เพียงแค่เดินออกจากสุสานข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นทันที และยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ฉินโจ้วค้นพบว่า"ทางเดินสุสานใต้ดิน" นั้นเป็สถานที่ลับอย่างแท้จริงสามารถตัดการเชื่อมต่อทุกชนิด เขาเองก็เคยสงสัยว่าตอนที่อยู่ที่นี่ตั้งเกือบเดือนทำไมถึงไม่มีใครติดต่อมาเลย คำถามก่อนหน้าเพิ่งจะถูกเฉลยทั้งหมดในเวลานี้
เมื่อได้เห็นข้อมูลทั้งหมดสีหน้าของฉินโจ้วถึงกับเปลี่ยนไป ก่อนจะมองไปยังหนานกงเสี่ยวด้วยความห่วงใย
"ฉันออฟไลน์นะ"หนานกงเสี่ยวดูเหมือนยังไม่ทันสังเกตเห็น ฉินโจ้วได้แต่พยักหน้า แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาเขาเคยสัญญากับเธอเอาไว้ว่า จะออฟไลน์และกลับไปพักพร้อมกันแต่ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องผิดสัญญาแล้ว
"ดูเหมือนว่าพี่โหรวมีบางอย่างอยากจะคุยกับคุณนะ"ก่อนจะออฟไลน์หนานกงเสี่ยวเพิ่งจะจำได้ถึงบางอย่างจึงได้เตือนฉินโจ้วซึ่งเขาเองก็ตอบรับกลับไป หลังจากนั้นหนานกงเสี่ยวก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก และออฟไลน์ออกจากเกมไป
ข้อความส่วนใหญ่ถูกส่งมาจากหลี่เฟยส่วนมากก็ทักทายเื่ทั่วๆ ไป และก็มีจากหงยี่ ไหล่ฉางฉิง และโจวโจวซึ่งส่วนใหญ่ก็ถามว่ากำลังทำอะไรอยู่ที่ฉินโจ้วรู้สึกแปลกใจก็คงจะเป็ข้อความที่มาจากหวังเสี่ยวหยาน
"ทำอะไรผิดเอาไว้เลยอับอายไม่กล้ามาสู้หน้าหรือ?" ข้อความนี้เป็ของหวังเสี่ยวหยาน
ฉินโจ้วถึงกับอมยิ้มรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถึงแม้ว่าข้อความนี้จะดูเหมือนถูกตำหนิแต่ในความเป็จริงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยเพียงแค่หวังเสี่ยวหยานไม่ได้แสดงท่าทีออกมาให้เห็น จึงทำให้เธอไม่ได้ถามออกมาตรงๆ
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานนับเดือน ความคิดของหลายคนก็เริ่มเปลี่ยนไป
"พี่ฉินากลางเมืองได้เริ่มขึ้นแล้ว เมืองจัวลู่และจงหยวนไม่รู้ว่าคุณมีแผนอะไรหรือเปล่า?" ข้อความนี้มาจากกวงเหย้าเหรินเจี้ยนคำพูดนี้ดูคล้ายจะเป็คำถาม แต่ที่จริงแล้วหมายถึง้าเป็พันธมิตร เมื่อนึกถึงเื่นี้แล้วทำให้ฉินโจ้วฉุกคิดขึ้นมากวงเหย้าเหรินเจี้ยนนั้นปกติเป็คนที่หยิ่งยโส ถ้าไม่เจอกับแรงกดดันขนาดหนักคงไม่แสดงท่าทีเช่นนี้ออกมาเป็แน่ เดาว่าากลางเมืองครั้งนี้คงจะโหดร้ายและอันตรายมากเกินกว่าที่คาดเอาไว้เมื่อฉินโจ้วคิดเกี่ยวกับเื่นี้แล้ว เขาจึงไม่ได้รีบตอบกลับ แต่กลับลบข้อความทิ้งไปเพราะเขาเองไม่สนใจที่จะร่วมมือกับผู้อื่นใน่เวลานี้
"พี่ฉิน ตอนนี้ได้เปิดร้านขายยาสามแห่งในเมืองงูตามที่นายบอกแล้วและธุรกิจกำลังไปได้ดี" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"พี่ฉิน เปิดร้านขายยาสองแห่งในเมืองวัวแล้ว" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ร้านในเมืองเสือของกิลด์สมาคมโลกนั้นแพงที่สุดแต่ละร้านไม่ต่ำกว่า 15 เหรียญทอง แต่ถึงอย่างนั้นคนของกิลด์สมาคมโลกก็มีมากที่สุดถึงแม้ว่าราคาจะสูง และมากกว่า 15 เหรียญทองแต่ฉันคิดดูแล้วก็น่าจะคุ้มค่าอยู่ พี่ฉินไม่ออนไลน์เลย ฉันก็กลัวว่าจะพลาดโอกาสนี้เลยได้ตัดสินใจไปเองแล้ว" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ธุรกิจที่เมืองม้ามีปัญหาเล็กน้อยธุรกิจร้านขายยาของกิลด์ราชวงศ์มดนั้นไม่ค่อยดี และพวกเขาชอบสร้างปัญหาให้กับเราแต่อย่างไรก็ตาม ร้านขายยาเทพแห่งการเกษตรของเรานั้นมีชื่อเสียงที่ดีกว่า และสินค้าก็มีคุณภาพสูงทำให้พวกเขาไม่กล้าทำอะไรมาก เฉินยู่ก็บ่นถึงเื่นี้อยู่บ่อยๆ ผู้ช่วยที่ร้านก็ถูกคุกคามบ่อยครั้ง"ข้อความจากหลั๋วอีอี
"...ปราสาทแห่งความมืดได้ผ่านาการป้องกันแล้วร้านขายยาเทพแห่งการเกษตรได้เพิ่มขึ้นอีกสี่ร้าน ในเวลานี้เรามีร้านขายยาเทพแห่งการเกษตรทั้งหมด35 แห่ง ด้วยประสิทธิภาพที่สูงทำให้เรามีลูกค้าเป็จำนวนมากไม่ต้องเป็กังวล" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"...ตอนนี้งานของเราค่อนข้างยุ่งมากจึงต้องจ้างพนักงานเพิ่มอีกประมาณหนึ่งพันคน ค่าตอบแทนของเราสูงกว่าที่อื่นอยู่ราว10%" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"บริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรได้จดทะเบียนและได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว มีพนักงานขายแบบเคลื่อนที่ยี่สิบจุดขาย..." ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ใน่ต้นของากลางเมือง เราได้จ้างพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังดูเหมือนจะไม่หายยุ่งเลยตอนนี้จำนวนผู้เล่นที่อยู่ในบริษัทของเรามีมากกว่า 200,000 คนแล้วและพนักงานประจำมีอยู่ 20,000 คนฉันเองก็เริ่มกังวลว่าจะมีคนมากไปจนไม่สามารถบริหารจัดการได้ แต่อย่างไรก็ตามเฉินยู่และพวกของเธอนั้นยังรู้สึกว่าคนยังน้อยเกินไปจนต้องรับคนเพิ่มโชคดีที่ทุกคนตั้งใจทำงานอย่างหนักและไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเรายังคงต้องรับคนเพิ่มอยู่ตลอด ฉันต้องขอโทษในเื่นี้กับพี่ฉินด้วย"ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ากลางเมืองยังคงรุนแรงขึ้นอยู่ตลอดทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลไปทุกที่ บริษัทของเราเองก็ขาดแคลนวัตถุดิบชั่วคราวดังนั้นจึงต้องตั้งกลุ่มสำหรับรวบรวมตัวยาขึ้นมา และเพิ่มพนักงานขนส่งเป็ 30,000คน" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"มีกลุ่มต่างๆ คอยรังแกพวกเราเป็อย่างมากกลุ่มรวบรวมตัวยามักจะรายงานมาอยู่เป็ประจำว่าถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองซึ่งถ้าเราไม่จ่ายก็จะไม่สามารถรวบรวมตัวยาได้ทำให้ค่าใช้จ่ายของเราเพิ่มขึ้นเป็จำนวนมาก" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"วันนี้ฉันรู้สึกโกรธมากหนึ่งในกลุ่มรวบรวมตัวยาของเราถูกสังหารโดยกิลด์ขนาดเล็กที่ชื่อ ''สัญญาณไฟ'' และสมุนไพรทำยาก็ถูกปล้นไปทั้งหมดเถาฟางเองก็้าจะกลับไปแก้แค้น แต่ฉันห้ามเขาไว้ก่อน พวกเรากำลังทำธุรกิจเราเองก็ไม่อยากมีปัญหา เลยตกลงยกเลิกจุดเก็บสมุนไพรจุดนี้ ว่าแต่พี่ฉิน คุณกำลังทำอะไรอยู่?"ข้อความจากหลั๋วอีอี
"วันนี้กลุ่มรวบรวมตัวยาอีกกลุ่มถูกสังหาร และมีคนหนึ่งในกลุ่มหนีรอดกลับมาได้ซึ่งเป็การกระทำของกลุ่มทหารรับจ้าง ''สุดขอบฟ้า'' ซึ่งมีแต่ข่าวที่ไม่ค่อยดี จึงทำให้เกิดความคิดที่จะตั้งทีมคุ้มกันขึ้นมาฉันคิดดูแล้วก็เห็นด้วย เมื่อมีทีมคุ้มกันทำให้การสูญเสียของกลุ่มรวบรวมตัวยาลดลงเป็อย่างมาก" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"นี่ก็เกือบเดือนแล้วพี่ฉิน คุณอยู่ที่ไหนกันแน่? ทำไมถึงไม่ออกมาให้เห็นบ้างเลย่หลายวันมานี้ ขบวนขนส่งถูกโจมตีจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายหลายต่อหลายครั้งทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นเป็อย่างมากกลุ่มรวบรวมตัวยาก็ถูกบีบบังคับให้ย้ายที่เก็บตัวยาทำให้แหล่งวัตถุดิบไม่มีความแน่นอน หลังจากการตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าเราถูกโจมตีจาก กลุ่มทหารรับจ้าง‘มือโลหิต'' และเราก็ไม่รู้ว่าไปผิดใจอะไรกันั้แ่เมื่อไรถึงทำให้เราเกิดความยุ่งยากอยู่ตลอด" ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ในที่ประชุมวันนี้ ทางบริษัทมีมติเป็เอกฉันท์ที่จะจัดการแก้แค้นคืน จึงได้ไอเดียว่าจะขอความช่วยเหลือจากสมาชิก กิลด์และถ้าเป็คนที่มีชื่อเสียงก็จะยิ่งดี เพราะจะได้จบในครั้งเดียว เซี่ยวหรูเองก็เห็นด้วยว่าควรใช้ผู้เล่นที่ติดอยู่ในลำดับรายชื่อ และจ่ายเงินให้โดยตรง จะได้ไม่ต้องติดหนี้บุญคุณใครแต่สุดท้ายฉันเองเป็คนคัดค้าน เพราะคุณเคยพูดว่า เราเป็คนทำธุรกิจ ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับบุญคุณและความเกลียดชังในทุกๆด้าน ถ้าเขาอยากได้ก็ปล่อยเขาไป ติงตังและเซี่ยวหรูทั้งคู่ก็รู้สึกไม่ดีฉันเองก็เสียใจ แต่ฉันรู้ว่าที่พี่ฉินทำต้องเป็สิ่งที่ถูกต้องแน่"ข้อความจากหลั๋วอีอี
"ผ่านไปหนึ่งเดือนกับอีกห้าวันแล้วพี่ฉิน คุณอยู่ไหนกันนะ?" นี่เป็ข้อความสุดท้ายที่หลั๋วอีอีส่งมาเมื่อฉินโจ้วมองดูเวลาก็พบว่าเพิ่งจะผ่านไปชั่วโมงกว่า
"จัดตั้งบริษัทเลยหรือ? ฮ่า... ฮ่า...ดูเหมือนนี่จะหนักไปสำหรับคุณนะ" ฉินโจ้วลบข้อความทิ้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตานั้นกลับเ็ายิ่งนัก หลังจากซ่อนตัวอยู่นานดูเหมือนว่าจะได้เวลาออกไปโชว์ออฟบ้างแล้ว ไม่คิดว่าพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนี้จะบังอาจมาเกะกะระรานได้
ป่าใบไม้เหลืองนั้นมีชื่อในเื่ของวัตถุดิบทำยาเป็อย่างมาก
ดูเหมือนว่าในเวลานี้บริเวณนอกชายป่าใบไม้เหลืองจะมีผู้เล่นสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากันอยู่เมื่อสังเกตอย่างถี่ถ้วนแล้วก็พบว่า ฝ่ายหนึ่งกำลังล้อมอีกฝ่ายอยู่ดูแล้วมีคนอยู่ราวร้อยสิบคนที่อยู่ล้อมรอบ ซึ่งมีคำนำหน้าว่า เทพแห่งการเกษตร พวกเขาคือกลุ่มผู้เล่นของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรซึ่งส่วนใหญ่จะเป็ผู้เล่นอาชีพในการเก็บรวบรวม พละกำลังในการต่อสู้นั้นไม่สูงเลย มีทหารเพียงสิบคนเท่านั้นพวกเขาถูกจ้างมาเป็คนคุ้มกัน ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับกลางซึ่งในเวลานี้เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอ
จำนวนของอีกฝ่ายมีไม่ต่ำกว่าร้อยคนซึ่งล้วนมีอาชีพในสายต่อสู้ ท่าทางดูโเี้ ทั้งหมดมีคำนำหน้าว่า ''มือโลหิต'' ซึ่งเป็กองกำลังหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้ไม่นานและมีชื่อเสียงโด่งดังเป็อย่างมาก สมาชิกทั้งหมดเป็คนของกลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิต
เย่เซี่ยวหรูมองด้วยสายตาเ็าไปที่กลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตท่าทางของพวกเขาดูแล้วไม่น่าจะมาอย่างเป็มิตรแน่ วันนี้เธอเป็ผู้นำกลุ่มรู้ตัวดีว่าไร้ค่า ถึงแม้ว่าเธอจะได้จ้างกลุ่มผู้คุ้มกันมา แต่ก็คงต้องลองพยายามดูสักตั้ง เธอก้าวออกไปข้างหน้า และพูดขึ้นว่า"เพื่อนๆ กลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิต พวกเรามาจากบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรเรามาที่ป่าใบไม้เหลืองเพื่อเก็บรวบรวมสมุนไพร แต่ไม่รู้ว่านี่เป็ถิ่นของคุณเพื่อแสดงความขอโทษ เราจะจ่ายค่าผ่านทางให้ 10% หวังว่าพวกคุณจะอำนวยความสะดวกให้
ผู้นำกลุ่มฝ่ายตรงข้ามมีชื่อว่า หลู่ปันชี่ดวงตาข้างหนึ่งของเขาเข ก่อนจะพูดขึ้นว่า"วัตถุดิบปรุงยาบนูเากำลังเติบโตงอกงาม พวกคุณเก็บพวกมันไปมันก็จะตายดังนั้นแล้วพวกเราขอส่วนแบ่ง 20% แล้วกันหวังว่าคุณจะเต็มใจ
สีหน้าของเย่เซี่ยวหรูแสดงออกถึงความหนักใจคำพูดที่เอ่ยออกมาช่างไร้ยางอายเสียจริง นี่มันเป็เกมที่ดินต่างก็ล้วนไม่มีใครเป็เ้าของ หรือแม้ว่าจะเป็เ้าของแต่ผู้เล่นทั่วไปก็ยังสามารถเข้าออกได้อยู่ดี ตราบเท่าที่มีการจ่ายค่าผ่านทาง 10%เพราะไม่ได้เป็กฎเกณฑ์ที่ระบุเอาไว้ในเกมแต่ในเวลานี้ดูเหมือนหลู่ปันชี่จะยกเื่นี้ขึ้นมาอ้าง ซึ่งน่าจะมีเจตนาที่แอบแฝงเมื่อคิดได้ดังนี้ เธอจึงไม่คิดจะพูดดีด้วยอีกต่อไป น้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นก่อนจะเอ่ยออกไปว่า"้าอะไรก็ว่ามา"
"ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่มอบอุปกรณ์ระดับทองให้ชิ้นหนึ่งก็สามารถผ่านไปได้ทันที ผมจะไม่รั้งคุณไว้อีกเลย" หลู่ปันชี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
อุปกรณ์ระดับทองอย่างนั้นหรือสีหน้าของคนจากบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรถึงกับเปลี่ยนสี ก่อนจะแสดงอาการโกรธออกมาให้เห็นถึงแม้ว่าระดับเลเวลของผู้เล่นนั้นได้เพิ่มขึ้นมากแล้ว อุปกรณ์ระดับทองคำจะมีมากขึ้นแต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปนั้น อุปกรณ์ระดับทองก็ยังคงถือว่ามีค่าและราคาแพงมากอยู่ดีอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าหลายร้อยเหรียญทอง ไม่ต้องนึกถึงอุปกรณ์ทองระดับดีนั้นประมูลกันที่หลักพันเหรียญทองขึ้นไปครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเก็บเกี่ยวมาได้ไม่เกิน 200 เหรียญทอง หลูปันชี่ถึงกับเอ่ยปากขออุปกรณ์ระดับทองนี่มันไม่ไว้หน้ากันเลยนี่
เย่เซี่ยวหรูสูดหายใจเข้าลึกๆั้แ่ที่เธอถูกฉีกหน้าไป ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วเธอเองก็เตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกสังหารแล้วสีหน้ากลับสู่ความสงบก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า"กิลด์ต้นไม้ทงเทียน้าใช้ยาเป็จำนวนมากในเร็วๆ นี้ ถ้าส่งมอบยาล่าช้าพวกนายคิดว่าพวกเขาจะโทษเรา หรือว่าโทษพวกนายกันแน่?
สีหน้าของหลู่ปันชี่เปลี่ยนไปความเป็อันธพาลแผ่พุ่งออกมาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า"คิดจะขู่กันหรือไง กิลด์ต้นไม้ทงเทียนถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งมากก็จริงแต่ก็ยังตามหลังพวกเราอยู่ไม่น้อย อีกอย่างพวกนายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเอากิลด์ต้นไม้ทงเทียนมากดดันหรอกพี่น้องทั้งหลายเตรียมตัวจัดการพวกมันให้สิ้นซาก"คำพูดหลังสุดนั้นสำหรับลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเขา
สิ้นเสียงคำสั่ง กลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตก็กระจายตัวออกไปในสนามรบทันทีนักธนูเตรียมง้างสายรอ ผู้ใช้เวทก็เริ่มร่ายคาถา ส่วนทหารก็เตรียมอาวุธออกมาการเคลื่อนไหวเป็ไปอย่างรวดเร็ว แสดงถึงการฝึกซ้อมมาเป็อย่างดีรอเพียงคำสั่งจากหลู่ปันชี่เท่านั้น ก็พร้อมที่จะลงมือสังหารได้ทันที
ทางด้านของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรมีทหารเพียงสิบคนยืนขวางทางอยู่ด้านหน้าพร้อมอาวุธครบมือถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าสู้ไปก็ต้องแพ้ แต่ก็ไม่มีใครเกิดอาการลังเลแม้แต่น้อยคนอื่นๆ ก็เตรียมหยิบจอบขึ้นมาเพื่อเตรียมต่อสู้กับศัตรู ไม่มีใครคิดจะหลบหนี
"ฟังดูยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่หรือจะตายเมื่อไร เฮอะ..."
ดูเหมือนสถานการณ์ตึงเครียดพร้อมที่จะะเิได้ตลอดเวลาเสียงกระแอมเย็นเยียบแทรกเข้ามาดังก้องขึ้น ราวกับจู่ๆ ก็มีสายฟ้าฟาดใส่ในฤดูร้อนถึงกับทำให้แก้วหูของหลู่ปั่นชี่สั่นระรัว
"ใครกัน?ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้" คำพูดของหลู่ปันชี่เต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเสียงพูดถูกขัดจังหวะ ทำให้รู้สึกอึดอัดถึงกับต้องะโออกมา
เงาของบุคคลหนึ่งเดินออกมาจากป่าอย่างช้าๆท่าทางการเดินอย่างสบายไร้ความกังวล ลักษณะท่าทางสบายใจ แต่ก็เป็ที่จับจ้องของสายตาทุกคู่
"หัวหน้า"เย่เซี่ยวหรูะโขึ้น สีหน้าแสดงถึงความตื่นเต้น
"นายเป็ใคร?"หลู่ปันชี่พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ท่าทางจริงจังไม่รู้ว่าเหตุใดชายคนนี้ถึงทำให้เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างน่าประหลาด
ชายคนดังกล่าวที่กำลังเดินก้าวผ่านออกมาก็คือฉินโจ้ว ก่อนจะหันมองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเห็นฟันขาวเรียงชิดติดกัน และพูดขึ้นว่า"จะถามชื่อของฉันเหรอ นายน่ะยังมีคุณสมบัติไม่พอหรอก"ไม้เท้าเวทในมือยกขึ้น ทันใดนั้นม่านฟ้าิญญาก็ปรากฏขึ้นมาทันทีก่อนจะครอบคลุมกลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตเอาไว้
"ผึ้งเพชฌฆาตโจมตี"
"ทหารม้าโครงกระดูกโจมตี"
หึ่งๆๆๆ... ผึ้งเพชฌฆาตนับร้อยจู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิต เพราะระยะที่กระชั้นชิดมากเกินไปทันทีที่ผู้เล่นเริ่มเคลื่อนไหว เสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นเรื่อยๆทหารม้าโครงกระดูกสิบตัวก็หล่นลงมาจากฟากฟ้าทันที ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปหอกเงาดำยาวส่องประกาย ผู้เล่นนับสิบล้มลงกับพื้นและตายในทันที ทุกอย่างรุนแรงอย่างไม่มีอะไรเทียบ
หลู่ปันชี่ไม่นึกเลยว่าฉินโจ้วจะโจมตีใส่ทันทีโดยไม่ส่งสัญญาณใดๆ ให้รู้ล่วงหน้า แต่กลับะเิการโจมตีดั่งพายุโหม คนของเขาเองแทบไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ก่อนที่จะถูกสังหารลงทันทีถึงหนึ่งในสามส่วนคนที่เหลือถึงไม่ตายแต่ก็ติดพิษ อย่าพูดถึงเื่ว่าไม่มีเวลาโจมตีกลับเลยแม้แต่จะกินยาแก้พิษก็ยังไม่มีเวลา
ใน่ต้นของการสู้รบ อีกฝ่ายดูเหมือนจะได้เปรียบอย่างท่วมท้นทั้งๆ ที่ผู้เล่นของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรคิดว่าต้องตายแน่ๆต่างก็รู้สึกตะลึงงัน ผู้เล่นคนเดียวสามารถรับมือคนนับร้อยได้อย่างง่ายดายดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างกันมากเสียเหลือเกิน จากนั้นในใจค่อยรู้สึกถึงความดีใจเหมือนว่าคราวนี้พวกเขารอดแล้ว เพราะพวกเขาจะไม่ต้องต่อสู้กับผู้เล่นและยังโชคดีที่ระดับเลเวลไม่ลดลงอีกด้วย
ขอบเขตของม่านฟ้าิญญานั้นค่อนข้างเล็กดังนั้นผู้เล่นของกลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตก็หนีออกมาได้ พวกเขายังไม่ทันได้ดีใจ เมื่อ ''หนามกระดูก''ถูกยิงออกมาจากความว่างเปล่า พุ่งแทงเข้าด้านหลังของพวกเขาส่งพวกเขากลับลงนรกแทนที่จะได้ขึ้น์ ''หนามกระดูก''นั้นส่งผลแค่เล็กน้อยเมื่อใช้กับมอนสเตอร์ระดับเลเวล 50-60 แต่ยังคงใช้ได้ผลดีกับผู้เล่นที่เลเวลไม่เกิน 50 ได้อย่างเฉียบขาดไม่ถึงวินาทีก็เรียบร้อย
เปลวไฟสีแดงพวยพุ่งขึ้นอยู่ในม่านฟ้าิญญาเป็ครั้งคราวดูเหมือนจะมาจากผู้ใช้เวทที่กำลังปล่อยเวทบอลไฟออกมาเพื่อโจมตีใส่ผึ้งเพชฌฆาตแต่ก็ส่งผลกับเพื่อนร่วมทีมไปด้วย ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
ฉินโจ้วส่งสัญญาณให้คนของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรทิ้งระยะถอยห่างออกมาเนื่องจากมีนักธนูอยู่หลายคนในกลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะยิงธนูออกมาเมื่อใดซึ่งธนูเมื่อถูกยิงออกจากทิศทางที่ต่างกันย่อมเป็การยากที่จะป้องกันเขาเองก็ไม่อยากเป็ผีที่โชคร้ายที่ถูกยิงโดยบังเอิญ มันจะไม่คุ้มเอา
สามนาทีต่อมาเสียงร้องระงมภายใน ''ม่านฟ้าิญญา'' ก็เริ่มซาลงหลายคนก็ถูกพิษ บ้างก็ถูกฉินโจ้วสังหาร แต่ส่วนใหญ่จะถูกทหารโครงกระดูกจัดการ
ฉินโจ้วเพิ่งโจมตีใส่ผู้เล่นและสังหารไปหนึ่งคนก่อนจะเห็นหลู่ปันชี่ร้องโวยวายในขณะที่กำลังวิ่งออกนอกระยะของ ''ม่านฟ้าิญญา'' สีหน้าเขียวคล้ำโดยมีค่าความเสียหายจากพิษลอยอยู่บนหัวรัวๆ -10, -10, -20, -20, -30, -30 ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเขาถูกผึ้งเพชฌฆาตต่อยไปเท่าไรกัน แต่ดูเหมือนว่าพลังชีวิตค่อนข้างมากอยู่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้
"หัวหน้าของพวกเราจะไม่ปล่อยนายไว้แน่ คนหนุนหลังของหัวหน้าเราคือ..." หลู่ปันชี่จ้องมองฉินโจ้วอย่างเคียดแค้น ก่อนที่เขาจะพูดจบ ร่างของเขาก็สลายกลายเป็แสงสีเทาไปกลับไปเกิดใหม่ และดรอปอุปกรณ์ออกมาส่องประกายวาววับดูเหมือนว่าจะเป็อุปกรณ์ระดับทอง ดูท่าคงจะเ็ปใจไม่น้อย
เวลาแสดงผลของ''ม่านฟ้าิญญา'' อยู่ที่ 10 นาที ตอนนี้เวลาก็เพิ่งจะผ่านไปครึ่งเดียวเท่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรอดชีวิตอยู่ในม่านฟ้าิญญาแล้ว ดูเหมือนว่า ''ทหารรับจ้างมือโลหิต'' กว่าร้อยชีวิตนั้นจะถูกสังหารจนหมดสิ้น
เมื่อเห็นศัตรูถูกสังหารจนหมดสิ้นคนของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรก็กวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะหันมามองฉินโจ้วด้วยความชื่นชมประหลาดใจ และหวาดกลัวกลุ่มทหารรับจ้างมือโลหิตที่พวกเขามองว่าเป็ศัตรูตัวฉกาจกลับถูกสังหารจนหมดสิ้นคนมากกว่าร้อยถูกจัดการลงทั้งหมดภายในไม่ถึงห้านาที ราวกับการขว้างก้อนหินลงในบ่อน้ำที่ลึกโดยน้ำยังไม่ทันกระเพื่อม ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนแตกต่างจากที่เห็นแต่ก็ไม่มีใครที่อยากจะทำความลำบากให้กับฉินโจ้ว อีกอย่างเหมือนว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเย่เซี่ยวหรูพูดถึงหัวหน้าเอาไว้ ว่า เป็บุคคลลึกลับที่ก่อตั้งบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรขึ้นมามีอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน ทุกคนจึงต่างรูดซิปปิดปากสนิทเพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
"ทักทาย... หัวหน้า" เย่เซี่ยวหรูนั้นไม่ได้คิดมาก่อน เธอรู้สึกดีใจมาก คิ้วที่ขมวดอยู่ค่อยคลายออกพร้อมกับความหนักใจในเวลานี้ราวกับทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว ถึงแม้ว่าเธอเองจะไม่รู้จักฉินโจ้ว แค่เคยได้ยินจากที่หลั๋วอีอีพูดให้ฟังว่าฉินโจ้วเป็คนที่มีความสามารถมาก ทันทีที่เขาปรากฏตัวเื่เลวร้ายทุกอย่างของบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรก็คลี่คลายลงทันทีซึ่งเื่นี้เธอเองก็รู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดโดยไม่สามารถอธิบายได้
"สวัสดีค่ะหัวหน้า"ทุกคนะโขึ้นพร้อมกัน น้ำเสียงหนักเบาไม่สม่ำเสมอ แสดงถึงการไม่ได้ถูกบังคับ
ฉินโจ้วยิ้มก่อนจะโบกมือและพูดว่า"ไม่จำเป็ต้องมีพิธีรีตองขนาดนั้น นี่เป็การพบกันครั้งแรกผมเองก็ไม่มีของขวัญติดมือมาด้วย เอาแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวเก็บกวาดสนามรบเสร็จแล้วของที่ดรอปก็จะมอบให้พวกคุณถือเป็ของขวัญในการพบกันก็แล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะหัวหน้า"จากนั้นก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันวุ่นวายเมื่อพวกเขามองเห็นอุปกรณ์ที่ดรอปอยู่เป็จำนวนมาก มีแม้กระทั่งอุปกรณ์เงินถ้าพวกเขาขายมันออกไปยังได้เงินมากกว่าเงินเดือนของเดือนที่แล้วเสียอีก
ฉินโจ้วยกไม้พลองฉีเหมยระดับทอง ที่ดรอปมาจากหลู่ปันชี่ให้กับเย่เซี่ยวหรู (ไม้พลองฉีเหมยเป็พลองขนาดเรียวเล็ก มีความยาวจากพื้นถึงคิ้ว) จากที่เห็นใน่เวลาเพียงเดือนกว่าเธอมีความก้าวหน้าเป็อย่างมาก เธอไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เพิ่งก้าวออกมาสู่สังคมโลกภายนอกอีกแล้ว
"แล้วทหารรับจ้างมือโลหิต..."เย่เซี่ยวหรูยังคงรู้สึกกังวลถึงเื่นี้อยู่ เธอเองก็เพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าก่อนจะถูกฉินโจ้วขัดจังหวะขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความมั่นใจว่า"ไม่ต้องเป็ห่วง ทุกอย่างเดียวผมจัดการเองต่อไปที่สถานที่พวกนั้นก็จะเป็ของพวกเรา"
"ดีเลย"เย่เซี่ยวหรูยืนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างดีใจพยักหน้าเห็นด้วยอย่างที่สุด