เซวียเสี่ยวหรั่นอารมณ์ดีมาก ระหว่างเดินอยู่ในป่าก็ฮัมเพลงไปตลอดทาง
หลังฝนตกพื้นดินเฉอะแฉะ กิ่งไม้ใบหญ้ามีหยาดน้ำใสแจ๋วเกาะพราว ต้นไม้เขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตา
แม้จะเข้าฤดูหนาว ต้นไม้ในป่าส่วนใหญ่ยังคงเขียวสด ทอดสายตามองไปรอบด้านเห็นแต่สีเขียว
อากาศหนาวแล้ว อันที่จริงก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยสัตว์จำพวกงูก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็น
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบท่อนไม้มาตีรอบด้าน ค้นหาสถานที่ที่เห็ดเติบโตได้ง่ายอยู่เป็ระยะ
เธอเดินไปโดยรอบ ต้องคอยดึงขอบกางเกงเป็พักๆ เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกว่าตนเองควรจะเอาฟางมาสานเป็เข็มขัดไว้คาดเอวสักเส้น มิเช่นนั้นเดินๆ อยู่กางเกงอาจจะหลุดไปเมื่อไรก็ได้
เวลาสั้นๆ เพียงครึ่งเดือน เซวียเสี่ยวหรั่นผอมลงอย่างรวดเร็วจนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า คางสองชั้นใต้ใบหน้ากลมแป้นก็แทบไม่เหลือแล้ว
แม้จะดีใจแต่ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ ทุกวันได้กินอิ่มแค่ครึ่งท้องไม่ใช่ความรู้สึกที่สบายนัก
สำคัญที่สุดก็คือ เธอคิดถึงข้าวสวยจะแย่อยู่แล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นเดาะลิ้นพลางลูบท้องแบนๆ ของตัวเอง เฮ่อ... ผอมมันก็ดีอยู่หรอก แต่ความรู้สึกเวลาท้องแฟบกลับไม่เห็นดีเลย
หาเห็ดต่อดีกว่า อาหารในถ้ำส่วนใหญ่เหลือแต่จำพวกเนื้อ
เมื่อก่อนเซวียเสี่ยวหรั่นเคยขึ้นเขาไปเก็บเห็ดกับคุณปู่อยู่บ่อยๆ จึงนับได้ว่าคุ้นเคยกับเห็ดที่กินได้แทบทุกชนิด
"เอ๋ เห็ดหอมนี่ โฮะๆๆ ช่างดีเหลือเกิน"
บนเนินเขาเตี้ยๆ มีขอนไม้ล้มอยู่ระเนระนาด บนขอนไม้ผุเน่าเปื่อยเ่าั้มีเห็ดทรงสวยกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มจนตาหยี วิ่งเข้าไปเก็บโดยไม่เกรงใจ
่ฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ เป็ฤดูเก็บเกี่ยวเห็ดหอมที่เติบโตในป่าธรรมชาติ
กอหญ้าข้างขอนไม้ค่อนข้างหนาแน่น หากเป็ปรกติ เซวียเสี่ยวหรั่นซึ่งกลัวงูและแมลงย่อมไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไป แต่ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว สัตว์เหล่านี้ลดลงไปเยอะ ทำให้เธอคลายความหวาดระแวงลง
หลังเก็บเห็ดหอมเสร็จ ก็ค้นหาต่อไปอย่างเบิกบานใจ
ในที่ชื้นแฉะอุณหภูมิต่ำหลังฝนตก มีเห็ดต่างๆ ผุดอยู่มากมาย
เซวียเสี่ยวหรั่นไล่เก็บไปทั่วบริเวณ ยัดจนกระเป๋าตุง ในนั้นอัดแน่นไปด้วยเห็ดหอม เห็ดนางรม เห็ดโคน และเห็ดสนเป็ต้น
"ฮู่..."
ไอสีขาวพ่นออกมาจากปาก เซวียเสี่ยวหรั่นนวดมือที่ถูกความเย็นกัดจนเริ่มแดง
อุณหภูมิในป่าต่ำมาก เธอสวมแค่เสื้อบางๆ หนาวจนแทบไม่ไหว
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่เดินเข้าไปลึกกว่านั้น อุ้มเป้ที่เต็มไปด้วยเห็ดขึ้นมาแล้วรีบเดินย้อนกลับไป
ขณะที่เดินอยู่ ใบหน้าของเธอพลันถอดสี เท้าหยุดชะงักลงทันใด
"ไม่นะ..."
อยู่ๆ ก็ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย กระแสอุ่นซึ่งคุ้นเคยเป็อย่างดีไหลพรวดออกมาจาก่ล่าง
เซวียเสี่ยวหรั่นนิ่วหน้า
์ ทำไมคุณป้าใหญ่ [1] ต้องมาเวลาแบบนี้ด้วย จะไม่ให้คนอยู่รอดกันเลยหรือไง
เธอวางเป้บนโขดหิน มองซ้ายมองขวา ก่อนหลบเข้าไปในป่าข้างทาง แล้วถอดกางเกงก้มลงดู ผลก็เป็อย่างที่คาดไว้
ปัดโธ่เว้ย ทำไมคุณป้าใหญ่ต้องมาเยือนในที่ที่ไม่มีผ้าอนามัยแบบนี้ด้วย
เซวียเสี่ยวหรั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ค้นผ้าอนามัยบางๆ ที่มีอยู่เพียงสองแผ่นออกมาจากกระเป๋าด้านหน้า ก่อนแกะออกแล้วแปะลงไปบนแพนตี้น้อยอย่างไม่เต็มใจนัก
หลังจากนั้นค่อยแบกเป้กลับถ้ำอย่างเอ้อระเหย
พอกลับมาถึง อาเหลยก็ปราดเข้ามาหาด้วยขาทั้งสาม
"เจี๊ยกๆ" มันร้องทักเธอก่อน
หวา...
เพราะคุณป้าใหญ่มาเยือนกะทันหัน ทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นมัวแต่พะวง ลืมนึกถึงสิ่งที่อาเหลย้าไปเสียสนิท
"เจี๊ยกๆ" อาเหลยดึงขากางเกงของเธอ
"อ้อ เ้ามาทวงเกาลัดล่ะสินะ" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกขึ้นได้ "งั้นก็... ต้องรอสักครู่หนึ่งนะ"
ขณะที่อยากจะนอนพักร่างสักครู่ กลับพบว่ามีงานอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ ยกตัวอย่างเช่น เก็บเกาลัด ตัดหญ้า ตักน้ำ ถักเสื้อผ้า...
เธอเทเห็ดออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด กระเป๋าเป้เพียงไปทั้งแถบ แต่เธอคร้านจะสนใจ
เฮ่อ... ออกไปอย่างสุขสันต์หรรษา แต่กลับมาอย่างห่อเหี่ยว
เซวียเสี่ยวหรั่นหย่อนก้นลงข้างกองไฟเพื่อรับความอบอุ่นด้วยใบหน้าซีดเซียว
เหลียนเซวียนสังเกตได้ถึงความผิดปรกติบางอย่างจึงหันมามอง
เซวียเสี่ยวหรั่นเอาแต่ยื่นมือผิงไฟ ไม่เปล่งเสียงสักแอะ
อาเหลยเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ข้างกาย แต่เธอก็ไม่แยแส
ผิดปรกติมาก เหลียนเซวียนมุ่นคิ้วขมวด เกิดอะไรขึ้น เขาเขียนอักษรถามบนก้อนหิน
"อ๋อ ตอนนี้ยังไม่เป็อะไรหรอก แต่พรุ่งนี้ก็ไม่แน่..."
เสียงของเธอฟังดูล่องลอย เดือนนี้รอบเดือนของเธอมาช้าไปหลายวันอาจเป็เพราะร่างกายได้รับแต่ไอเย็น เธอทำนายได้เลยว่าวันที่สองของการมีรอบเดือนจะต้องปวดท้องรุนแรงแค่ไหน
พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร? เหลียนเซวียนนึกสงสัยอย่างมาก
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่รู้ว่าควรอธิบายให้เขาเข้าใจอย่างไร ครั้นจะอุบไว้ก็คงไม่ดี ถ้าพรุ่งนี้เธอปวดท้องจนลงไปกลิ้งเกลือกกับพื้น ผู้อื่นไม่ใจนขวัญหนีดีฝ่อกันพอดีหรือ
"เอ้อ... คือว่า รอบเดือนของข้ามาน่ะ" ยุคสมัยนี้ไม่เรียกรอบเดือนกระมัง เซวียเสี่ยวหรั่นครุ่นคิด แต่ก็ยังรู้สึกว่าควรบอกให้เขารู้ล่วงหน้าดีกว่า "ก็คือเื่วันนั้นของเดือน ประจำเดือน ระดู เอ๊ะ หรือว่าน้ำพลังหยิน..."
อย่างไรเสียไม่เรียกว่าคุณป้าใหญ่ก็แล้วกัน
ยามได้ยินว่ารอบเดือนมา เหลียนเซวียนยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร แต่พอได้ยินประโยคหลัง ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนวดเครารกครึ้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
"พรุ่งนี้ ข้า... เอ่อ อาจมีการตอบสนองต่อความเ็ปรุนแรงหน่อย ถึงเวลาท่านก็อย่าใเกินไปเล่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกกระดากใจเล็กน้อย วันนี้เป็วันแรก เธอยังพอทนได้ แต่พรุ่งนี้คาดว่าคงทนไม่ไหวแล้ว ยาแก้ปวดยังเหลืออีกครึ่งเม็ด ประวิงเวลาได้สามชั่วโมงก็เก่งแล้ว แต่ถ้าให้ทั้งวันย่อมเป็ไปไม่ได้
เหลียนเซวียนไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองกลับไปอย่างไร เดิมทีนึกว่าเดี๋ยวตนเองก็ค่อยๆ ชินกับวาจาอันน่าตระหนกของแม่นางผู้นี้ไปเอง แต่ใครเล่าจะคิด แม้แต่เื่ลับที่สตรีต้องปกปิดพรรค์นี้ นางยังเปิดเผยออกมาอย่างตรงไปตรงมา
อาการระดูมาไม่ปรกติ ปวดท้องน้อยเป็โรคจุกจิกของสตรี ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่อให้ปวดเจียนตาย ก็ยินดีอดทนมากกว่าจะไปหาหมอเพื่อปรึกษาปัญหาที่น่าอับอายทำนองนี้
หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าช่างแตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ
"ข้าต้องบอกเื่นี้กับท่านไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องใ ฮ่าๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะแห้งๆ ก่อนลุกขึ้น "ข้าจะไปเก็บเกาลัดให้อาเหลย เดี๋ยวกลับมา"
นางถือโอกาสที่วันนี้ยังไม่ปวดท้องมากนัก รีบทำงานต่างๆ ให้เสร็จ พรุ่งนี้จะได้นอนพักอย่างไร้กังวล
ไหนบอกว่าไม่สบาย ยังจะออกไปเก็บเกาลัดอีกหรือ เหลียนเซวียนยื่นมือออกไปหมายห้ามปราม แต่เซวียเสี่ยวหรั่นหิ้วตะกร้าวิ่งออกไปแล้ว
แต่ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับลูกหนามแหลมๆ อีกครึ่งตะกร้า พอรับมือกับอาเหลยได้สองสามวัน
เธอไม่ใช่ซูเปอร์เกิร์ลที่รอบเดือนมาก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่หากสามารถทำงานได้น้อยลงเท่าไรก็จะทำน้อยลงเท่านั้น
เธอโยนลูกหนามสองสามลูกเข้าไปในกองไฟ แล้วกำชับเหลียนเซวียนให้ช่วยดู ก่อนวิ่งออกไปอีกรอบเพื่อไปขุดต้นคาวมัจฉากับตัดกระเทียมป่า
พรุ่งนี้กับวันมะรืนไม่อยากขยับตัวไปไหน ก็ต้องกักตุนของไว้มากหน่อย
หลังกลับมาแล้ว เธอก็เอาเห็ดทั้งหมดใส่ตะกร้าหวาย แล้วยกออกไปล้างที่ริมแม่น้ำให้สะอาด
พอสะสางงานทุกอย่างเรียบร้อย ยามกลับมานั่งบนเสื่อฟางของตนเอง สีหน้าก็ขาวซีดเล็กน้อย
น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบ เธอถูกความเย็นเล่นงานเข้าแล้ว
เดิมทีคิดจะไปตัดหญ้ามาเพิ่มเพื่อใช้ปิดช่องว่างกันลมที่ประตู แต่ตอนนี้เธอไม่อยากขยับตัวแล้วจริงๆ
เหลียนเซวียนฟังเสียงลมหายใจอ่อนแอและสับสนของนางแล้ว ในใจก็รู้สึกหวั่นวิตก
บางครั้งสตรีผู้นี้ก็ดื้อรั้นยิ่งนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้