บทที่ 149 ขุดหลุมฝังตัวเอง
สองสามีภรรยามองหน้ากัน
“ได้ยินว่าท้องร่วง” เซียวหังพูดถึงเื่นี้ด้วยความรู้สึกพูดไม่ออก “อาสะใภ้รองเข้มงวดมาก ปกติเธอกินขนมแทบไม่ได้ ได้ยินว่าคืนวานเหมือนแอบกินขนม”
แบบนี้เองเหรอ?
สวี่จือจืออยากหัวเราะ
เซียวจิ้งเหวินนี่ไม่มีสมองหรือไง? รู้อยู่ว่าไตไม่ดี กินเผ็ดไม่ได้ ถูกเธอยั่วสองสามคำ กล้ากินผักดองเผ็ดทั้งจาน แถมยังไม่ยอมหยุด คืนนั้นกลับไปยังแอบกินขนมอีก?
ยิ่งนึก สวี่จือจือก็ยิ่งมีความสุข
เดิมทีแค่อยากสั่งสอนเซียวจิ้งเหวินเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะส่งอีกฝ่ายเข้าโรงพยาบาลเสียอย่างนั้น
แต่เธอไม่เสียใจเลย
นึกถึงท่าทางหยิ่งผยองของเซียวจิ้งเหวิน ไม่แยแสชีวิตคน บทเรียนแค่นี้ยังเบาไป
สวี่จือจือไหนเลยจะรู้ว่า เซียวจิ้งเหวินที่ถูกห้ามกินขนมและอาหารรสจัดมาั้แ่เด็ก พอกินซี่โครงหมักซอสและผักดองในวันนี้ เหมือนชีวิตถูกเปิดประตูอีกบาน
โลกใบนี้มีของอร่อยขนาดนี้อยู่ด้วย
เซียวจิ้งเหวินนึกถึงตอนเด็ก เพื่อนๆ กินขนมกัน โดยเฉพาะของเผ็ดๆ ที่เธอไม่เคยแตะ
ผลลัพธ์คือเพื่อนๆ กลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่เผ็ดแต่กินอย่างเพลิดเพลิน
เธอเคยอยากลอง แต่ถูกครอบครัวเตือนว่า ‘ของแบบนี้เธอจะแตะไม่ได้เด็ดขาด’
วันนี้ถูกสวี่จือจือยุยง กินซี่โครงหมักซอสและผักดองที่เธอไม่เคยกินมาก่อน ตอนกลับถึงบ้านยังไม่ทรมานมาก
พอนึกถึงคำพูดสวี่จือจือบอกว่า ถึงเปลี่ยนไตก็ไม่ใช่คนปกติ เธอก็เหมือนประชด หยิบขนมจากกระเป๋า ทั้งเผ็ดและไม่เผ็ดที่ซื้อมาตอนกลับ
ทุกคำที่กิน เธอรู้สึกเหมือนกำลังกัดกินเนื้อของสวี่จือจือ
ตอนแรกเพลิดเพลิน สุดท้ายก็ไม่ไหว แล้วก็กินจนตัวเองเข้าโรงพยาบาล
นี่มันขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ!
“เปลี่ยนไตให้เหวินเหวิน?” เซียวจั่นหงมองคนคนนั้นแล้วขมวดคิ้ว “เท่าที่ฉันรู้ อาการของเหวินเหวินยังไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนไตนะ”
“หวงซานบอกแบบนั้น” คนคนนั้นพูด “แถมเื่นี้พ่อแม่นายไม่เห็นด้วย แต่ดูเหมือนบ้านใหญ่ นายท่าน และน้องสาวนายจะเห็นด้วย”
เซียวจั่นหงยกมือนวดขมับ
ซ่งจือเอินผู้เป็แม่กับหวงเหม่ยอวี้เป็ลูกพี่ลูกน้องกัน สมัยก่อนตระกูลหวงและตระกูลซ่งขัดแย้งกัน ผู้ใหญ่ตัดสัมพันธ์ ต่อมาคนตระกูลซ่งส่วนใหญ่ไปอยู่ต่างประเทศ
ซ่งจือเอินโตกับบ้านแม่นม เธอเรียนเก่ง สอบติดมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง ต่อมาเป็ครู ครั้งหนึ่งถูกเซียวจวินสิงช่วยไว้ จนเกิดเป็ความรัก
เทียบกับตระกูลซ่งแล้ว ตระกูลหวงตอนนั้นรุ่งเรือง ผู้าุโตระกูลหวงอยากให้หวงเหม่ยอวี้แต่งงานกับเซียวจวินสิง แต่เซียวจวินสิงกลับจดทะเบียนสมรสกับซ่งจือเอิน
บังเอิญเซียวกั๋วไห่ภรรยาตายพอดี ตระกูลหวงเพื่อผูกสัมพันธ์กับตระกูลเซียว จึงให้หวงเหม่ยอวี้แต่งงานกับเซียวกั๋วไห่ที่อายุมากกว่าเก้าปี
หวงเหม่ยอวี้ั้แ่เข้าบ้านเซียว ก็ไม่ถูกกับซ่งจือเอิน
ยิ่งมีเื่การตายของโจวหว่านหรู แม่แท้ๆ ของเซียวจวินสิงเข้ามาเกี่ยว บ้านใหญ่และบ้านรองถึงจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ต่อหน้านายท่านเซียวดูสงบ แต่ลับหลังคลื่นใต้น้ำรุนแรง
หลายปีมานี้เขาไม่อยู่บ้าน แต่ก็รู้เื่ราวของผู้ใหญ่ ไม่มีเหตุผลที่เซียวจิ้งเหวินจะไม่รู้
แต่ั้แ่เด็ก เธอสนิทกับบ้านใหญ่ แม้แต่หวงซานน้องชายของหวงเหม่ยอวี้ก็ยังรักเธอมาก
เซียวจั่นหงเคยสงสัยว่าน้องสาวอาจจะไม่ใช่ลูกของตระกูลนี้ แต่ดวงตาของเซียวจิ้งเหวินเหมือนเซียวเจิ้นชวนเกินไป นี่คือเหตุผลที่ชายชรารักเธอมาก เธอเป็รุ่นหลานที่เหมือนนายท่านเซียวที่สุด จึงถูกตามใจมากที่สุดในบ้าน
เซียวจั่นหงหลายปีนี้ทำงานลับ กลับบ้านน้อยครั้ง รู้เื่ในบ้านน้อยมาก
ไม่นึกว่าแค่ลาพักครั้งหนึ่ง ที่บ้านจะเกิดเื่ใหญ่ถึงขั้นลักพาตัวคน
ถึงจะไม่มีหลักฐานว่าหวงซานทำ แต่เขาจะไม่รู้ได้ยังไง?
“สืบต่อ” เซียวจั่นหงบอก “แล้วเื่ที่แม่ฉันคลอดที่เมืองฉินเมื่อสิบแปดปีก่อน ฉันเคยฝากให้นายสืบ ได้ข้อสรุปหรือยัง?”
“กำลังสืบ” คนคนนั้นบอก “โรงพยาบาลที่คุณนายคลอดเป็โรงพยาบาลเล็ก ต่อมาไฟไหม้แล้วปิดตัวลง”
บวกกับการเคลื่อนไหว่นั้น คนตายก็ตาย หายไปก็หาย หาคนจากตอนนั้นยากมาก
“ยังไงก็ฝากนายช่วยหน่อยนะ” เซียวจั่นหงบอก
“ควรทำอยู่แล้ว” คนคนนั้นบอก
“ว่าแต่” เซียวจั่นหงพูดอีก “เด็กสาวที่หวงซานลักพาตัวมา นาย…”
เซียวจั่นหงนึกได้ว่าเธอเป็ภรรยาของลู่จิ่งซาน สุดท้ายก็โบกมือ “ช่างเถอะ นายกลับไปก่อน”
ตอนนี้เซียวจั่นหงไม่รู้ว่า ถ้าเขายืนกรานไม่เลิกสืบเพราะตัวตนอีกด้านของสวี่จือจือ ความจริงอาจจะเปิดเผยเร็วกว่านี้
แต่เขาคำนึงถึงลู่จิ่งซาน ถ้าลู่จิ่งซานรู้ว่าเขาสืบเื่ภรรยาแบบลับๆ คงไม่เหมาะ เขาเลยเลี่ยง
ฝั่งลู่จิ่งซาน สวี่จือจือใช้ท่านวดที่เรียนมา “หมอกู่ มีจุดนึงฉันไม่แน่ใจ คุณช่วยดูทีค่ะ”
จุดที่เธอไม่แน่ใจคือจุดที่ถามลู่จิ่งซานวันนั้น และยังให้เขาช่วยจุดให้ด้วย
“เธอนวดให้เขาแบบนี้?” หมอกู่มองลู่จิ่งซาน “ไม่เจ็บเหรอ?”
สวี่จือจือได้ยินแบบนี้ก็รู้ทันทีว่าจุดนั้นผิด
แถมจุดนี้ยังเจ็บด้วย?
“จุ๊ๆ…ไม่เข้าใจหนุ่มสาวอย่างพวกเธอจริงๆ” หมอกู่ส่ายหัว “นายนี่ตามใจเมียสุดๆ”
จุดนี้ถึงไม่เจ็บเท่าการทายาครั้งก่อน แต่ก็ทำให้ไม่สบายตัว รู้สึกเจ็บเหมือนกัน
แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะทน
“ทำไมคุณถึงโง่แบบนี้?” สวี่จือจือตาแดงก่ำ
“ไม่ทรมานมากหรอก” ลู่จิ่งซานบอก “ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันผิด”
สวี่จือจือไม่เชื่อ แต่หลังจากนั้น เธอก็มีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น
“ไม่นึกเลย” หมอกู่บอก “แม่หนูนี่มีพร์ด้านนี้ ว่ายังไง อยากจะเรียนกับตาเฒ่าอย่างฉันไหม?”
หาคนมีพร์แบบนี้ได้ยาก
สวี่จือจือชะงักแล้วส่ายหัว “พวกเราจะกลับไปแล้วค่ะ”
แถมเธอยังไม่เคยคิดจะเรียนหมอ
เธออยากหาเงิน ซื้อห้องเช่าและบ้านหลายๆ หลังไว้ ต่อไปเป็เ้าของห้องเช่า จะสบายแค่ไหนกัน
ชาติที่แล้วไม่ใช่มีคำพูดว่า ‘ชวนคนเรียนหมอ ฟ้าจะผ่าตาย’ เหรอ?
เรียนหมอเหรอ ขอผ่านดีกว่า!
ชายชราไม่บังคับ แต่โยนหนังสือให้สวี่จือจือ
เป็หนังสือที่เขาเขียนเอง
.............................