เว่ยเวยยืนอยู่บนหอคอยสูง มองลงมายังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด!
“ฮูหยิน ท่านอยากเห็นหลงเหยียนถูกฆ่าตายจริงหรือเ้าคะ?”
เว่ยเว่ยส่ายหน้า “วางใจเถอะ หากยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ข้าไม่มีทางลงมือแน่ ทว่าข้าเชื่อ เ้าเด็กหลงเหยียนมีความสามารถพอที่จะต่อต้านเซียวกงเป้า”
ความรู้สึกหนึ่งถูกเผยออกมาอย่างไม่สามารถบรรยายได้ เกรงว่ามีเพียงเว่ยเวยเท่านั้นที่รู้ดี นางไม่อยากเข้าใกล้เซียวกงเป้าต่อหน้าคนทั้งตระกูลหลงอีก
เกรงว่าความทรมานในใจนางนั้นคงไม่มีใครเข้าใจได้ ในตอนที่ตระกูลหลงทำผิดต่อนางทำให้จิตใจด้านชาไปหมดแล้ว
หลงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น มองคนที่ตื่นตระหนกรอบตัว คนที่เป็ห่วงเป็ใยตน หลงอีผู้เป็บิดาพยายามพุ่งมาด้านหน้าอย่างสุดกำลัง ทว่าเซียวเหลิงเอ้าที่ขวางอยู่ตรงหน้าไม่ยอมถอย
หลงหยุนฉีร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปตั้งนานแล้ว…
สามารถตายต่อหน้าญาติพี่น้องเพราะการยืนยันตัวเองนั้นนับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว ไม่ว่าเมื่อก่อนคนอื่นจะทำเช่นไรกับเขา ทว่า่ที่ผ่านมา ตนััได้อย่างชัดเจน ทุกคนห่วงใยเขาแล้ว
เซียวกงเป้ามองหลงเหยียน เขายังไม่รีบลงมือตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไร ฝ่ายแข็งแกร่งย่อมชนะเป็แน่แท้ บัดนี้หลงเหยียนเหมือนสุนัขจนตรอก เขาไม่เชื่อว่าหลงเหยียนยังมีวิธีอะไรมารับมืออีก
“ฮ่าๆๆ เ้าดูพวกเขาไว้ให้ดีเล่า บางทีครั้งนี้อาจเป็ครั้งสุดท้ายที่เ้าจะได้เจอพวกเขาแล้วก็ได้ ไม่ต้องเป็ห่วงหรอก เป็เพราะอีกไม่นานพวกเ้าก็จะเจอกันในนรกแล้ว”
ขณะที่เซียวกงเป้าพูดนั้น จู่ๆ เขาก็นึกถึงสตรีนางหนึ่ง จึงแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง
“ไอ้หนุ่ม หากเ้ารู้เื่ระหว่างแม่เ้ากับข้า คิดว่าเ้าคงอยากรู้มากกว่านี้อีกเป็แน่ แม่เ้างดงามมากจริงๆ ทว่านางแต่งงานกับหลงอีพ่อเ้า นั่นคือเื่ที่นางทำผิดอย่างมหันต์… เ้าอยากทำให้ข้าโมโหนักมิใช่หรือ เช่นนั้นวันนี้ ก่อนตายข้าจะทำให้เ้าได้เ็ปอย่างสาสม ฮ่าๆๆๆ”
“เ้าพูดอะไรนะ?” หลงเหยียนตาแดงก่ำ ตอนนี้เขาโมโหมากแล้วจริงๆ นี่เป็ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา และเป็ครั้งแรกที่หลงเหยียนโมโหมากที่สุด หากเขาแกร่งมากกว่าในด้านพละกำลัง หลงเหยียนคงฆ่าเขาไปเป็หมื่นครั้งแล้ว
พลังปราณที่ทะลุทะลวงเริ่มสร้างความร้อนระอุในตัวหลงเหยียน พลังปราณขับเคลื่อนในร่างกายทั้งหมด พลังสายฟ้าในร่างกายไหลเวียนในตัวหลงเหยียน ไฟโทสะสามารถทำให้พละกำลังเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย
เซียวกงเป้ามองหลงเหยียนอย่างท่าทางอวดดีแล้วนึกในใจ “ฮึ! แล้วอย่างไร?” ไม่นานนัก ภายใต้การจับจ้องของทุกคน หินวิเศษในตัวหลงเหยียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงราวฟ้ากับดิน โลหิตสีแดงสดมหาศาลถูกปล่อยออกมา ส่วนธาตุพลังก็เติมเต็มร่างกายเขา
“กายธาตุพลัง!”
รังสีสังหารระลอกหนึ่งปรากฏขึ้นแล้วเริ่มขยายไปทั่วร่างกาย ทันใดนั้น รังสีสังหารที่บ้าคลั่งก็ทำให้ทุกคนเป็ต้องอุทาน เพราะครั้งนี้พวกเขาเห็นร่างของหลงเหยียนเริ่มค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น
ใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่าตัว สองเท่า สามเท่า…
จนกระทั่งร่างกายหลงเหยียนใหญ่ขึ้นสูงสิบเมตร พลังปราณในร่างกายก็เพิ่มมากขึ้นสิบเท่า หรือยี่สิบเท่า
ในหินวิเศษ พลังปราณมหาศาลเริ่มทำงาน พลังปราณที่หลอมมาจากโลหิตของปีศาจอสูร ครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เซียวกงเป้าที่ใ แม้กระทั่งผู้าุโแห่งตระกูลหลงและคนอื่นๆ ในตระกูลเซียวก็ผวาถอยหลังไปหลายก้าว ล้มนั่งลงที่พื้น
“เ้า เ้าหมอนี่ เหตุใดจึงตัวใหญ่ขึ้น อีกทั้ง ทั้งยังมีอะไรงอกออกจากตัว…”
“รีบดูนั่นเร็ว มันคือขนนก เหลือเชื่อ เขากลายร่างเป็ตัวประหลาดแล้ว”
ร่างกายสูงสิบเมตร พลังทะลุทะลวงถูกส่งมาจากในร่างกายหลงเหยียน เกรงว่าแค่หมัดเดียวก็คงซัดเซียวกงเป้าที่อยู่ตรงหน้ากระเด็น
พละกำลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ดในร่างกาย ในชั่วพริบตา พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาเป็ขั้นที่แปด
สีโลหิตปกคลุมทั่วท้องฟ้า มันเริ่มขยายไปยังทั่วร่างกายหลงเหยียน
“พลังโลหิต”
ละอองโลหิตครั้งนี้หนาแน่นยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก จึงทำให้ทั้งเมืองัพลันเปลี่ยนเป็สีแดง
“เซียวกงเป้า เคยบอกเ้าแล้วว่าวันนี้ข้าต้องฆ่าเ้าให้ได้…”
“โฮก!” เสียงัคำราม ร่างทะยานขึ้นฟ้า
เซียวกงเป้าใจนขาหมดเรี่ยวแรงล้มลงกับพื้น เขามองหลงเหยียนที่กลายร่างตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
“นี่ นี่เ้า เ้าใหญ่ขึ้นงั้นหรือ จะเป็ไปได้อย่างไร?” เขามองร่างหลงเหยียนลอยขึ้นด้วยสายตาหวาดผวา
ะเิจากพลังชีพัขั้นที่เจ็ดรวมกับพลังจากกายธาตุพลัง พลังปราณที่เพิ่มมากขึ้นสิบเท่าทำให้หลงเหยียนแลดูน่าพิศวงและน่ากลัว
ส่วนเว่ยเวยที่ยืนอยู่บนหลังคาหอคอยก็มองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
“ฮูหยิน หลงเหยียนเป็อะไรกันแน่ เหตุใดถึงกลายร่างได้ แม้แต่ในเมืองหยุนจงของเรา คนที่สามารถกลายร่างได้ก็มีน้อยนัก นอกเสียจากในร่างกายมีธาตุพลังของอสูร เช่นนั้นก็คงเป็ไปได้ ทว่าข้านั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าคนที่มีพละกำลังขั้นที่เจ็ดจะกลายร่างได้ด้วย”
“อีกอย่าง ดูเหมือนพละกำลังของเขาเพิ่มจากเดิมสิบเท่า ส่วนใหญ่แล้ว การแปลงร่างช่วยเพิ่มพละกำลังได้เพียงหนึ่งหรือสองเท่าตัวเท่านั้น”
เว่ยเวยพยักหน้า “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน สรุปแล้วหลงเหยียนไปรับการถ่ายทอดิญญายุทธ์จากปีศาจอสูรตัวไหนกันแน่ ให้ข้าเดา ต้องเป็ปีศาจอสูรที่แข็งแรงมากแน่ ส่วนกายธาตุพลังลดพลังปราณของเขาเร็วยิ่งนัก เกรงว่าเขาจะทนได้ไม่นาน”
พวกเขามาจากเมืองหยุนจงที่กว้างใหญ่ แน่นอนว่าต้องมีประสบการณ์มากกว่า รู้เื่ของผู้ฝึกยุทธ์และปีศาจอสูร กลับไม่รู้ว่าในร่างกายหลงเหยียนมีห้วงมิติที่บรรจุพลังปราณได้มหาศาล
ในเมืองัเล็กๆ แห่งนี้ เกรงว่าคงไม่มีใครเจอเห็นการแปลงร่างมาก่อนเป็แน่ พวกเขาต่างตื่นตระหนก แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็ต้องเข้าใจเอง แม้แต่ผู้าุโแห่งตระกูลที่ท่องโลกมาทั้งชีวิต มีประสบการณ์มากมาย ทว่าก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเขาคือผู้ฝึกยุทธ์อสูรแบบไหน
ครั้งนี้ โลหิตเ่าั้มุดเข้าไปในร่างของเซียวกงเป้า เขาไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นหลงเหยียนก็เริ่มรวบรวมพลังปราณที่แข็งแกร่ง หลงเหยียนปล่อยหมัดมายาแปดทิศที่น่ากลัวออกมาแล้วใช้หมัดสายฟ้าพิโรธทันที ครั้งนี้ ความน่ากลัวของัพิโรธเพิ่มจากเดิมสิบเท่า
ส่วนเซียวกงเป้ากำลังจมอยู่กับความตื่นตระหนก รวบรวมสติลุกขึ้นจากพื้นแล้วรวบรวมพลังปราณทันที ทันใดนั้นเอง มายาที่เก้าก็ะเิออกมาอีกครั้ง
เวลานี้เอง เซียวหยุนเหว่ยที่อยู่ข้างๆ ะโบอก “พี่ใหญ่ อย่าฝืนตัวเอง เ้าหมอนั่นพลังเพิ่มขึ้นเยอะเพียงนั้น ข้ามั่นใจว่าต้องมีพลังปราณหนุนอยู่ รออีกครู่หนึ่งพลังปราณของเขาต้องลดลงเร็วแน่”
เซียวกงเป้านึกแล้วก็พยักหน้า ถึงแม้หลงเหยียนจะสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน ทว่าเซียวกงเป้านั้นไม่เชื่อว่าร่างขนาดใหญ่จะไร้จุดบอด
คำตอบที่ได้อาจทำให้เขาต้องผิดหวัง เพราะร่างขนาดใหญ่ของเขาไม่มีจุดบอด ไม่ต่างไปจากร่างขนาดเดิมของเขาเท่าไรเลย
“ไปตายเสียเถอะ”
กลางฝ่ามือหลงเหยียนคือัพิโรธ มันกำลังะเิออกมา เริ่มแรกคือหมัดมายาแปดทิศที่น่าหวั่นเกรง จากนั้นก็ตามมาด้วยพลังหมัดที่มาพร้อมรังสีมายา รวมกับัสายฟ้าขนาดใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมาพร้อมรังสีสังหารที่น่าประหลาด เวลานี้ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้ว
--------------------