หลินเมิ้งหยาและป๋ายจื่อกลับไปยังตำหนัก จุดเทียนเพิ่มแสงสว่างก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้แล้วอ่านหนังสือเงียบๆ
ป๋ายจื่ออดไม่ได้ที่กวาดสายตามองออกไปรอบๆก่อนจะพบใบหน้าโกรธเกรี้ยวของป๋ายซ่าวและใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของป๋ายจี
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ใครใจร้ายใจดำทำร้ายนายน้อยอวี้ได้ลงคอกัน?”
ป๋ายจื่อรีบเข้าไปเขย่าแขนของป๋ายจีเพราะความร้อนใจทว่าคำตอบกลับหยุดยั้งการกระทำทั้งหมด
“นายหญิง ที่นายน้อยอวี้ทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องนายหญิงเ้าค่ะ”
เพียงประโยคเดียว ป๋ายซ่าวที่กำลังโกรธเกรี้ยวหันกลับมา
“เป็เพราะคุณหนูเจียงหรูฉินผู้นั้นผู้เดียวทั้งที่มาอยู่ที่นี่เพราะบารมีของป้าตนเอง แต่กลับว่าร้ายนายหญิงอย่างหน้าไม่อายนายน้อยอวี้โกรธจนทนไม่ไหว เขาสวนกลับนางไปเพียงสองประโยคแต่กลับถูกสาวใช้ของนางใช้หวายตีอย่างแรง หากไม่ใช่เพราะซุนผอผอเสี่ยงชีวิตปกป้องนายน้อยอวี้เกรงว่าป่านนี้คงจะาเ็ปางตายไปแล้วเ้าค่ะ”
การกระทำของสาวใช้ทั้งสามตกอยู่ภายในสายตาของหลินเมิ้งหยา นับั้แ่ตอนที่พวกนางก้าวเท้าเข้าประตูตำหนักมาแล้ว
แม้นางจะเข้มงวดกับคนรับใช้มากเป็พิเศษแต่นางแยกผิดแยกถูกอย่างชัดเจน แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยลงโทษเอาผิดใครง่ายๆคนรับใช้ที่คอยรับใช้นางจึงไม่ได้ถูกแบ่งชนชั้นว่าสูงหรือต่ำกว่ากัน
เกรงว่าต้าจิ้นจะมีนายหญิงเช่นนางอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ดังนั้นพวกเขาจึงปกป้องดูแลรับใช้นายหญิงของตัวเองเป็อย่างดี
แต่นายน้อยอวี้กลับถูกเฆี่ยนตีเพียงเพราะเื่นี้
สาวใช้ทั้งสามล้วนเป็เสมือนมิตรสหายของหลินจงอวี้ดังนั้นพวกนางจึงรู้สึกประหนึ่งมีศัตรูคนเดียวกัน
หลินเมิ้งหยาจะไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกนางได้อย่างไรการที่เสี่ยวอวี้ได้รับาเ็ นางเองก็รู้สึกเ็ปใจไม่แพ้กัน
ร่องรอยของความเ็าถูกวาดขึ้นในดวงตาของหลินเมิ้งหยาใบหน้านวลเรียวเล็กรูปไข่เผยให้เห็นความโกรธเกรี้ยว
“บังอาจนัก กล้าลงมือทำร้ายคนในจวนของข้า ป๋ายซ่าวเ้าจงไปแจ้งแก่พ่อบ้านเติ้งว่าพรุ่งนี้เช้าให้ไปลากตัวพวกคนที่ทำร้ายเสี่ยวอวี้มาที่สวนหลิวซินของข้า”
ใบหน้าเรียวเล็กเปิดเผยความเ็าเจียงหรู๋ฉินร่ำร้องขออยู่ในจวนแห่งนี้อย่างหน้าไม่อายยังไม่เท่าไรแต่นี่นางกล้าถึงขั้นทำร้ายคนของนางเชียวหรือ!
แม้จะเพราะหลินเมิ้งหวู่สาดน้ำมันเข้าไปในกองเพลิงด้วยก็ตามแต่ถึงกระนั้นนางจะจดจำความแค้นนี้เอาไว้ก่อน
เมื่อถึงเวลานั้นนางจะคิดบัญชีทั้งใหม่และเก่าพร้อมกันทีเดียว!
หลงเทียนอวี้อยู่ภายในห้องอ่านหนังสือ พ่อบ้านเติ้งและหลินขุยยืนอยู่ภายในไม่ขยับเขยื้อน
สีหน้าเคร่งขรึม ั์ตาลุ่มลึกเกินคาดเดาแววตาเผยเปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวเลื่อนสายตาก้มลงมองซุปบำรุงร่างกายสองถ้วยบนโต๊ะ
ถ้วยสีฟ้าคราม หน้าตาคล้ายกันไม่มีผิดแม้แต่น้ำซุปสีเหลืองขุ่นในถ้วยก็เหมือนกัน
ทว่า สิ่งที่ใครต่อใครเรียกว่ายาบำรุงนี้ในสายตาของเขาไม่ต่างอะไรจากยาพิษเลยแม้แต่น้อย
เขากินอาหารทะเลไม่ได้ั้แ่เด็กแล้ว
เมื่อกินเข้าไปคอจะบวมแดงหากมิใช่เพราะกินยาแก้แพ้ของหมอหลวงได้ทันเวลา บางทีเขาอาจจะตายไปนานแล้ว
คนในจวนทั้งหมดต่างรู้ดีทว่าหญิงสาวทั้งสองที่พยายามชิงดีชิงเด่นกันกลับหาได้รู้ไม่
“เอาไปทิ้ง”
น้ำเสียงเ็าเจือไว้ซึ่งความเกลียดชัง
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือผู้หญิงที่พยายามจะปีนป่ายข้ามหัวขึ้นไปผงาดโดยใช้สารพัดวิธีมาหลอกล่อตนเอง
แม้เขาจะรู้ดีว่าไม่อาจหาความจริงใจจากคนในราชวงศ์ได้ก็ตาม
“ท่านอ๋อง พระชายาขอเข้าเฝ้า”
ด้านนอก เสียงเคารพนับถือของทหารองครักษ์ดังขึ้นไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใด อยู่ๆ ความคาดหวังพลันบังเกิดในใจของหลงเทียนอวี้
“เชิญนางเข้ามา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านเติ้งและหลินขุยล้วนเป็คนสนิทของหลงเทียนอวี้
เกรงว่าในจวนแห่งนี้นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีคนที่หลงเทียนอวี้เชื่อใจอีก
แต่พระชายาที่มีอุปนิสัยแปลกประหลาดนั้นต่างกันออกไป ไม่เพียงแค่นางเป็หญิงแต่นางยังได้รับความเชื่อใจจากท่านอ๋อง
อีกทั้งนางยังทำลายกฎเกณฑ์ที่เคยมีมาในจวนอย่างมากมาย หรือว่า...
หันหน้าสบตากัน ก่อนที่ั์ตาจะเผยความรู้ความเข้าใจของอีกฝ่ายให้เห็น
ผู้หญิงที่ท่านอ๋องไว้เนื้อเชื่อใจคาดว่าในอนาคตจะต้องมีความสำคัญเป็อย่างมาก!
เมื่อนึกถึงความเ้าคิดเ้าแค้นของพระชายาขึ้นมาเกรงว่านางจะเป็หมากที่ดีที่สุดในการรับมือกับคนในวัง
“ท่านอ๋องยังไม่ได้เสวยหรือเพคะ?”
หลินเมิ้งหยาสวมใส่ชุดสีขาวภายใต้ท้องฟ้าสีดำมืดเวลานี้นางช่างดูใสซื่อไร้เดียงสา
เส้นผมสีดำขลับถูกปล่อยไว้ทางด้านหลังใช้เพียงริบบิ้นสีเดียวกันผูกเอาไว้หลวมๆ ไร้ซึ่งความเย่อหยิ่งแต่กลับดูอ่อนโยนดั่งสายน้ำ
ราวกับว่าหลงเทียนอวี้รู้ก่อนแล้วว่านางจะมาเขาจึงไร้ซึ่งท่าทีประหลาดใจพยักหน้าลงและนั่งบนเก้าอี้ของตนเองเพื่ออ่านกลยุทธ์ทางการทหาร
“นี่เป็ซุปเห็ดหูหนูที่หม่อมฉันสั่งให้พ่อครัวทำมาให้เหมาะที่สุดสำหรับการเสวยมื้อดึก ท่านอ๋องลองชิมดูสักหน่อยดีมั้ยเพคะ?”
ส่งอาหารมื้อดึกมาให้เหมือนกัน แม้จะเป็เพียงซุปเห็ดหูหนูธรรมดาแต่นางกลับเอาใจใส่มากเป็พิเศษ
หลงเทียนอวี้พยักหน้าลง วางหนังสือในมือลง ก่อนจะยกซุปขึ้นดื่ม
“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันมีเื่้าปรึกษากับพระองค์”
อาศัยจังหวะเหมาะสมในการเอ่ยทุกครั้งที่หลินเมิ้งหยาจะเอ่ยคำร้องขอ นางมักจะทำให้ผู้ตัดสินใจพึงพอใจก่อนเสมอ
พอลองไตร่ตรองดูแล้ว ดูเหมือนซุปเห็ดหูหนูจะมีประสิทธิภาพที่ดีเลยทีเดียวสีหน้าของหลงเทียนอวี้ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างเมื่อครู่แล้ว
ทว่าริมฝีปากบางสีอ่อนกลับปิดสนิท ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเผยร่องรอยของความโกรธเกรี้ยวให้เห็นเล็กน้อย
หลินเมิ้งหยาหลุบตาต่ำมองถ้วยสองใบบนโต๊ะหนังสือ
มุมปากหยักยกขึ้น คิกๆนางก็สงสัยอยู่ว่าใครกันที่ทำให้ท่านอ๋องโกรธ
“หลินเมิ้งหวู่บอกว่านางอยากเชิญฮูหยินหลินมาอยู่ที่จวนของเราชั่วคราวเพคะหม่อมฉันทำเพียงตอบว่าจะต้องขออนุญาตจากท่านอ๋องก่อนแต่ถึงกระนั้นนางก็ยังเร่งเร้าดังนั้นหม่อมฉันจึงจำต้องมารบกวนท่านอ๋องตอนดึกดื่นเช่นนี้”
วันที่กลับไปยังบ้านเ้าสาว หลงเทียนอวี้ได้เห็นกิตติศัพท์ของสองแม่ลูกคู่นี้เรียบร้อยแล้ว
อย่าว่าแต่มาอยู่ที่จวนสักระยะเลยขนาดมาให้เห็นหน้าเขายังรู้สึกขยาด
อีกอย่าง ฮูหยินหลินเป็น้องสาวแท้ๆ ของฮองเฮาที่ไม่ถูกกันกับหมู่เฟยอีก
หากปล่อยให้นางเข้ามาอยู่ที่นี่ เกรงว่าความสงบสุขในจวนอวี้คงจะหมดไป
“ข้าว่าเื่นี้ไม่เหมาะสม”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน หลงเทียนอวี้มองหน้าหลินเมิ้งหยาอย่างไม่เข้าใจ
อันที่จริงเด็กคนนี้น่าจะเกลียดชังสองแม่ลูกคู่นี้มากกว่าตนเองเสียอีกเหตุใดวันนี้จึงออกตัวขออนุญาตให้ฮูหยินสกุลหลินเข้ามาอยู่ที่นี่กันเล่า?
เป็ไปได้ไหมว่ายังมีลับลมคมในอะไรอยู่?
“ท่านอ๋อง ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอกเพคะนางได้ชื่อว่าเป็แม่เลี้ยงของหม่อมฉันจึงคิดอยากมาเยี่ยมเยียนบ้านของลูกเขยเื่นี้ใช่จะเป็ไปไม่ได้ แต่ถ้าหากท่านอ๋องกลัวจะเกิดปัญหาเช่นนั้นให้นางไปอยู่ที่เรือนเล็กทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็ได้นะเพคะ”
ใบหน้าของหลินเมิ้งหยาเปื้อนยิ้มลักษณะท่าทางประหนึ่งคุณหนูผู้มีจิตใจดี
ทว่าหลงเทียนอวี้ที่ได้เห็นรอยยิ้มอันแสนหวานบนใบหน้าของนางกลับอดที่จะใสะดุ้งเฮือกไม่ได้
ยัยเด็กนี่วางแผนอะไรอยู่กันแน่?
“แต่ถึงอย่างไรเื่นี้ก็ควรได้รับความเห็นชอบจากหมู่เฟยก่อนพรุ่งนี้ข้าจะไปถวายคำนับหมู่เฟยพร้อมกับเ้าด้วยถึงเวลานั้นค่อยขอความคิดเห็นจากพระนางแล้วกัน เ้ากลับไปก่อนเถิดข้าเองก็จะพักผ่อนแล้ว”
หลงเทียนอวี้หลุบตาต่ำ ั์ตาเผยให้เห็นความสงสัย
เขาเคยได้รับรายงานว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาหลินเมิ้งหยาได้รับความทุกข์ทรมานจากซ่างกวนชิงมามากมาย
เขามองไม่เห็นความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกของพวกนางเลยสิ่งที่เห็นก็มีแต่เพียงความเคียดแค้นเท่านั้น
นอกจวน เขาสามารถปล่อยให้นางแก้แค้นใครต่อใครได้ตามใจแต่เพื่อความปลอดภัยภายในจวน อีกทั้งยังต้องปิดบังความลับบางอย่างดังนั้นเขาจะยอมปล่อยให้สิ่งเ่าั้ถูกเปิดเผยมิได้
หากมีคนที่ไม่ปรารถนาดีเข้ามาอยู่ในจวนแห่งนี้เขาเกรงว่าจะควบคุมคนเ่าั้ได้ยาก
“เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลา ท่านอ๋องรีบนอนนะเพคะ”
หลินเมิ้งหยาถวายคำนับก่อนจะกลับออกไปจากห้องอ่านหนังสืออย่างว่าง่าย
เหลือบมองร่างบางเปล่งประกายสีขาวตรงหน้าที่หายลับไปในความมืดพ่อบ้านเติ้งและหลินขุยสบตากัน ทว่าพวกเขาอดที่จะออกความเห็นไม่ได้
“ท่านอ๋องได้โปรดพิจารณาเื่นี้ใหม่อีกครั้งฮูหยินหลินผู้นั้นเป็น้องสาวแท้ๆ ของฮองเฮาเกรงว่าการที่นางมาที่นี่ก็เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงพ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านเติ้งรับผิดชอบความปลอดภัยของฝ่ายในจวนแน่นอนว่าเขาไม่อยากให้เกิดเื่ขึ้นกับเ้านายทุกคน
แต่เห็นได้ชัดว่าหลงเทียนอวี้ได้ตัดสินใจไปแล้ว
“พวกเ้าเองก็น่าจะรู้ว่า หลินเมิ้งหยามีรูปแบบในการจัดการปัญหาเช่นไรใช่หรือไม่?เกรงว่าที่นางยอมรับปากหลินเมิ้งหวู่ก็เพราะได้วางแผนการบางอย่างเอาไว้ในใจแล้วพวกเราอย่าได้ตีตนไปก่อนไข้เลย เื่นี้ปล่อยให้เป็หน้าที่ของนางเถิด”
หลงเทียนอวี้ดื่มซุปเห็ดหูหนูจนหมดแม้แต่เขาเองยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยในการตัดสินใจของตนเอง
ถอดผ้าคลุมออก สวมใส่เพียงชุดจีนสีขาว เอนกายนอนลงบนเตียงแบบทหารในมือถือหนังสือทางการทหารเอาไว้
พ่อบ้านเติ้งและหลินขุยทูลลาและกลับออกไปจากห้องอ่านหนังสือดังนั้นเวลานี้จึงเหลือเขาเพียงคนเดียว
สายตาจ้องมองตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่ในหนังสือกลยุทธ์การรบทว่าหัวใจกลับครุ่นคิดว่าั้แ่เมื่อไรกันที่เขาไม่อาจปฏิเสธคำขอของหลินเมิ้งหยาได้?
“เย่ ่นี้สถานการณ์ในคุกเป็เช่นไร?”
สายลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นโดยไม่อาจรู้ได้ว่าเ้าของเสียงอยู่ที่ใด
“ทูลท่านอ๋องนักโทษที่รอดชีวิตทั้งห้าไม่อาจทานทนต่อความเ็ปได้พวกเขาเล่าว่าพวกเขาสายลับที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพ อีกทั้งพวกเขายังได้รับคำสั่งจากหัวหน้าให้มาปกป้องดูแลโรงน้ำชาเล็กๆแห่งนี้ ส่วนเื่เสียงของภูตผีล้วนเป็สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นทว่าหน่วยซุ่มโจมตีของพวกเราไม่อาจจับตัวยอดนักฆ่ามาได้คนผู้นั้นมีสัญชาตญาณค่อนข้างว่องไว เพียงโผล่หัวให้เห็นก็รีบหนีไปในทันทีส่วนมือลอบสังหารชิงหูแห่งเถาฮวาอู๋ไม่ยอมปริปากเลยแม้แต่น้อยอีกทั้งเขายังอยากขอเข้าเฝ้าพระชายาเป็อย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”
เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าชิงหูไม่มีทางยอมปริปาก
คืนนั้นหน่วยซุ่มโจมตีมิได้เข้าไปแฝงตัวไปเป็ผีกับพวกหลินเมิ้งหยา
เย่พาองครักษ์จำนวนหนึ่งไปซุ่มรออยู่แล้วในโรงน้ำแข็งร้างแห่งนั้นเพื่อหาโอกาสจับตัวยอดนักฆ่า
หากยอดนักฆ่าผู้นั้นแฝงตัวอยู่ในจวนแห่งนี้เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องเผยตัวออกมาอย่างแน่นอน
แต่...เขาจะทำให้เ้าหนอนบ่อนไส้ผู้นั้นเผยตัวได้เช่นไร?
นิ้วเรียวยาวยกขึ้นนวดหว่างคิ้วแต่ก่อนจวนแห่งนี้มีเพียงเขาคนเดียว ยิ่งคนน้อย เื่ก็ยิ่งน้อย
ทว่าตอนนี้กลับมีคนเข้ามาอยู่ในนี้มากมาย หากเขาคิดจะกำจัดออกไปทีละคนคงไม่ใช่เื่ง่าย
“นับแต่นี้เป็ต้นไป หากใคร้าออกไปจัดการธุระข้างนอกจะต้องทำเื่ขออนุญาตก่อน เย่ เ้าสั่งให้องครักษ์ลับจับตามองให้ดีจะต้องจับตัวคนผู้นั้นมาให้ข้าให้ได้!”
กล้าแฝงตัวเข้าๆ ออกๆ ในจวนของเขาตามอำเภอใจเขาอยากจะเห็นนักว่าคนผู้นั้นเป็เทวดาหรือเทพเซียนจากชั้นฟ้าแห่งไหน!