ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “สาวน้อย หวางหมาจื่อกับพวกถูกจับแล้ว ของที่ขโมยไปก็ได้กลับคืนมาเกือบหมด”

        เซี่ยโม่ยิ้มดีใจเมื่อได้ยินข่าวดี คุณลุงตำรวจเก่งจริงๆ

        “คุณลุงตำรวจคะ แล้วพวกเขาถูกตัดสินจำคุกกี่ปีคะ” เธอถามต่อ

        “เ๹ื่๪๫นี้ยังต้องรออีกสามสี่วัน ตอนนี้เธอบอกมาก่อนว่าที่บ้านถูกขโมยอะไรไปบ้าง พวกเราจะได้ตรวจสอบและส่งคืนให้ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ให้คนที่บ้านมาบอกก็ได้”

        เธอจำได้แม่นว่าบ้านคุณตาคุณยายมีของอะไรบ้าง เธอครุ่นคิดอยู่ครู่ก่อนจะแจกแจงออกไป

        ตำรวจผู้ทำหน้าที่จดบันทึกมีสีหน้าอึ้งเหมือนเจอสิ่งเหลือเชื่อ เด็กคนนี้ต้องเป็๞คนคอยดูแลบ้านเป็๞แน่ ผ้าหายไปกี่ผืน ผืนละกี่ฟุต มีสีอะไรบ้าง บอกได้ละเอียดมาก

        พวกข้าวสารและธัญพืชที่ถูกขโมยไป ถูกขโมยไปกี่กิโลกรัม มีอะไรบ้าง แม้แต่สีของรอยปะบนถุงว่าเป็๲สีอะไรก็ยังบอกได้

        เนื้อแดดเดียวชิ้นเล็กหรือใหญ่ เงินหายไปจำนวนเท่าไร เด็กสาวสามารถบอกได้อย่างชัดเจนและละเอียดยิบ

        เงินพวกนั้นเซี่ยโม่เป็๲คนให้คุณยายเก็บเอาไว้ เพราะกลัวว่าหากมีเ๱ื่๵๹ต้องใช้เงินแล้วจะไม่มีติดตัว พอรู้ว่าเงินหายไป คุณยายร้อนใจจนโรคหัวใจกำเริบ ทั้งที่คนเป็๲โรคหัวใจไม่ควรมีอะไรมากระทบกระเทือน

        หลังจากจดบันทึกเสร็จ ตำรวจกล่าวว่า “เงินกับเนื้อไม่มีแล้ว แต่ผ้ากับพวกข้าวสารและธัญพืชยังมีอยู่ อีกเดี๋ยวเธอสามารถเอากลับไปได้เลย”

        เธอเอ่ยถาม “คุณลุงตำรวจ เมื่อไรโทษของพวกเขาจะถูกตัดสินออกมาคะ”

        “ต้องรอก่อน กำลังอยู่ในกระบวนการ” ตำรวจตอบอย่างขอไปที

        เธอทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออกก่อนจะกล่าวว่า “คุณลุงตำรวจ เมื่อเช้าฉันกับน้องสาวของหวางลี่ลี่มีเ๱ื่๵๹กันที่โรงพยาบาล แล้วเขาก็ส่งผู้ชายกลุ่มหนึ่งมาตามไล่ฆ่าฉันระหว่างทางที่มาสถานีตำรวจค่ะ”

        ตำรวจขมวดคิ้ว “เ๹ื่๪๫จริงเหรอ!”

        เธอเล่าต่อ “ผู้ชายกลุ่มนั้นมีทั้งหมดสี่คน ตอนเช้าพวกเขาก็เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยจะทำร้ายฉันทีหนึ่งแล้ว แต่พวกพยาบาลขวางเอาไว้ได้ ต่อมาพวกเขาก็มาดักรอฉันระหว่างทางที่จะเดินมาสถานีตำรวจ โชคดีที่เจอกระบองบนพื้น เลยหยิบขึ้นมาขู่ให้พวกนั้นกลัว แล้วฉันก็วิ่งหนีมาค่ะ”

        เซี่ยโม่กลัวว่าตอนที่ตำรวจไปตรวจสอบเ๹ื่๪๫นี้ พวกผู้ชายพวกนั้นจะพูดโกหก เธอเลยเล่าเ๹ื่๪๫กระบองให้ฟังด้วย

        ที่เล่าไปมีทั้งจริงไม่จริงผสมปนเปกัน พอถึงตอนที่ตำรวจไปตรวจสอบ ไม่ว่าผู้ชายกลุ่มนั้นจะพูดอะไร ตำรวจก็จะไม่มีทางเชื่อ

        เธอเล่าต่อ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าพวกเขาอยากจะฆ่าหรือทำร้ายฉัน แต่ผู้ชายสี่คนนั้นที่ไล่ตามมาทั้งตัวใหญ่ หน้าตาก็น่ากลัว ตอนนั้นฉันกลัวมาก”

        ตำรวจพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมดุดัน “พวกเราเป็๲ตำรวจย่อมมีหน้าที่ปกป้องประชาชน ในเมื่อเ๱ื่๵๹นี้เกี่ยวข้องกับหวางลี่ลี่ เช่นนั้นก็น่าจะเป็๲การแก้แค้น เดี๋ยวฉันจะพาตำรวจสองนายไปตรวจสอบเ๱ื่๵๹นี้ หากเป็๲เ๱ื่๵๹จริงฉันก็จะจัดการดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าเธอโกหก เธอจะถูกตั้งข้อหาแจ้งความเท็จ”

        “คุณลุงตำรวจ น้องของฉันยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ของในบ้านก็ถูกขโมย พวกเราต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวทุกวัน ฉันไม่กล้าพูดโกหกหรอกค่ะ”

        “ก็ดี งั้นเธอกลับไปก่อน อีกเดี๋ยวฉันค่อยพาตำรวจไปตรวจสอบเ๱ื่๵๹นี้ที่โรงพยาบาล”

        เธอเอ่ยต่ออีกประโยค “น้องสาวของหวางลี่ลี่ชื่อหวางเมิ่งเมิ่ง อยู่ห้องพักผู้ป่วยหมายเลขห้า แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอดูแลใครอยู่”

        ตำรวจจดข้อมูลเมื่อครู่ลงกระดาษ

        หลังจากเธอรับผ้า ข้าวสาร และพวกธัญพืชแล้วก็ออกจากสถานีตำรวจ

        เดินมาถึงจุดปลอดคน ค่อยเอาของทั้งหมดใส่ในโกดังสินค้า

        เซี่ยโม่ทำหน้าขบคิด อย่างไรก็ยังรู้สึกไม่วางใจ เธอเลยกลับเข้าไปในสถานีตำรวจอีกครั้ง เดินไปที่ฝ่ายทะเบียนเพื่อหาแฟนคลับคนนั้น

        แต่ปรากฏว่าคุณป้าคนนั้นไม่อยู่ เธอเลยต้องกลับออกไปพร้อมความผิดหวัง

        ตอนนี้เป็๞เวลาเที่ยง ป่านนี้น้องชายน่าจะกำลังรอกินหมูน้ำแดงจากเธออยู่

        เธอหยิบถุงผ้าออกมาจากในโกดังสินค้า รวมถึงกล่องอาหารสามกล่อง ก่อนจะเดินไปที่ร้านอาหารของรัฐ

        ภายในร้านมีคนไม่น้อย รออยู่นานในที่สุดเซี่ยโม่ก็ได้หมูน้ำแดงมา และยังมีผัดตับกับข้าวสวยด้วย

        ในห้องพักยังมีซาลาเปาไส้เนื้อที่อาจารย์ซื้อมาเหลืออยู่สามสี่ลูก เธอคิดว่าเท่านี้ก็น่าจะพอเป็๲มื้อเที่ยง

        เธอถือถุงผ้าใส่กล่องอาหารเดินกลับไปที่โรงพยาบาล

        น้องชายให้น้ำเกลือหมดขวดแล้ว โดยมีคุณปู่จ้าวยังคงนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง

        “อาจารย์คะ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ มีคนมาบ้างมั้ยคะ”

        ชายชราส่ายหน้า “ไม่มี เงียบสงบตลอด”

        “ฉันซื้ออาหารจากร้านอาหารของรัฐมา พวกเรากินข้าวกันเถอะค่ะ”

        พอเซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยได้ยินว่าเป็๲อาหารจากร้านอาหารของรัฐ สองตาพลันเป็๲ประกาย “พี่ครับ มีหมูน้ำแดงด้วยใช่ไหม”

        “แน่นอนอยู่แล้ว”

        “ดีจังเลย!” เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี

        “แต่ก่อนหน้านี้เราเพิ่งจะกินซาลาเปาไส้เนื้อเข้าไปสองลูก ตอนนี้ยังจะกินหมูน้ำแดงลงอีกเหรอ” คุณปู่จ้าวถามขึ้นมา

        เฉินเฟิงยืดอกพลางตอบ “กินลงแน่นอนครับ ขนาดซาลาเปาไส้เนื้อยังอร่อย หมูน้ำแดงต้องอร่อยมากแน่ๆ”

        เซี่ยโม่เปิดกล่องอาหารพร้อมกับพูดกำชับ “เฉินเฟิง เราจะกินเยอะไม่ได้นะ ถ้ากินเยอะจะไม่สบายท้องเอา”

        “พี่วางใจเถอะครับ ผมอายุเท่าไรแล้ว เ๱ื่๵๹นี้มีเหรอจะไม่รู้”

        ทั้งสามคนนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน หลังจากกินเสร็จ เฉินเฟิงเอามือลูบพุงที่ยื่นออกมาหน่อยๆ พร้อมกับพูดว่า “พี่ครับ ดูเหมือนผมจะกินเยอะเกินไป”

        เธอ๻๠ใ๽ หัวใจและปอดของน้องชายยังไม่แข็งแรง หากมีปัญหาที่ลำไส้อีกต้องแย่แน่ๆ

        คุณปู่ผู้มีประสบการณ์ในด้านการรักษาเอ่ยขึ้นมาว่า “ไม่เป็๞ไร ไปซื้อเม็ดซานจา[1]ที่ห้องยาของโรงพยาบาลมาก็ได้แล้ว”

        “ฉันจะไปซื้อเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” เอ่ยจบเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องพัก ไม่นานก็กลับมาพร้อมเม็ดซานจา เธอแกะห่อแล้วป้อนใส่ปากน้องชายหนึ่งเม็ด

        “เฉินเฟิง ต่อไปห้ามกินเยอะแบบนี้อีกนะ พรุ่งนี้พี่ให้เราเลือกได้แค่อย่างเดียวว่าจะกินซาลาเปาไส้เนื้อหรือหมูน้ำแดง” ไม่วายกำชับด้วยความเป็๞ห่วง

        เด็กชายตัวน้อยรับคำหน้าเศร้า “ครับ”

        ต่อมาไม่นานเด็กชายเอามือปิดปากหาว ก่อนจะผล็อยหลับไป

        คุณปู่จ้าวนึกถึงเ๱ื่๵๹สถานีตำรวจขึ้นมาได้ จึงส่งสัญญาณผ่านสายตาให้เซี่ยโม่ จากนั้นทั้งคู่ก็ออกไปคุยกันตรงทางเดินหน้าห้อง

        “อาจารย์ หวางหมาจื่อกับพวกถูกจับแล้วค่ะ ของก็ได้คืนกลับมาแล้ว มีแค่เนื้อแดดเดียวกับเงินเท่านั้นที่ไม่ได้คืนกลับมา”

        “แล้วพวกนั้นจะถูกตัดสินโทษเมื่อไร”

        “ตำรวจบอกว่ากำลังอยู่ในกระบวนการ ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”

        “งั้นคงทำได้แค่รอ”

        เซี่ยโม่เองก็เครียดกับเ๹ื่๪๫นี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน

        เธอกลัวว่าจะเป็๲แบบครั้งก่อน ที่ถูกจับไปแค่ไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมา

        หากเป็๞แบบนั้นอีก คนแก่และเด็กที่อยู่ในบ้านจะทำอย่างไร

        ขณะที่เธอกำลังเครียดอยู่นั้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาเหมือนพวกอันธพาล สวมชุดเครื่องแบบของสถานีรถไฟเดินอย่างเร่งรีบมาตามทางเดิน

        ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมา เธอหันไปมอง ก่อนที่ตาจะเบิกโตอย่างประหลาดใจ

        “พี่ซ่ง มาได้ยังไงคะ”

        พอซ่งมู่ไป๋เห็นเด็กสาว ใบหน้าดุดันพลันเปลี่ยนเป็๞อ่อนโยน

        เซี่ยโม่พบว่าหน้าผากของชายหนุ่มมีเหงื่อผุดซึม คงเป็๲เพราะรีบมาที่นี่

        ชายหนุ่มล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนจะถามอย่างร้อนใจ “โม่โม่ น้องชายเธอเป็๞ยังไงบ้าง”

        เธอทำหน้าสงสัย “พี่รู้เ๱ื่๵๹น้องชายฉันได้ยังไงคะ อย่าบอกนะคะว่าพี่ตั้งใจมาเยี่ยมเขา”

        ใจจริงซ่งมู่ไป๋อยากบอกออกไปเหลือเกินว่า ฉันตั้งใจมาหาเธอต่างหาก แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดออกไปจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด

        เขาไม่กล้าพูด ทำได้แค่มองแววตาสุกสกาวระยิบระยับดุจดวงดาวของเด็กสาว

        เซี่ยโม่รู้สึกซาบซึ้งเหลือเกิน ชายหนุ่มตรงหน้าไม่เพียงเคยช่วยชีวิตน้องชายของเธอเอาไว้ ตอนนี้พอได้ข่าวว่าน้องชายเธอถูกทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลยังรีบมาเยี่ยมอีก

        เธอต้องบอกน้องชายว่าให้จดจำบุญคุณของพี่ซ่งเอาไว้ให้ดี

        เวลานี้เอง ซ่งมู่ไป๋ถึงค่อยหันไปเห็นเหล่าจ้าว เอ่ยทักทายอีกฝ่ายอย่างอ่อนน้อม จากนั้นจึงอธิบายต่อ “ฉันไปหาคุณป้ามา คุณป้าเล่าเ๹ื่๪๫ที่บ้านเธอเกิดเ๹ื่๪๫ให้ฟัง หลังจากฉันไปเยี่ยมคุณตาคุณยายก็รีบมาที่นี่ทันที”

        “คุณยายเป็๲ยังไงบ้างคะ” เด็กสาวเอ่ยถาม

        เขานิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “คุณยายไม่เป็๞อะไร เพียงแค่สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไร ทำไมเหรอ”

        เซี่ยโม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูท่ายาโรคหัวใจที่เธอให้คุณยายกินจะได้ผลไม่น้อย

        “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่ถามเพราะเป็๞ห่วงเท่านั้น”

        ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน จู่ๆ เธอทั้งรู้สึกโกรธและน้อยเนื้อต่ำใจ เลยเล่าเ๱ื่๵๹ที่เกิดขึ้นในสองวันมานี้ให้ชายหนุ่มตรงหน้าฟัง

        ---------------------------

        [1] ซานจา เป็๲ผลไม้ขนาดเล็ก มีรสเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้