิ้งแล้ว นักรบกระดูกก็หันไปมองคนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่กี่คนที่เหลือ ขณะที่มันกำลังจะลงมือกับแม่ครัวผู้หนึ่ง เสียงผิวปากแหลมสูงของจู้หลงก็ดังขึ้น นักรบกระดูกจึงหยุดการเคลื่อนไหว เดินกลับไปหาเ้านายด้วยท่าทางเชื่องเชื่อฟังราวกับเครื่องจักรไร้ความรู้สึก
ลู่เต้ามองจู้หลงในชุดคลุมสีเทาและนักรบกระดูกที่ยืนอยู่ข้างกาย เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็ผู้ควบคุมิญญา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขาเห็นจางเฟิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเอง
“นั่นไม่ใช่ผู้ควบคุมิญญาตัวสูงคนนั้นหรือ” ลู่เต้าเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
ไป๋เสียเองก็จำจางเฟิงได้ แต่การที่ผู้ควบคุมิญญาสองคนบุกโจมตีที่นี่พร้อมกัน เป็เื่บังเอิญเช่นนั้นหรือ เพิ่งจะจากไปไม่นานก็เกิดเื่ขึ้นแล้ว เหตุใดลู่เต้าถึงดวงหายนะเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เื่บังเอิญ ถ้าเดาให้สมเหตุสมผลละก็ ลู่เต้าคงถูกพวกมันสะกดรอยตามมาตลอด เลยเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น
“เ้าหนู อีกฝ่ายเตรียมพร้อมมาอย่างดี ตอนนี้ข้าอ่อนแอเกินกว่าจะสิงร่างเ้าสู้ได้ การที่สู้โดยไม่รู้อะไรเลยอันตรายมาก!” ไป๋เสียเตือนลู่เต้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
ลู่เต้าไม่ได้ฟังสิ่งที่ไป๋เสียเอ่ยเลยแม้แต่น้อย ในดวงตาของเขามีกู่เสี่ยวอวี่ที่ถูกขังอยู่ในกรงเท่านั้น
เมื่อเกาฮ่าวเห็นสายตาที่กู่เสี่ยวอวี่มองลู่เต้าแล้ว เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าลู่เต้าคือคนรักที่ว่า
“ลู่เต้า… เ้า… เ้ารีบหนีไปเถอะ!!!” กู่เสี่ยวอวี่ไม่เข้าใจ เหตุใดบอกให้เขารีบหนีไป กลับยิ่งเดินเข้ามา
เมื่อเห็นคู่หมั้นตนเป็ห่วงชายอื่นต่อหน้าต่อตา ถึงแม้เกาฮ่าวจะโกรธมากแค่ไหนก็ไม่อาจแสดงออกได้ เพราะเขาได้เห็นฉากที่อีกฝ่ายทำลายค่ายกลเพียงครั้งเดียวกับตา จึงได้แต่เก็บกดความโกรธเอาไว้ คิดหาทางแก้แค้นภายหลัง
คนที่โกรธไม่ต่างกันก็คือลู่เต้า ในตอนนี้สมองของเขาตื้อไปหมด ไม่ว่าไป๋เสียจะพูดอะไรเขาก็ไม่สนใจทั้งสิ้น
“ก้าวพลาดไปก้าวหนึ่งย่อมไม่เป็ไร แต่อย่ามุ่งไปทางที่ผิดเด็ดขาด!” ไป๋เสียยังคงเกลี้ยกล่อม “ฟังข้า! ลู่เต้า! ฟังข้า! ตอนนี้ยังทัน!”
จู้หลงมองลู่เต้าที่เดินตรงเข้ามา ก่อนจะออกคำสั่งด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม “ไปจับตัวมันให้ข้า! นักรบกระดูก!”
นักรบกระดูกคำรามกึกก้อง ท่ามกลางเสาเพลิงที่พวยพุ่ง เพียงเห็นดวงตาสีเขียวของมันเป็ประกาย ก็เหมือนโลกทั้งใบถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีเทา เปลวเพลิงสีแดงส้มรอบๆ พลันแปรเปลี่ยนเป็เปลวเพลิงสีเขียวอมฟ้าริบหรี่ปะปนไปกับหมอกสีเทา
บรรยากาศโดยรอบน่าสะพรึงกลัวทันใด ในความมืดมีแขนมากมายยื่นเข้ามาหาลู่เต้า เสียงกรีดร้องของิญญาร้ายดังกึกก้อง
หากเป็คนทั่วไปคงหวาดกลัวจนสติแตกไปแล้ว แต่ลู่เต้าไม่ใช่ ภายในร่างของเขามีิญญาของจอมมารสถิตอยู่ด้วย อยู่ก็ต้องร่วมกัน ตายก็ต้องตายพร้อมกัน
“ระวังตัวด้วย” ไป๋เสียรู้สถานการณ์ทันที “นี่คือภาพลวงตาที่เหล่าภูตผีสร้างขึ้นตอนกำลังล่าเหยื่อ หากข้ายังมีชีวิตอยู่ ภาพลวงตาเช่นนี้ ข้าแค่จามเบาๆ ก็ทำลายได้แล้ว…”
ทันใดนั้น ท่ามกลางหมอกสีเทา ทางด้านซ้ายก็มีลมกระโชกแรงพัดมา ตามด้วยแสงแวบวาบ
“ระวังด้านซ้าย!” ไป๋เสียรีบเตือน
ดังคาด นักรบกระดูกเหวี่ยงดาบใหญ่หาลู่เต้าทันที ลู่เต้าเองก็ััได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ จึงยกไม้สะกดมารขึ้นมาบังเอาไว้เบื้องหน้า
ท่ามกลางม่านหมอกสีเทา คมดาบสีขาวและไม้บรรทัดสีดำปะทะกันอย่างรุนแรง ประกายเพลิงกระจาย คลื่นอากาศแผ่ออกมาจากจุดที่อาวุธทั้งสองปะทะจนขับไล่หมอกสีเทาออกไป
ด้วยพลังิญญาที่เสริมความแข็งแกร่ง ลู่เต้ายังคงหยัดยืนต่อกรกับนักรบกระดูกได้
ลู่เต้ากัดฟันออกแรงผลัก จนนักรบกระดูกเซถอยหลังไปหลายก้าว พอตั้งหลักได้ก็เหวี่ยงดาบใหญ่เข้าใส่ลู่เต้าอีกครั้ง
ตู้ม!
ดาบเล่มนั้นไม่ได้ฟันถูกตัวลู่เต้า แต่กลับฟันพื้นจนแยกออกเป็รอยแตกขนาดใหญ่! ด้วยแรงสั่นะเืจนลึกลงไปใต้ดินหลายสามจั้ง
ดาบนั่นฟาดลงบนพื้นราวกับมีดกรีดลงบนเต้าหู้ ลู่เต้าไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ะโขึ้นไปกลางอากาศ ยกไม้สะกดมารขึ้นเหนือหัวเล็งไปที่ศีรษะของอีกฝ่าย ก่อนจะฟาดลงมาอย่างรุนแรง
นักรบกระดูกคำราม ยกดาบใหญ่ขึ้นมากัน อาวุธทั้งสองปะทะกันอย่างจังอีกครั้ง ดวงตาประกายสีเขียวที่เป็พลังปีศาจพลันขยายตัว ก่อนจะรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว นักรบกระดูกกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างแรง ทันใดนั้นลู่เต้ารู้สึกได้ว่าแรงที่เข้าปะทะก็เพิ่มขึ้น
“อะไรกัน!?” บนใบหน้าของลู่เต้าฉายแววตกตะลึง จากนั้นเขาก็ถูกพลังอันแข็งแกร่งของอีกฝ่ายโจมตีจนกระเด็นออกไป
ลู่เต้ากลิ้งไปกับพื้นอยู่ไกลลิ่วกว่าจะทรงตัวได้ ก่อนเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เ้านี่! แข็งแกร่งกว่าภูตผีที่ข้าเคยสู้ด้วยมากนัก”
ไป๋เสียััได้ถึงพลังปีศาจที่พลุ่งพล่านภายในร่างของอีกฝ่าย หลังจากตรวจสอบแล้วก็เอ่ยว่า “ระดับพลังของเ้านี่เหนือกว่าเ้า ตอนนี้เ้าเพิ่งจะก้าวเข้าสู่หนึ่งดารา แต่หลังจากอีกฝ่ายดูดกลืนิญญามากมายขนาดนี้ ก็อยู่ระดับหนึ่งดาราขั้นสูงสุดแล้ว”
ดาบใหญ่ของนักรบกระดูกฟาดลงบนไม้สะกดมาร แต่บนไม้กลับไร้แม้แต่รอยขีดข่วน ซึ่งช่วยชีวิตลู่เต้าเอาไว้ถึงสองครั้ง
ไป๋เสียรู้ดีว่าหากในมือลู่เต้าไม่ใช่ไม้สะกดมาร ป่านนี้คงได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว
หลังจากเห็นปีศาจที่อยู่ใต้อาณัติต่อสู้กับลู่เต้าแล้ว จู้หลงก็มองออกว่าแท้จริงแล้วลู่เต้าไม่ได้มีอะไรน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ คือสิ่งที่อีกฝ่ายถืออยู่ต่างหาก
จู้หลงที่อยู่ห่างออกไปจ้องด้วยแววตาละโมบ หัวใจเต้นระรัว อยากจะรีบคว้ามาไว้ใน แล้วเล่นให้หนำใจอยาก
“ไม่เลว เป็ศัสตราวุธิญญาที่หาได้ยากยิ่ง!”
เคร้ง!
เคร้ง!
เคร้ง!
นักรบกระดูกยกดาบใหญ่ฟาดเข้าใส่ลู่เต้าอย่างต่อเนื่องถึงสามครั้ง ถึงแม้ลู่เต้าจะสามารถปัดป้องเอาไว้ได้ แต่การต้านทานพลังโจมตีอันมหาศาลถึงสามครั้งติดต่อกันในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เขากระอักเืไหลรินออกมา
หลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือด พละกำลังของลู่เต้าก็ถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเริ่มหายใจหอบกระชั้น แต่นักรบกระดูกที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย พลังปีศาจที่พลุ่งพล่านก็ไม่มีท่าทีลดลงเลย
“เ้าหนู! เ้าาเ็แล้ว! อย่าปะทะกับมันโดยตรง ถอยออกมารักษาอาการาเ็ก่อน” เสียงของไป๋เสียดังขึ้นในหูลู่เต้า
“ข้ารู้แล้ว!” ลู่เต้าะโถอยหลังเว้นระยะห่างกับนักรบกระดูก ก่อนจะควักลูกกวาดดารารสเฉ่าเหม่ย [1] ออกมากิน
เมื่อเม็ดน้ำตาลละลายในปาก พลังิญญาก็ไหลเวียนไปทั่วร่างของลู่เต้า ซ่อมแซมส่วนที่ได้รับาเ็ เติมเต็มพลังิญญาที่ขาดหายไป พลังหลั่งไหลออกมาจากร่างกายไม่ขาดสาย ลู่เต้ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
เดิมทีจู้หลงเห็นว่าลู่เต้าต่อสู้จนเหนื่อยหอบราวกับมิอาจต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายจะมีของวิเศษฟื้นฟูด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็คาดไม่ถึงว่าลู่เต้าจะมีลูกกวาดฟื้นฟูเช่นนี้ติดตัวมากมาย! ทั้งยังมีหลายรสชาติด้วย!
[1] เฉ่าเหมย คือสตรอว์เบอร์รี่
