รถพยาบาลทะยานไปบนถนนยามค่ำคืนอันแสนเงียบสงบของเมืองหลินไห่ เสียงไซเรนกึกก้องราวกับกำลังจะประกาศว่าผู้ป่วยในรถกำลังจะตายแล้ว
ภายใต้หน้ากากออกซิเจน ใบหน้าของเซี่ยวอี๋เผยให้เห็นความงามเฉกเช่นนางเอกเกาหลีที่ป่วยหลังจากถูกรถชน แพทย์ประจำรถจัดการกับปากแผลที่หน้าท้องของเธอ
เซี่ยวอี๋กุมมือเสิ่นิแน่น และเมื่อเห็นชายซึ่งช่วยเธอ เซี่ยวอี๋ก็จะแทบหายใจไม่ออก “หนาวมาก หนาวจับใจ อย่าทิ้งฉันไปนะ”
“คุณผู้หญิง ปืนลูกโม่ 05 ขนาดเล็ก ใช้ะุหัวกลม ทะลุร่างโดยไม่ััอวัยวะภายใน ก็เหมือนกับการถูกทิ่มด้วยตะเกียบ จะไปตายง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?” เสิ่นินั่งลงบนม้านั่งพลางขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยาแ รูภายใต้สก๊อตซ์เทปบนหน้าท้อง แทบจะเอานิ้วโป้งสอดเข้าไปได้ เืหยดติ๋งๆ เขายังไม่ตาย
“ผู้หญิงที่ใส่บิกินี่ไม่ได้ก็เท่ากับตายแล้วนะ!” เซี่ยวอี๋น้ำตาคลอเบ้า “ไอ้บ้าอย่างนายบอกให้ฉันเชื่อใจ สุดท้ายก็ยิงใส่ฉัน...ให้ฉันเชื่อนายกับผีน่ะสิ!”
“คุณน้า สถานการณ์ตอนนั้น ถ้าผมไม่ยิง เขาก็ยิง มีรูบนหน้าท้องเพิ่มอีกรู ดีกว่ามีรูที่หัวไหมล่ะ?” เสิ่นิอธิบายด้วยสีหน้าที่ขาวซีด
“ไม่ได้ นายต้องชดใช้ให้ฉัน นายทำลายเรือนร่างของฉัน ทำลายโอกาสในการใส่บิกินี่ของฉัน ทำลายความฝันในการถ่ายอัลบั้มรูป นายต้องชดใช้ ไม่อย่างนั้น ต่อให้กลายเป็ผี ฉันก็จะไม่ปล่อยนายไป!” เซี่ยวอี๋งอแงเหมือนเด็กป่วย
“เท่าที่ผมรู้ วิธีล้างแค้นของผีเขาเรียกว่าผีอำ...”
“ตอนนี้นายยังกล้ามาปากดีกับฉันอีกเหรอ? นายเชื่อไหมว่าฉันจะอาศัยตอนที่นายหลับจัดการฆ่านายซะ?”
“โอเค...ผมเข้าใจแล้ว จะชำระดอกเบี้ยคืนให้...” เสิ่นิยอม
“ไม่ได้ ฉัน้าค่าชดเชยที่าเ็จากการทำงาน” เซี่ยวอี๋ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์
ในที่สุดเสิ่นิก็หมดทางเลือก เขาจำยอมให้กับคำมั่นสัญญาอันไม่เป็ธรรม เงินรางวัลจากการปิดการขายครั้งนี้ หลังจากหักต้นกลบดอกชำระของเซี่ยวอี๋แล้ว เขาก็ยังต้องจ่ายค่าชดเชยที่าเ็จากการทำงานอีก เงินที่เหลืออยู่กับตัวของเสิ่นิจริงๆ เหลือแค่เพียง 500 หยวน...
เสี่ยงตายคุ้มภัย สุดท้ายได้เงินมา 500 หยวน ยังไม่พอให้เรียกอีหนูมาเปลี่ยนชุดในห้องน้ำให้เลย บางทีชาติที่แล้วเสิ่นิอาจจะถูกสาปแช่งเื่เงินเอาไว้ ชีวิตนี้ถึงได้หมดทางมีโชคทางทรัพย์
“เอาล่ะ เย็บเสร็จอย่างสวยงาม ะุยิงได้พอเหมาะพอดีมาก ไม่มีแผลเป็แน่ คราวนี้ถึงตาคุณแล้ว” เมื่อแพทย์ประจำรถจัดการกับปากแผลของเซี่ยวอี๋เสร็จ เขาก็เห็นปากแผลบนหน้าท้องของเสิ่นิ แพทย์ประจำรถก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ภายใต้หน้ากากอนามัย “พวกคุณนี่ช่างเป็คู่ที่ตลกเสียจริง แม้แต่บริเวณที่าเ็ก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน เพียงแต่ชายร่างโตหญิงสาวร่างเล็ก แหวนคู่ รอยสักคู่ผมก็เคยได้ยินมา แต่แผลเป็คู่กันนี่ยังไม่เคยเห็น ช่างแสนโรแมนติก”
“โรแมนติกบ้านย่าคุณสิ ผมเสียเืจนจะหมดตัวแล้วคุณก็ไม่เห็นหรือยังไง? รีบมาให้เืผมด่วนเลยไอ้หมอบ๊อง!” เสิ่นินั่งอยู่น้ำตาแทบไหล
ฆาตกรที่ทำให้เมืองหลินไห่นอนไม่หลับตลอดคืน ในที่สุดก็จบชีวิตลง เสิ่นิไม่ได้เป็คนสังหาร ตามคำให้การของเสิ่นิ ฆาตกรคนนั้นน่าจะเป็มือสังหารคนเดียวกันกับที่เมืองเสิ่นเมื่อเร็วๆ นี้ แต่เขาก็ไม่ได้เศร้าโศกต่อการจากไปของจิติญญาผูกพันนัก อย่างน้อยชายแก่ก็ไม่ควรไปติดกับะเิต่อต้านรถถังในบ้านของคนอื่น หรือใช้อาวุธา
สำหรับลูกชายของจิติญญาผูกพันคุโด้ คิดะอิจิมาชิ หลังจากถูกบรรจุลงถุงเก็บศพแล้ว เขาก็ลุกนั่งในทันที ทำเอาเ้าหน้าที่นิติเวชทั้งสองคนพากันแตกตื่น
ที่แท้เสิ่นิก็ไม่ได้ฆ่าเขา แค่ติดถุงเืไว้ที่หน้าอกของเขา ะุที่เสิ่นิใช้ยิงเขาคือะุยาง เขาหมดสติไปเพราะแรงกระแทกจากะุ เสิ่นิแค่อยากใช้การตายของคุโด้เพื่อกระตุ้นจิติญญาผูกพัน เขาไม่จำเป็ต้องฆ่าเขาจริงๆ
คุโด้ผู้ซึ่งได้รับการอบรมสั่งสอนจากเสิ่นิ ในที่สุดเขาก็ตาสว่าง เขาสารภาพกระบวนการฆ่าคนทั้งหมดออกมา รวมกับคำให้การของซันนี่ นั่นจึงเพียงพอที่จะทำให้เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม เนื่องจากเขาให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็อย่างดี และเป็การชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ชายหนุ่มจึงได้รับการเว้นโทษปะา แต่ก็หมดหนทางที่จะดิ้นหลุดได้
ยังเหลือเวลาอีก 10 วันก่อนจะสิ้นสุดการรักษาความปลอดภัย เสิ่นิกับเซี่ยวอี๋พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซันนี่ยืนกรานที่จะมาดูแลพวกเขาทั้งสองคนเอง เมื่อปราศจากภัยคุกคามจากจิติญญาผูกพันแล้ว การคุ้มภัยของเสิ่นิก็ง่ายเหมือนกับการกินๆ นอนๆ
เสิ่นิสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ั้แ่ 3 วันแรกแล้ว ในความคิดของเขา อย่างมากเซี่ยวอี๋ก็น่าจะพักต่ออีก 2 วัน แต่ไม่รู้ว่าแม่ของเซี่ยวอี๋ทราบเื่ได้อย่างไร แม่ของเซี่ยวอี๋ยืนกรานเสียงแข็งว่าให้ลูกสาวสุดที่รักของเธออยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าาแของเธอจะหายดี หากไม่เชื่อฟังกัน แม่จะฟ้องพ่อ ให้พ่อมาจัดการกับเธอเอง
เซี่ยวอี๋ทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลและทำการตรวจเช็กทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งตรวจระบบสืบพันธุ์ แต่เธอสุขภาพแข็งแรงราวกับสัตว์ป่า
ในวันขึ้นศาล ซันนี่ออกจากโรงพยาบาลไปและไม่กลับมาอีกเลย ไม่มีคำอำลา ไม่มีคำขอบคุณสักคำ หลังจากออกจากศาลก็เหมือนคนได้ระเหยไป แต่เสิ่นิรู้ดี ซันนี่รู้จักวิธีการดูแลตัวเองดีกว่าใครๆ ไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เธอก็จะมีชีวิตที่ดี
ในที่สุดก็ออกจากโรงพยาบาลได้ นับเป็เวลา 15 วันหลังจากเกิดเื่ วินาทีที่เซี่ยวอี๋เดินออกมาจากโรงพยาบาล เธอรู้สึกสบายใจเหมือนกับได้เกิดใหม่ หญิงสาวหันกลับไปยังพระอาทิตย์และยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเท้าเอว เสี้อสั้นรัดรูปสีขาวของเธอรั้งตามแขนขึ้นไปด้วย เผยให้เห็นแผลเป็เล็กๆ สีแดงบริเวณหน้าท้อง
“อย่าเท้าเอวแรงสิ แผลคุณเพิ่งจะประสานกัน ระวังจะปริอีก” เสิ่นิที่กำลังถือกระเป๋าสัมภาระอยู่ที่ด้านข้างตั้งใจทำให้เธอตื่นตระหนก
“เพราะนายนั่นแหละ! คราวหน้าถ้ากล้ายิงฉันอีกล่ะก็ นายตายแน่” เซี่ยวอี๋หันศีรษะกลับไปมองด้วยสายตาที่ดุเดือด
“ได้ ครั้งหน้าก็ลองไม่ฟังสิ่งที่ผมย้ำนักย้ำหนาดูสิ จะได้ถูกคนร้ายจับตัวไปอีก คราวนี้เคราะห์ยังดีที่เป็ตาแก่จับตัวคุณไป ทำอะไรคุณไม่ไหว คราวหน้าถ้าไปเจอกลุ่มชายฉกรรจ์เข้า เหอๆ ลำพังขาเรียว 105 เิเของคุณก็อาจจะทำให้พวกมันสนุกกันไปหลายวันเลย” ยาดีมีรสขม คำหวังดีมักไม่รื่นหู เสิ่นิกล่าวเตือน
“ทราบแล้วค่ะ คราวหน้าจะไม่ทำโดยพลการอีก ฉันจะว่าตามนายให้หมดเลย!” เซี่ยวอี๋เอามือไพล่หลัง เธออายที่จะยอมรับว่ามันเป็ความผิดของเธอ เธอซึ่งเป็เด็กสาวผู้ดื้อรั้น ในชีวิตนี้เธอจะยอมรับความผิดต่อผู้ชายแค่เพียงสองคนเท่านั้น หนึ่งคือพ่อเฒ่า อีกหนึ่งก็คือเสิ่นิ แม้แต่กับพี่ชาย ต่อให้เธอถูกตีจนกระทั่งเจ็บเข้ากระดูกดำ เธอก็ยังไม่เคยรับผิด
“ไป กลับบ้านกัน” เสิ่นิลูบศีรษะของเซี่ยวอี๋ ก่อนจะถือกระเป๋าสัมภาระน้อยใหญ่พลางอมยิ้มเดินอมยิ้มออกไปจากประตูโรงพยาบาล
ณ ประตูโรงพยาบาล มีสาวสวยท่านหนึ่งซึ่งสวมรองเท้าส้นสูง 10 เิเยืนรออยู่นานแล้ว
“พี่ซันนี่?” เซี่ยวอี๋จำสาวงามคนนั้นได้ในพริบตา ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน เสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอดูภูมิฐานขึ้น เธอสวมกระโปรงสูทเต็มตัวแบบมาตรฐาน ห่อร่างอันอวบอิ่มของเธอ คอเสื้อไม่แหวกลึกถึงสะดือแล้ว และรอยแหวกที่กระโปรงนั้นก็ไม่ได้เลยขึ้นมาถึงสะโพก
“น้องสาว เจ็บแผลหายดีแล้วใช่ไหม ดูสดใสขึ้นเยอะเลยนะ” ที่มุมปากของซันนี่ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“รอนานไหม?” เสิ่นิเข้าไปหา
“ไม่เท่าไร เธอสบายดีหรือเปล่า?” ซันนี่กล่าวทักทายเบาๆ
“อื้อ หายนานแล้ว พี่ยังกลับไปทำงานเดิมอยู่อีกเหรอ?” เสิ่นิสังเกตเห็นรถ Ferrari ทรงสปอร์ต จอดอยู่ที่ริมถนน แม้ว่าซันนี่จะจงใจขอให้คนคนนั้นจอดรถไว้ไกลๆ แต่สีแดงอันฉูดฉาดไหนเลยจะรอดพ้นสายตาของบอดี้การ์ดมืออาชีพอย่างเสิ่นิไปได้
“เปล่า พี่เกษียณแล้ว เหนื่อย จริงสิ พี่จะแต่งงานแล้วนะ อวยพรให้พี่หน่อยสิ” ซันนี่หายใจเข้าลึกๆ ก่อนประกาศ
“แต่งงาน? ไวจัง” เซี่ยวอี๋ตกตะลึง
“อื้อ กับคุณชายที่จัดปาร์ตี้เมื่อครั้งก่อนนั้นแหละ เขาแอบหลงรักพี่มานานแล้ว หลังพี่ออกมาจากศาล พี่ก็ไปเมืองหลวง เดิมทีพี่วางแผนที่จะเกษียณและเป็ลูกน้องของเขาทำงาน แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเขากลับขอให้พี่ไปเป็เลขาฯ ของเขา ไปๆ มาๆ เขาก็สารภาพรักกับพี่ พี่ว่าเขาก็ไม่เลว ก็เลยตอบตกลงไป” ซันนี่เล่าทุกอย่างอย่างเรียบง่าย
“ใช่ แบบนี้ก็ดี มีจุดหมายปลายทาง” เสิ่นิกล่าวอวยพรด้วยความจริงใจ
“เธอมันบอดี้การ์ดผู้ไร้อารมณ์ ทำเป็เศร้าไม่อยากจากกันหน่อยก็ได้นะ ไหนตอนนั้นเธอยังพูดถึงเื่ราชินีกับอัศวินปลอบใจพี่อยู่เลย ความจริงแล้วก็หลอกกันใช่ไหม” ซันนี่แสร้งทำเป็เคืองเล็กน้อย
“ที่ผมพูดกับพี่ล้วนเป็คำสัตย์จริง ตอนนี้พี่ก็ยังเป็ราชินีของผม เพียงแต่พี่ได้เจออัศวินที่ดีกว่าผม ต่อไปพี่ก็ไม่้าผมแล้ว ผู้ชายคนนั้นสามารถปกป้องพี่ได้ทั้งชีวิต” เสิ่นิกล่าวอย่างเย็นใจ
“รู้ไหม? งานแต่งพี่ พี่จะไม่เชิญเธอเด็ดขาด” ซันนี่กวักมือไปทางคนขับรถ Ferrari เพื่อเป็สัญญาณให้เขาขับเข้ามา “ไม่ใช่ว่าพี่เืเย็นหรอกนะ แต่พี่ห่วงว่าถ้าเห็นเธอในงาน แล้วจะตัดใจแต่งกับคนอื่นไม่ได้”
“ขอบัญชี QQ พี่หน่อย ผมขอมอบเหรียญให้เป็ของขวัญแต่งงาน” เสิ่นิยิ้มเจื่อนๆ
“ไปล่ะ พ่ออัศวิน ไม่ว่าต่อไปเธอจะพบกับปัญหาใด ขอแค่บอกพี่มา พี่จะช่วยเธออย่างแน่นอน ต่อให้ต้องเสี่ยงชีวิต พี่ก็จะช่วย” ซันนี่จับใบหน้าของเสิ่นิไว้ หญิงสาวจูบเขาพร้อมกับน้ำตาที่หางตา มันยังคงเป็จูบที่ไม่ธรรมดาตามมาตรฐาน ISO9000 แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอันแสนบริสุทธิ์
ร่องรอยของเหลวที่มุมปากและสีแดงสดบนปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา ซันนี่ผลักเสิ่นิออก เธอนั่งลงบนเบาะผู้โดยสารของรถ Ferrari คันนั้นโดยที่ไม่หันหน้ากลับมามอง
พ่อคุณชายที่ผงกหัวทักทายนี่ช่างใจกว้างเสียจริง ว่าที่คู่หมั้นจูบชายอื่นต่อหน้าต่อตาแท้ๆ เขาก็ยังยิ้มและพยักหน้าให้อย่างสุภาพ หลังจากที่ซันนี่ขึ้นรถไป เธอก็ไม่แลคนทั้งสองอีก เธอรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยในขณะที่เอนศีรษะไปอิงอยู่ในอ้อมอกคุณชาย
พอเห็นสีหน้าที่ทั้งใ ทั้งอาย และทั้งผ่อนคลายของคุณชาย เสิ่นิก็รู้ได้ในทันทีว่าซันนี่กำลัง “ทำงาน” อยู่แน่ๆ
ชีวิตก็เหมือนละคร มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้คุ้มภัยแค่่ระยะเวลาหนึ่งก็กลายเป็มิตรที่รู้ใจ นี่คือเป้าหมายของบริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่น และเป็กฎที่เสิ่นิต้องปฏิบัติตาม
“ไม่ต้องมองแล้ว พี่เขาไปแล้ว เช็ดน้ำลายที่มุมปากด้วยล่ะ” เซี่ยวอี๋ยื่นทิชชูให้เสิ่นิ “อันที่จริงแล้วพี่ซันนี่ก็น่ารักดีนะ ขนาดแม่ฉันเื่มากซะขนาดนั้นก็ยังบอกว่าชอบพี่ ไปกันเถอะ ฉันจะเลี้ยงข้าวนายเอง”
“ที่อ้าวกวนไห่?”
“ร้านหมาล่าในตรอกโบราณ 6 หยวนขาดตัว” เซี่ยวอี๋ยิ้มตาหยี
“นี่เลียนแบบมุกผมนี่ บ้าจริง” เสิ่นิกล่าวด้วยความอับอาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้