“แต่นางไม่มีศัตรูที่ไหน ใครจะเอาชีวิตนาง” อีกฝ่ายถอนหายใจแล้วเบี่ยงตัวเดินออก
“ช่างเถอะ ข้าคิดมากไปเองแหละ” ขณะที่ต้าเหรินซีตวัดปลายพู่กันวาดใบหน้างดงามของหยางเซียวอยู่นั้น ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นทันที
‘ต้าเหริน เอาหนูออกไป! เอามันออกไป!’ ภาพของพระชายา ที่กำลังหวาดกลัวหนูที่น่าขยะแขยงตัวนั้น ลอยเข้ามาให้เขาชักพู่กันขึ้นพร้อมความคิด
‘ต้าเหริน คือชื่อที่ข้าใช้ปกปิดนามของข้า คนที่รู้จักชื่อนี้มีเพียงหยางเซียวและคนของกลุ่มัขาวเท่านั้น แต่เหตุใดจางเหม่ยจึงเรียกชื่อข้า เช่นเดียวกับที่หยางเซียวเรียก” ความสงสัยนี้ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา และไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
ภายในตำหนักเฉินกง ร่างของเยว่หลิวเหมยกำลังนั่งซักผ้ากองโตอยู่บริเวณบ่อน้ำหลังตำหนัก นางปาดเหงื่อแล้วมองกองผ้าที่สูงจนเกือบมิดศีรษะ
“พระชายากำชับว่าให้คุณหนูหลิวเหมย ซักผ้าให้เสร็จภายในเย็นนี้เ้าค่ะ” ซูเยว่หอบผ้ากองสุดท้ายมาวาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนหลิวเหมยจะหมดความอดทน ลุกขึ้นยืนทอดสายตามองผ้าพวกนั้นด้วยความไม่เข้าใจ
“ผ้าเยอะมากมายเพียงนี้ ข้าจะซักคนเดียวได้อย่างไร พวกเ้าทั้งหมด มาซักแทนข้า!” นางขึ้นคำสั่ง ก่อนซูเยว่จะน้อมกายลงเล็กน้อยด้วยกิริยาราบเรียบ
“พระชายากำชับว่า ห้ามผู้ใดช่วยเ้าค่ะ”
“หากไม่มีใครพูด พระชายาจะรู้ได้เช่นใด อย่าลืมว่าข้าเป็น้องสาวแท้ ๆ ของพระชายา งานพวกนี้ไม่ใช่งานของข้า เดิมทีเป็งานของพวกเ้ามิใช่รึ” หลิวเหมยทำท่าวางอำนาจ ก่อนนางกำนัลบริเวณนั้นจะหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“งานซักผ้าเป็งานของผู้ใด?” หลิวเหมยเอ่ยถาม ก่อนนางกำนัลคนหนึ่งจะก้าวเท้าเดินออกมา
“งานของข้าเ้าค่ะ”
“มาทำงานของเ้าซะ!” หลิวเหมยยกมือขึ้นกอดอก ก่อนที่ซูเยว่จะรีบก้าวเท้าออกมารับแทน
“ทุกคนในที่นี้ ล้วนต้องทำตามคำสั่งของพระชายา ในเมื่อพระชายาบอกว่าหน้าที่ซักผ้า เป็ของคุณหนูหลิวเหมย ดังนั้นคุณหนูหลิวเหมยก็ต้องทำเอง จะให้ผู้ใดช่วยไม่ได้ ซิ่วจิ่น!” ซูเยว่จับจ้องไปยังนางกำนัลที่มีหน้าที่ซักผ้า
“เ้าคะ”
“เ้าไปเตรียมสระสรงน้ำให้พระชายา วันนี้พระชายาออกไปนอกวัง กลับมาจะได้สรงน้ำโดยไม่ต้องรอ...”
“เ้าค่ะ” ซิ่วจิ่นเหลือบมองหลิวเหมยเป็ครั้งสุดท้าย แล้วเดินจากไป ก่อนซูเยว่จะหันมายังหลิวเหมย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ท่านต้องซักผ้ากองนี้เ้าค่ะ และนับจากวันนี้เป็ต้นไป หน้าที่ซักผ้า เป็ของท่านคนเดียวเท่านั้น”
“เ้า!” เยว่หลิวเหมยกัดฟันแน่น ด้วยความคับแค้นใจ ก่อนซูเยว่จะเอ่ยขึ้น
“ข้าเพียงแค่ทำตามคำสั่งของพระชายาเท่านั้น อย่าได้โกรธข้าเลยเ้าค่ะ” พูดจบ ทุกคนในที่นั้นต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เหลือเพียงหลิวเหมยที่เลื่อนสายตามองผ้ากองโต ด้วยฐานะของนาง ต้องจำใจซักผ้ากองโตอย่างไม่เต็มใจนัก
“จางเหม่ย เ้าคิดแกล้งข้างั้นเหรอ?” นางทบทวนแล้ว เก็บความคับแค้นไว้ เพียงลำพัง
สองเท้าของพระชายาเดินออกจากวังหลวง พร้อมนายทหารอีกสองคน ติดตามมาดูแลความปลอดภัยตามหน้าที่ เมื่อก้าวพ้นประตูวังมาไม่นานนัก จางเหม่ยจึงหันไปยังนายทหารพวกนั้น แล้วเอ่ยขึ้นด้วยสุรเสียงราบเรียบ
“พวกเ้ากลับไปเถอะ ข้าขอออกไปตามลำพัง” ร่างบอบบาง และผิวพรรณที่ผ่านการดูแล มาตลอดระยะเวลาหลายปี เมื่อต้องแสงเพียงเล็กน้อยก็ทำให้นางงดงามราวกับภาพวาด หญิงสาวผมดำสนิทยาวจรดหลัง สวมอาภรณ์สีแดงสดตบแต่งด้วยลวดลายประจำราชวงศ์ หันมายังทหารสองคนด้วยใบหน้าราบเรียบ เคลือบแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย
“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ตามธรรมเนียมแล้ว พวกเรามีหน้าที่ดูแลราชวงศ์ทุกพระองค์ให้ปลอดภัย ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็กลับไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” คำยืนยันของนายทหารทั้งสอง ทำให้จางเหม่ยนิ่งเงียบ
‘เช่นนั้นข้าจะบ่ายเบี่ยงสิ่งใดได้’ นางขบคิดพร้อมหันกายเดินมุ่งตรงไปยังตลาด ไม่ขอรับเกี้ยวหรือความสะดวกใด ๆ จากวังหลวง
หยางเซียวในร่างของจางเหม่ย เดินเหม่อเข้าไปยังตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน ยังคงจดจำเื่ราวต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ทั้งความเ็ป และความคับแค้นใจที่ได้รับ ไม่อาจทำให้นางปล่อยวางได้ ก่อนจะหันไปเห็นเถ้าแก่ร้านขายเสื้อ จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“เถ้าแก่ ท่านพอจะรู้จัก กลุ่มัขาวหรือไม่” เถ้าแก่ร้านมองนางั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า รับรู้ทันทีว่าฐานะนางต้องสูงส่งจากเครื่องแต่งกาย ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เถ้าแก่ร้านขายผ้ามีปฏิกิริยา เขายังคงพับผ้าแล้วตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แม่นาง! กลุ่มที่เ้าว่า ข้าไม่รู้จักหรอก” เถ้าแก่ร้าน พับผ้าที่ถืออยู่ช้า ๆ พลางหันมาปฏิเสธ ก่อนหญิงสาวจะได้คำตอบแล้วเบี่ยงตัวเดินจากไป เจอกับเถ้าแก่ร้านขายของเล่น นางตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วถามไถ่อีกครั้ง
“ขอถามอะไรหน่อยได้หรือไม่ ท่านเคยได้ยินชื่อกลุ่มัขาวบ้างหรือไม่”
“กลุ่มอะไรข้าไม่เคยได้ยินทั้งนั้น วัน ๆ ข้าก็ขายแต่ของ ท่านจะเอาของเล่นไปฝากลูก ฝากหลานหรือไม่” เขายื่นของเล่นส่งให้นาง ก่อนจางเหม่ยจะเดินไปถามจากผู้คนบริเวณนั้น ท่ามกลางสายตาของเถ้าแก่ร้านขายผ้า ที่จับจ้องมองนางไม่ละสายตา
‘ไม่มีใครรู้จักกลุ่มัขาวเลยสักคน ข้าจะไปตามหาเบาะแสของกลุ่มัขาวได้จากที่ใด’ ยังไม่ทันสิ้นความคิด ร่างของเถ้าแก่ร้านขายผ้าคนเดิม ก็ตัดสินใจเดินเข้ามา ก่อนทหารทั้งสองนายจะรีบเข้ามาขวางไว้
“ไม่เป็ไร ข้าอยากคุยกับเขา” จางเหม่ยเอ่ยห้าม ก่อนนายทหารทั้งสองจะหลีกทางหลบ ก่อนชายกลางคนจะเอ่ยขึ้น