"สรรพชีวิตเป็หมาก ใต้หล้าเป็กระดาน? กล้าหาญนัก! น่าเสียใจยิ่ง ที่ไม่อาจเป็ประจักษ์พยาน ในฉากเมื่อแปดร้อยปีก่อน ที่ถังจู่พูดถึงได้!" กู่ไห่กล่าวอย่างเสียดาย
"โอ้! เสียดายหรือ? กู่ไห่ ข้าเฝ้าจับตามอง ั้แ่ตอนที่เตรียมแผนการต่อสู้ระหว่างแคว้นเฉินและแคว้นซ่งแล้ว คิดว่าเ้าต้องเป็ผู้เชี่ยวชาญด้านหมากล้อมเป็แน่ ข้าก็เรียนหมากล้อมมาระยะหนึ่งแล้ว เรามาประลองกันสักกระดานเป็อย่างไร?" หลงหว่านชิงเอ่ย พลางยิ้ม
"ประลองหมาก?" กู่ไห่พูด พร้อมขมวดคิ้ว
"ว่าอย่างไร? หรือเ้ากลัวจะชนะ? วางใจได้ ข้าไม่้าให้ผู้ใดมาอ่อนข้อ เพื่อให้ตัวเองชนะ หากเ้าชนะ ข้าจะตกรางวัลให้!" หญิงสาวกล่าวอย่างมั่นใจ
กู่ไห่กลับส่ายหน้า ยิ้มและกล่าวว่า "ลืมมันไปเถอะขอรับ ผู้น้อยไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีแล้ว"
“เอ๊ะ!” ทุกคนต่างประหลาดใจ แสดงสีหน้าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
ไม่ได้เล่นมาสามสิบปี? จะเป็ไปได้อย่างไร? แม้แต่หลงหว่านชิงยังขมวดคิ้ว ขณะมองกู่ไห่
"ถังจู่ ผู้น้อยหาได้โป้ปด ข้าไม่ได้เล่นหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีแล้วจริงๆ ขอรับ" กู่ไห่ย้ำ
หญิงสาวมองดูอีกฝ่าย ขมวดคิ้วและพยักหน้า เขาไม่มีความจำเป็ใดที่ต้องโกหกนาง
ไต้ซือหลิวเหนียนซึ่งอยู่ใกล้ๆ มองกู่ไห่ด้วยแววตาล้ำลึก
แต่ดวงตาของซ่งฉิงซูกลับสว่างวาบในบัดดล ลอบกระตุกยิ้มเย็น โดยไม่มีผู้ใดมองเห็น
“ถังจู่ ผู้าุโกวนฉีที่ท่านเพิ่งพูดถึง ว่าประลองหมากกับ์ น่าจะเป็ยอดฝีมือใช่หรือไม่ขอรับ?” กู่ไห่ถามอย่างสงสัย
"แน่นอน เขาเป็หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า โชคไม่ดีที่ท้ายสุดก็เสียชีวิต อี้เทียนเก๋อซึ่งเขาสร้างขึ้นในตอนนั้น ถือเป็สำนักระดับสูง บนโลกหล้าไม่มีผู้ใดหาญกล้าท้าทายอำนาจเขา
อี้เทียนเก๋อมีผู้เชี่ยวชาญมากมายดุจต้นไม้ในป่า สมบัติอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งยังมีต้นไม้นามว่า 'ต้นท้อร้อยปี' อยู่อีก
และที่สำคัญที่สุด ก็คืออาวุธวิเศษซึ่งแข็งแกร่งที่สุดของผู้าุโกวนฉี กระดานหมาก์!" หญิงสาวเอ่ยเสียงดัง
"โอ้! กระดานหมาก์?" กู่ไห่โพล่งถาม อย่างประหลาดใจ
"จากที่ข้าเคยได้ยินจากท่านตา กระดานหมาก์ดูไม่ต่างจากกระดานหมากธรรมดา ไม่โดดเด่นแม้แต่น้อย แต่กระดานหมากนี้เป็อาวุธวิเศษลำดับที่เก้า จากอาวุธวิเศษโบราณทั้งสิบหกชิ้น!"
“อาวุธวิเศษโบราณสิบหกชิ้น?” กู่ไห่กล่าวทวนซ้ำอีกครั้งด้วยความประหลาดใจ
"จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ในสมัยโบราณ มีอาวุธวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่สิบหกชิ้น บางชิ้นได้สูญหายไปในกระแสแห่งกาลอันยาวนาน ขณะที่บางส่วน ยังอยู่ในมือของใครบางคนบนโลกแห่งนี้
อาวุธวิเศษทั้งสิบหกชิ้นนั้น ยากที่จะบอกได้ว่าชิ้นใดอ่อนแอ ชิ้นใดแข็งแกร่ง กระนั้น ก็ยังถูกจัดเรียงตามลำดับความรุ่งโรจน์ในอดีต และกระดานหมาก์ ก็อยู่ในลำดับที่เก้า!" หลงหว่านชิงอธิบาย
"กระดานหมาก์? เกิดสิ่งใดขึ้นกับมัน หลังจากผู้าุโกวนฉีจากไปหรือขอรับ?" กู่ไห่ถาม
"ไม่มีผู้ใดทราบ! บางคนบอกว่า หลังจากผู้าุโกวนฉีเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของ์ กระดานหมาก์ก็ถูกทำลายไปเพราะความพิโรธของ์ บางคนก็บอกว่ามันไม่ได้ถูกทำลาย แต่อยู่ที่ใดสักแห่งบนโลกใบนี้
บางทีหลังจากรอมานานหลายปี อาจมีผู้โชคดีบางคนได้พบมันเข้า และสร้างตำนานบทใหม่ขึ้นมาอีกครั้งก็เป็ได้!" หญิงสาวกล่าวพลางส่ายหน้า
กู่ไห่พยักหน้า แต่ภายในใจกลับปรากฏคลื่นระลอกใหญ่ซัดโหม
ภายในช่องว่างมิติตรงหว่างคิ้วของกู่ไห่นั้น มีหมากดำเม็ดหนึ่งอยู่ มันลอยกลางอากาศ มองดูหมากหนึ่งแสนกระดาน ประหนึ่งจักรพรรดิเฝ้ามองโลกหล้า และเป็หมากดำตัวนี้นั่นเอง ที่นำกู่ไห่มายังโลกใบนี้
เมื่อมันสามารถพาเขามาที่นี่ได้ กู่ไห่ย่อมรู้ว่าหมากดำตัวนั้นไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า... มันจะเป็กระดานหมาก์กระมัง?
กู่ไห่ไม่ได้แสดงท่าทีผิดแปลกแม้แต่น้อย และไม่ได้ถามต่ออีก เพียงแค่ฟังอีกฝ่ายกล่าวต่อ
"ในการประลองกับ์ครานั้น ผู้าุโกวนฉีจบลงด้วยการพ่ายแพ้ ผลก็คือศิษย์ของอี้เทียนเก๋อแปดล้านคน เกือบถูกทำลายสิ้นจากโทสะแห่ง์ กระดานหมาก์ ก็ถูกลบหายไปจากโลก แต่ก่อนที่ผู้าุโกวนฉีจะจากไป ใน่สุดท้ายของการประลองนั้น เขาสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมา" หลงหว่านชิงพูดอย่างเคร่งขรึม
“สร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมา?”
"ใช่! และนั่นคือสถานที่ที่เราจะไปกัน ‘เกาะเทียนหยวน’ เดิมมันเคยเป็ที่ตั้งหลักของอี้เทียนเก๋อ ขณะที่สำนักกำลังจะพินาศ ผู้าุโกวนฉีได้ใช้กลหมากพันเกาะนี้ สร้างพื้นที่เล็กๆ ขึ้นมา เรียกว่า ‘ดินแดนแรกสาบสูญ’ ซึ่งจะเปิดออกทุกๆ สองร้อยปี
สมบัติมากมายของอี้เทียนเก๋อถูกย้ายไปไว้ที่นั่น รวมถึง 'ต้นท้อร้อยปี' มันถูกเตรียมเอาไว้ เพื่อช่วยชีวิตศิษย์แห่งอี้เทียนเก๋อ แต่น่าเสียดายที่สายเกินไป มีศิษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถหนีเข้าไปที่นั่นสำเร็จ ส่วนที่เหลือนั้น ได้ตกตายภายใต้ความพิโรธของ์!" หญิงสาวเล่า
"ดินแดนแรกสาบสูญ? เปิดทุกๆ สองร้อยปี?" กู่ไห่กล่าวพร้อมขมวดคิ้ว
"ดินแดนแรกสาบสูญ คือมิติที่ถูกทิ้งไว้ หลังจากผู้าุโกวนฉีประลองกับ์ ภายในปกคลุมด้วยพลังหมากของผู้าุโกวนฉี และพลัง์ ช่างผยองนัก
แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้ที่จะเข้าไปที่นั่น ต้องอยู่ในระดับก่อ์เท่านั้น หรือไม่ก็ต้องลดขั้นพลัง ให้อยู่ในระดับก่อ์ มิฉะนั้น หากคลื่นพลังที่แผ่ออกมา เกินระดับก่อ์แล้วละก็ คนผู้นั้นจะติดอยู่ในมิติแห่งนั้น! ไม่อาจออกมาได้!” หลงหว่านชิงกล่าวเสียงเข้ม
“ระดับก่อ์?” ดวงตาของกู่ไห่สว่างวาบ
“เมื่อมันเปิดทุกๆ สองร้อยปี ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ย่อมหลั่งไหลเข้าไปไม่ขาดสาย เพื่อชิงสมบัติที่เคยเป็ของอี้เทียนเก๋อ ซึ่งสิ่งของเ่าั้ก็ค่อยๆ ถูกปล้นไป โดยผู้ฝึกตนจากทั่วสารทิศ แต่อย่างไรก็ตามสมบัติที่มีค่าที่สุดหลายชิ้น ก็ยังคงอยู่ในมิติแห่งนั้น รวมถึงต้นท้อร้อยปีด้วย” หญิงสาวอธิบาย
“นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่ดินแดนนั้นเปิดออก จะมีผู้ทรงอำนาจนับไม่ถ้วน เดินทางไปที่นั่นหรือขอรับ?” เกาเซียนจือถาม พร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“ไม่… ไม่จำเป็! เพราะไม่ว่าใครจะเข้าไป พลังฝึกปรือก็จะถูกลดเหลือแค่ระดับก่อ์เท่านั้น แม้ว่าจะมีพลังเพียงใด หากเข้าไปในนั้น ก็เหมือนถูกพันธนาการไว้
ผู้มีพลังสูงส่งทั้งหลาย จึงไม่เต็มใจที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง อย่างเช่น หัวหน้าสำนักชิงเหอและหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย ซึ่งต่างก็อยู่ในขั้นหยวนอิง
เหตุใดพวกเขาจึงต้องลดพลังให้อยู่แค่ระดับก่อ์ แล้วไปต่อสู้แลกชีวิตกับพวกมดปลวกก่อ์กลุ่มหนึ่งด้วย หากชนะก็ถือเป็เื่ดี แต่ถ้าหากพลาดท่าตายไปล่ะ?" หลงหว่านชิงกล่าวพร้อมยิ้ม
"อ่อ!" เกาเซียนจือเลิกคิ้ว พร้อมทั้งพยักหน้าเป็เชิงเห็นด้วย
"นอกจากนี้ ดินแดนแรกสาบสูญ ยังมีชาวพื้นเมืองซึ่งเคยเป็ศิษย์อี้เทียนเก๋ออยู่ด้วย พวกเขาถูกคนนอกเข้าไปปล้นสมบัตินับครั้งไม่ถ้วน ย่อมต้องเกลียดชังคนนอกเป็ธรรมดา จึงมักล้อมสังหารคนที่เข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประตูมิติปิดลง
และ่สองร้อยปีนับจากนั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นในนั้นบ้าง หากออกมาจากช่องว่างมิติไม่ทันเวลา มันผู้นั้นล้วนตายสิ้น!" หญิงสาวอธิบาย
กู่ไห่เลิกคิ้ว พลางถาม “ถังจู่จะเข้าไปด้วยเช่นนั้นหรือขอรับ?”
"ใช่!" หลงหว่านชิงตอบ พร้อมถอนหายใจ
"เพื่อต้นท้อร้อยปีหรือขอรับ?" กู่ไห่ถามอย่างสงสัย
หญิงสาวส่ายหน้า และตอบว่า " ข้า้าค้นหาคนผู้หนึ่ง! เขาเป็พลเมืองที่นั่น!"
"โอ้! ไม่ทราบว่าผู้น้อยจะขอทราบได้หรือไม่ ว่าเป็ผู้ใด?" กู่ไห่ถามด้วยความอยากรู้
"เมื่อยี่สิบปีก่อน ท่านแม่ของข้าได้จากไป ข้าสืบหามายี่สิบปี แต่ก็ยังไม่พบตัวฆาตกร ชายผู้นั้นมีความสามารถพิเศษบางอย่าง ข้า้าให้เขาช่วยตามหาฆาตกร ที่สังหารท่านแม่" หลงหว่านชิงตอบหน้าเครียด
ไต้ซือหลิวเหนียนซึ่งอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ั์ตาปรากฏแววเ็ปวูบไหว
“ชาวพื้นเมือง? เขารู้จักท่านแม่ของถังจู่หรือขอรับ?” สีหน้ากู่ไห่เปลี่ยนไปทันที
"ข้าได้ยินมาว่า ท่านแม่ของข้าเคยคบหากับเขาเมื่อแปดร้อยปีก่อน ตอนนั้นอี้เทียนเก๋อยังไม่ถูกทำลาย และเขาก็อยู่ในนั้นมาแปดร้อยปีแล้ว
หากครานี้ไม่เข้าไป ก็ไม่อาจเจอตัว หวังว่าเขาจะสามารถช่วยข้า ตามหาฆาตกรที่สังหารท่านแม่ได้" หญิงสาวตอบ สีหน้าเย็นเยียบ
"เขามีนามว่าอย่างไร?" กู่ไห่ถาม
“เว่ยเซิงเหริน!” หลงหว่านชิงตอบ
“เว่ยเซิงเหริน[1]?” กู่ไห่พูดตาม ด้วยความแปลกใจกับนามประหลาดที่ได้ยิน
หญิงสาวพยักหน้า ทอดมองไปไกล ภายในดวงตาปรากฏความแน่วแน่
....
สามวันให้หลัง ภายในห้องโถงใหญ่บนเรือเหาะไป๋อวิ๋น
กู่ไห่นั่งขัดสมาธิ ตรงหน้าเขาคือม้วนไม้ไผ่เคล็ดวิชาัแรก์ เห็นได้ชัดว่ากำลังฝึกวิชาอยู่
โฮก!
ภายในตันเถียนของกู่ไห่ เกิดเสียงัคำรามก้อง เมื่อใดก็ตามที่ฝึกเคล็ดวิชาัแรก์นี้ มวลพลังชี่แท้ก้อนใหญ่ จะเปลี่ยนไป กลายเป็รูปร่างคล้ายั แล้วหมุนวนไปรอบๆ ก้อนพลังหยวน และบีบพลังชี่แท้ส่วนที่เหลือ ให้ค่อยๆ หลอมรวมเข้ากับกลุ่มก้อนพลังหยวน โดยมันจะเร่งให้พลังเ่าั้หลอมรวมเข้ากับพลังหยวน ทำให้ก้อนพลังหยวนขยายใหญ่ขึ้น
"ลักษณ์ั!" กู่ไห่ยื่นสองมือออกไป
โฮก!
พลังชี่ปรากฏขึ้นรอบๆ ตัว และทันใดนั้น ก็กลายเป็หมอกรูปร่างคล้ายัสีม่วง ขณะเดียวกัน พลังชี่ที่อยู่บนมือเขา ก็มีรูปร่างเหมือนกรงเล็บั และมีไอพิฆาตกำจายออกมา
"เคล็ดวิชาัแรก์หรือ? ไม่เพียงแต่ทำให้ข้าดูดซับพลังฟ้าดินได้เร็วขึ้นหลายเท่า พลังการโจมตี ยังแฝงด้วยกลิ่นอายัอันร้ายกาจ เป็วิชาที่ยอดเยี่ยมยิ่ง!” กู่ไห่มองพลังชี่ในมือ ด้วยความชื่นชม
ฟึ่บ!
กู่ไห่ค่อยๆ หยุดรวบรวมพลัง ในขณะที่พลังชี่ถูกดึงกลับไปยังจุดตันเถียน พลังชี่รูปัหมุนวนรอบพลังหยวนของเขา ช่วยพลังหยวนทำการเปลี่ยนพลังชี่ที่อยู่รายรอบ
จากนั้นจึงค่อยลุกขึ้น และเดินไปที่ประตู
แอ๊ด!
เขาเปิดประตูบานใหญ่ออก
ที่ด้านนอกนั้น มีเกาเซียนจือรออยู่ ทันใดนั้น เขาก็โค้งคำนับ "ขอบคุณท่านหัวหน้าสังกัดมากขอรับ"
“เลื่อนขั้นพลังได้แล้วหรือ?” กู่ไห่มองอีกฝ่าย พลางถามด้วยรอยยิ้ม
"ขอรับ! ขอบคุณท่านหัวหน้ามากขอรับ ที่ให้ผู้าุโเฉินเทียนซานช่วยเสริมพลัง ทำให้ผู้น้อยบรรลุระดับก่อ์ ใช้พลังชี่ไปไม่มากนัก เสียดายก็แต่หินิญญาระดับสูงของท่านก้อนนั้น!" เกาเซียนจือกล่าวพร้อมยิ้มขื่น
"มันก็เป็แค่หินก้อนหนึ่งเท่านั้น ไว้เ้าค่อยมาตอบแทนข้าในภายหลังเป็อย่างไร? มีหินิญญานั่น เฉินเทียนซานถึงยอมช่วยเ้าอย่างเต็มกำลัง!" กู่ไห่พูดยิ้มๆ
"ขอบคุณท่านหัวหน้ามากขอรับ" เกาเซียนจือกล่าว พลางโค้งคำนับ
“ไม่ต้องขอบคุณอันใดหรอก ใกล้จะถึงดินแดนแรกสาบสูญแล้ว เ้าสามารถบรรลุระดับก่อ์ได้ ถึงเวลาคงช่วยข้าได้มาก
เคล็ดวิชาัแรก์นี้ เ้าจำไว้ให้แม่น มันจะทำให้การฝึกของเ้าก้าวหน้าเร็วขึ้น!” กู่ไห่หยิบม้วนไม้ไผ่ออกมา และยื่นส่งให้
"เคล็ดวิชาัแรก์? ข้า... ข้าเคยได้ยินผู้าุโเฉินเทียนซานเล่าว่า นี่เป็เคล็ดวิชาของถังจู่แห่งหออี้ผิน เป็วิชาที่ถังจู่ใช้ฝึก และก็มอบมันให้ท่านหัวหน้า มีแต่ท่านเท่านั้นที่มีสิทธิ์ฝึกวิชานี้มิใช่หรือขอรับ?” เกาเซียนจือเอ่ยถาม สีหน้าเปลี่ยนไป
"ไม่เป็ไร เคล็ดวิชานี้ มันก็แค่วิชาระดับก่อ์ ฝึกพื้นฐานให้มั่นคง เพื่อที่ในภายภาคหน้า เ้าจะได้ไม่มาถ่วงแข้งถ่วงขาข้า” กู่ไห่ตอบยิ้มๆ
"ขอรับ! ขอบคุณท่านหัวหน้ามากขอรับ ข้าจะทำเต็มความสามารถ และไม่ทำให้ท่านผิดหวัง" เกาเซียนจือกล่าว สีหน้าจริงจัง
เมื่อมอบม้วนไม้ไผ่ให้แล้ว กู่ไห่ก็ตบไหล่อีกฝ่าย และเดินไปที่หัวเรือด้วยรอยยิ้ม ซึ่งที่นั่นมีหลงหว่านชิง และไต้ซือหลิวเหนียนยืนอยู่
ดวงตาของเกาเซียนจือ ยากจะแยกออกว่าสุขหรือเศร้า ขณะมองตามหลังกู่ไห่ เขาเป็คนฉลาด ย่อมรู้ดี ว่าที่อีกฝ่ายมอบหินิญญาระดับสูง และเคล็ดวิชาที่ดีที่สุดนี้ให้ตน ก็เพื่อซื้อใจ
หากเป็คนอื่น แม้แต่หลงหว่านชิงก็ตาม ที่คิดจะซื้อใจเขา ด้วยความเย่อหยิ่งของเกาเซียนจือ คงจะหาทางรอมชอม และสวามิภักดิ์เพียงชั่วคราว เพื่อหาหนทางที่เหมาะสม ไม่ต้องหักหาญน้ำใจกัน
แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือกู่ไห่ เขาจึงวุ่นวายใจครู่หนึ่ง
หลังนิ่งไปสักพัก เกาเซียนจือก็ถอนหายใจ เก็บเคล็ดวิชานั้นไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะโค้งคำนับเื้ักู่ไห่
-----------------------------------
[1] เว่ยเซิงเหริน: เว่ยคือแซ่ ส่วนเซิงเหริน แปลว่า คนแปลกหน้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้