ตลอดสองวันมานี้หนิงอ้ายได้รับเคล็ดลับมากมายเกี่ยวกับการหลอมสร้างโอสถจากเหล่าศิษย์พี่ เพราะเหวินหวู่ได้ให้คำแนะนำกับเด็กหนุ่มเพิ่มเติม ว่าในการหลอมสร้างโอสถนอกจากการที่ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนชำนาญเเล้ว การที่ได้เห็นวิถีหลอมสร้างของนักปรุงโอสถเเต่ละคนก็ช่วยในเื่นี้เช่นกัน
ความแตกต่างและเอกลักษณ์เฉพาะเหล่านี้สามารถที่จะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับวิถีหลอมสร้างของตนเองได้ ในยุทภพเื่นี้ก็ไม่ใช่เื่แปลกประหลาดไปเท่าไหร่นัก หากว่านักปรุงโอสถที่มีอาจารย์สั่งสอนคนเดียวกัน เเต่ละสำนักจะมีวิถีหลอมสร้างที่ใกล้เคียงกันเพราะอย่างไรก็ตามหลังจากผ่านพ้นเป็นักปรุงโอสถระดับสี่ การจะเป็นักปรุงโอสถระดับห้าอย่างเต็มตัวจำเป็จะต้องคิดค้นและมีวิถีหลอมสร้างเป็ของตัวเองหากไม่เช่นนั้นก็จะติดอยู่ในขั้นของนักปรุงโอสถระดับสี่เพียงเท่านั้น
ทางฝั่งของหนิงอ้ายเองที่ใช้เวลายามว่างใน่บ่ายหลังจากที่่เช้าที่เด็กหนุ่มรับหน้าที่ทำอาหารเช้าและดูเเลสวนสมุนไพรให้กับอาจารย์ของตน เหวินหวู่ได้มีการสอนทักษะเพิ่มเติมอันเป็วิถีหลอมสร้างเฉพาะให้กับเด็กหนุ่มอย่างไม่หวงแหน ด้วยเพราะตำแหน่งศิษย์ผู้สืบทอดตำหนักที่เด็กหนุ่มถือครองอยู่
ตัวของเหวินหวู่เองก็ตั้งใจรับหนิงอ้ายเป็ศิษย์สืบทอดสายตรงของตนหลังจากนี้อีกด้วย การที่เด็กหนุ่มไปหาบรรดาศิษย์พี่ในตำหนักในขณะที่อีกฝ่ายกำลังหลอมสร้างโออสถระดับสาม โอสถระดับสี่อยู่นั้นทำให้หนิงอ้ายสามารถเก็บเกี่ยวรายละเอียดเล็กน้อยที่นำมาปรับใช้กับการหลอมสร้างโอสถของตนไปไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกทั้งิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟของศิษย์พี่เเต่ละคนที่เนตรเเห่ง์ได้ส่งข้อมูลบางส่วนให้รับรู้ ก็ทำให้หนิงอ้ายได้เข้าใจเพิ่มเติมขึ้นว่าลักษณะเฉพาะของเเต่ละเปลวเพลิงอันเกิดจากิญญายุทธ์ของผู้ฝึกตนที่มีความแตกต่างกันไป ย่อมทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะในวิถีปรุงโอสถ ทำให้เกิดคุณสมบัติแฝงในโอสถเม็ดนั้นที่ถูกหลอมสร้างขึ้นมานั่นเอง
นอกจากนั้นหนิงอ้ายได้ทำการหลอมสร้างโอสถระดับหนึ่งอีกหลายสูตรเพื่อให้ศิษย์พี่ได้คำแนะนำแก่เขาเพิ่มเติมเช่นกัน หนิงอ้ายไม่ได้หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีหรือมีความคิดที่ว่าตนเป็ถึงศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักแล้วจะอยู่เหนือขั้นกว่าศิษย์พี่ของตน เพราะตำแหน่งนี้สำหรับเขาเเล้วก็เป็เพียงหน้าที่หรือหัวโขนหนึ่งที่ต้องเเบกรับ ทำหน้าที่ดังกล่าวให้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น
ที่สำคัญคือประสบการณ์และองค์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับสมุนไพรรวมไปถึงการหลอมโอสถจากแนวทางวิถีปรุงโอสถเฉพาะของศิษย์พี่เเต่ละคนนั้นเรียกได้ว่าเปิดมุมมองใหม่ให้กับหนิงอ้ายเป็อย่างมาก คำแนะนำที่อีกฝ่ายได้ให้กับเด็กหนุ่มนั้นก็เป็สิ่งที่เป็ประโยชน์กับตัวเขามากเช่นกัน
"เ้าช่างมีพร์ยิ่งนักศิษย์น้องหนิงอ้าย เพียงเเค่สองวันเ้าก็สามารถหลอมสร้างโอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์ได้ถึงสิบส่วนเช่นนี้ เป็อย่างที่เ้าคิดเื่ของเวลาในการหลอมสร้างนั้นเป็ตัวแปรที่สำคัญในการหลอมสร้างโอสถเช่นกัน..." เหยียนฮุ่ยเอ่ยชมศิษย์น้องเล็กของตนเสียไม่ได้
ก่อนหน้านี้ที่อีกฝ่ายสามารถเรียนรู้ จดจำเกี่ยวกับสมุนไพรต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วก็นับว่าทำให้ตนประหลาดใจเเล้ว เเต่นี่ถึงกับปรุงโอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วนเช่นนี้ได้เพียงเเค่ระยะเวลาเท่านี้หากเทียบกับตนที่ใช้เวลาไปเกือบเดือนแล้วจะเป็อันใดได้กัน
"ความจริงเเล้วศิษย์พี่ใหญ่อีกคนก็มากไปด้วยพร์เช่นเดียวกับเ้า วิถีปรุงโอสถของศิษย์พี่นั้นเรียกได้ว่าล้ำลึกพิศดารเป็รองจากท่านอาจารย์ไปเพียงไม่กี่ส่วนเท่านั้น หากมีเวลาเ้าสามารถไปขอคำแนะนำได้เพราะบ่อยครั้งที่ท่านอาจารย์ไม่อยู่ตำหนัก เหล่าศิษย์พี่ของพวกเ้าหากมีข้อสงสัยในการปรุงโอสถก็จะไปปรึกษาสอบถามจากศิษย์พี่ใหญ่เช่นกัน..." ชายหนุ่มแนะนำศิษย์น้องของตนไปพร้อมกับตบไหล่ให้กำลังใจ
"ขอรับศิษย์พี่..." หนิงอ้ายที่ได้ยินก็ได้เเต่ตอบรับอยู่ในคออย่างแ่เบาพร้อมกับชวนอีกฝ่ายคุยเื่อื่นไปเสีย
จนมาถึงตอนนี้ตั้งเเต่ที่หนิงอ้ายได้พบเจอกับอีกฝ่ายที่เป็ศิษย์พี่ใหญ่ของตน เขายังไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงได้ว่าอีกฝ่ายมีความเกี่ยวกับกับเเทนไทยังไงกันแน่ เพราะไม่ว่าจะเป็สายตาและท่าทางต่าง ๆ ของอีกฝ่ายที่เขาสังเกตุแทบเป็คนเดียวกันในความรู้สึกของเขา เเต่ถึงอย่างนั้นข้อมูลของอีกฝ่ายที่เขาได้รับรู้จากเนตรเเห่ง์นั้นก็ไม่ได้พบความผิดปกติอันใด เเต่ด้วยสัญชาติญาณส่วนลึกของเขาได้ร้องบอกว่าควรที่จะอยู่ห่างจากศิษย์พี่คนนี้ให้มากจะเป็การดีที่สุด...
"ท่านอาจารย์ วันนี้ข้าออกไปพบสหายที่ด้านนอกตำหนักนะขอรับ..." หนิงอ้ายบอกกับอาจารย์ของตนหลังจากที่ใน่เช้าที่ผ่านมานั้นเด็กหนุ่มได้ทำอาหารและรดน้ำดูเเลสวนสมุนไพรให้กับอาจารย์ของตนเสร็จเรียบร้อยเเล้วดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา
"เ้าไปเถิดแล้วอย่าลืมแวะอาคารส่วนกลางของตำหนักเราก่อนเล่า โอสถระดับหนึ่งที่เ้าหลอมสร้างได้ใน่สองสามวันที่ผ่านมาจงนำไปแลกแต้มคะแนนคงจะได้มาอยู่ไม่น้อย..."
"เอาป้ายหยกอันนี้ไปด้วย ข้าได้บอกกับตาเฒ่าซุนให้เตรียมสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงโอสถระดับสองให้แก่เ้า สำหรับการเรียนขั้นไปหลังจากนี้..." เหวินหวู่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
"ขอรับท่านอาจารย์" หนิงอ้ายตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเเยกตัวไป ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่นานเด็กหนุ่มก็มาถึงอาคารส่วนกลางที่เป็เป้าหมายของตนเเล้ว
"เ้ามาแล้วอย่างนั้นรึ...ตาเฒ่าเหวินได้บอกกับเ้าเเล้วใช่หรือไม่เื่สมุนไพร?" ซุนเกาเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มผู้เป็ศิษย์ผู้สืบทอดได้ก้าวเท้าเข้ามายังอาคารส่วนกลางหลังนี้
"คำนับเหล่าซุนขอรับ วันนี้ข้ารับสมุนไพรตามที่ท่านอาจารย์ได้ฝากไว้พร้อมกับนำโอสถระดับหนึ่งที่ข้าหลอมสร้างเสร็จมาแลกแต้มคะแนนขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับไปพร้อมกับยื่นป้ายหยกอีกชิ้นที่ตนได้รับมาจากอาจารย์ก่อนหน้านี้
"โอ้!! ถึงกับหลอมสร้างโอสถระดับหนึ่งได้สำเร็จแล้วอย่างนั้นรึ?? ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา"
"เป็ความเมตตาของท่านอาจารย์ที่สั่งสอนรวมไปถึงศิษย์พี่ทุกคนที่เอ็นดูให้คำแนะนำแก่ข้าขอรับ..."
"เอาละ!!เ้ารออยู่ตรงนี้สักครู่เดี๋ยวข้าไปหยิบสมุนไพรให้ เ้าเตรียมโอสถที่เ้า้าแลกแต้มคะแนนออกมารอเลยก็ได้เช่นกัน..." กล่าวจบลง รางสูงใหญ่ของอีกฝ่ายนั้นได้หายไปตรงทางด้านหลัง หนิงอ้ายก็ทำตามที่อีกฝ่ายได้บอกนั่นคือการยืนรออย่างสงบพร้อมกับตรวจทานโอสถระดับหนึ่งที่ได้เตรียมมาอีกครั้ง
"เเหวนมิตินี้มีสมุนไพรสำหรับสูตรโอสถระดับสองจำนวนทั้งหมดยี่สิบชุดให้แก่เ้าตามที่ตาเฒ่าเหวินได้บอกกับข้า แล้วไหนเล่าโอสถที่เ้า้าเเลกเป็แต้มคะเเนนในวันนี้..."
"ขายหน้ากับเหล่าซุนแล้วขอรับ เป็ข้าที่ปรุงโอสถเหล่านี้ขึ้นมาเองทั้งสิ้นรบกวนเหล่าซุนตรวจสอบก่อนโอสถที่ข้าเตรียมมาจะเป็โอสถรักษาสามสิบเม็ด โอสถห้ามเืห้าสิบเม็ดและโอสถลมปราณอีกยี่สิบเม็ด ล้วนเเต่มีความบริสุทธิ์สิบส่วนทั้งสิ้นขอรับ..." หนิงอ้ายตอบกลับไปพร้อมกับมอบเเหวนมิติที่ตนบรรจุโอสถทั้งหมดให้กับอีกฝ่ายได้ตรวจสอบ
"โอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์สิบส่วน เ้าเป็ผู้ปรุงโอสถทั้งหมดนี่เองงั้นรึ??" ซุนเการ้องดังขึ้นด้วยความแปลกประหลาดใจ ด้วยเพราะเด็กหนุ่มพึ่งเข้าเป็ศิษย์ในตำหนักยังไม่ถึงเจ็ดวัน จากที่ตนพอทราบมานั่นคืออีกฝ่ายพึ่งได้หลอมสร้างโอสถเพียงสองถึงสามวันเท่านั้น เเต่กลับสามารถปรุงโอสถระดับนี้ออกมาได้ นับว่าเป็สุดยอดรุ่นเยาว์ที่มากด้วยพร์อย่างเเท้จริง
"รุ่นเยาว์เดี๋ยวนี้ช่างน่าชื่นชมเสียจริง เอาละ ๆ ตำหนักของเราจะมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการนำโอสถที่หลอมสร้างมาเเลกเป็แต้มคะเเนนดังเช่น โอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์สิบส่วนหนึ่งเม็ดก็จะได้รับไปสิบแต้มคะเเนน โอสถระดับสองความบริสุทธิ์สิบส่วนหนึ่งเม็ดก็จะได้รับไปยี่สิบแต้มคะเเนน โอสถระดับสามความบริสุทธิ์สิบส่วนหนึ่งเม็ดก็จะได้รับไปสามสิบแต้มคะเเนน เ้าจะเห็นว่าแต้มคะเเนนที่ได้มานั้นจะเป็ล้อไปกับระดับของโอสถและความบริสุทธิ์ของโอสถ..."
"โอสถที่เ้านำมาล้วนเป็โอสถระดับหนึ่งจำนวนทั้งหมดหนึ่งร้อยเม็ด มีความบริสุทธิ์สิบส่วนทั้งสิ้น ดังนั้นเ้าจะได้รับไปนั่นคือหนึ่งพันแต้มคะเเนนในวันนี้ ยื่นป้ายหยกประจำตัวของเ้ามาข้าจะมอบแต้มคะเเนนนี้ให้แก่เ้า..."
"ครั้งต่อไปหากเ้าทำการปรุงโอสถได้มากพอแล้วก็สามารถนำมาเเลกเปลี่ยนเป็แต้มคะเเนนหรือเป็สมุนไพรตามสูตรโอสถที่เ้า้าได้ หรือหาก้าฝากโอสถเ่าั้ไปขายที่ตลาดในเมืองก็บอกข้าได้เช่นกัน" ซุนเกาแนะนำหนิงอ้ายไปอีกครั้ง
"ข้าทราบแล้วขอรับเหล่าซุน อย่างไรวันนี้ขอบคุณท่านมากนะขอรับ..." หนิงอ้ายเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่เป็ธุระจัดการให้กับตนในวันนี้ พร้อมกับคำนับอีกฝ่ายไปอีกเล็กน้อยก่อนที่จะออกจากอาคารส่วนกลางไปยังเรือนพักของตนเนื่องจากตอนนี้ใกล้เวลานัดหมายเเล้ว เด็กหนุ่มคาดการณ์เอาว่าเขานั้นน่าจะไปทันพอดี...
การนัดหมายกับลู่ซีและสหายคนอื่น ๆ ในวันนี้ หนิงอ้ายตั้งใจว่าจะพาต้าเฮยออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย เมื่อเ้าตัวน้อยได้ยินอย่างนั้นก็มีทีท่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเป็อย่างมาก ก่อนที่อสรพิษน้อยนั้นจะเลื้อยขึ้นมาตามแขนของหนิงอ้ายและหายไปอยู่ในอกเสื้อของเด็กหนุ่มดั่งเช่นทุกครั้งพร้อมกับชูคอออกมาเล็กน้อยด้วยท่าทางที่น่าเอ็นดูยิ่ง
คิดถูกเเล้วที่หนิงอ้ายเลือกพาอีกฝ่ายออกมาด้วยเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาทุ่มเทกับการปรุงโอสถเป็อย่างมากเลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กับอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก ดังนั้นเขาจึงสัญญากับตัวเองว่าหลังจากนี้หากตนไปที่ใดก็จะพาเ้าตัวน้อยนี้ไปด้วยทุกครั้งอย่างแน่นอน
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อเท่านั้นหนิงอ้ายออกจากนอกเขตประตูของตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาของตนเเล้วท่ามกลางสายตาของศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกชายหญิงมากมายที่มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเเต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกับเด็กหนุ่มไปมากสักเท่าไหร่
เพียงชั่วครู่หนิงอ้ายก็ไปถึงโรงครัวส่วนรวมเสียที ร่างกายบอบบางรวมไปถึงหน้าตาที่รูปงามของหนิงอ้ายได้เรียกความสนใจจากทุกคนในที่นี้ ด้วยเป็วันหยุดที่ทางสำนักเป็ผู้กำหนดให้ทั้งสี่ตำหนักได้หยุดตรงกันดังนั้นจำนวนผู้คนจึงมากกว่าในยามปกติไปมากเมื่อวิหคสอดแนมส่งรูปภาพกลุ่มสหายของเขาที่นั่งอยู่ในอีกฝั่งหนิงอ้ายจึงไม่รอช้าก้าวเท้าเดินไปทิศทางนั้นในทันที
"เป็อย่างไรบ้างหนิงอ้าย ปรับตัวได้มากเเล้วใช่หรือไม่??" จ้าวหลานเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าสหายอายุน้อยของพวกตนมาถึงเเล้ว
"ข้าสบายดีตอนนี้ก็ปรับตัวได้มากเเล้ว พวกเ้าทุกคนเล่าเป็อย่างไรบ้าง??" หนิงอ้ายตอบกลับจ้าวหลานไปพร้อมกับเอ่ยประโยคสุดท้ายถามสหายของตนทุกคน
"พวกข้าสบายดี เเต่ก็มีความตื่นเต้นอยู่มากเเต่ก็ถือว่าปรับตัวได้มากเเล้ว..." หลี่ซวงตอบกลับไปพร้อมกับขยับตัวให้สหายมานั่งข้างตน
"ลู่เกอเล่าขอรับ อยู่ตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกลเป็อย่างไรบ้าง?"
"เกอสบายดี ตอนนี้ถือว่าปรับตัวได้มากแล้วเช่นกัน ยังดีที่มีอู๋ฮั่นอยู่ด้วยจึงพอมีเพื่อนพูดคุยอยู่บ้าง..." ลู่ซีตอบกลับเด็กหนุ่มไปพร้อมกับสำรวจเด็กหนุ่มที่เป็ดั่งน้องชายของตน
"พวกข้าต่างล้วนมีสหายอยู่ในตำหนักเดียวกัน มีเพียงเเต่เ้านั่นเเหละหนิงอ้ายที่อยู่ตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าข้าจะไปหาเ้าที่ตำหนักได้หรือไม่นะ??" อี้หลินเอ่ยขึ้นพร้อมกับถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่คาดหวัง
"หยุดเลยอี้หลิน เ้าก็น่าจะรู้ว่าท่านเหวินหวู่เ้าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษานั้นไม่ชอบให้ศิษย์จากตำหนักอื่นเข้าไปวุ่นวายในอาณาเขตตำหนักสักเท่าไหร่หากไม่ได้มีเื่สำคัญจริง ๆ พวกเราค่อยนัดเจอกันข้างนอกเช่นนี้ก็ได้..." จินหั่วเอ่ยห้ามปรามเด็กหนุ่มร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน ก็มีการตอบรับคำพูดนั้นด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งจากการถูกขัดใจจากสหายของตนนั่นเอง
"เป็อย่างที่จินหั่วว่าไว้นั่นเเหละ หากคิดถึงข้าก็เขียนจดหมายเวทย์มาหรือพวกเราจะนัดเจอกันที่นี่ทุกอาทิตย์ก็ย่อมได้..."
"จริงสิ!!ข้ามีบางสิ่งที่จะมอบให้กับพวกเ้า" หนิงอ้ายร้องขึ้นราวกับพึ่งนึกขึ้นได้ก่อนที่จะล้วงหยิบสิ่งของบางสิ่งออกจากเเหวนมิติของตน จากนั้นจึงได้มอบขวดแก้วเ่าั้ให้กับสหายของตนทุกคน
"โอสถอย่างนั้นรึ??"
"กลิ่นหอมยิ่งนัก พินิจจากกลิ่นแล้วน่าจะมีความบริสุทธิ์ถึงสิบส่วนเลยกระมัง...
"ทั้งสามขวดนั่นคือโอสถห้ามเื โอสถรักษาและโอสถลมปราณระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์สิบส่วนขวดละห้าเม็ด ทั้งหมดนี้เป็โอสถที่ข้าปรุงขึ้นมาด้วยตนเองทั้งสิ้น..." หนิงอ้ายบอกไปเมื่อเห็นว่าในมือของทุกคนนั้นต่างมองดูขวดโอสถที่พึ่งได้รับไป
"นี่ข้าไม่ได้ยินผิดไปใช่หรือไม่?? โอสถนี้เป็เ้าที่หลอมสร้างเองงั้นรึ!!" อี้หลินร้องดังขึ้นด้วยความใ
"เ้าพึ่งเริ่มเรียนรู้ได้ไม่กี่วันไม่ใช่รึ เหตุใดจึงหลอมสร้างโอสถได้เร็วเช่นนี้??" จ้าวหลานถามกลับไปด้วยความใไม่แพ้กัน
"โอสถระดับหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์สิบส่วนทั้งสิ้น เเสดงว่าในตอนนี้เ้าเป็นักปรุงโอสถระดับหนึ่งเเล้วใช่หรือไม่??" จ้าวหลานที่พอมีความรู้ในเื่นี้อยู่บ้างจึงถามขึ้น สหายตัวน้อยของเขาใช้เวลาไม่ถึงเจ็ดวันหากนับตั้งเเต่วันคัดเลือกเข้าตำหนัก ทว่าในวันนี้อีกฝ่ายถึงกับมีคุณสมบัติเป็นักปรุงโอสถระดับหนึ่งเเล้ว ช่างมากไปด้วยพร์อย่างเเท้จริง
"ท่านอาจารย์บอกว่าข้าต้องสอบเลื่อนขั้นเสียก่อน หากไม่เช่นนั้นจะถือได้ว่ายังไม่ใช่นักปรุงโอสถระดับหนึ่งเเบบเต็มตัว..." หนิงอ้ายบอกกับสหายขอเขาไปตามที่ท่านอาจารย์ได้บอกกับตน
"หากท่านเเม่ ท่านตาท่านยายรู้เข้าคงภูมิใจในตัวเ้าเป็มากแน่..." ลู่ซีเอ่ยชมหนิงอ้ายพร้อมกับลูบหัวของเด็กหนุ่มเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู เขาไม่ค่อยเเปลกใจเท่าไหร่นักที่เพียงไม่กี่วันอีกฝ่ายสามารถทำเช่นนี้ได้ ยิ่งเด็กหนุ่มพัฒนาตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ตัวของเขานั้นก็ต้องพยายามให้มากขึ้นและต้องเเข็งแกร่งให้มากพอเพื่อที่จะปกป้องอีกฝ่ายในวันข้างหน้าได้...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้