ผู้จัดการร้านเมื่อทราบเื่ราวที่เกิดขึ้น ก็รีบรุดเข้าไปในที่เกิดเหตุทันทีเมื่อเขาเห็นหยางเฉินกำลังใช้เท้าบดขยี้หน้าอกฉีไค่จนกระอักเื เขาก็แทบจะเป็ลมล้มพับไปในทันที!
"คุณครับ! ได้โปรดอย่าทำเขาอีกเลย!"ผู้จัดการรีบวิ่งเข้าไปห้ามหยางเฉินทันทีตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองอย่างมากที่อยากจะประหยัดเงิน และไม่ได้จ้างผู้รักษาความปลอดภัยซึ่งเป็สิ่งจำเป็อย่างมากเมื่อเกิดเื่ชกต่อยขึ้น!
หยางเฉินถอนเท้าออกจากร่างสะบักสะบอมของฉีไค่
ฉีไค่แทบจะลุกขึ้นไม่ไหว ทั้งที่เขาเคยเป็ถึงกองกำลังพิเศษแต่ฝ่าเท้าของหยางเฉินกลับทำให้ร่างของเขาลอยละลิ่ว และเืกบปากในเวลาเดียวกันแน่นอนว่าอาการาเ็เช่นนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองสัปดาห์กว่าจะกลับมาเป็ปกติ
หวังเยว่หวาดกลัวเป็อย่างมากเธอรีบวิ่งเข้าไปหาฉีไค่ในทันทีพร้อมเรียกร้องให้ผู้จัดการร้านช่วยพยุงตัวฉีไค่ขึ้นมา และร้องไห้กล่าวว่า
"เืคุณเต็มไปหมดคุณโอเคมั้ย?"
ปากของฉีไค่เต็มไปด้วยเืพร้อมไออย่างรุนแรง นั่นทำให้หวังเยว่แผดเสียงกรีดร้องออกมา
หยางเฉินหันหลังไปถามหลิวิอวี้ว่า
"จะกินข้าวต่อมั้ย"
หลิวิอวี้คล้ายถูกหยางเฉินดึงกลับมาจากภวังค์อย่างฉับพลันเธอจ้องมองไปที่เขาและส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่กินแล้ว... เขา..."
"หยุดทำตัวน่ารำคาญ และไปได้แล้ว" หยางเฉินกล่าวจบก็ก้าวเท้าเดินออกไปนอกร้านอาหารทันที
ฉีไค่เองก็ไม่ใช่เล่นๆ เขากล้ำกลืนฝืนความเ็ปเงยหน้าะโขึ้นว่า
"แก... อย่าเพิ่งไป"
หยางเฉินยิ้มและหันมาถามด้วยสีหน้าแปลกๆ ว่า
"หืม อยากแก้แค้นหรือไง?"
เมื่อสบตากับสายตาอันเ็าของหยางเฉิน ฉีไค่ก็รู้สึกเย็บวาบไปทั่วร่างกายแต่ก็ยังฝืนกัดฟันกล่าวว่า
"ข้าจะแจ้งตำรวจ!"
"ก็แล้วแต่นายก็แล้วกัน"
หยางเฉินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจไม่ต้องพูดถึงเขาเพียงทำฉีไค่เืกบปากเท่านั้น แม้ว่าเขาจะแจ้งตำรวจจริงๆ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา สะพานเหล็กอัคคีเหลืองจึงยังไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งนั่นทำให้หยางเฉินสบายใจเป็อย่างมาก
หลิวิอวี้มองหยางเฉินเดินออกจากร้านโดยไม่ยี่หระต่อสิ่งใดเธอไม่อาจทำอย่างไรได้ ทำได้เพียงดึงธนบัตร 100 หยวนออกมาสองใบ ส่งให้ผู้จัดการร้านแล้วเดินตามหยางเฉินออกจากร้านไป
ทิ้งฉีไค่และหวังเยว่อยู่ในร้านให้เป็จุดสนใจของผู้คนต่อไป บางคนถึงกับกระซิบถึงความโชคร้ายของฉีไค่
หวังเยว่นั้นไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาเมื่อเธอเห็นสีหน้าซีดเผือดของฉีไค่เธอก็เอ่ยขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า
"ที่รักดูคนพวกนี้ใช้สายตาดูถูกมองมายังคุณสิ คุณเคยบอกฉันไม่ใช่หรือว่ารองสารวัตรลู่เป็เพื่อนของพ่อคุณ!อย่าปล่อยให้คู่หญิงชู้ชายโฉดนั่นลอยนวลไปได้เชียวนะคะ!"
ฉีไค่ได้หวังเยว่เตือนสติก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรทันที
ไม่นานนักก็มีเสียงชายวัยกลางคนดังขึ้นจากปลายสายด้วยน้ำเสียงเริงร่า
"ฮ่าๆๆ ฉีไค่ได้ยินว่าเอ็งมาที่เมืองจงไห่ ไม่นึกว่าจะยังคิดถึงอาคนนี้อยู่"
"ลุงลู่ครับผมเพิ่งจะมาที่นี่ได้ไม่นาน แต่ก็เกิดเื่ขึ้นซะแล้ว!"
"เื่อะไร!? ใครกล้ามีเื่กับเอ็ง! เดี๋ยวข้าจะจัดการให้เอง"
ฉีไค่เผยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
"ลุงลู่ผมกินข้าวในร้านอาหารกวางตุ้งใกล้ๆ กับสถานีตำรวจของลุงอยู่ดีๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาเตะผมจนกระเด็นลุงช่วยผมหน่อยได้มั้ยครับ"
"มันช่างกล้านัก! ถึงกับกล้าหาเื่แกในเขตของข้าเชียวรึบอกชื่อมันมา ฉันจะไปจัดการมันทันที"
ฉีไค่มองไปที่หวังเยว่ หวังเยว่จำได้ว่าเธอเคยจับมือกับชายคนนั้นและรีบบอกชื่อหยางเฉินให้ฉีไค่อย่างรวดเร็ว
ฉีไค่กล่าวว่า
"มันชื่อหยางเฉินครับลุงเป็พนักงานบริษัทอวี้เหล่ย คนเช่นนี้ควรจะถูกจับขังคุกสิบปียิ่งนัก"
รองสารวัตรลู่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
ฉีไค่ขมวดทันทีเขารู้สึกว่าสถานการณ์กลับไม่เป็อย่างที่เขาคิด
"ลุงลู่ ลุงลู่ครับ?"
"ฉีไค่... อา..." หลังจากที่หัวเราะออกมาเป็เวลานานก่อนที่จะเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนล้าว่า
"เพิ่งมาที่จงไห่ก็อย่าสร้างปัญหาสิคนหนุ่มสาวก็อย่างแบบนี้แหละ ลืมๆ มันไปเถอะ"
"ลุงลู่ครับ! ทำไมลุงพูดอย่างนั้นผมจะลืมได้ยังไง!?"
"ฉีไค่ลุงก็เคยเป็แบบเอ็งมาก่อน ฝากบอกสวัสดีพ่อของเอ็งด้วยก็แล้วกัน... ลาก่อน" รองสารวัตรพูดจบก็รีบวางสายไปในทันที
ฉีไค่ในตอนนี้โกรธเป็ฟืนเป็ไฟ เขาขว้างโทรศัพท์ทิ้งบนพื้นอย่างไม่ไยดี!
"นี่เห็นฉันเป็เด็กน้อยหรือยังไงกัน!?"ฉีไค่กัดฟันกล่าวอย่างโกรธแค้น
เมื่อหวังเยว่เห็นเื่กลับไม่เป็ไปดั่งหวังก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ารังเกียจว่า
"สงสัยคนที่บ้านของคุณ ก็คงไม่มีน้ำยาแบบคุณนั่นแหละ..."
"เพียะ"
จู่ๆ ฉีไค่ก็ใช้ฝ่าหนาตบเข้าที่ใบหน้าของหวังเยว่จนทุกคนต่างตะลึงไปตามๆกัน
"ออกไปให้พ้น! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!!"
ฉีไค่ะโเสร็จก็เดินออกไปจากร้านทันทีทิ้งหวังเยว่นั่งทรุดอยู่บนพื้นอย่างหมดรูป
ในขณะเดียวกันตอนนี้หยางเฉินกับหลิวิอวี้ก็เข้ามาอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
หลิวิอวี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลว่า
"หยางเฉิน คุณวู่วามเกินไปแล้ว ที่บ้านของฉีไค่เป็ถึงข้าราชการ เขาอาจเรียกตำรวจมาจับกุมคุณจริงๆ ก็ได้"
หยางเฉินจ้องมองหลิวิอวี้ที่มีใบหน้าเคร่งขรึมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"พี่ิอวี้ ผมมีความสุขมากจริงๆ"
"อะไรนะ!" หลิวิอวี้ไม่อาจเข้าใจในคำพูดของหยางเฉินในขณะนี้ได้เลย
"ผมอัดแฟนของคุณจนเละ แต่คุณก็ยังคงเป็ห่วงผม" หยางเฉินกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ
หลิวิอวี้ก้มหน้าพลางกล่าวเสียงเศร้าว่า
"เขาไม่ใช่เป็แฟนของฉันฉันมันก็แค่ผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่งที่หลงเชื่อเขา ดังนั้นเขาก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก"
สาวงามจากมหาวิทยาลัยที่คิดว่าจะร่วมใช้ชีวิตกับแฟนหนุ่มไปตลอดชีวิตแม้ว่าหลังจบการศึกษาชายหนุ่มของเธอจะต้องไปเกณฑ์ทหารแต่เมื่อเขาให้คำมั่นสัญญาที่สถานีรถไฟไว้ให้เธอรอเขากลับมาทั้งที่ไม่มีลายลักษณ์อักษร หรือพยานใดๆ หญิงสาวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอชายหนุ่มอย่างมีความหวัง
แต่เมื่อชายคนนั้นปรากฏตัวอีกครั้งโดยบังเอิญเขากลับบอกว่าเขาไม่เคยสัญญาว่าจะกลับมาหาหญิงสาว มิหนำซ้ำยังใช้คำพูดทำร้ายจิตใจของเธออย่างรุนแรง...
หยางเฉินรู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เพราะฝูงชนที่คับคั่งด้วยธรรมชาติของหลิวิอวี้ เขาคิดว่าเธออาจมีสิทธิฆ่าตัวตาย
"พี่ิอวี้ คุณคนที่ผมรู้จักเข้มแข็งกว่านี้นะ"
หลิวิอวี้เผยรอยยิ้มเศร้าพลางกล่าวว่า
"ไม่หรอกฉันยังคงร้องไห้ออกมาเพราะเขาคนนั้น... ฉันทนไม่ได้ที่เห็นเขาไปมีความสุขกับผู้หญิงอย่างหวังเยว่ มันหมายความว่าฉันเป็คนเดียวที่รอคอยอย่างโง่ๆ อยู่ถึงเจ็ดแปดปี..."
หลิวิอวี้นำกระดาษทิชชู่ออกมาซับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
"เพื่อเป็การเฉลิมฉลองที่ฉันสามารถหลุดจากบ่วงที่ผูกมัดมานานและขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ นายไปดื่มกับฉันมั้ย หยางเฉิน"
หยางเฉินยิ้มและพยักหน้าเวลานี้ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขอเล็กๆ นี้จากผู้หญิงที่กำลังโศกเศร้า
หลังจากหลายปีของการรอคอยหลิวิอวี้แทบจะไม่มีเพื่อนเลย แต่ทว่าชายผู้หยาบโลนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอคนนี้ กลับเป็เพื่อนผู้ชายคนแรกของเธอ
หยางเฉินขับรถมาที่บาร์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆและเลือกที่นั่งตรงมุมหนึ่ง
หลิวิอวี้สั่งชีวาสมาถึงสี่ขวดน้ำสีเหลืองอำพันของวิสกี้ไหลผ่านลำคอของเธอดั่งเช่นน้ำตกถันโค่วฉู้
หยางเฉินไม่ได้เข้าไปร่วมวงด้วยหนึ่ง เพราะไม่กล้าปล่อยให้สติของตัวเองหลุดลอย สองเพราะเขารู้ว่าตอนนี้หลิวิอวี้้าคนที่จะทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
ชีวาสสองขวดเข้าไปอยู่ในท้องของหลิวิอวี้เรียบร้อยแล้วั์ตาของเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์อันยั่วยวน กอปรกับรูปร่างและหน้าตาทำให้ตอนนี้หลิวิอวี้เป็จุดสนใจของผู้ชายในบาร์ไปเรียบร้อยแล้ว
หยางเฉินเห็นหลิวิอวี้ดื่มวิสกี้เหมือนดื่มน้ำเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามปรามใดๆ เพราะเขาตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะเปิดโอกาสให้เธอดื่มอย่างเต็มที่
"หยางเฉิน..." น้ำเสียงของหลิวิอวี้นั้น ขณะนี้ฟังดูเชื่องช้าี้เีดูเย้ายวนอย่างยิ่ง
"หืม?"
"คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันมักจะพาคุณที่ร้านอาหารกวางตุ้งนั่น" หลิวิอวี้กล่าวพลางเอียงศีรษะเล็กน้อย
หยางเฉินส่ายหัวเขาไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไม
หลิวิอวี้หัวเราะ "เพราะเมื่อตอนมหาวิทยาลัยเขามักจะพาฉันไปกินอาหารที่นั่น... และที่นั่นก็เป็ที่ที่เราพบกันเป็ครั้งแรก"
สถานที่ที่สนุกที่สุด แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็สถานที่ที่น่าเศร้าที่สุด
หยางเฉินหยิบขวดแอลกอฮอล์เติมใส่แก้วของหลิวิอวี้พลางกล่าวว่า
"มันเป็การเริ่มต้นที่ดีแล้วก็จบด้วยดีเช่นเดียวกัน"
"ใช่... ดีมาก..." มือหลิวิอวี้หยิบแก้วของเธอขึ้นมาแต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีแรงพอที่จะจับมันให้มั่น
แก้วน้ำถูกยกขึ้นมากลางอากาศก่อนจะร่วงลงสู่พื้น!
"เพล้ง..." เศษแก้วแตกกระจายไปทั่วพื้น
หลิวิอวี้เหลือบสายตาจ้องมองไปยังน้ำที่เจิ่งนองทิ้งตัวลงบนโต๊ะอาหารตัวน้อย พร้อมกับไหล่ที่สั่นสะท้าน ตามด้วยเสียงสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร